แตงโม - นิดา: ความรัก ความเศร้า หญิงสาว และมรสุมชีวิต

แตงโม - นิดา: ความรัก ความเศร้า หญิงสาว และมรสุมชีวิต
ค่ำคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 เกิดเหตุไม่คาดฝัน นักแสดงสาวมากความสามารถ ‘แตงโม - นิดา พัชรวีระพงษ์’ พลักตกจากเรือสปีตโบ๊ต และจมหายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะที่เรือแล่นอยู่บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม จ.นนทบุรี  ท่ามกลางแรงใจจากผู้คนมากมายที่เอาใจช่วยการหายตัวไปอย่างน่าเป็นห่วงของเธอ ที่ลงเอยด้วยการจากไปของดาราสาว มีหลายความเห็นเปรยผ่านโซเชียลมีเดียว่า ‘ทำไมผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งถึงต้องเจอเรื่องราวร้าย ๆ มากมายขนาดนี้’ เพราะคราวเคราะห์ครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกในชีวิตที่ต้องสู้ของแตงโม แตงโม - นิดา ต้องผ่านประสบการณ์ชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุไม่คาดคิด ความรักที่พลิกผัน การสูญเสียคนสำคัญ รวมทั้งอาการซึมเศร้า    เส้นทางสายนักแสดง แตงโม - นิดา (หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ แตงโม - ภัทรธิดา) เกิดวันที่ 13 กันยายน 2527 บิดามารดาของเธอหย่าร้างกันตั้งแต่เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ แตงโมจึงเติบโตมาโดยใกล้ชิดสนิทสนมกับ ‘โสภณ พัชรวีระพงษ์’ ผู้เป็นพ่อ เด็กสาวถูกแมวมองทาบทามให้เข้าวงการบันเทิงระหว่างเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า ตั้งแต่เจ้าตัวอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เด็กสาวได้ทดลองถ่ายหน้ากล้องและได้งานถ่ายแบบโฆษณา ต่อมา ปี 2545 จึงได้เข้าประกวดมิสทีนไทยแลนด์ และได้รับตำแหน่งรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 4 ต่อจากนั้นแตงโมจึงได้เป็นนักแสดงในสังกัดสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เธอเริ่มเป็นที่รู้จักครั้งแรกในบทบาทนางร้ายจากละครเรื่อง ‘เบญจา คีตา ความรัก’ และแจ้งเกิดในบทนางเอกจากละครเรื่อง ‘อุ่นไอรัก’ หลังจากมีชื่อเสียง แตงโมเคยเป็นข่าวจากเหตุการณ์รถยนต์คว่ำบนทางด่วนเนื่องจากหลับใน เมื่อปี 2550 อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ร่างของเธอกระเด็นออกมานอกรถ จนเกิดแผลบนร่างกายรวมทั้งใบหน้า   ความรักและมรสุมชีวิต นอกจากผลงานการแสดงที่เป็นที่ประจักษ์ ตัวตนนอกจอของแตงโมก็ถือว่าอยู่ในกระแสการรับรู้ของผู้คนมาโดยตลอด ยิ่งเรื่อง ‘ความรัก’ แล้ว ก็เรียกได้ว่า ความรักที่สานสัมพันธ์กลายเป็นพิธีวิวาห์ระหว่างเธอกับนักร้อง - นักแสดงหนุ่ม ‘โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์’ นั้นได้รับความสนใจจากผู้คนตั้งแต่วันแรกที่รักของเธอและเขาถูกใครหลายคนไม่เห็นด้วย โดยที่ส่วนหนึ่งอาจมาจากบุคลิก ‘ตรง ๆ แรงๆ’ ของเธอ กระนั้นความรักของทั้งคู่ก็ผลิบานจนกลายเป็นงานแต่ง สุกงอม หอมหวาน และเดินทางมาถึงทางแยก ระหว่างช่วงเวลาแห่งการร้างราที่เป็นสัญญาณว่าความรักครั้งนั้นต้องยุติลง ก็ปรากฏข่าวที่หลายคนตกใจไม่น้อย