13 มี.ค. 2566 | 13:02 น.
- ‘Naatu Naatu’ เพลงประกอบหนัง RRR จากอินเดียประกาศศักดา คว้ารางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยมในเวที Golden Globes และล่าสุดยังคว้ารางวัลออสการ์ 2023
- ปรากฏการณ์ครั้งนี้สะท้อนมุมมองทางวัฒนธรรม และเป็นหมุดหมายสำคัญอีกครั้งของวงการหนังอินเดีย
แม้หนังอินเดีย จะถือกำเนิดขึ้นตามหลังการถือกำเนิดของภาพยนตร์ได้ไม่นาน แต่หนังอินเดีย (ที่ส่วนใหญ่จะเรียกกันว่าหนัง Bollywood) ก็ได้สร้างอัตลักษณ์สำคัญให้ประจักษ์ชัดในความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความยาวของหนัง / การแสดงออกในบทบาทอันแสนเกินล้น ไปจนถึงการร้องรำทำเพลงที่เปรียบดังไฟต์บังคับของหนังอินเดียแทบทุกเรื่อง
เหตุผลสำคัญในการเน้นทุกอย่างให้ใหญ่โตเหนือจริง คือการกระชากช่วงชิงคนดูให้ออกจากชีวิตจริงอันแสนบัดซบ ความทุกข์ยากอันแสนเจ็บช้ำ และความเหลื่อมล้ำของวรรณะที่ทำให้ Bollywood ต้องเล่นใหญ่เล่นยาว เพื่อให้เหล่าคนดูได้ดื่มด่ำกับภาพฝันให้นานที่สุด บทเพลงจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่นำพาให้เขาได้สนุกโลดโผนก่อนที่จะกลับไปเผชิญโลกแห่งความโหดร้ายกันต่อหลังออกจากโรง
จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ ที่ต่อให้หนังเรื่องนั้นจะเป็นหนังแอ็กชั่น หนังชีวิตแสนเศร้าเคล้าน้ำตา หรือว่าจะเป็นหนังมหากาพย์รามายณะ ก็ตามแต่ เสียงเพลงในหนังจึงเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญที่ได้รับการกล่าวถึงอยู่เสมอ แม้หนังแนว Musical ของ Hollywood ที่เคยได้รับความนิยมจะเสื่อมถอยตามกาลเวลา แต่ทว่าบทเพลงในหนัง Bollywood ยังคงแข็งแกร่งเป็นที่สุดแห่งวัฒนธรรมยืนหยัดคู่วงการอินเดียซีเนมาอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย
หากแต่ความเหนือจริงและความเวอร์วังที่มีอยู่ในหนัง Bollywood ก็มักจะทำให้วงการหนังโลกดูถูกดูแคลนในด้านศิลปะอยู่เสมอ ด้วยความพยายามที่จะทำให้เป็นหนังบันเทิงอย่างเต็มสูบโดยไม่สนซึ่งความสมจริง หรือการพยายามทำเพียงเพื่อมุ่งเป้าที่คนดูในท้องถิ่นเดียวกันเพียงเท่านั้น จึงทำให้วงการหนังฮินดีไม่ได้มีพื้นที่ทัดเทียมเท่ากับวงการหนังฮอลลีวูดเท่าใดนัก ทั้ง ๆ ที่ในสัดส่วนของการผลิตแล้ว จำนวนของหนังฮินดีมีการผลิตไม่น้อยเลยในแต่ละปี ขนาดตัวหนังยังถูกประเมินต่ำ มิต้องพูดถึงตัวเพลงเลยว่าจะได้รับการมองข้ามแค่ไหน
แต่ในปี 2022 ที่ผ่านมา มีหนังเรื่องหนึ่งที่ทลายกำแพงของนักดูหนังชาวตะวันตกอย่างราบคาบ และสร้างปรากฏการณ์ของหนังแห่งปี จนทำให้ฝรั่งตาน้ำข้าว และคนดูหนังทั่วโลกที่เคยมองหนังฮินดีอย่างขบขันและเย้ยหยันให้หันกลับมามองพวกเขาเสียใหม่ นั่นก็คือ RRR
