ศิลปะแห่งสาเกและไคเซกิ เรื่องเล่าบนเรือ Okura Cruise

ศิลปะแห่งสาเกและไคเซกิ เรื่องเล่าบนเรือ Okura Cruise

งานเลี้ยง Sake Pairing Dinner บนเรือ Okura Cruise ที่นำเสนอการจับคู่ระหว่างสาเกพรีเมียมแบรนด์ "Born" กับอาหารชุด "ไคเซกิ" โดบสาเก "Born" จากจังหวัดฟุคุอิ มีความโดดเด่นด้วยกระบวนการบ่มเย็นในอุณหภูมิติดลบ ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มลึกและมีมิติซับซ้อน

KEY

POINTS

เจ้าพระยาในยามค่ำคืนยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง เสียงเครื่องยนต์เบา ๆ ของเรือ Okura Cruise ดังประสานกับท้องน้ำ เป็นทำนองนุ่มนวล คล้ายจะชวนเข้าสู่พิธีกรรมแห่งรสชาติและเรื่องราว

ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ห้องจัดเลี้ยงภายในเรือ แสงไฟสีอุ่นที่ส่องลงบนโต๊ะอาหารยาวเรียงราย สร้างบรรยากาศสงบและเป็นกันเอง เก้าอี้นุ่มให้ความรู้สึกสบายกาย ขณะที่กระจกบานกว้างเปิดมุมมองออกไปยังสายน้ำด้านนอก แสงไฟจากตึกสูงและสะพานริมฝั่งสะท้อนกับผืนน้ำระยิบระยับ กลายเป็นฉากหลังที่หรูหรา โรแมนติก โดยไม่ต้องเสริมแต่ง

แขกค่อย ๆ ทยอยนั่งประจำที่ บางคนถ่ายภาพวิว บางคนเริ่มต้นบทสนทนาเบา ๆ บนโต๊ะที่จัดอย่างประณีตวางแก้วใสรอการเสิร์ฟ ราวกับเชื้อเชิญให้ทุกคนเตรียมใจ สำหรับการเดินทางของรสชาติที่กำลังจะเริ่มขึ้น

ค่ำคืนนี้ (1 กันยายน 2568) ในงาน Sake Pairing Dinner ที่จัดโดย Bacchus คือการเดินทางของสาเก Born ที่จะเล่าเรื่องผ่านแก้วแล้วแก้วเล่า ควบคู่กับคอร์สอาหาร ไคเซกิ (Kaiseki) ศิลปะแห่งการจัดอาหารชุดญี่ปุ่น ที่เน้นความงาม ความสมดุล และการเคารพธรรมชาติ ทุกอย่างถูกจัดเรียงอย่างมีจังหวะ ราวกับบทกวีที่รอการบรรเลง

ศิลปะแห่งสาเกและไคเซกิ เรื่องเล่าบนเรือ Okura Cruise

Born และศิลปะแห่งสาเก

เบื้องหลังแก้วสาเกใสที่วางรออยู่บนโต๊ะ คือบทสะท้อนของความพิถีพิถันที่สืบทอดกันมาหลายศตวรรษ “Born” คือชื่อที่คอสาเกทั่วโลกรู้จัก ในฐานะสาเกระดับ Junmai Daiginjo อันเลื่องชื่อจากจังหวัดฟุคุอิ ดินแดนทางตะวันตกของญี่ปุ่น ที่อุดมด้วยน้ำบริสุทธิ์จากหิมะละลาย และข้าวคุณภาพสูงอย่าง Yamadanishiki

โรงสาเก Katoukichibee Shouten ผู้ผลิต Born ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1860 ถือเป็นสถาบันแห่งศิลปะการหมักที่เลือกจะยืนหยัดบนความเชื่อว่า สาเกที่แท้จริงต้องสะท้อนทั้งวัตถุดิบ ธรรมชาติ และมือของผู้ทำงานเบื้องหลัง ความโดดเด่นของ Born อยู่ที่การใช้วิธีบ่มเย็น (aging) ในอุณหภูมิ -5 องศาเซลเซียส เพื่อเก็บรักษากลิ่นรสอย่างละเอียดอ่อน เป็นกระบวนการที่ต่างไปจากสาเกทั่วไป และทำให้สาเกมีมิติที่ทั้งนุ่มลึกและยืนยาว

