04 ต.ค. 2568 | 14:00 น.
ภายใต้บรรยากาศอันคึกคักของ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 2025 Bangkok International Film Festival 2025 งาน "Masterclass: One Film After Another: A Conversation with Davika Hoorne" ได้กลายเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้เจาะลึกแนวคิดและเทคนิคการแสดงของนางเอกซูเปอร์สตาร์อย่าง ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน เธอได้ถ่ายทอดประสบการณ์และความคิดในฐานะนักแสดงที่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในวงการทั้งในประเทศและระดับสากล
ดาวิกาเริ่มต้นด้วยการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมตัว โดยชี้ว่า การ Workshop นักแสดงก่อนถ่ายทำ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เธอสามารถรับมือกับบทบาทที่ซับซ้อนได้อย่างมาก นอกจากนี้ เธอยังเผยถึง "Tools" (เครื่องมือ) ที่ช่วยเสริมทักษะการแสดงอย่างลึกซึ้ง อาทิเช่น การสร้างมู้ด: ใช้ ดนตรีและเสียงเพลง เพื่อกำหนดอารมณ์และปรับสภาพจิตใจให้เข้ากับตัวละคร, จินตภาพเชิงจิตวิญญาณ (Spiritual Imagination): การสร้างภาพในใจอย่างละเอียดว่าตัวละครมีหน้าตา, ลักษณะ, และรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างไร เพื่อให้เข้าถึงแก่นของตัวตนนั้น ๆ , เทคนิคกายภาพ: การควบคุม จังหวะการหายใจและการใช้เสียง ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการถ่ายทอดอารมณ์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เธอเน้นย้ำคือ "ความเชื่อ" ในการเป็นนักแสดง “เราต้องเชื่อว่าตัวละครที่เราได้รับบทบาทนั้น มีเลือดเนื้อ มีความเป็นตัวตนจริงๆ อยู่ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวละครธรรมดา ๆ ตัวหนึ่ง” การเข้าถึงแก่นแท้ของตัวละครจะช่วยให้การแสดงมีความเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
ซูเปอร์สตาร์สาวได้กล่าวถึงความท้าทายในการทำงาน โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับ "การแสดงแบบระดับมิลลิเมตร" หรือการต้องเล่นฉากเดิมซ้ำ ๆ หลายเทค เพื่อค้นหาและดึง "ความเป็น Magical" ของนักแสดงออกมาให้ผู้กำกับพอใจ แม้จะเป็นวิธีการที่ยาก แต่เธอมองว่าเป็นทักษะที่นักแสดงควรเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
เธอยังแบ่งปันความแตกต่างอันเป็นอุปสรรคในการทำงานระหว่างสองแขนง คือ งานละครโทรทัศน์กับงานภาพยนตร์ ซึ่งทั้งสองรูปแบบต้องการการถ่ายทอดอารมณ์และเทคนิคการแสดงที่แตกต่างกันอย่างมาก และการสลับโหมดไปมาถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง
ในส่วนของการทำงานในระดับสากล ใหม่-ดาวิกา ได้ให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติกับนักแสดงรุ่นใหม่ว่า ทักษะด้านภาษา ถือเป็นแต้มต่อที่ดีเยี่ยม และแนะนำให้ทุกคน เตรียมตัวและฝึกฝนฝีมือการแสดงไว้ให้พร้อมตั้งแต่ตอนนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้โอกาสการได้รับบทในโปรเจกต์ระดับโลกสามารถเกิดขึ้นได้อย่างไม่ทันตั้งตัว
อย่างไรก็ตาม เธอเผยว่าการทำงานกับภาพยนตร์ต่างประเทศนั้นต้องอาศัย การทุ่มสุดตัว และ การแสดงออกให้พวกเขาเห็นว่าเราทำอะไรได้บ้าง เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากการทำงานในไทยที่อาจจะสามารถ ค่อยๆ แสดง หรือ Play Safe ในบางกรณีได้
นอกจากนี้ เธอยังแสดงความต้องการที่จะ ร่วมงานกับผู้กำกับเก่ง ๆ ให้มากพอ เพื่อยกระดับและเพิ่มพูนทักษะการแสดงของตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง
ในท้ายที่สุด ดาวิกาปิดท้ายด้วยความมุ่งมั่นส่วนตัวในปัจจุบันที่ต้องการ สนับสนุนบทบาทที่ให้ความสำคัญกับผู้หญิงในภาพยนตร์ เธอมองว่าการเลือกรับบทบาทเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการได้เสนอให้เห็นอีกด้านของเพศในสังคมเท่านั้น แต่ยังเหมือนได้เป็นตัวแทนที่ได้พูดแทนผู้หญิงมากมายในสังคม ผ่านบริบทของตัวละครและเนื้อเรื่องที่เธอถ่ายทอดออกมา
Masterclass ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การแบ่งปันประสบการณ์เท่านั้น แต่เป็นการเปิดเผยแนวคิดของนักแสดงมืออาชีพที่พร้อมจะผลักดันขีดจำกัดของตัวเองและวงการภาพยนตร์ไปสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง