โนวัค ยอโควิช: สงคราม ปิรามิด และนักเทนนิสต่อต้านวัคซีน

โนวัค ยอโควิช: สงคราม ปิรามิด และนักเทนนิสต่อต้านวัคซีน
“โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนต่อต้านวัคซีนและไม่อยากให้ใครมาบังคับให้ฉีดเมื่อต้องเดินทาง หากเรื่องนี้กลายเป็นกติกาหรือกฎหมายขึ้นมาจะทำอย่างไร ผมก็คงต้องตัดสินใจอีกที”  โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 ของโลกกล่าวใน Facebook Live เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2020 ระหว่างที่ทั่วโลกเริ่มเผชิญภาวะโควิด - 19 แพร่ระบาดอย่างหนักจนการแข่งขันเทนนิสอาชีพต้องหยุดชะงักไปหลายเดือน หลังจากนั้นผ่านไปปีครึ่ง เมื่อโลกค้นพบวัคซีนและเขาต้องเดินทางไปแข่งขันรายการใหญ่ในประเทศที่บังคับให้ฉีดวัคซีน ยอดนักเทนนิสชาวเซอร์เบียคนเดิมเลือกที่จะทำตามความเชื่อของตนเองที่บอกไว้ ส่งผลให้เขาถูกถอนวีซ่า อดลงแข่งขันป้องกันแชมป์เพื่อเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก อะไรคือเหตุผลที่ทำให้โนวัค ยอโควิช (Novak Djokovic) หรือ ‘โนเล่’ ยอมถูกล้อว่า ‘โนแวกซ์’ (Novax) เพราะไม่ยอมฉีดวัคซีน และกลายเป็นนักเทนนิสเบอร์หนึ่งซึ่งมีเรื่องให้ถกเถียงมากที่สุด คำตอบอาจมาจากเส้นทางชีวิตของชายผู้นี้ที่โตมากับสงคราม และมีความเชื่อเรื่องอำนาจลี้ลับตามแนวคิด ‘นิวเอจ’   ซ้อมเทนนิสไปพร้อมหลบภัยลูกระเบิด โนวัค ยอโควิช เกิดวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.1987 ในกรุงเบลเกรด อดีตประเทศยูโกสลาเวีย ซึ่งปัจจุบันแตกสลายกลายเป็นเซอร์เบีย เขาเป็นลูกชายคนโตในครอบครัวที่มีลูกชายทั้งหมด 3 คน พ่อแม่เป็นเจ้าของร้านขายพิซซ่าที่อยู่ใกล้คอร์ตเทนนิสเปิดใหม่ ทำให้โนเล่ได้สัมผัสกีฬาลูกสักหลาดตั้งแต่อายุ 4 ขวบ โนเล่ถูกส่งไปเข้าค่ายฝึกเทนนิสจนถึงอายุ 6 ขวบ ก่อนที่เยเลน่า เยนซิช (Jelena Gencic) อดีตนักเทนนิสและโค้ชชื่อดัง ซึ่งเคยเป็นเทรนเนอร์ให้กับโมนิก้า เซเลส และโกรัน อิวานิเซวิช จะมาเจอและเห็นแวว เธอเกลี้ยกล่อมให้ครอบครัวยอโควิชลงทุนปั้นลูกชายให้เป็นนักเทนนิส แม้ยุคนั้นชาวเซอร์เบียส่วนใหญ่จะมองว่าเทนนิสเป็นกีฬาของผู้หญิง การซ้อมเทนนิสในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมืองอย่างยูโกสลาเวียไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งเขาต้องลงไปฝึกตีลูกในสระว่ายน้ำที่สูบน้ำออกแล้ว และต้องย้ายสถานที่ซ้อมเกือบทุกวันเพื่อป้องกันอันตรายจากสงครามและการทิ้งระเบิด ปี 1999 ระหว่างที่กองทัพนาโต้เปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มยูโกสลาเวีย กดดันให้รัฐบาลเซอร์เบียหยุดรุกรานชาวอัลแบเนียในโคโซโว โนเล่บอกว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาจำไม่ลืม