‘Eldest Daughter’ โลกของลูกสาวคนโต และคำปลอบจาก ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’

‘Eldest Daughter’ โลกของลูกสาวคนโต และคำปลอบจาก ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’

‘Eldest Daughter’ ของ ‘Taylor Swift’ ไม่ได้เป็นเพียงบทเพลงเรื่องความรัก แต่เป็นกระจกสะท้อนชีวิตของผู้หญิงที่เติบโตเร็วเกินวัย พร้อมคำปลอบใจว่า “ความอ่อนโยนไม่ใช่ความอ่อนแอ”

KEY

POINTS

ในหลายครอบครัว ‘ลูกสาวคนโต’ แม้จะยังอายุน้อย แต่พวกเธอกลับต้องกลายเป็นผู้ใหญ่โดยอัตโนมัติ

เธออาจเริ่มต้นจากการช่วยเลี้ยงน้อง ดูแลบ้าน หรือหาเงินใช้หนี้แทนพ่อแม่ โดยไม่เคยได้ออกไปเที่ยวเล่น หรือสัมผัสชีวิตเช่นเดียวกับคนวัยเดียวกัน

สิ่งที่พวกเธอทำอยู่นั้น มีชื่อเรียกในทางจิตวิทยาว่า ‘Parentification’ คือภาวะที่เด็กต้องสวมบทบาทเป็นพ่อแม่ ทั้งในทางอารมณ์และภาระชีวิต

นี่คือหัวใจของเพลง ‘Eldest Daughter’ ที่ถูกบรรจุอยู่ในอัลบั้มชุดที่ 12 ‘The Life of a Showgirl’ ของ ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ (Taylor Swift)

‘Eldest Daughter’ โลกของลูกสาวคนโต และคำปลอบจาก ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’

แม้จะอยู่ในอัลบั้มสไตล์ป๊อบสดใส แต่ Eldest Daughter กลับเลือกสะท้อนถึงความเหนื่อยล้าของผู้หญิงที่เติบโตเร็วเกินวัย

‘Parentification’ เมื่อเด็กกลายเป็นผู้ใหญ่แทน

คำว่า Parentification คือภาวะในครอบครัวที่บทบาท ‘ผู้ดูแล’ ถูกโยนให้แก่เด็ก โดยเฉพาะลูกคนโต ไม่ว่าจะทางอารมณ์ (ต้องปลอบใจพ่อแม่) หรือทางปฏิบัติ (ช่วยจ่ายหนี้ ดูแลบ้าน) เด็กที่โดน Parentification มักเรียนรู้เร็ว กลายเป็นผู้รับผิดชอบก่อนกาลเวลา และเมื่อได้หันกลับมามองตัวเอง พวกเขาก็พบว่าตัวเองไม่เคยมีโอกาส ‘เป็นเด็ก’ อย่างเต็มที่

ผลกระทบในระยะยาวอาจเป็นความรู้สึกผิดถ้าไม่ได้ช่วยเหลือที่บ้าน สุขภาพจิตที่ถูกกดเก็บอารมณ์ ความสัมพันธ์ที่เสียสมดุล และความยากในการ ‘แยกตัวตน’ ออกจากบทบาทที่ถูกมอบให้

อันที่จริงแล้ว Parentification ไม่ได้เกิดจากพ่อแม่เป็นคนเลว แต่มักเกิดจากสถานการณ์ที่ครอบครัวขาดแคลนทรัพยากร มีปัญหา หรือมีความคาดหวังสูง เมื่อเด็กโตขึ้น พวกเขาจะรับภาระที่ควรเป็นของผู้ใหญ่โดยอัตโนมัติ

ศิลปินหลายคนที่เคยผ่านประสบการณ์นี้มักเขียนเพลงเพื่อระบาย และ Eldest Daughter คือหนึ่งในนั้น

เทย์เลอร์ สวิฟต์ เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเพลงนี้ว่า ฉันเป็นลูกสาวคนโตของครอบครัว เมื่อคุณได้คุยกับลูกสาวคนโตคนอื่น ๆ คุณมักจะพบว่าประสบการณ์ของพวกเราคล้ายกันอย่างน่าประหลาด