สำหรับชาวญี่ปุ่น สาเก เป็นเสมือน “omiki” หรือ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้ในพิธีกรรมและงานมงคล Born จึงมิใช่แค่ผลิตผลทางการค้า แต่คือความพยายามตีความมรดกทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ร่วมสมัย ส่งต่อทั้งความศักดิ์สิทธิ์และความละเมียดละไมในแก้วเดียว

บน Okura Cruise คืนนั้น แขกผู้ร่วมงานต่างรู้สึกได้ทันทีว่า ทุกขวดที่นำมาเสิร์ฟผ่านการเลือกเฟ้นมาอย่างดี เพื่อให้เกิดการเดินทางของรสชาติ ตั้งแต่ความสดใหม่ของ “First Snow” จนถึงความฝันที่ถูกบ่ม อย่าง “Dreams Come True” ทั้งหมดถูกเรียงร้อยอย่างมีจังหวะ ก่อนจะจบลงอย่างอ่อนโยน ด้วย “Born Yuzu” ที่ให้ความสดชื่นเหมือนแสงแรกของอรุณ

First Snow ความสดใหม่ของฤดูหนาวแรก

เสียงคลื่นกระทบหัวเรือเบา ๆ ราวกับจะบรรเลงทำนองเกริ่นนำให้แก่แก้วแรกของค่ำคืนนี้ Born First Snow หรือ Shiboritate Hatsuyuki ชื่อที่สะท้อนถึงหิมะโปรยปรายครั้งแรกของฤดูหนาว

เมื่อสาเกนี้ถูกรินลงแก้ว ความเย็นจัดของมัน ชวนให้นึกถึงเกล็ดหิมะที่ยังไม่ทันละลาย First Snow เป็นสาเกประเภท Junmai Daiginjo ที่เพิ่งบ่มเสร็จใหม่ ๆ จัดอยู่ในกลุ่ม shiboritate หรือ “สดจากการกด” ราวกับผลผลิตที่ยังไม่ผ่านการพักยาว จึงเต็มไปด้วยชีวิตชีวา กลิ่นหอมสดชื่น และสัมผัสที่คมชัด

ศิลปะแห่งสาเกและไคเซกิ เรื่องเล่าบนเรือ Okura Cruise

รสชาติแรกคือความสดใส คล้ายผลไม้สีขาว แฝงด้วย umami ลึกเบา ๆ ก่อนจะปล่อยให้ความสะอาดบริสุทธิ์ไหลผ่านลิ้นอย่างไม่ทิ้งคราบ ความสดใหม่ของ First Snow ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหิมะร่วงหล่นกลางความเงียบ เงียบแต่เปี่ยมด้วยพลัง

บนโต๊ะดินเนอร์ คอร์สแรก Tsuki Dashi มะเขือเทศออร์แกนิก ดาชิ เอดามาเมะ และชิราสุ ถูกจัดวางอย่างเรียบง่ายแต่เต็มด้วยรายละเอียด รสหวานสดตามธรรมชาติของมะเขือเทศและความกลมกล่อมของดาชิ ช่วยขับให้สาเกสดนี้ดูโดดเด่นขึ้นอีกชั้น 

Born Gold ความหอมผลไม้ในประกายทอง

จากความสดใหม่ดุจหิมะแรก สู่แก้วที่สองซึ่งอบอวลด้วยความฟรุตตี้ Born Gold Junmai Daiginjo ปรากฏขึ้นราวกับการเปลี่ยนฉากของบทกวี ที่เริ่มเติมสีสันและความอบอุ่นให้ค่ำคืน

สาเกชนิดนี้เกิดจากการเลือกใช้ข้าว Yamadanishiki ขัดจนเหลือครึ่งหนึ่งของเมล็ด เพื่อดึงความสะอาดและความละมุนของแก่นกลางข้าวออกมา กลิ่นแรกที่แตะจมูกคือผลไม้สุกที่คุ้นเคย แอปเปิ้ล ลูกแพร์ ลูกพลัม คลอด้วยโทนพีชอ่อน ๆ ที่ลอยขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อจิบแรกไหลผ่านลิ้น รสสัมผัสกลับกลมกล่อมราวครีมเนียนละเอียด ทิ้งท้ายด้วยความแห้งบางเบาที่ตัดความหวานได้พอดี