เพราะครอบครัวต้องตกใจตื่นทุกคืนเพื่อวิ่งออกจากห้องพักไปหลบภัยใต้ถุนตึกด้านข้าง “มันเป็นประสบการณ์อันน่าสยดสยองของทุกคน โดยเฉพาะเด็ก ๆ เรายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น”  โนเล่เล่าความหลังสมัยยังอายุ 12 ขวบ ซึ่งหลังเหตุการณ์นั้น พ่อแม่ตัดสินใจกู้หนี้ยืมสินเพื่อส่งเขาไปเข้าโรงเรียนเทนนิสที่เยอรมนี ก่อนเริ่มตระเวนลงแข่งขันรายการนานาชาติตอนอายุ 14 ปี และได้แชมป์แกรนด์สแลมแรกในปี 2008 ขณะมีอายุย่าง 21   พลังปิรามิดกับลัทธินิวเอจ ด้วยสรีระแขน - ขายาวที่มาพร้อมความสูง 188 ซม. ยอโควิชอาศัยความสามารถในการรับลูกเสิร์ฟที่ยอดเยี่ยม บวกความอึดในการตีแรลลี่และวางลูกจากท้ายคอร์ตได้แม่นยำทำให้เก็บชัยชนะได้ต่อเนื่อง เขาเชื่อว่าความสามารถเหล่านี้มาจากการฝึกซ้อมอย่างหนักและแรงขับจากความยากลำบากในวัยเด็ก โนเล่ขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกครั้งแรกในปี 2011 ก่อนถูกยกย่องให้เป็นยอดนักเทนนิสที่เก่งที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งของโลก สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้มากที่สุดรวม 20 สมัย นับถึงรายการสุดท้ายของปี 2021 เทียบเท่าสถิติสูงสุดของโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และราฟาเอล นาดาล นอกจากนี้ โนเล่ยังเป็นนักเทนนิสชายที่ครองตำแหน่งมือ 1 ของโลกสะสมยาวนานที่สุด แม้บางช่วงผลงานจะแผ่วไปเพราะอาการบาดเจ็บและปัญหาส่วนตัว แต่เขาก็สามารถกลับมาทวงมือ 1 คืนได้ โดยใช้เคล็ดลับที่ต่างจากนักเทนนิสทั่วไป เพราะเป็นการหันไปสมาทานแนวคิด ‘นิวเอจ’ (New Age) ซึ่งเชื่อในพลังของจิตวิญญาณ และการใช้ธรรมชาติบำบัด นอกจากฝึกซ้อมเทนนิสทั่วไป โนเล่หันมาใช้โยคะและการนั่งสมาธิเพื่อควบคุมจิตใจ เขาเน้นกินอาหารที่มาจากพืช ไม่กินเนื้อแดง และไปไกลถึงขั้นเชื่อในทฤษฎีสมคบคิดที่อยู่เหนือหลักวิทยาศาสตร์ ความเชื่อแปลก ๆ ของเขาที่ตกเป็นข่าวดังที่สุด คือ การเชื่อว่าภูเขาลูกหนึ่งในบอสเนีย คือ ‘ปิรามิดแห่งสุริยัน’ ซึ่งมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล มันมีพลังลี้ลับที่ขับออกมาเพื่อช่วยให้ร่างกายของผู้มาเยือนสามารถเยียวยารักษาตนเองได้ โนเล่ คือ หนึ่งในสาวกของลัทธิความเชื่อนี้และเดินทางไปที่นั่นหลายครั้ง แม้ประชาคมนักวิทยาศาสตร์จะยืนยันว่า พลังลี้ลับดังกล่าวไม่มีจริง และจุดยืนที่เขาต่อต้านการฉีดวัคซีนโควิด - 19 ก็น่าจะอยู่บนพื้นฐานแนวคิด ‘นิวเอจ’ นี้   พลาดเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่เพราะไม่ฉีดวัคซีน โนวัค ยอโควิช ซึ่งเชื่อในพลังธรรมชาติบำบัดประกาศมาตั้งแต่ต้นโควิด - 19 ระบาดว่าไม่เชื่อเรื่องวัคซีน