“ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

“ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

ทพ.องอาจ พุฒิพิสิฐเชฐ เมื่อ “ความสำเร็จในชีวิต คือการรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรมและบทเพลง” กับ ‘บ้าน’ ที่ ช่วยบาลานซ์ชีวิต

“True success is not in learning but in its application for the benefit of mankind” ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การได้มาซึ่งความรู้แต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการรู้จักนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่มวลมนุษยชาติ

คติพจน์ที่ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงบันทึกไว้ที่แผ่นแรกของสมุดปฏิบัติการวิชา Bacteriology ที่กลายมาเป็นปรัชญาของมหาวิทยาลัยมหิดล และกลายมาเป็นคุณค่าหลักในการใช้ชีวิตของทันตแพทย์ท่านนี้ด้วย

ทพ.องอาจ พุฒิพิสิฐเชฐ หรือ คุณหมอเว้ง กับการเป็นทั้งทันตแพทย์เอกชน, อาจารย์รับเชิญ, กรรมการและบรรณาธิการสมาคมทันตกรรมรากเทียมแห่งประเทศไทย, ผู้ก่อหลักสูตรทันตกรรมรากฟันเทียม คอร์ส WJT The Implant Warriors “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

ผู้ที่ใช้เวลาชีวิตของเขาไปทั้งเพื่อการทำงาน สร้างความสุข ความสำเร็จ และการทำประโยชน์ให้สังคมไปพร้อมกัน การค้นหาท่วงทำนองชีวิต การเติบโตทั้งภายนอกและภายในของคุณหมอท่านนี้(เว้ง) ที่ใช้ชีวิตในจังหวะและเมโลดี้ที่เขาเขียนขึ้นเอง พร้อมกับการบาลานซ์ชีวิตด้วยการให้ความสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัย "บ้าน" ที่ใช่ อย่างโครงการ Dusit Parkside ที่พักอาศัยระดับ Ultra Luxury เป็นบ้านอีกหลัง ซึ่งการตัดสินใจเลือกที่นี่ไม่ได้เพียงเพราะฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ แต่ยังมีเรื่องราวมากกว่านั้น เราจะพาทุกคนไปสัมผัสเรื่องราวการบาลานซ์ชีวิตของคุณหมอท่านนี้... “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

‘ทันตแพทย์’ ว่าด้วยศาสตร์และศิลป์มารวมกัน

คุณหมอเว้ง - ทันตแพทย์ผู้มีใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีร่องรอยของความเหนื่อยล้า แม้จะมีบทบาทในชีวิตหลายด้าน คงทำให้หลายคนที่เคยกลัวเมื่อต้องพบหมอฟันหายกลัวลงไป

เขาเล่าย้อนถึงเส้นทางชีวิตอย่างอารมณ์ดีว่า การเกิดและเติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจชาวจีน คุณพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจขนส่ง และขายส่งผ้าย่านสุขสวัสดิ์ และคุณป้าที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทำให้เขาซึมซับคุณค่าของการทำงาน 

เมื่อได้ไปเที่ยวเล่นที่โรงพยาบาลของคุณป้าบ่อย ๆ ประกอบกับการได้ดูหนังเกี่ยวกับวงการแพทย์ การชอบเรียนวิชาชีววิทยา ชอบศึกษาเรื่องร่างกายของมนุษย์ หลอมรวมให้สนใจเรียนด้านทันตแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมหิดล 

“การตัดสินใจเรียนทันตแพทย์เป็นการมาเจอกันระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะ เพราะหมอฟันก็มีรากฐานมาจากการเป็นศิลปะ โครงสร้าง ลวดลายต่าง ๆ ของร่างกายที่มีชีวิต ผมเลยศึกษาทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์ และมีสาขาย่อยคือการประดิษฐ์ใบหน้าและขากรรไกร เพราะมีความท้าทายมากขึ้น” คุณหมอเปิดเผยถึงเหตุผลในการเลือกเรียนทันตแพทย์

และหากคุณมีภาพจำว่านักศึกษาแพทย์จะต้องอยู่กับการนั่งท่องจำตำราอยู่แต่ในห้อง อาจไม่ใช่กับว่าที่ทันตแพทย์ท่านนี้ เพราะเขามักทำกิจกรรมนอกห้องเรียนเพื่อค้นหาความรู้ โอกาส ทั้งการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนทันตแพทย์ที่ประเทศญี่ปุ่น การไปโครงการแลกเปลี่ยน Xtreme Team ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อหาประสบการณ์ชีวิต
“ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

