‘สนามกีฬาเวมบลีย์’ สถาปัตยกรรมแห่งความหวังและการเยียวยาประวัติศาสตร์

‘สนามกีฬาเวมบลีย์’ สถาปัตยกรรมแห่งความหวังและการเยียวยาประวัติศาสตร์

เวมบลีย์ไม่ใช่แค่สนามกีฬา แต่คือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ ดนตรี และชนชั้นแรงงานเข้าด้วยกัน ผ่านพลังแห่งความหวังและการเยียวยา

KEY

POINTS

ในปี 2025 การกลับมาพบกันของวง ‘Oasis’ หลังจากวงแตกไป 15 ปี สร้างกระแสความตื่นเต้นระลอกใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการเลือก ‘เวมบลีย์’ เป็นเวทีแห่งการกลับมา ไม่ใช่เพียงการตัดสินใจเชิงธุรกิจ แต่เป็นการยืนยันสถานะของเวมบลีย์ในฐานะ ‘มหาวิหารแห่งจิตวิญญาณของชนชั้นแรงงาน’ ที่ยังคงมีชีวิตและส่องแสงสว่างหลังผ่านไปหนึ่งศตวรรษ

‘สนามกีฬาเวมบลีย์’ สถาปัตยกรรมแห่งความหวังและการเยียวยาประวัติศาสตร์

เวมบลีย์ไม่เคยเป็นเพียงสนามกีฬาหรือเวทีคอนเสิร์ต แต่เป็น ‘สถาปัตยกรรมแห่งการเยียวยาทางสังคม’ ที่สะท้อนการต่อสู้เพื่อการฟื้นคืนชีพของประเทศ ของชนชั้น และของมนุษยชาติ

การกำเนิดในยุคหลังสงครามโลก 

สนามเวมบลีย์เกิดขึ้นในปี 1923 จากความปรารถนาที่จะประกาศอำนาจของจักรวรรดิอังกฤษหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ผ่าน ‘British Empire Exhibition’ แต่เบื้องหลังความโอ่อ่าคือความจริงที่เจ็บปวด เพราะอังกฤษในยุคนั้นกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ การว่างงาน และบาดแผลจากสงครามที่ยังไม่หาย

‘สนามกีฬาเวมบลีย์’ สถาปัตยกรรมแห่งความหวังและการเยียวยาประวัติศาสตร์

การสร้างเวมบลีย์จึงเป็นการบำบัดทางจิตใจระดับชาติ ไม่ใช่เพียงแค่การแสดงพลังทางเศรษฐกิจ แต่เป็นการสร้าง ‘ปลายทางที่มนุษย์สร้างขึ้น’ เพื่อให้ประชาชนที่สูญเสียความหวังได้มาพบกับพลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน

การจัดงาน ‘FA Cup Final’ ครั้งแรกในปี 1923 เผยให้เห็นความกระหายของประชาชนต่อพื้นที่ร่วม เมื่อผู้คนถึง 200,000-300,000 คนแห่กันเข้าสนามที่รองรับได้เพียง 127,000 คน นี่คือภาพสะท้อนของ ‘ความต้องการทางจิตวิญญาณ’ มากกว่าความต้องการเพื่อความบันเทิง

‘สนามกีฬาเวมบลีย์’ สถาปัตยกรรมแห่งความหวังและการเยียวยาประวัติศาสตร์

บทบาทศาสนสถานแห่งความภาคภูมิใจ

วันที่ 30 กรกฎาคม 1966 เป็นวันที่อังกฤษชนะเยอรมันตะวันตก 4-2 คว้าแชมป์ ‘ฟุตบอลโลก’ ครั้งแรกและครั้งเดียวที่เวมบลีย์ แต่ชัยชนะครั้งนี้มีความหมายเกินกว่าการกีฬา

นี่คือการประกาศตัวตนใหม่ของอังกฤษหลังยุคจักรวรรดิ ในยุคที่อาณานิคมต่าง ๆ เริ่มประกาศอิสรภาพ อังกฤษต้องการสัญลักษณ์ใหม่ของความยิ่งใหญ่ที่ไม่ต้องอาศัยการปกครองดินแดนอื่น เวมบลีย์และชัยชนะครั้งนี้กลายเป็น เครื่องพิสูจน์ว่าอังกฤษยังคงเป็นผู้นำทางวัฒนธรรมและกีฬาระดับโลก

การที่ ‘Geoff Hurst’ เป็นคนเดียวที่ทำแฮตทริกในศึกชิงฟุตบอลโลก กลายเป็นตำนานที่ยกระดับเวมบลีย์จากสนามกีฬาสู่ ‘ศาสนสถานแห่งความภาคภูมิใจชาติ’

