The Boomtown Rats - I Don’t Like Mondays: เพลงที่มีที่มาจากคดีฆาตกรรม เมื่อเด็กสาวฆ่าคนด้วยไรเฟิลเพราะ ‘ไม่ชอบวันจันทร์’

The Boomtown Rats - I Don’t Like Mondays: เพลงที่มีที่มาจากคดีฆาตกรรม เมื่อเด็กสาวฆ่าคนด้วยไรเฟิลเพราะ ‘ไม่ชอบวันจันทร์’
เริ่มจากเปียโน รับด้วยกลองและถ้อยร้องท่อนแรก ‘The silicon chip inside her head. Gets switched to overload’ ที่ถูกถ่ายทอดด้วยเสียงร้องของ ‘บ็อบ เกลดอฟ’ (Bob Geldoff) นักร้อง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนักแต่งเพลงประจำวง ‘The Boomtown Rats’ ที่ได้แต่งเพลงฮิตปลายยุค 70s ที่ชื่อว่า ‘I Don’t Like Mondays’ ขึ้นมา ไม่ใช่แค่ท่วงทำนองที่ไพเราะและความลงตัวของการเรียบเรียงดนตรีเพียงเท่านั้น ที่พาให้เพลงนี้ทะยานขึ้นอันดับหนึ่งในหลายชาร์ต และกลายเป็นเพลงดังที่คนยุคนั้นร้องตามได้ อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เพลงนี้ ‘ฮิต’ ขึ้นมา ก็เป็นเพราะเพลงที่ว่าแต่งจากเรื่องจริงที่เพิ่งเป็นข่าวครึกโครมไปหมาด ๆ เหตุการณ์นั้นก็คือ การกราดยิงที่โรงเรียนประถมฯ ในแซนดีเอโก ผู้ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ครั้งนั้นคือ ‘เบรนดา สเปนเซอร์’ (Brenda Spencer) เด็กสาววัย 16 ปี พร้อมด้วยปืนไรเฟิลขนาด .22 และการลั่นไกร่วมสามสิบนัด เธอพรากชีวิตชาย 2 คนและสร้างบาดแผลทางกายให้เด็ก 8 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 นาย ด้วยเหตุผลสุดประหลาดที่เธอสารภาพผ่านโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า “ฉันไม่ชอบวันจันทร์ ฉันจะยิงมันให้หมดเลย”   / I don’t like Mondays I wanna shoot the whole day down /   วันจันทร์อันโหดร้ายในแซนดีเอโก วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 1979 เป็นวันจันทร์ที่เหน็บหนาวแม้แต่ในแคลิฟอร์เนีย ผู้คนที่เพิ่งฟื้นตื่นจากการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่รู้เลยว่าเช้าวันนั้นจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นวันที่โหดร้ายที่สุดวันหนึ่งสำหรับชาวเมืองซานคาร์ลอส แซนดีเอโก  บ้านของเบรนดาอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนประถมฯ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ หลังจากพ่อและลูกพี่ลูกน้องอีกสองคนของเธอออกไปเรียนและทำงาน เบรนดาที่อ้างกับผู้เป็นพ่อว่าเธอป่วยเกินจะไปโรงเรียนจึงอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง เสียงนาฬิกาบอกเวลา 8 นาฬิกา 30 นาที ตอนที่เด็กสาวประทับลำกล้องเข้ากับไหล่ ส่องกล้องและเล็งไปที่กลุ่มเด็กประถมฯ ที่กำลังยืนพูดคุยกันอยู่หน้าโรงเรียน รอให้ครูใหญ่ ‘เบอร์ตัน แรกก์’ (Burton Wragg) เปิดประตูโรงเรียนและเริ่มเช้าวันจันทร์อย่างเช่นทุกสัปดาห์ที่ผ่านมา เสียง ‘ป็อป’ เบา ๆ ราวเสียงดอกไม้ไฟแล่นจากกระบอกดังขึ้น แต่สิ่งที่พุ่งออกไปคือกระสุนที่มีเป้าหมายเพื่อคร่าชีวิต เด็กคนที่หนึ่งล้มลง ตามมาด้วยเด็กคนที่สอง เสียงร้องไห้และกรีดร้องอย่างหวั่นวิตกเริ่มดังขึ้น และหยดเลือดก็เริ่มไหลจากบาดแผลของเด็กคนแล้วคนเล่า ครูใหญ่เบอร์ตันกระวีกระวาดมาที่ประตู