พัคอึนบิน: นางเอกมากฝีมือ เริ่มแสดงตั้งแต่เด็ก ทุ่มสุดตัวเพื่อเป็น ‘ทนายออทิสติก’

พัคอึนบิน: นางเอกมากฝีมือ เริ่มแสดงตั้งแต่เด็ก ทุ่มสุดตัวเพื่อเป็น ‘ทนายออทิสติก’

หลังจากที่ภาพยนตร์ซีรีส์จากเน็ตฟลิกซ์ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากอย่าง ‘Extraordinary Attorney Woo’ ได้จบบริบูรณ์ลง นอกจากความอบอุ่นที่ผู้ชมหลายคนได้รับแล้ว เรื่องราวของนางเอกมากฝีมือที่สวมบทเป็นทนายออทิสติกอูยองอูก็เป็นเรื่องที่น่าพูดถึงเป็นอย่างมาก

เพราะไม่เพียงแต่เธอทุ่มเทในบทบาททนายออทิสติกแบบสุดแรงกายแรงใจเท่านั้น แต่เธอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่คู่กับเส้นทางการแสดงมาแทบจะทั้งชีวิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์และสั่งสมความพยายามมากมายจนกระทั่งมาเฉิดฉายเป็นนางเอกที่ครอบครองหัวใจของใครหลายคน และนี่คือเรื่องราวของ ‘พัคอึนบิน’

 

วัยเยาว์และการแสดง

การสวมบทบาเป็นทนายออทิสติกนามว่าอูยองอูของ ‘พัคอึนบิน’ (Park Eun-bin) ในภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง Extraordinary Attorney Woo เรียกได้ว่าเป็นหมุดหมายและก้าวสำคัญในเส้นทางการแสดงของเธอ เพราะผลงานเรื่องดังกล่าวนับเป็นบทพิสูจนส์สำคัญในฝีมือการแสดงและความทุ่มเทของเธอ จนใครหลายคนก็ต้องพยักหน้ายอมรับ

แต่ก่อนจะก้าวมาโด่งดังในภาพยนตร์เรื่องนี้ เธอเองก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การแสดงมาอย่างยาวนาน ถ้าจะเรียกว่า ‘เกือบ’ จะตลอดชีวิตจนอายุ 29 ปี ของเธอก็ไม่ผิดเท่าใดนัก เพราะเธอได้มีโอกาสก้าวขาเข้าสู่เส้นทางการแสดงตั้งแต่เธอยังเด็กมาก ๆ 

ย้อนกลับไปในปี 1996 ณ ตอนนั้นพัคอึนบินมีอายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น เธอได้มีโอกาสเป็นนางแบบโฆษณา และในปีเดียวกันนั้นเองเธอก็ได้ก้าวเข้าสู่บทบาทการแสดงเป็นครั้งแรกกับภาพยนตร์เรื่อง White Night 3.98 ซึ่งถือเป็นโปรเจกต์สำคัญในชีวิตของเธอ เพราะไม่เพียงแต่มันเป็นการแสดงครั้งแรก ๆ เท่านั้น แต่มันทำให้เธอได้มีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่มากความสามารถหลายคน

ในเวลาต่อมาเธอก็ได้มีงานแสดงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เธอได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่ตลอดเวลา ถึงกระนั้น แม้ว่ามันจะส่งผลดีในการปูทางไปสู่อนาคตบนเส้นทางการแสดงที่ดี แต่มันอาจจะไม่ได้ดีเท่าไหร่นักหากมองในมุมของชีวิตส่วนตัวในวัยเด็กของเธอ

ฉันต้องไปเรียนและทำงานพร้อม ๆ กัน ดังนั้นฉันแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย ฉันแทบไม่ได้ออกไปเล่น ออกไปแหกกฎอะไรเหมือนเด็กคนอื่น ๆ เลย ซึ่งอะไรแบบนี้ สำหรับฉัน มันยากมาก ๆ เลยนะ