นั่นเป็นเหตุผลให้เขาถูกห้ามเข้าประเทศออสเตรเลียเพื่อป้องกันแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น 2022 และลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ใหม่เป็นนักเทนนิสชายคนแรกที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมรวมกันเกิน 20 สมัย ซึ่งเขามีโอกาสทำได้มากที่สุด เพราะออสเตรเลีย คือ สนามที่เขาเคยคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาครองมากที่สุด (9 สมัย) ออสเตรเลียให้เหตุผลในการปฏิเสธวีซ่าว่าเป็นการทำตามกฎหมายที่บังคับให้ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศต้องฉีดวัคซีนครบโดส ทั้งนี้เพื่อสวัสดิภาพของคนหมู่มาก ขณะที่โนเล่อ้างเหตุผลที่ไม่ฉีดวัคซีนว่ามาจากข้อยกเว้นทางการแพทย์ เพราะเขาเพิ่งหายจากการติดโควิด - 19 โนเล่แจ้งทางการออสเตรเลียว่า เขาทราบผลตรวจโควิด - 19 เป็นบวกตั้งแต่คืนวันที่ 16 ธันวาคม 2021 ขณะอยู่ในเซอร์เบีย แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่า หลังทราบผลตรวจแล้วเขายังคงเดินทางไปออกงานสังคม และให้สัมภาษณ์นักข่าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลียยังพบว่า โนเล่ให้ข้อมูลไม่ตรงตามความเป็นจริงด้วยการแจ้งว่าไม่เคยเดินทางข้ามประเทศในช่วง 14 วันก่อนบินจากสเปนมาออสเตรเลีย ทว่าข้อมูลในโซเชียลมีเดียกลับระบุว่า เขาเพิ่งเดินทางไปปรากฏตัวในเซอร์เบียเมื่อวันคริสต์มาสที่ผ่านมา แม้โนเล่จะออกมาแก้ตัวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด และเป็นความผิดพลาดของทีมงานที่ช่วยกรอกข้อมูลให้ แต่เขาคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวเขาเองที่ประสบความสำเร็จมาด้วยแรงขับจากสงครามและความเชื่อเหนือวิทยาศาสตร์ มีความตั้งใจแน่วแน่มาแต่ต้นแล้วที่จะไม่ทำตามกติกาของประเทศปลายทาง หากการเลือกไม่รับวัคซีนของโนวัค ยอโควิช ถือเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานของการใช้เสรีภาพส่วนบุคคล เสรีภาพนี้อาจสำคัญน้อยกว่าความรับผิดชอบต่อส่วนรวม โดยเฉพาะในยามที่ทั่วโลกเผชิญโรคระบาดใหญ่มีคนเจ็บป่วยล้มตายมากมาย ดังนั้น การไม่ได้ลงแข่งขันเพื่อลุ้นสร้างสถิติใหม่ในออสเตรเลี่ยน โอเพ่น 2022 จึงเป็นราคาที่โนเล่ต้องจ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง   เรื่อง: ภานุวัตร เอื้ออุดมชัยสกุล ภาพ: ที่มาภาพ  Clive Brunskill / Staff   ข้อมูลอ้างอิง: https://www.euronews.com/2022/01/07/novak-djokovic-the-tennis-superstar-the-anti-vaxxer-the-nationalist https://www.nytimes.com/live/2022/01/15/sports/djokovic-australia https://www.bbc.com/sport/tennis/59881229 www.youtube.com/watch?v=Av9j6yIh2nU&list=PLW5qT4HIAd1YYpxUv3QEViUTz6XLVG5yd&index=8