‘อึ้งไล่ไค่’ ทายาทมือเขียนจดหมายกลับบ้านให้คนจีนในสิงคโปร์

‘อึ้งไล่ไค่’ ทายาทมือเขียนจดหมายกลับบ้านให้คนจีนในสิงคโปร์

‘อึ้งไล่ไค่’ ทายาทนักเขียนจดหมายให้แรงงานจีนอพยพในสิงคโปร์ ถ่ายทอดเรื่องราว ความคิดถึง และความหวัง ผ่านปลายพู่กันจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก

KEY

POINTS

  • ‘อึ้งไล่ไค่’ เติบโตมากับอาชีพนักเขียนจดหมายของพ่อที่เขียนให้แรงงานจีนในสิงคโปร์
  • จดหมายแต่ละฉบับถ่ายทอดความคิดถึง ความหวัง และการเยียวยาจากแดนไกล
  • แม้โลกจะเปลี่ยนไป แต่เขายังคงสืบสานลายพู่กัน และจิตวิญญาณของความผูกพันไม่เสื่อมคลาย

“ถ้าสมมติพูดถึงว่า พวกเขากำลังอยู่ในช่วงเวลายากลำบากที่นี่ เราจะทำให้ข้อความนั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมา ใช้คำที่ทำร้ายใจคนอ่านให้น้อยที่สุด”

ตั้งแต่เด็ก ‘อึ้งไล่ไค่’ (Ng Lai Kai) จะเป็นผู้ช่วย ‘พ่อ’ ที่เป็นนักเขียนจดหมายรับจ้างให้กับคนจีนอพยพหรือเข้ามาทำงานที่สิงคโปร์ทุกเทศกาล

ย้อนกลับไปอาชีพนักเขียนจดหมายเกิดจากชาวจีนอพยพส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือ เดินทางมาสิงคโปร์เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า แม้จะอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่พวกเขาก็ยังคงมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับครอบครัวที่ประเทศจีน ดังนั้นชาวจีนอพยพที่พอรู้หนังสือจึงเริ่มเขียนความคิดและความรู้สึกแทนเพื่อนร่วมชาติของพวกเขา

นอกจากนี้นักเขียนจดหมายยังมีหน้าที่อ่านจดหมายจากครอบครัวชาวจีนอพยพให้คนที่ย้ายมาอยู่สิงคโปร์อีกด้วย ทำให้พวกเขามีรายได้ดี ยิ่งช่วง 1960 ที่เศรษฐกิจจีนตกต่ำ แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากมาต่อคิว เพื่อรอเขียนจดหมายถึงคนที่รัก ส่งอาหาร เสื้อผ้า และเงินไปช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้น

ส่วน ‘อึ้ง เสิ่น’ (Ng Shen) พ่อของอึ้งไล่ไค่อพยพเข้ามาที่สิงคโปร์ช่วงปี 1940 ทำงานมาหลากหลายอย่างในช่วง 10-20 ปีแรก ก่อนจะมาจับพู่กันเขียนจดหมายและอักษรมงคล

อึ้ง เสิ่น เคยเรียนหนังสือตอนเด็ก ทำให้เขาพอเขียนได้ เมื่อมองเห็นโอกาสจากแรงงานหญิง (majie) ที่เข้ามาในสิงคโปร์มากขึ้น เขาจึงเริ่มเปิดธุรกิจเขียนจดหมายและอักษรมงคลอย่างเป็นทางการ

ดังนั้น อึ้งไล่ไค่เลยเห็นพ่อของเขาก้มหน้าเขียนหมึกลงกระดาษมาตั้งแต่เด็ก และเริ่มเป็นผู้ช่วยนักเขียนจดหมายตั้งแต่ 10 ขวบ

“ตอนผมอายุ 10 ขวบ ผมเป็นผู้ช่วยของพ่อ ส่งกระดาษ ตัดกระดาษ เตรียมหมึก ผมพยายามเตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่สุด เพราะพ่อผมจะต้องเขียนทั้งวัน”

เริ่มงานตอน 8.00 น. และเลิกงานตอน 22.00 น. เป็นแบบนั้นทุกวัน

และสิ่งสำคัญของจดหมายทุกฉบับ คือ การทำให้คนที่อยู่ปลายทางวางใจและสบายใจว่า คนทางนี้ยังสบายดี อาจมีเรื่องราวยากลำบาก แต่ยังทนไหว

“ถ้าพวกเขาพูดถึงความยากลำบากของชีวิตตอนอยู่ที่นี่ เราจะไม่เขียนความจริงหรือตามคำบอกทั้งหมด แต่จะทำให้ข้อความนั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมา แล้วใช้คำที่ทำร้ายใจคนอ่านให้น้อยที่สุด”

เมื่อพ่อจากไป เขาก็มารับเป็นทายาทรุ่น 2 งานเขียนจดหมายอาจน้อยลง แต่เขายังรับเขียนอักษรมงคลให้กับคนจีนเชื้อสายสิงคโปร์อยู่จนถึงปัจจุบัน

ทุกตัวอักษรที่เขาเขียน จึงไม่ใช่แค่ลายเส้นสวยงามบนกระดาษ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการสืบทอดประวัติศาสตร์ของคนรุ่นก่อนหน้าและเป็นภาพสะท้อนของชีวิตแรงงานข้ามชาติที่ต้องจากบ้านมาเพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว

แม้บทบาทของนักเขียนจดหมายจะลดลงตามกาลเวลา แต่จิตวิญญาณของมันยังไม่จางหาย เพราะมันไม่ใช่แค่งานเขียน  แต่มันคือการเยียวยา สร้างความหวัง และเติมความผูกพันที่ไม่มีเทคโนโลยีใดมาแทนที่ได้

ในหมึกแต่ละหยดที่ซึมลงกระดาษ ยังมีเรื่องราวมากมายที่กำลังรอใครสักคนหยิบขึ้นมาเล่าใหม่อีกครั้ง

 

อ้างอิง

Letter writers / nlb

The Bygone Age Of Letter Writing In Old Singapore | A Frame In Time 2 | Full Episode / CNA Insider