ชีวิตของเธอไม่ได้ดำเนินไปเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกันนัก เพราะด้วยความที่งานหลั่งไหลเข้ามา เธอต้องนำเอาเวลาที่ควรจะได้ไปวิ่งเล่นหรือทำอะไรแบบที่เด็กคนอื่น ๆ ทำไปทำงาน เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เธอค่อนข้างที่จะเป็นอินโทรเวิร์ตในวัยเด็กเพราะเธอเข้าสังคมไม่เก่งเท่าใดนักเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่น ๆ 

ถึงกระนั้น ด้วยการที่เริ่มทำงานการแสดงตั้งแต่ยังเด็กจึงทำให้เธอมีความสามารถที่จะจัดการอารมณ์ต่าง ๆ ของเธอได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องเจอในชีวิตจริง ๆ นอกจากนั้นมันก็ยังเป็นการฝึกฝนให้เธอมีประสบการณ์และความอดทนในการเป็นนักแสดงที่จะต่อยอดให้เธอเป็น ‘พัคอึนบิน’ ดังที่เธอเป็นในทุกวันนี

ตีแผ่ความเข้าใจเรื่องออทิสติกผ่านทนายอูยองอู

ฉันกลัวฉันจะไปสร้างอคติในหมู่ผู้ชม ฉันคิดอยู่เสมอว่า ‘ฉันทำแบบนี้หรือแบบนั้นได้ไหมนะ?’ ซึ่งต่อมาฉันก็ได้เข้าใจว่า แทนที่จะมานั่งกังวลเรื่องการแสดง ฉันต้องเข้าใจตัวละครก่อน ดังนั้นจึงใส่ความจริงใจของพัคอึนบินลงไปในความเป็นจริงของอูยองอู

พัคอึนบินกล่าวปฏิเสธบทบาททนายอูยองอูในคราวแรกที่ทีมงานทาบทามเธอมาแสดง ไม่ใช่เพราะเธอไม่ชอบบท แต่เธอ ‘ไม่กล้า’ ที่จะแสดงเป็นบทบาททนายออทิสติก เพราะเธอเกรงว่าสิ่งที่เธอสื่อสารออกไปจะไม่ถูกต้องตรงความเป็นจริง เธอจึงได้กล่าวปฏิเสธไปและนำแสดงในโปรเจกต์ซีรีส์ The King’s Affection

แต่ทางทีมงานเล็งเห็นและตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่านักแสดงที่เหมาะสมกับบททนายอูยองอูนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพัคอึนบิน พวกเขาจึงเฝ้ารอเธอถ่ายทำซีรีส์เรื่องดังกล่าวจนเสร็จและทาบทามเธออีกครั้งหนึ่ง และในครั้งนี้ เธอตอบตกลง

หลังจากที่รับบทบาทมาแล้ว อึนบินก็มุ่งหน้าทำการบ้านกับบทอย่างหนักเพื่อที่จะเข้าใจคำว่า ‘ออทิสติก’ อย่างชัดเจนและเข้าถึงที่สุด เพราะเธอไม่อยากจะนำเสนอตัวละครที่เป็นออทิสติกผ่านภาพจำที่สื่อมักนำเสนอ แต่เธออยากจะนำเสนอให้ ‘สมจริง’ ที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้

นอกจากทุ่มเทให้ใจกับบทอย่างเต็มที่เพื่อที่เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว เธอถึงขั้นไปปรึกษากับศาตราจารย์เฉพาะด้านเพื่อเข้าใจภาวะออทิสติกให้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เธอจึงกลายเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของซีรีส์ที่ช่วยตีแผ่ความเข้าใจต่อเรื่องออทิสติกอย่างถูกต้อง ว่าออทิสติกมีลักษณะอย่างไร และออทิสติกมีประเภทใดบ้าง นับเป็นซีรีส์และบทบาทที่ไม่เพียงมอบความบันเทิงแก่ผู้ชมเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องสำหรับใครหลายคนอีกด้วย