ศิลปะแห่งสาเกและไคเซกิ เรื่องเล่าบนเรือ Okura Cruise

จังหวะนี้เสิร์ฟ Zensai รวมรสชาติเล็ก ๆ ที่สื่อสารความพิถีพิถันของครัวญี่ปุ่น ทั้งโงะมะโทฟุ ปูและอิคุระ สลัดปลาไหลชิโรยากิ และกุ้งกับหมึกที่จัดวางคู่กับฟิกและถั่วบรอดบีนในซอสงา ความหลากหลายของรสชาติในจานเล็กนี้ประสานกับความฟรุตตี้ของ Born Gold ได้อย่างลงตัว ทุกคำทำให้ความหอมของสาเกชัดขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยขับความหวานธรรมชาติของวัตถุดิบในจานให้โดดเด่นกว่าเดิม

Born Ginsen ความใสกระจ่างดั่งสายน้ำ

เมื่อบทร้องของ Born Gold จบลงด้วยฟรุตตี้ละมุน บทต่อไปที่ปรากฏในแก้ว คือ Born Ginsen Tokubetsu Junmai สาเกที่สะท้อนความงามแบบเรียบง่าย กระจ่างใส ดุจสายน้ำเย็นที่ไหลผ่านภูเขาฟุคุอิ

แม้จะอยู่ในระดับ Tokubetsu Junmai แต่ Ginsen ใช้ข้าว Yamadanishiki ขัดถึง 50% ไม่ต่างจากสาเกชั้นสูง ผลลัพธ์คือรสสัมผัสที่คมชัดและใสสะอาด กลิ่นหอมแรกคือผลไม้ขาวบางเบา ก่อนจะเผยโทนเกรปฟรุตจาง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในช่วงฟินิช จิบแล้วให้ความรู้สึกเบาแต่เข้ม มีความสมดุลระหว่างความสดใสและโครงสร้างที่มั่นคง

บนโต๊ะอาหาร ช่วงเวลานี้มาพร้อม Otsukuri ซาชิมิสดส่งตรงจาก Toyosu Market ปลาดิบที่มีรสหวานและสัมผัสสดใหม่ที่สุด หากดื่มเพียงลำพังอาจรู้สึกเรียบง่าย แต่เมื่อจับคู่กับ Born Ginsen ความคมใสของสาเกช่วยขับให้รสปลาเด่นชัดขึ้น ขณะเดียวกันก็ล้างความมันออกไปอย่างนุ่มนวล ทิ้งความสะอาดในปากคล้ายเสียงระฆังใสที่ก้องอยู่ในความเงียบ

Dreams Come True ความฝันที่ถูกบ่มในหิมะ

หาก First Snow คือบทกวีแห่งความสดใหม่ Born Dreams Come True ก็คือมหากาพย์แห่งการรอคอย ความฝันที่ถูกบ่มนานถึงห้าปีในห้องเก็บที่อุณหภูมิ -5 องศาเซลเซียส เย็นยะเยือกพอจะหยุดกาลเวลา แต่กลับทำให้รสชาติยิ่งสุกงอมละเมียดละไม

เมื่อแก้วนี้ถูกยกขึ้น สายตาทุกคู่ต่างสังเกตสีเหลืองอ่อนที่ฉายประกายราวกับน้ำแข็งละลาย กลิ่นหอมละเอียดแทรกด้วยชั้นของดอกไม้ ผลไม้สุก และกลิ่นเครื่องเทศบางเบา รสสัมผัสเนียนละมุนราวกำมะหยี่ ก่อนจบด้วยฟินิชที่ยาวนานและสะอาดจนผู้ดื่มต้องนิ่งฟังความเงียบในปากของตนเอง