เมื่อแตงโมตัดสินใจกินยานอนหลับกว่าสิบเม็ดเพื่อจบชีวิตตัวเอง เธอผ่านวิกฤตครั้งนั้นมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากแพทย์ และโลกก็ได้รับรู้อย่างชัดเจนผ่านรายการ ‘Club Friday Show’ EP. 53 วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559 ว่าหญิงสาว ‘ตรง ๆ แรงๆ’ คนนี้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและเปราะบางขนาดไหน “ตอนนั้นอารมณ์ชั่ววูบ บวกกับการไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง ตอนนั้นพระเจ้าก็ไม่อยู่ในหัวแล้ว พ่อแม่ก็มีนะ แต่อารมณ์ชั่ววูบ มักจะไม่คิดถึงใครนอกจากเรื่องของตัวเอง” ผ่านรายการ ‘Club Friday Show’ วันที่ 25 ธันวาคม 2564 ผู้คนก็ได้รู้เรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับหญิงสาวคนนี้ ว่าแม้ความรักครั้งอื่น ๆ ที่จบลงอย่างไม่ค่อยดีจะทิ้งรอยแผลเอาไว้ แต่มันก็ทำให้เธอเริ่มเติบโตขึ้น แต่ความรักไม่ใช่มรสุมลูกเดียวที่เธอต้องเผชิญ ปี 2563 ‘โสภณ พัชรวีระพงษ์’ พ่อของแตงโม ตรวจพบมะเร็งต่อมลูกหมาก และภายในเวลาไม่นาน มะเร็งระยะที่ 4 ก็ทำให้พ่อที่เคยสุขภาพแข็งแรงอาการทรุดหนัก เมื่อเห็นคนเป็นพ่อเจ็บ ลูกสาวอย่างแตงโมที่มีอาการซึมเศร้าเป็นทุนเดิม ก็ป่วยตามไปด้วยทั้งร่างกายและจิตใจ เธอเปิดเผยว่าช่วงเวลาเหล่านั้นคือจุดย่ำแย่ที่สุดในชีวิตเธอ และเธอคงผ่านช่วงเวลาที่ต้องดูแลพ่อจนลมหายใจสุดท้ายของท่าน และการพิธีศพเพื่ออำลามาไม่ได้ ถ้าไม่มี ‘เบิร์ด’ แฟนหนุ่มนอกวงการคนปัจจุบัน ที่ตามคำพูดของเธอ แตงโมเล่าว่าหลังจากผ่านประสบการณ์รักร้าวมามากมาย ชายคนนี้คือคนที่ทำให้เธอ ‘รักเป็น’ เบิร์ดทำให้เธอกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง พ้นจากภาวะซึมเศร้าที่คิดอยากตายตลอดเวลา เขาอยู่ข้าง ๆ เธอ จัดระเบียบให้ชีวิตที่ไร้ทิศทางของเธอเสียใหม่แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างการอาบน้ำตอนเช้า การกินข้าว การออกกำลังกาย แตงโมเรียกรักระหว่างเธอกับเบิร์ดว่า เป็นความรักที่ปลอดภัย   จากลา เรียกได้ว่าในระยะหลัง ข่าวคราวผ่านโลกอินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ เริ่มเป็นข่าวดีมากกว่าข่าวร้าย เริ่มจากความสัมพันธ์ของเธอกับคนใกล้ตัว อย่าง ‘พนิดา ศิริยุทธโยธิน’ ผู้เป็นมารดา ที่เมื่อก่อนไม่ได้สนิทสนมนักเนื่องจากแยกบ้านกันอยู่ ก็เริ่มใกล้ชิดและสนิทกันขึ้น รวมทั้งความสัมพันธ์กับเพื่อนและคนรักก็มีทีท่าว่าจะเป็นไปด้วยดี ในแง่การเมือง ที่หลายคนอาจจดจำได้ว่าเธอเคยเป็นหนึ่งในดาราที่สนับสนุนม็อบ กปปส. ซ้ำยังเคยขึ้นเวทีกล่าววาทะปลุกใจในคราวนั้น เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 นักแสดงสาวคนนี้ก็เปลี่ยนฝ่าย ชูป้าย ‘จะไม่ยอมเป็นทาสใคร ยกเว้นแมว’ ในม็อบราษฎร ทำให้เกิดกระแสทั้งต่อต้านและยอมรับไม่น้อย ปัจจุบันแม้ว่าเธอจะจากโลกใบนี้ไปแล้ว แต่เรื่องราวของเธอ รวมทั้งบทบาทมากมายที่เธอใช้ความสามารถทุ่มแสดง ก็จะถูกจดจำไว้โดยคนมากมายไปอีกแสนนาน   ที่มา: รายการ Club Friday Show https://www.thairath.co.th/entertain/news/2325071 https://www.komchadluek.net/entertainment/506609