บทบาทอูยองอู ทนายออทิสติดไม่เพียงมอบชื่อเสียงและผลงานชิ้นสำคัญให้แก่พัคอึนบินเท่านั้น แต่เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า การที่เธอเรียนรู้ที่จะเป็นคนอื่น ‘อย่างแท้จริง’ นั้นทำให้เธอปลดล็อคสกิลบางอย่าง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นคนอื่น มันทำให้เธอสนุกและอิสระมากขึ้นกว่าการเป็นตัวตนเดิมของเธอ

 

ซีจีไม่เนียนก็เล่นจริงไปเลย

อีกผลงานหนึ่งที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าพัคอึนบินคือนักแสดงที่ ‘ทุ่มจริง’ ในบทบาทที่เธอเล่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Do You Like Brahms? ในปี 2020 ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักศึกษาด้านการดนตรีในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง และเธอรับบทบาทเป็นนักศึกษาคนหนึ่งที่ต้องเล่นไวโอลิน นั่นหมายความว่าเธอต้องเล่น ‘ไวโอลิน’ ในการแสดง

แม้อึนบินจะเคยเล่นไวโอลินมาก่อนในวัยเด็ก แต่ในบทบาทที่เธอต้องแสดงนั้นเป็นการเล่นที่มีความยากระดับที่สูงมากกว่าที่เธอคุ้นชินมากนัก แถมเธอเองก็ไม่ได้เล่นมานาน ด้วยเหตุนี้ ในคราวแรก ทางทีมงานจึงตัดสินใจที่จะใช้ซีจีในตอนที่เธอเล่นแทน แต่พวกเขาก็พบปัญหาว่าเมื่อเป็นมุมภาพแบบโคลสอัพใกล้หน้าของอึนบิน พวกเขาไม่สามารถทำซีจีแบบภาพมุมกว้างได้

ด้วยเหตุนี้พัคอึนบินจึงต้องไปรื้อฟื้นความสามารถในการเล่นไวโอลิน เธอต้องไปเข้าคอร์สเรียนเป็นเวลากว่าสามเดือนกว่าจะมาเริ่มแสดงจริง ๆ นั่นจึงทำให้เธอสามารถสวมบทบาทเป็นนักไวโอลินด้วยการเล่นไวโอลินจริง ๆ ได้ นับเป็นอีกความพยายามของเธอที่แสดงให้เราเห็นว่าเธอทุ่มเทจริงกับบทบาทที่เธอต้องเป็น

ตลอดเส้นทางการแสดงของเธอตลอดมาได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าพัคอึนบินเป็นนักแสดงมากฝีมืออีกคนหนึ่งที่น่าจับตาในทุก ๆ โปรเจกต์ที่เธอเป็นส่วนหนึ่งในนั้น เพราะเบื้องหน้ากับบทบาทที่สมจริงจนผู้ชมได้ความบันเทิงและอรรถรส เบื้องหลังนั้นเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อแห่งความพยายามและความทุ่มเทที่จะกลายเป็นบทบาทที่เธอรับผิดชอบ

พัคอึนบินถือเป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งที่ขายคุณภาพการแสดง ขายความพยายามในการสวมบทบาท และความทุ่มเทที่จะมอบความบันเทิงอย่างแท้จริง และเส้นทางชีวิตและงานของเธอก็เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าการจะได้ความสำเร็จและความสามารถมานั้น สิ่งสำคัญที่ใครสักคนต้องเตรียมให้พร้อมที่จะแลกมันมาคือ 'ความุ่งมั่นพยายาม'

 

ภาพ: 

Han Myung-Gu / Contributor

IMDb

 

อ้างอิง:

https://www.youtube.com/watch?v=xvW2J3DAZ-c

https://www.scmp.com/magazines/style/celebrity/article/3184624/meet-extraordinary-attorney-woos-park-eun-bin-wh