RRR คือหนังอินเดียภาษาเตลูกูที่มีฐานถิ่นอยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย หนังว่าด้วยมิตรภาพของสองเพื่อนรักต่างขั้ว ที่สถานการณ์นำพาให้ทั้งสองต้องแปรผันจากความเป็นเพื่อนมาเป็นศัตรู ท่ามกลางความตึงเครียดของการรุกรานของราชอาณาจักรอังกฤษที่เหยียบย่ำดูแคลนชาวอินเดียอย่างไร้ค่าไร้ราคา ก่อนจะจับมือกัน และนำไปสู่การล้างแค้นที่คนเพียงหยิบมือต้องต่อกรกับกองทัพนับร้อยนับพัน เพื่อประกาศอิสรภาพและการปลดแอกของชาวอินเดียที่ไม่ต้องทนโดนกดขี่ข่มเหงอีกต่อไป
เสน่ห์ที่ RRR สร้างความตื่นตะลึงให้กับนักดูหนังทั่วทั้งโลก คือความไม่โอนอ่อนที่จะนำเสนออัตลักษณ์ของตัวเองให้ชาวโลกได้ประจักษ์ ไม่ว่าจะเป็นความเวอร์วังที่ไม่แคร์ความสมจริงใด ๆ ความเข้มข้นในการวิพากษ์วิจารณ์ประเทศอังกฤษอย่างเผ็ดร้อน ความยาวของหนังที่เกินกว่า 3 ชั่วโมง
และที่สำคัญก็คือ บทเพลงติดหูที่แทบจะหลุดจากธีมอันเข้มข้นที่หนังวางไว้ กลับมาได้รับการพูดถึงอย่างกระหึ่มอีกครั้งบนเวทีลูกโลกทองคำ เมื่อเพลงจากหนัง RRR คว้ารางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยม นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ลูกโลกทองคำ เมื่อเพลงจากหนัง Bollywood คว้าชัยชนะครั้งนี้ไปครอง และเพลง ๆ นั้นก็คือ ‘Naatu Naatu’ นั่นเอง
‘Naatu Naatu’ ถูกบรรเลงในซีนที่ ‘ภีม’ ซึ่งแฝงตัวเข้ามายังสังคมของชาวอังกฤษเพื่อตามหาน้องสาวที่ถูกจับมารับใช้ท่านนายพลและภรรยา และถูกเชิญมาในงานปาร์ตี้จิบน้ำชาของชาวผู้ดี ก่อนจะถูกดูถูกดูแคลนจากชาวอังกฤษที่มองเขาอย่างไร้อารยธรรม จนทำให้ ‘ราม’ เพื่อนซี้ของเขาเห็นท่าไม่ดี จึงเผยแพร่วัฒนธรรมด้วยการร้องเล่นเต้นเพลง ‘Naatu Naatu’ กันอย่างเต็มพลัง
‘Naatu Naatu’ ในภาษาเตลูกู หมายถึง การเต้นรำ ซีเควนซ์นี้จึงอุดมไปด้วยพลังแห่งการเต้นเข้าจังหวะอันเผ็ดร้อน เพื่อบอกถึงตัวตนที่ไม่มีวันยอมแพ้ง่าย ๆ จากซีนที่หวังผลเพียงการเต้นรำ จึงแอบแฝงไปด้วยการต่อสู้ และการเมืองที่เคลือบแฝงภายใต้ดนตรีสนุกสุดระห่ำนั้น การไม่โอนอ่อนผ่อนตนไปตามขนบหรือวัฒนธรรมแปลกถิ่น ไปจนถึงการหยั่งรากในเชิงวัฒนธรรมเพื่อตอกย้ำถึงศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีวันสยบยอมให้ชาติไหนมาย่ำยีง่าย ๆ
“สำหรับคนที่ไม่ชินกับการดูหนังอินเดีย พวกเขาแค่รู้สึกว่ามันแปลกและไม่คุ้นชิน” โรโชนา มาจุมดาร์ ศาสตราจารย์ด้านภาพยนตร์และสื่อศึกษา และศาสตราจารย์ด้านภาษาและอารยธรรมเอเชียใต้แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโกกล่าวถึงกระแสความฮอตของหนัง RRR เรื่องนี้ โดยที่เธอประหลาดใจไม่ใช่น้อยที่เพลง ‘Naatu Naatu’ คว้ารางวัลตัดหน้าศิลปินที่นอนมาอย่าง เลดี้กาก้า, เทย์เลอร์ สวิฟท์ หรือ บียองเซ่ ไปอย่างน่าประหลาดใจ