สอดคล้องกับปรัชญาที่ว่าด้วยการ Connect the Dots ถูกกล่าวขึ้นครั้งแรกโดย Steve Jobs ชายผู้เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล เมื่อประสบการณ์ในชีวิตเปรียบเสมือน ‘จุด’ หนึ่งจุด และการเชื่อมโยงจุดต่าง ๆ เข้าด้วยกัน นำไปสู่ภาพใหญ่และความสำเร็จในชีวิต เช่นเดียวกับ ทพ.องอาจ ที่เขาเก็บเกี่ยวทุกประสบการณ์ จนสามารถสร้างความสุข ความสำเร็จ และการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น

เส้นทางและชีวิตในแบบที่ใช่

เขาเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานโดยการชักชวนจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยให้ไปเป็นอาจารย์สาขาทันตกรรมประดิษฐ์และอยู่ในสาขาย่อยประดิษฐ์ใบหน้าและขากรรไกร ซึ่งเป็นศาสตร์ที่เกี่ยวกับใบหน้าด้วย ควบคู่พร้อมกับการศึกษาต่อปริญญาโทซึ่งเป็นสาขาเฉพาะทางนี้ไปด้วย รวมเวลาทำงานเป็นอาจารย์ประจำที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นเวลา 7 ปี กระทั่งได้ร่วมเป็นกรรมการและบรรณาธิการสมาคมทันตกรรมรากเทียมแห่งประเทศไทย ขับเคลื่อนสมาคมทันตกรรมรากเทียมแห่งประเทศไทยที่สื่อสารไปถึงสมาชิกที่เป็นทันตแพทย์ทั่วประเทศ ให้ได้รับประโยชน์ทั้งทางด้านวิชาการและสังคมทันตแพทย์ พร้อมทั้งเป็นอาจารย์รับเชิญพิเศษสอนตามคอร์สต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

ก่อนจะต่อยอดความรู้ความเชี่ยวชาญสู่การเปิดคอร์สสอน WJT The Implant Warriors เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการแก้ปัญหาและการแทรกซ้อน ในงานทันตกรรมรากฟันเทียมแก่ทันตแพทย์ท่านอื่น ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี คอร์สเต็มในเวลารวดเร็วจนมีผู้สนใจจองคิวเรียนข้ามปี “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

รับใช้พระเจ้า - ผู้คนผ่านเสียงเพลง 

นอกจากความสุขในบทบาททันตแพทย์แล้ว หนึ่งในกิจกรรมแห่งความภาคภูมิใจที่เขาซึมซับมาตั้งแต่เด็กคือการได้อยู่คณะนักร้องประสานเสียงและทีมดนตรี ที่ทำให้มีพื้นฐานด้านดนตรี จนได้พัฒนาทักษะในการร้องเดี่ยว รวมถึงการร้องเพลงในแนวต่าง ๆ ในโบสถ์คริสเตียน เพื่อทำหน้าที่รับใช้พระเจ้าเผยแพร่พระกิตติคุณผ่านเสียงเพลงนมัสการ  “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

และการได้รับโอกาสไปโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชน ‘Xtreme Team’ ในปี 2543 ในขณะที่เป็นนักศึกษาแพทย์ที่สหรัฐอเมริกา อันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกช่วงหนึ่งในความทรงจำ เป็นอีกจุดเปลี่ยนในชีวิตเด็กหนุ่มวัย 20 กับการเดินทางพร้อมเพื่อนใหม่ไปยังดินแดนอีกซีกโลกแบบไม่รู้ชะตากรรม แต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสภาพภูมิอากาศทั้งแบบร้อนที่สุดไปจนถึงหนาวที่สุด โดยยังไม่รู้ว่าตัวเองและเพื่อนในทีมจะมุ่งหน้าไปที่รัฐไหน ช่วยเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ให้เขา พบเจอความแตกต่างทางวัฒนธรรม การเปิดใจเรียนรู้ โอบรับมิตรภาพใหม่ ๆ ได้เจอตั้งแต่คนไร้บ้าน ไปจนถึงมหาเศรษฐี ช่วยเปลี่ยนมุมมองของเขาไปตลอดกาล และตอกย้ำความเชื่อมั่นในการทำเพื่อผู้อื่นยิ่งขึ้น จนได้นำความรู้ด้านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในโบสถ์ การร้องเพลง มาปรับใช้ในประเทศไทย รวมถึงความสามารถในการแต่งเพลงให้กับสมาคมทันตกรรมรากเทียมแห่งประเทศไทย ที่ถือเป็นการทำเพื่อส่วนรวมในแนวทางที่ตัวเองถนัด “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต
“ดนตรีสอนผมหลายอย่าง หนึ่งคือเรื่องวินัยการฝึกซ้อม และดนตรีคือความยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องเป็นบรรทัด 5 เส้น คือการ Improvise เพราะจริง ๆ ชีวิตก็เป็นแบบนี้ มันต้องด้นสด” คุณหมอพูดถึงอีกบทบาทกับการร้องและแต่งเพลง “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

