‘น้องเซ็น’ ชีวิตใหม่ในครอบครัวอุปถัมภ์ที่เต็มเติมความรัก

‘น้องเซ็น’ ชีวิตใหม่ในครอบครัวอุปถัมภ์ที่เต็มเติมความรัก

‘น้องเซ็น’ กับชีวิตใหม่ในครอบครัวอุปถัมภ์ที่ช่วยเต็มเติมความรัก และความเข้าใจ ให้เติบโตขึ้นไปอย่างมั่นคง

การเป็นแม่จะสมบูรณ์แบบ มิได้มาโดยเพียงการคลอดบุตร แต่ยังได้มาโดยการทำหน้าที่แม่อย่างเต็มที่ รวมถึงการถูกรักจากคนเป็นลูกอย่างเต็มหัวใจ เช่นเดียวกับคุณจันทร์สมร ชัยรินทร์ หรือ คุณสมร ที่เธอได้สัมผัสคำนี้แม้จะไม่เคยอุ้มท้อง 9 เดือน แต่ก็มีเด็กชายตัวน้อยเรียกเธอว่าแม่ และได้รับความรักจากเขาอย่างเต็มเปี่ยมเช่นกันจากการเป็นคุณแม่ในครอบครัวอุปถัมภ์

คุณสมรเล่าย้อนไปว่า เธอทำอาชีพรับจัดของว่าง และได้รับการติดต่อจากสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งให้ไปจัดของว่างในงาน กระทั่งงานใกล้จบได้พบกับ ‘น้องเซ็น’ เด็กชายวัย 11 ปี ที่เข้ามาช่วยเก็บสายไฟ จึงรู้สึกถูกชะตา ชื่นชมในความมีน้ำใจและความขยันขันแข็ง จึงตัดสินใจติดต่อสถานสงเคราะห์เพื่อขออุปการะเด็กคนนี้
‘น้องเซ็น’ ชีวิตใหม่ในครอบครัวอุปถัมภ์ที่เต็มเติมความรัก

“ตอนนั้นเราไปจัดของว่างให้สถานสงเคราะห์ค่ะ ทีนี้พอใกล้จะเลิกงาน เราก็เห็นน้องเซ็นเข้ามาช่วยเก็บสายไฟ รู้สึกถูกชะตาเด็กคนนี้จัง อยากรับเขามาเป็นลูก เพราะเราก็ไม่มีลูกด้วย เลยถามทางสถานสงเคราะห์และเขาก็แนะนำให้เราเป็นครอบครัวอุปถัมภ์” คุณสมรกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอได้พบน้องเซ็นที่กลายมาเป็นลูกชายของเธอในปัจจุบัน

แม้คุณสมรจะไม่เคยรู้จักคำว่า ‘ครอบครัวอุปถัมภ์’ มาก่อน เพราะที่ผ่านมาอาจเคยได้ยินแต่การรับบุตรบุญธรรมเท่านั้น แต่ด้วยการประสานงานของเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. รวมถึงการประสานงานจากโครงการ Care for Children ที่มีการลงนามข้อตกลงโครงการร่วมกันกับ พม. เพื่อพัฒนาการดูแลเด็กในครอบครัวในประเทศไทย 
‘น้องเซ็น’ ชีวิตใหม่ในครอบครัวอุปถัมภ์ที่เต็มเติมความรัก

น้องเซ็นเริ่มเข้าสู่กระบวนการย้ายสู่ครอบครัวใหม่ โดยเริ่มจากทดลองให้น้องเซ็นไปอยู่ที่บ้านกับแม่สมรและครอบครัวใหม่ก่อน เพื่อดูว่าพวกเขาจะสามารถอยู่ร่วมกันได้หรือไม่ หรือต้องปรับตัวในจุดใด

“ตอนแรกก็มีความกังวลเหมือนกัน เพราะเราก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน เราจะดูแลได้ไหม จะสอน จะให้คำปรึกษาเขาอย่างไรเพื่อให้เขาเติบโตมาอย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีพ่อบ้าน (สามี) ที่เขาเคยมีลูกมาก่อนให้คำแนะนำ” คุณสมรกล่าว

การเติบโตมาจากสถานสงเคราะห์ การขาดความอบอุ่นจากครอบครัว ทำให้คุณสมรบอกว่าในช่วงการปรับตัวแรก ๆ ยากทั้งสำหรับตัวเธอเองและลูก บ้านแห่งนี้จึงสอนในสิ่งที่ถูกต้อง ให้เวลาปรับตัว และทำความเข้าใจร่วมกัน ทำให้น้องเซ็นได้กลายเป็นลูกชายที่ละทิ้งนิสัยไม่พึงประสงค์เหล่านั้น

“น้องมาอยู่กับเราในช่วงที่เขาเริ่มโตแล้ว ตอนแรก ๆ เขาจะมีนิสัย 3 อย่าง คือ ขี้โกหก ขี้โกง และขี้ขโมย เราก็ต้องค่อย ๆ ปรับ ค่อย ๆ สอนว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควรทำ โดยใช้ความเข้าใจ การพูดคุยสื่อสารกัน ทำกิจกรรมร่วมกันบ่อย ๆ ก็ทำให้พฤติกรรมพวกนี้หายไป จากตอนแรกอาจจะยังไม่สนิทกันมาก แต่ตอนนี้เขาเรียกเราว่าแม่ได้เต็มปาก” คุณสมรเล่าถึงความยากลำบากในการปรับตัวช่วงแรก
‘น้องเซ็น’ ชีวิตใหม่ในครอบครัวอุปถัมภ์ที่เต็มเติมความรัก