“เพลงนี้ทำให้ การแจกรางวัลลูกโลกทองคำ ดูเป็นสากลขึ้นมาทันที เราจะไม่แปลกใจถ้า 4 เพลงที่เหลือจะได้รับรางวัล แต่พวกเธอทำได้แค่ปรบมือแสดงความดีใจกับพวกเรา” มาจุมดาร์ แสดงความดีใจอย่างออกนอกหน้าถึงความสำเร็จนี้
อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น บทเพลงในหนัง Bollywood ฝังลึกอยู่ในวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน การได้รับการยอมรับบนเวทีลูกโลกทองคำไม่เพียงแต่เป็นความสมหวังของหนัง RRR เท่านั้น แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจของชาวอินเดียที่สามารถเผยแพร่วัฒนธรรมนี้ได้สำเร็จ
“RRR รวมเอาสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นคุณลักษณะของภาพยนตร์อินเดียมาช้านาน ทั้งเพลงและการเต้นรำ ซึ่งมักจะเป็นเรื่องขำขันเสมอในสายตาชาวโลก แต่เราไม่จำเป็นต้องละอายใจอีกต่อไป” เธอกล่าว
“ก่อนหน้านี้หนังอินเดียมักถูกมองว่าเป็นสิ่งที่แปลกแยกเสมอ ผู้ชมชาวตะวันตกหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมระหว่างที่เรื่องราวกำลังดำเนินอย่างเข้มข้น จู่ ๆ กลางเรื่องกลับถูกคั่นด้วยเพลง ไม่ใช่แค่เพลงสองเพลง แต่มีเพลงหลายเพลง โดยที่หนังเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังเพลง (Musical) เสมอไป”
แม้ตัวเพลงจะสื่อความหมายถึงความแข็งกร้าวของชาวอินเดีย แต่การเดินทางของเพลงนี้กลับน่าสนใจยิ่งกว่า เมื่อมันสามารถนำพาบทเพลงนี้ไปเข้าถึงผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคลิป TikTok ที่มียอดวิวระดับ 100 ล้าน รวมไปถึงผู้คนมากมายทั่วโลกจัดชาเลนจ์เต้นเพลงนี้เหมือนในหนัง หรือการยกซีนในหนังเป้น MV บนแพลตฟอร์มยูทูบ (YouTube) จนยอดวิวสามารถก้าวข้ามผ่านหลัก 200 ล้านได้อย่างเกรียงไกร
มาจุมดาร์ เชื่อว่าความสำเร็จของบทเพลงและหนัง ‘RRR’ จะเป็นใบเบิกทางเพื่อให้หนังและดนตรีอินเดียได้รับการยอมรับในระดับสากลมากขึ้น ดังเช่น วัฒนธรรม K-Pop ที่ทำได้สำเร็จ รวมไปถึงหนัง Parasite (2019) ที่ประสบความสำเร็จจนสามารถคว้ารางวัลออสการ์หนังยอดเยี่ยม หรือ Drive My Car (2021) ที่กลายเป็นความสำเร็จของฟากฝั่งอาทิตย์อุทัยจนกระแสหนัง J-Culture ได้รับการกล่าวขวัญถึงในวงกว้าง
น่าจะถึงเวลาแล้วที่ Bollywood จะเป็นที่ประจักษ์ในหมู่นักดูหนังชาวตะวันตก โดยที่ได้เพลง ‘Naatu Naatu’ ลั่นกลองรบเปิดทัพนำไปเรียบร้อย
หมายเหตุ: บทความนี้อัปเดตข้อมูลรางวัลออสการ์เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2023