คุณหมอเว้งในวันนี้จึงสามารถผสมผสานการทำงาน การทำเพื่อผู้อื่น เป็นจังหวะที่สอดประสานลงตัว ในวันธรรมดาเขาคือทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมรากเทียม วันหยุดก็เข้าโบสถ์ นำร้องเพลงนมัสการ จัดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อคนในชุมชนด้วยการให้ความรู้ทางทันตกรรมแก่ผู้สูงอายุและประชาชนทั่วไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกด้วย 

คุณค่าเหนือกาลเวลา

เมื่อเวลาคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด นาฬิกาจึงเป็นอีกไอเทมคลาสสิกที่ครองใจผู้คนมากมาย เช่นเดียวกับคุณหมอเว้งที่มีงานอดิเรกเป็นการสะสมนาฬิกา ที่ค่อย ๆ เก็บสะสมมาเรื่อย ๆ เริ่มจากเรือนแรกที่สะสมคือ Rolex GMT เพราะเดินทางบ่อย สามารถดูเวลาได้ 2 ประเทศ

ส่วนนาฬิกาเรือนโปรดเป็น Patek Phillips Nautilus 5711/1R กับความเรียบง่าย ไร้กาลเวลา ใส่ได้หลายโอกาส แต่แฝงด้วยความละเอียดอ่อน และที่สำคัญคือหยุดผลิตไปแล้ว

และยังได้รับเชิญจากแบรนด์นาฬิกาหรูให้ไปร่วมเวิร์กช็อปอยู่เนือง ๆ โดยมีแบรนด์ที่ประทับใจอย่าง Girard-Perregaux และ F.P.Journe ที่ทำให้ยิ่งมีความหลงใหลต่อการได้ศึกษากลไก การทำงานที่ซับซ้อน การออกแบบ วัสดุที่เลือกใช้ รวมไปถึงเรื่องราวความเป็นมาของนาฬิกาแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ จนกลายมาเป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่มีคุณค่าเหนือกาลเวลา “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

ชีวิตบาลานซ์ด้วยบ้านที่ใช่

การทำทุกบทบาทให้ดีที่สุด ต้องใช้เวลาทุกนาทีอย่างมีคุณค่า การเลือกที่อยู่อาศัยที่ใช่ จึงเป็นปัจจัยสำคัญอันดับแรก ๆ ที่ต้องให้ความสำคัญ คุณหมอเว้งเลือก Dusit Parkside เป็นบ้านอีกหลังของเขา ซึ่งการตัดสินใจเลือกที่นี่ไม่ได้เพียงเพราะฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ แต่ยังมีเรื่องราวมากกว่านั้น

“คงเป็นเพราะเรามีความ Loyalty ต่อที่นี่ครับ” (หัวเราะ) คุณหมอเปิดประเด็นก่อนเล่าย้อนเรื่องราว ในวันที่เขาอายุเพียง 10 ขวบ การติดตามคุณป้าไปรับประทานอาหาร Sunday Brunch ที่ห้องอาหาร The Pavillion ที่โรงแรมดุสิตธานีในวันอาทิตย์ เป็นความสุขที่เรียบง่ายระหว่างเขาและคุณป้า และได้เข้าใจด้านความเป็นเลิศในด้านความใส่ใจ อาหาร และการบริการที่ยอดเยี่ยมแบบ Thianess ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต “ตอนนั้นผมกับคุณป้าเราไปรับประทานอาหารที่โรงแรม เราเจอกับท่านผู้หญิง (ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานบริษัท ดุสิตธานี จำกัด) ที่มาเดินตรวจ คุณป้าที่เป็นลูกค้าก็สวัสดีทักทายกัน เรารู้สึกได้ว่า ผู้บริหารท่านนี้ใส่ใจลูกค้าและแบรนด์ ผมรู้สึกเลยว่าที่นี่ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพ พนักงานจดจำลูกค้าได้ มีอีเวนต์พิเศษที่ประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้”

กระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านไปสู่วันฉลองความทรงจำแสนงดงามตลอด 48 ปีของโรงแรมดุสิตธานี คุณป้าที่มีความผูกพันกับทางโรงแรมก็ไปร่วมงาน Farewell Party ด้วย ทำให้เขาสนใจติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อกับสถานที่ระดับตำนานแห่งนี้  “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