นอกจากนี้ยังมีพี่เลี้ยงจากโครงการ Care for Children ที่ติดตามและให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง มีเจ้าหน้าที่โครงการเข้ามาเยี่ยม นำของใช้ส่วนตัวของเด็กมาให้ รวมถึงการให้คำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงเด็ก แนะนำแนวทางแก้ปัญหาแก่คุณแม่อย่างสม่ำเสมอ 

กิจกรรมออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน รดน้ำต้นไม้ ปลูกต้นไม้ ทำงานบ้าน ไปเที่ยว กลายเป็นกิจวัตรร่วมกันของคนในบ้าน หลังจากอยู่ร่วมกันมา 1 ปีเศษ ทำให้ทั้งคุณแม่มือใหม่ และลูกที่เคยไร้บ้านก็ปรับเข้าหากันได้ น้องกลายเป็นหนึ่งเดียวกับครอบครัว ได้รับการศึกษาตามวัย ซึ่งคุณสมรและสามีก็พร้อมสนับสนุนด้านการเรียนแก่ลูกชายอย่างดีที่สุดเท่าตามความสามารถ

คุณแม่ของน้องเซ็นมองว่าไม่ใช่เธอที่เป็นฝ่ายช่วยลูกให้มีชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ลูกก็เข้ามาทำให้รู้จักการแบ่งปัน ครอบครัวนี้ที่ไม่เคยมีเด็กวิ่งเล่นในบ้าน ได้มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ จากสมาชิกใหม่ที่เรียกเธอว่าแม่อย่างเต็มหัวใจ

“เราสังเกตได้จากแววตาของลูก ตอนเขามาใหม่ ๆ รู้สึกว่ามีแววตาที่ชีวิตขาดหายอะไรบางอย่าง แต่หลังจากอยู่ด้วยกันมา 3 - 4 ปี แววตาเขาเปลี่ยนไป มีความสดใสและมีความสุขมากขึ้น ส่วนแม่เองถ้าถามว่าเราได้อะไร เรารู้สึกได้รับความรักและการเติมเต็มข้างในใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเหมือนกัน”

ไม่มีใครคาดคิดว่าการได้พบกันโดยบังเอิญของผู้หญิงคนหนึ่งกับเด็กชายจะเปลี่ยนโลกของพวกเขาทั้งสองไปตลอด สายใยระหว่างแม่-ลูก ที่ใช้เวลา ความรัก ความเข้าใจ การเรียนรู้ร่วมกัน ค่อย ๆ ถักทอเหนียวเเน่นเป็นสายสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างสมบูรณ์ 

“เวลาเขากระโดดกอด หอมแก้ม แสดงความรัก เหมือนเป็นลูกเราเลยค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้ (เสียงสั่น) เพราะเราไม่เคยมีลูก มีเด็กคนนี้ยื่นมือเข้ามา เขาเทคแคร์เอาใจใส่ ถึงเราไม่ได้ดูแลมาตั้งแต่เกิด แต่เมื่อเขามาอยู่กับเราทำให้ครอบครัวเติมเต็ม เป็นลูกเราเต็มร้อย” คุณสมรกล่าว

น้องเซ็นเป็นเด็กอีกคนที่มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ด้วยการดูแลจากครอบครัวอุปถัมภ์ แต่ในประเทศไทยยังมีเด็ก ๆ อีกมากมายที่ขาดโอกาสเช่นนี้ คุณก็สามารถเป็นหนึ่งในครอบครัวอุปถัมภ์เพื่อเป็นบ้านหลังใหม่ให้เด็กสักคนได้ เฉกเช่นครอบครัวคุณสมรที่เธอไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้ แต่ก็ยังเป็นผู้ได้รับความรักที่บริสุทธิ์เช่นกัน 

“ลูกสอนให้เรารู้จักแบ่งปัน การสร้างความผูกพันในครอบครัว อยากให้ครอบครัวที่มีความพร้อม มาเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ ให้ความอบอุ่นแก่เด็ก แล้วจะรู้ว่าแววตาของพวกเขาจะสดใสขึ้น มีความสุขขึ้น อยากให้ครอบครัวอื่น ๆ มาเติมเต็มความรักให้เด็กที่ขาดความอบอุ่นแบบนี้ค่ะ” คุณสมรทิ้งท้าย

โครงการ Care for Children ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2541 นับเป็นผู้บุกเบิกการดูแลเด็กกำพร้าแบบ ‘Foster Care’ หรือการจัดหาครอบครัวอุปถัมภ์ให้เด็กโดยครอบครัวในประเทศจีนและขยายต่อมายังประเทศไทย ด้วยหลักการ #Giveachildfamily หรือหาบ้านให้เด็กทดแทนการส่งเด็กไปยังสถานสงเคราะห์หรือบ้านพักเด็กกำพร้า เพื่อให้พวกเขาได้รับความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัว
‘น้องเซ็น’ ชีวิตใหม่ในครอบครัวอุปถัมภ์ที่เต็มเติมความรัก
ณ ขณะนี้ แม้จะมีเด็กหลายร้อยคนทั่วประเทศไทยได้รับการดูแลด้วยความรักและเอาใจใส่ในครอบครัวในท้องถิ่น แต่ยังมีเด็กอีกหลายพันคนที่กำลังรอคอยโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่มีความสุข หากสนใจทราบรายละเอียดในการเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ หรือสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อได้ที่

ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร:
สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี - โทร 02 354 7483
สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ - โทร 02 286 2013
บ้านพักเด็กและครอบครัวทุกแห่งในกรุงเทพฯ - โทร 02 354 7580

ในพื้นที่ภูมิภาค:
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด 
สถานรองรับเด็ก 33 แห่ง
บ้านพักเด็กและครอบครัว 76 แห่งทั่วประเทศ