ความทรงพลังของ Dreams Come True ไม่ได้มาเพียงลำพัง แต่จับคู่กับ Yakimono Sendai Wagyu A4 ที่ถูกย่างจนไขมันละลายเป็นเนื้อเนียนชุ่มฉ่ำ เนื้อวากิวมีความหวานและความมันในตัวเอง แต่เมื่อได้พบกับสาเกที่ผ่านการบ่มยาวนาน รสชาติกลับประสานกันอย่างน่าอัศจรรย์ ความเข้มลึกของสาเกชะล้างความหนักของเนื้อ ขณะเดียวกันก็ดึงรสหวานอูมามิให้ยืนยาวกว่าที่คาด

นี่คือช่วงไคลแมกซ์ของค่ำคืน ราวกับวงออร์เคสตราที่บรรเลงเต็มกำลังหลังจากบทโหมโรงและท่อนกลาง ทุกคนบนโต๊ะรู้สึกได้ว่า พวกเขากำลังยืนอยู่ในจังหวะที่สูงที่สุดของการเดินทางทางรสชาติ ช่วงเวลาที่ความฝันไม่ใช่เพียงสิ่งที่คิด แต่กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้

ศิลปะแห่งสาเกและไคเซกิ เรื่องเล่าบนเรือ Okura Cruise

Born Chogin ความหรูหราที่ซ่อนในกาลเวลา

หลังจากไคลแมกซ์ของค่ำคืนที่ Dreams Come True สร้างไว้ บทถัดมาที่ปรากฏบนโต๊ะ คือ Born Chogin Junmai Daiginjo สาเกที่ไม่เร่งรีบ แต่ค่อย ๆ เผยความงามที่บ่มซ่อนในกาลเวลา

Chogin ผ่านการขัดข้าวอย่างเข้มข้นจนเหลือเพียงแก่นเล็กน้อยที่สุดของ Yamadanishiki ก่อนจะถูกบ่มเย็นยาวนานหลายปีในห้องเก็บที่อุณหภูมิใกล้ศูนย์ องศาความเยือกแข็งนี้ไม่เพียงหยุดยั้งกาลเวลา แต่ยังช่วยเก็บรักษาความละเอียดอ่อนของกลิ่นและรสให้คงอยู่ดุจผลึกน้ำแข็งที่ไม่ละลาย

ในแก้ว กลิ่นหอมผลไม้สุก เมลอน กล้วย และสับปะรด ค่อย ๆ คลี่ตัวออกมาช้า ๆ ตามด้วยโทนอบอุ่นของถั่วอัลมอนด์และเครื่องเทศบางเบา รสสัมผัสหวานปานกลางแต่ลึกแน่น จบลงด้วยฟินิชที่สะอาดแต่ยังคงทิ้งความทรงจำยาวนาน ราวกับเสียงสุดท้ายของเปียโนที่ยังคงกังวานอยู่ในความเงียบ

Chogin ถูกจับคู่กับ Nigiri Sushi โอมากาเสะสี่คำที่คัดสรรจากตลาด Toyosu แต่ละคำเรียบง่ายและแม่นยำ เมื่อสัมผัสกับสาเกที่ผ่านกาลเวลายาวนาน รสชาติของซูชิกลับถูกยกขึ้นอีกชั้น เนื้อปลาและข้าวกลายเป็นเวทีให้ Chogin ขับแสดงความหรูหราที่ซ่อนเร้นออกมาอย่างสง่างาม

หาก Dreams Come True คือมหากาพย์แห่งการรอคอย Born Chogin ก็เป็นบทสรุปก่อนปิดม่าน เป็นการบอกเล่าอีกครั้งว่า ความอดทนและการให้เวลากับสิ่งเล็กน้อยที่สุด สามารถผลิดอกออกผลเป็นความงดงามอันยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน

ศิลปะแห่งสาเกและไคเซกิ เรื่องเล่าบนเรือ Okura Cruise

สัมผัส Citrus แห่ง Yuzu

แก้วถัดมาคือ Born Yuzu ลิเคียวร์ที่นำสาเกมาประสานกับน้ำส้มยูสุจากญี่ปุ่น

เพียงยกแก้วขึ้น กลิ่นซิตรัสสดใสก็ลอยแตะจมูกทันที ความเปรี้ยวหอมของยูสุให้ความรู้สึกคล้ายตะวันเช้าที่เพิ่งโผล่ขึ้นเหนือหิมะ รสชาติหวานอมเปรี้ยวพอดี ไม่รุกเร้าแต่ค่อย ๆ กระจายความสดชื่นไปทั่วเพดานปาก

การจับคู่ครั้งนี้ คือของหวาน ผลไม้รวมกับเยลลี่น้ำผึ้ง ที่เน้นความเรียบง่ายตามธรรมชาติ เมื่อผสานกับความเปรี้ยวซ่อนหวานของ Born Yuzu จึงเกิดเป็นบทสรุปที่เบาสบาย เปรียบได้กับการปิดม่านการแสดงอย่างอ่อนโยน แต่ยังทิ้งร่องรอยรสชาติสดใสให้จดจำ

สำหรับชาวญี่ปุ่น การจบมื้อด้วยสัมผัสซิตรัสไม่ใช่เพียงการล้างปาก หากยังเป็นสัญลักษณ์ของการคืนสมดุลแก่ร่างกายและจิตใจ เช่นเดียวกับการเปล่งเสียงสุดท้ายในบทเพลง ที่ไม่ได้ต้องการเสียงดัง หากต้องการความกังวานที่ยาวนานที่สุด

บทสนทนาทางวัฒนธรรม

เมื่อเรือ Okura Cruise ค่อย ๆ เลี้ยวกลับสู่ท่า แสงไฟของกรุงเทพฯ ยังคงระยิบระยับเหนือผืนน้ำ แต่บรรยากาศในใจแขกทุกคนกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่เกินกว่าภาพที่เห็น สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงดินเนอร์หรูหราบนสายน้ำ หากเป็นการเดินทางที่ซ้อนกันอยู่สองชั้น ชั้นของรสชาติ และชั้นของวัฒนธรรม

สาเก Born แก้วแล้วแก้วเล่าไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงเครื่องดื่ม หากเป็นตัวแทนของประเพณี ความเพียร และปรัชญาที่ญี่ปุ่นหล่อเลี้ยงมานับศตวรรษ ขณะเดียวกัน Kaiseki ก็ไม่ได้เป็นเพียงชุดอาหาร หากคือการเล่าเรื่องผ่านฤดูกาล วัตถุดิบ และความสมดุลที่คนญี่ปุ่นให้คุณค่ามากกว่าสิ่งใด

บนเรือลำนี้ ทั้งสองศิลปะได้มาพบกัน ไม่ต่างจากบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างผู้คนต่างชาติ ต่างภาษา แต่กลับเข้าใจกันได้ด้วยรสชาติและความรู้สึกที่ตรงใจ ไม่มีการบรรยายใดจะชัดเจนไปกว่ารอยยิ้มที่เกิดขึ้นหลังจิบสาเกคู่สุดท้าย หรือเสียงสนทนาที่ไม่ยอมเงียบลง แม้เมื่ออาหารหมดจากโต๊ะแล้ว

งานค่ำคืนนี้จึงเป็นมากกว่าการกินดื่ม หากคือการสร้างพื้นที่เล็ก ๆ ให้ผู้คนตระหนักว่า รสชาติที่ดีไม่เพียงแต่ปรุงจากวัตถุดิบ หากเกิดจากการเคารพต่อวัฒนธรรมและการเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่ ๆ

เมื่อก้าวลงจากเรือ ผู้เข้าร่วมหลายคนอาจจำไม่ได้หมดว่า มีทั้งหมดกี่คอร์ส หรือสาเกชื่อใดถูกเสิร์ฟก่อนหลัง แต่สิ่งที่จะติดอยู่ในใจคือ “ความรู้สึก” ความรู้สึกที่ว่าในค่ำคืนหนึ่ง ท่ามกลางสายน้ำและแสงไฟ พวกเขาได้สัมผัสความฝันที่กลายเป็นจริงแล้ว

ศิลปะแห่งสาเกและไคเซกิ เรื่องเล่าบนเรือ Okura Cruise