ตีความ Eldest Daughter

Everybody's so punk on the internet

Everyone's unbothered till they're not

Every joke's just trolling and memes

Sad as it seems, apathy is hot

Everybody's cutthroat in the comments

Every single hot take is cold as ice

When you found me, I said I was busy, that was a lie

เพลงเริ่มต้นด้วยการวิพากษ์วัฒนธรรมออนไลน์ที่ทุกคนพยายามดูเท่ ดูไม่สนใจ ในโลกที่ทุกอย่างเป็นเพียงมุกตลกและมีม ความเฉยชากลายเป็นสิ่งที่ ‘ดูดี’ และเธอยังบอกด้วยว่า เมื่อมีใครเข้ามาพบเธอ เธอบอกว่าตัวเองยุ่ง แต่นั่นเป็นเพียงคำโกหก

I have been afflicted by a terminal uniqueness 

I’ve been dying just from trying to seem cool

But I'm not a bad bitch, and this isn't savage

But I'm never gonna let you down

I'm never gonna leave you out

ในช่วงถัดมา เทย์เลอร์สารภาพว่าเธอรู้สึกเหมือนถูกสาปด้วยความโดดเด่น เธอพยายามดูเท่จนเกือบตาย ทั้งที่ความจริงคือ เธอไม่ได้เป็น ‘bad bitch’ หรือคนที่ดุดัน เธอเป็นเพียงคนที่ต้องการความมั่นคง คนที่สัญญาว่าจะไม่ทิ้ง ไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ที่ทรยศ

Every eldest daughter was the first lamb to the slaughter

So we all dressed up as wolves and we looked fire

นี่คือจุดสำคัญของเพลง เธอพูดถึงลูกสาวคนโตทุกคนว่าเป็นลูกแกะตัวแรกที่ถูกส่งไปเชือด และด้วยเหตุนี้ พวกเธอทุกคนจึงต้องแปลงโฉมเป็นหมาป่า เพื่อให้ดูแข็งแกร่งและเกรี้ยวกราด 

เมื่อเรานำเพลงมาเชื่อมโยงกับแนวคิด Parentification เส้นเรื่องราวจะชัดเจนมาก เริ่มต้นจากผู้หญิงคนหนึ่งเติบโตมาในบ้านที่เต็มไปด้วยปัญหา ไม่เคยมีใครสอนให้เธอได้เป็น ‘ลูก’ อย่างที่ควรจะเป็น แถมเธอยังเรียนรู้ว่าความอ่อนแอคือ ‘จุดอ่อน’ จึงแสร้งทำตัวเข้มแข็งเพื่อเป็นเกราะป้องกัน เหมือนลูกแกะที่ต้องแต่งตัวเป็นหมาป่า

เนื้อหาในเพลงนี้พยายามบอกว่า “ใช่ ฉันก็เคยพยายามแสร้งให้ดูไม่รู้สึกอะไร แต่สุดท้าย ฉันก็เหนื่อย” และในที่สุด เพลงก็เปิดทางให้เธอยอมรับว่า “ฉันมีสิทธิ์ที่จะอ่อนโยน ฉันมีสิทธิ์ที่จะกลับไปหาความไร้เดียงสาในตัวเอง” โดยเฉพาะในท่อนนี้

We lie back

A beautiful, beautiful time lapse

Ferris wheels, kisses, and lilacs

And things I said were dumb

'Cause I thought that I'd never find that beautiful, beautiful life that Shimmers that innocent light back

Like when we were young

Every youngest child felt

They were raised up in the wild

But now you're home

ในโลกความจริง ลูกสาวคนโตผู้เป็น ‘เดอะแบก’ ของครอบครัว หลายคนไม่กล้าแม้กระทั่งยอมรับว่าตัวเองเหนื่อยแทบขาดใจ เพราะกลัวจะถูกมองว่า “ไม่กตัญญู”

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกว่า “ใครเอาเรื่องของฉันมาเขียนเนี่ย” หรือถ้าคุณเคยเป็น ‘เสาหลัก’ ของครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าต้องเข้มแข็งเสมอ เพราะกลัวว่าทุกอย่างจะพังทลายถ้าคุณล้ม ถ้าคุณเคยต้อง “แต่งตัวเป็นหมาป่า” เพื่อปกป้องตัวเองและครอบครัว แม้ลึก ๆ แล้วคุณก็แค่อยากได้ความอบอุ่น

Eldest Daughter คือคำปลอบโยนจากเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่บอกว่าคุณว่า 

“ถ้าคุณเหนื่อย คุณสมควรได้พัก และความอ่อนโยนไม่ใช่ความอ่อนแอ การปกป้องตัวเองคือสิทธิ์ที่ทุกคนพึงมี”

 

เรื่อง: พาฝัน ศรีเริงหล้า

ภาพ: Getty Images