Dusit Central Park มิกซ์ยูสที่ตอบทุกโจทย์ของชีวิต

จากโรงแรมเลื่องชื่อเปลี่ยนผ่านสู่ โครงการมิกซ์ยูส Dusit Central Park ที่สมบูรณ์แบบและครบครัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์คนเมือง 

ด้วยทำเลแบบ Super-cored CBD ประกอบด้วย โรงแรมห้าดาว แฟลกชิปแบรนด์เดดเรสซิเดนซ์ อาคารสำนักงานระดับพรีเมียม ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์มอลล์ และรูฟพาร์ค สวนสาธารณะสีเขียว 7 ไร่ ใจกลางเมือง เป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม 

เมื่อเริ่มเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างและรับจอง คุณหมอเว้งจึงยกหูโทรฯ ติดต่อขอเข้าชมโครงการจนเกิดความชื่นชอบ และได้ปรึกษาบุคคลสำคัญในชีวิตหนึ่งท่านคือคุณป้า และแน่นอนว่าคำตอบคือการเซย์เยส เพราะความเชื่อมันต่อแบรนด์ เพิ่มความมั่นใจในการครอบครองที่พักระดับ Ultra Luxury แห่งนี้ “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

“โครงการดุสิต พาร์คไซด์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผม เพราะเราใช้ชีวิตในเมือง สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานโรงพยาบาลต่าง ๆ เราสามารถหาที่แฮงเอาต์ ฟังดนตรีแจ๊ซหรือ Live Music ตระเวนร้านอาหารโปรด ชื่นชมศิลปะ รวมถึงสถานที่ชอปปิงต่าง ๆ ได้สะดวกมาก และสิ่งสำคัญคือเราอยากมีพื้นที่สีเขียวอยู่หน้าบ้าน อยากตื่นมาแล้วเจอสวนลุมพินี เพราะไปเที่ยวนิวยอร์กแล้วชอบ Central Park เป็นสวนใจกลางเมืองเหมือนกับที่นี่ เป็นวิวกรุงเทพฯ ในแบบที่เรามองหา”

และปัจจัยที่ทำให้ช่องเช็กลิสต์ถูกเช็กเครื่องหมายถูกครบถ้วน นั่นคือการบริการมาตรฐานระดับ Worldclass Service โดยเฉพาะบริการเทเลเมดิคอล ที่มีแพทย์คอยดูแลและให้บริการสั่งจ่ายยาส่งตรงถึงหน้าบ้าน หรือบริการทำความสะอาด และซักรีดมาตรฐานโรงแรมดุสิตธานี เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้มีเวลาออกไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวล

“สำหรับผม Home is where the heart is บ้านคือหัวใจของทุกคนที่อาศัยอยู่ครับ บ้านคงไม่ใช่ตัวตึกหรืออาคารอยู่ แต่คือหัวใจความนึกคิดของความสุขของทุกคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน” “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต

เมื่อความสำเร็จในชีวิต คือการทำเพื่อผู้อื่น

ทุกองค์ประกอบในชีวิตล้วนมีความสำคัญเปรียบเสมือนลมใต้ปีกที่พาคุณหมอเว้งได้ทำทุกบทบาทอย่างเต็มกำลัง โดยมีหลักคิดสำคัญคือการทำงานเพื่อผู้อื่น ความสำเร็จที่แท้จริงของเขาคือการได้นำความรู้ที่มีไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์

“ผมคิดว่าเราเกิดมามีชีวิตเดียว จะคิดและทำประโยชน์ให้คุ้มค่ากับสังคมที่เราอยู่มากที่สุด ดังนั้นจึงเลือกที่จะทำงานโดยดูถึงผลประโยชน์ของสังคมที่จะได้รับเป็นหลัก ผลงานของผมคงไม่ได้ขึ้นกับถ้วยรางวัลหรือใบประกาศที่อยู่บนข้างฝาผนัง แต่ถ้วยรางวัลของผมจะอยู่ในงานทุกชิ้นที่ผมทำ จะอยู่ในครอบฟัน จะอยู่ในฟันปลอม ในรากฟันเทียมทุก ๆ ชิ้นที่ผมได้ใช้หัวใจสร้างสรรค์ผลงานขึ้น และคนที่ได้รับประโยชน์คือคนไข้ครับ” ทพ.องอาจ พุฒิพิสิฐเชฐกล่าว “ความสำเร็จ คือรับใช้สังคมด้วยงานทันตกรรม” กับ ‘บ้าน’ ที่ช่วยบาลานซ์ชีวิต