‘สนามกีฬาเวมบลีย์’ สถาปัตยกรรมแห่งความหวังและการเยียวยาประวัติศาสตร์

จากสนามกีฬาสู่แพลตฟอร์มมนุษยธรรม

วันที่ 13 กรกฎาคม 1985 เวมบลีย์เปลี่ยนโฉมหน้าจากสนามกีฬาเป็นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวมนุษยธรรมระดับโลก เมื่อมีผู้ชมที่สนาม 72,000 คน และผู้ชมทีวี 1.5 พันล้านคนทั่วโลก ระดมทุนได้มากกว่า 127 ล้านดอลลาร์

แต่ที่น่าทึ่งกว่าตัวเลขคือ การเปลี่ยนผ่านของเวมบลีย์จากสัญลักษณ์ของอำนาจชาติสู่สัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ ‘Live Aid’ พิสูจน์ว่าดนตรีและเวมบลีย์สามารถเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงความเห็นอกเห็นใจข้ามทวีป

การแสดงของ ‘Queen’ ที่ถือว่าเป็น ‘การแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรี’ โดย ‘Freddie Mercury’ แสดงความเป็นนักแสดงระดับโลกในเวลาเพียง 20 นาที กลายเป็นจุดหักเหของ ‘การนิยามใหม่ของความเป็นซูเปอร์สตาร์’ ไม่ใช่การยิ่งใหญ่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ

‘Oasis’ และการปลุกเสียงของชนชั้นแรงงาน

การแสดงของ Oasis ที่เวมบลีย์ปี 2000 มีลักษณะพิเศษคือเป็นการบันทึกเพื่อทำอัลบั้ม ‘Familiar to Millions’ แต่การแสดงคืนที่สองมีปัญหาเรื่องสภาพของ ‘Liam Gallagher’ ทำให้ต้องใช้เสียงจากคอนเสิร์ตญี่ปุ่นมาเสริม

สิ่งที่ทำให้ Oasis มีความหมายต่อเวมบลีย์ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ แต่เป็น ความดิบและความจริงใจของชนชั้นแรงงาน วงนี้ไม่ได้มาเวมบลีย์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่สวยงาม แต่มาเพื่อ ประกาศความภาคภูมิใจในรากเหง้าและการต่อสู้เพื่อฝัน

การกลับมาในปี 2025 จึงเป็นมากกว่าการคืนสู่เวที แต่เป็น การปลุกเสียงของชนชั้นที่ไม่ยอมให้โลกลืม ว่าดนตรีและเวมบลีย์ยังคงเป็นพื้นที่ที่ความฝันของคนธรรมดาสามารถเป็นจริงได้

การเกิดใหม่ในศตวรรษที่ 21

การทุบสนามเวมบลีย์เดิมในปี 2000 และการเปิดใช้งานสนามแห่งใหม่ในปี 2007 เป็นมากกว่าการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นการเกิดใหม่ทางสัญลักษณ์ ที่สะท้อนความต้องการของอังกฤษในการรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล สนามใหม่ที่มีความจุ 90,000 ที่นั่ง หลังคาแบบโค้งที่โดดเด่น และเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ได้เพียงตอบโจทย์ความต้องการด้านการแข่งขันกีฬาสมัยใหม่ แต่ยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่สั่งสมมาเป็นศตวรรษ การออกแบบที่เปิดโล่งและการใช้แสงธรรมชาติ สร้างประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับความศักดิ์สิทธิ์ที่คนอังกฤษคุ้นเคย

‘สนามกีฬาเวมบลีย์’ สถาปัตยกรรมแห่งความหวังและการเยียวยาประวัติศาสตร์

เวทีแห่งความหลากหลายและการต่อสู้เพื่อสิทธิ

เวมบลีย์ในศตวรรษที่ 21 กลายเป็นเวทีสำคัญของการแสดงออกทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในเขตเบรนต์ที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และศาสนาสูงที่สุดในลอนดอน การที่นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษคุกเข่าต้านการเหยียดผิวที่เวมบลีย์ หรือการเป็นเจ้าภาพยูโร 2020 ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 แสดงให้เห็นว่าเวมบลีย์ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของชนชั้นแรงงานอังกฤษดั้งเดิม แต่เป็น พื้นที่ประชาธิปไตยใหม่ ที่เปิดกว้างสำหรับเสียงของชุมชนผู้อพยพ ชนกลุ่มน้อย และการเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมทางสังคม เหตุการณ์เหล่านี้พิสูจน์ว่าเวมบลีย์ยังคงเป็นกระจกสะท้อนสังคม' ที่สะท้อนการต่อสู้และความหวังของประชาชนในแต่ละยุคสมัย

เศรษฐกิจความทรงจำและอำนาจทางสัญลักษณ์

เวมบลีย์ในศตวรรษที่ 21 ดำเนินการภายใต้ ‘เศรษฐกิจความทรงจำ’ (Memory Economy) ระบบเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าจากการจัดการและขายความทรงจำส่วนรวม

