04 ธ.ค. 2567 | 15:06 น.
KEY
POINTS
"คุณไม่ละอายใจกันเลยเหรอ!"
นี่คือเสียงของ ‘อัน กวี รยอง’ อดีตผู้ประกาศข่าวและรองโฆษกของพรรคประชาธิปัตย์เกาหลีใต้ (Democratic Party of Korea) วัย 35 ปีที่ดังขึ้นท่ามกลางมวลประชาชนที่มาเรียกร้องประชาธิปไตย หลัง ‘ยุน ซอก ยอล’ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศใช้กฏอัยการศึกกลางดึกเมื่อคืนนี้ (3 ธันวาคม 2024)
ณ วินาทีนั้น ดวงตาของ อัน กวี รยอง แข็งกร้าวและพร้อมสู้อย่างไม่เกรงกลัว แม้ในมือของเธอจะไปคว้าปืนไรเฟิลของทหารตรงหน้าที่กำลังจ่อมาที่หน้าอกของเธอ
การประกาศใช้กฎอัยการศึกอีกครั้งในรอบ 45 ปี สำหรับครั้งนี้ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้อ้างว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นคุ้มครองเสรีภาพและความปลอดภัยของประชาชน หลังฝ่ายค้านเสนอถอดถอนอัยการระดับสูง และคัดค้านร่างงบประมาณรัฐบาลนั้น ทำให้ประชาชนเกาหลีใต้ออกจากบ้านกลางดึกมารวมตัวกันหน้ารัฐสภาอย่างไม่ได้นัดหมายเพื่อเรียกคืนประชาธิปไตยให้กับบ้านเกิดของพวกเขาอีกครั้ง
รวมถึง ‘อัน กวี รยอง’ ด้วย เพราะวันนี้เธอคือประชาชน เป็นเสียง และตัวแทนของประชาชน
ย้อนกลับไป เธอฝันอย่างเป็นนักข่าวตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เลือกเรียนสาขาสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยอีฮวา ก่อนจะมาทดสอบหน้ากล้องในฐานะพิธีกรรายการตกปลาของสถานีโทรทัศน์เกาหลีใต้ ก่อนจะเผชิญกับความล้มเหลวนับไม่ถ้วนกับการเป็นผู้ประกาศข่าว แต่สุดท้ายเธอก็สอบผ่านจนได้เป็นผู้ประกาศข่าวของช่อง YTN
เธอเองก็โลดแล่นอยู่ในงานสายสื่อสารมวลชน แต่เธอก็ทำงานในฐานพนักงงานสัญญาจ้าง ไม่ใช่พนักงานประตำ การทำงานหนักมีอยู่แล้ว การเลือกปฏิบัติก็มีอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ทุ่มสุดตัวกับทุกงาน ทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็นตลอด 6 ปี
“YTN เป็นบริษัทที่น่าอิจฉา เพราะฉันอยากทำข่าว แม้ว่าร่างกายจะเหนื่อยล้า แต่ฉันก็คิดว่าจิตใจของฉันเต็มอิ่ม เมื่อหิมะตกมากในฤดูหนาว ฉันมาถึงก่อนเวลาสามหรือสี่ชั่วโมงเพราะกลัวว่าจะไม่ทันข่าว
“ตอนนั้นผมใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกมีหน้าที่ทำข่า ฉันทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวข้ามโซนเวลาต่างๆ มาเป็นเวลาประมาณ 6 ปี ฉันใช้วันหยุดเพียงสี่วันในรอบหกปี มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันทุ่มสุดตัว”
จนกระทั่งชีวิตของเธอมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อเธอตัดสินใจลาออกจากการเป็นผู้ประกาศข่าวมาลงเล่นการเมืองในฐานะรองโฆษกของแผนกข้อมูลสาธารณะของคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงพรรคประชาธิปัตย์เกาหลีใต้ (Democratic Party of Korea) ที่มีหัวหน้าพรรคเป็น ‘อีแจมยอง’ พรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ในปี 2022
“ในฐานะคนวัย 30 ปีที่เคยเป็นอดีตผู้ประกาศข่าวประจำ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาเยาวชน ปรับปรุงการปฏิบัติต่อคนงานผิดปกติ และปฏิรูปการออกอากาศ” อันบอกตอนเข้ารับตำแหน่ง
มากกว่านั้น เธอยังเป็นพนักงานที่ทำงานโดยไม่รับเงินเดือนด้วยความเชื่อที่ว่า ‘เธอต้องทำสิ่งนี้’ และไม่เคยเสียใจที่ได้ลงมือทำ
และวันของเธอก็มาถึง วันที่เธอกลายเป็นนักการเมืองเต็มตัวด้วยการลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา ในเดือนเมษายนปี 2023 ในเขตโดบง ของกรุงโซล
ฮันกวีรยองให้สัมภาษณ์กับดงอา เดย์ลี่ว่า “ฉันจะตั้งใจทำงานหนัก จะไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้”
ทว่า เส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ฮันกวีรยองถูกกล่าวหาว่าถูกอัยการตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายการเลือกตั้ง โดยใช้ไมโครโฟนเรียกร้องการสนับสนุนก่อนเริ่มช่วงการหาเสียงอย่างเป็นทางการ
ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ทุกอย่างคือบทเรียนเพื่อทำให้เธอได้เป็นนักการเมืองที่เธออยากจะเป็น
“ฉันอยากเป็นนักการเมืองที่มีทักษะทั้งการพูด พูด เขียน และตัดสิน “ฉันจะทำงานให้หนักเพื่อให้ผู้คนมีค่านิยมเดียวกันกับฉันมากขึ้นในตอนนี้”
เฉกเช่นเดียวกับเมื่อคืนนี้ที่เธอเลือกที่จะยืนอยู่หน้าทหารอาวุธครบมือ ตะโกนใส่หน้า ดึงปืนไรเฟิลเข้าหาตัวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดในเกาหลี แม้สมาชิกสภาจะโหวตคว่ำการบังคับใช้กฎอัยการศึกด้วยเสียง 190 ต่อ 0 แต่ประชาชนเกาหลีใต้ก็ยังคงเรียกร้องให้ ยุน ซอก ยอลลาออกจากตำแหน่ง และคืนเสรีภาพให้กับประชาชนต่อเนื่อง
อีกทั้งบทเรียนของเกาหลีใต้ครั้งนี้ ก็บอกเราว่า ไม่มีอำนาจใดอยู่เหนือ ‘เสียงของประชาชน’
อ้างอิง
대변인이 된 앵커…“‘청년 정치 어렵다’는 말, 몸소 체험 중입니다”[복수자들] / DONG A
대변인 겨눈 '계엄군 총구'‥격분한 안귀령, 두 손으로 / MBC News
"선거 기간 전 마이크 사용"…검찰, 안귀령 불구속 기소 / Morning Today
안귀령 "허위사실공표 사과하라"…김재섭 "심판이냐 개발이냐 선택하라" [도봉갑 TV토론] / dailian
อัปเดตนาทีต่อนาที! ล่าสุดสภาเกาหลีใต้ ลงมติขวางประกาศกฎอัยการศึก / กรุงเทพธุรกิจ