สนามแห่งนี้ไม่ได้ขายเพียงตั๋วเข้าชมการแข่งขันหรือคอนเสิร์ต แต่ขาย ‘การเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์’ ผู้คนจ่ายเงินไม่เพียงเพื่อดูโชว์ แต่เพื่อสัมผัสพลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันที่ถูกสะสมไว้เป็นศตวรรษ

การที่เวมบลีย์สามารถคงอำนาจทางสัญลักษณ์ไว้ได้นานขนาดนี้ เผยให้เห็นความจริงทางสังคมวิทยาที่สำคัญ ในยุคโลกาภิวัตน์และเทคโนโลยีดิจิทัล พื้นที่ทางกายภาพที่สร้างความรู้สึกร่วมกลับมีค่ามากขึ้น เพราะเป็นทางออกจากความโดดเดี่ยวและความเหงาของโลกออนไลน์

เครื่องมือเยียวยาแห่งอนาคต

การกลับมาของ Oasis ในปี 2025 ไม่ใช่เพียงการคืนชีพของวงดนตรี แต่เป็นการทดสอบพลังการเยียวยาของเวมบลีย์ในยุคใหม่

ในโลกที่เต็มไปด้วยความแบ่งแยก ความเหลื่อมล้ำ และวิกฤตสิ่งแวดล้อม เวมบลีย์ยังคงพิสูจน์ว่า ‘สถาปัตยกรรมแห่งความหวัง’ สามารถรวมคนจากหลากหลายพื้นเพมาร่วมกันสร้างพลังเชิงบวก

เวมบลีย์จึงเป็นมากกว่าสนามกีฬา ทว่าเป็น ‘เทคโนโลยีทางสังคม’ ที่พิสูจน์ว่าการออกแบบพื้นที่สามารถรักษาและบำบัดจิตใจมนุษย์ได้ ในยุคที่โลกกำลังมองหาทางออกจากวิกฤตความไว้วางใจและการแบ่งแยก เวมบลีย์ยืนเป็นแบบอย่างของการสร้างพื้นที่ที่เยียวยาและสร้างแรงบันดาลใจ

 

เรียบเรียง: พาฝัน ศรีเริงหล้า

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

Wembley Stadium. "Our Story." Wembley Stadium, https://www.wembleystadium.com/about/Our-story. Accessed 24 July 2025.

Heritage Calling. "100 Years of Wembley Stadium." Heritage Calling, 26 Apr. 2023, https://heritagecalling.com/2023/04/26/100-years-of-wembley-stadium/. Accessed 24 July 2025.

The National Archives. "’20sPeople: A Vast Window Display — The British Empire Exhibition of 1924-5." The National Archives Blog, https://webarchive.nationalarchives.gov.uk/ukgwa/20250613150237/https://blog.nationalarchives.gov.uk/20speople-a-vast-window-display-the-british-empire-exhibition-of-1924-5/. Accessed 24 July 2025.

The Football Association. "England 4-2 West Germany: 1966 World Cup Final." The FA, 29 July 2014, https://www.thefa.com/news/2014/jul/29/england-west-germany-world-cup-final-1966-4-2. Accessed 24 July 2025.

Heritage Calling. "100 Years of Wembley Stadium." Heritage Calling, 26 Apr. 2023, https://heritagecalling.com/2023/04/26/100-years-of-wembley-stadium/. Accessed 24 July 2025.

History.com Editors. "Live Aid Concert." History, A&E Television Networks, 13 July 2023, https://www.history.com/this-day-in-history/july-13/live-aid-concert. Accessed 24 July 2025.

Britannica. "Live Aid." Encyclopedia Britannica, https://www.britannica.com/event/Live-Aid. Accessed 24 July 2025.

Radio X. "Live Aid 1985 Line-Up, Setlist & Headliners." Radio X, https://www.radiox.co.uk/features/live-aid-1985-line-up-setlist-headliners-bill/. Accessed 24 July 2025.

uDiscover Music. "Queen’s Live Aid 1985 Concert Performance." uDiscoverMusic, https://www.udiscovermusic.com/stories/queen-live-aid-concert-performance/. Accessed 24 July 2025.

Smyth, David. "Oasis: The Soul of Working-Class Britain." Spiked, 21 July 2025, https://www.spiked-online.com/2025/07/21/oasis-the-soul-of-working-class-britain/. Accessed 24 July 2025.

NBHAP. "Oasis’ ‘Definitely Maybe’: Working Class anthems." NBHAP, https://nbhap.com/sounds/oasis-definitely-maybe-working-class. Accessed 24 July 2025.

Inostalgia. "Oasis Reunion History." Inostalgia, https://inostalgia.co.uk/music/oasis-reunion-history/. Accessed 24 July 2025.

The Gazette. All Notices, https://www.thegazette.co.uk/all-notices/content/193. Accessed 24 July 2025.