ไขกุญแจ และพยายามที่จะปกป้องเด็ก ๆ แต่กระสุนของเบรนดาไม่อนุญาตให้เขาทำเช่นนั้น เบรนดาลั่นไกใส่ร่างของครูใหญ่เบอร์ตันและพรากชีวิตเขาไป เช่นเดียวกับชีวิตของผู้ช่วย ‘ไมเคิล ซูชา’ (Michael Suchar) ที่เข้ามาเพื่อพยายามจะช่วยเจ้านายของเขา ขณะที่ ‘โรเบิร์ต ร็อบบ์’ (Robert Robb) เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่เข้ามาเคลื่อนย้ายเด็ก ๆ ให้ไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้รับบาดเจ็บจากกระสุนที่พุ่งเข้าใส่บริเวณลำคอ ความโกลาหลหน้าโรงเรียนประถมดำเนินไปร่วมครึ่งชั่วโมงก่อนที่ทุกอย่างจะยุติ พร้อมด้วยการล้อมจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมร้อย หน่วยลาดตระเวน 30 นาย และหน่วย SWAT อีก 20 นาย เบรนดาล็อกประตูอย่างแน่นหนาและขังตัวเองไว้ในบ้านพร้อมกับกระสุนมากกว่าสองร้อยนัดที่เหลือ ด้วยความยินยอมจากตำรวจ ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งต่อสายตรงไปที่เบอร์โทรศัพท์ของเธอ เบรนดารับสายและเริ่มร่ายยาวถึงเหตุผลในการก่อคดีกราดยิง “ฉันก็แค่ยิงเพราะมันสนุกดี ฉันเกลียดวันจันทร์” เธอบอก “ฉันแค่ทำให้วันนี้มีชีวิตชีวาขึ้น ฉันจะวางแล้วนะ ฉันยิงหมู (เบรนดาเรียกตำรวจว่าหมู) ไปตัวหนึ่งด้วย ฉันสนุกเกินกว่าที่จะยอมมอบตัวง่าย ๆ เดี๋ยวฉันจะออกไปยิงอีก” เบรนดายังบอกอีกว่าระหว่างการก่อเหตุการณ์ร้ายแรงทั้งหมด เธอเล็งเป้าอย่างใจเย็นและแม่นยำไปยังเด็กที่ใส่เสื้อสีฟ้า เพราะเธอชอบสีที่ว่าเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเพ่งเล็งไปยังเด็ก ๆ ที่สวมเสื้อคลุมมีขน เพราะ “ฉันชอบตอนขนพวกนั้นปลิว” สุดท้าย หลังจากขังตัวเองในบ้านร่วม 7 ชั่วโมง เธอก็ยินยอมมอบตัวแต่โดยดี เด็กสาวร่างผอม ผมแดง ใส่แว่นตาสีชาเดินออกมาจากบ้านด้วยใบหน้าเรียบเฉย เธอไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวระหว่างการคุมตัวไปยังโรงพัก ซึ่งสาเหตุที่เธอยอมวางไรเฟิลลงโดยไม่ทำลายชีวิตใครอีกก็เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเกลี้ยกล่อมเธอว่า “ถ้าหนูยอมมอบตัว ฉันจะเลี้ยงเบอร์เกอร์คิง”   ก่อนผู้ร้ายได้ปืน นอกจากเหตุการณ์ครั้งนั้นจะสร้างความหวาดผวาให้กับเด็ก ๆ เพื่อนบ้าน และชาวเมืองทุกคนที่รอฟังข่าวอยู่หน้าวิทยุ สิ่งที่ตามมาคือความสงสัยในแรงจูงใจของเด็กสาวคนนี้ คำ “ฉันไม่ชอบวันจันทร์” ของเธอฟังดูไร้น้ำหนักไปพร้อม ๆ กับน่าขนลุก เพราะคงไม่มีคนดี ๆ ที่ไหนฆ่าแกงกันง่าย ๆ จากความเกลียดชังวันที่บรรจุอย่างถาวรในปฏิทิน ย้อนกลับไปก่อนหน้าวันเกิดเหตุ ปัญหาด้านพฤติกรรมของเบรนดานั้นเรื้อรังมาอย่างยาวนาน ตำรวจที่เข้าตรวจค้นในบ้านของเธอพบขวดเหล้าวางระเกะระกะ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านั้นมักถูกดื่มไปครึ่งถึงค่อนขวด มีฟูกนอนหนึ่งอันวางไว้ในห้องนั่งเล่น พ่อของเธอให้ปากคำว่า เพราะความยากจนของพวกเขาทำให้เบรนดาไม่มีห้องส่วนตัว เขาและเธอนอนด้วยกันที่นั่นมาตลอด หลังจากที่พ่อและแม่ของเบรนดาแยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก เพื่อนบ้านของเบรนดาให้การว่าเธอมักโดดเรียนบ่อยครั้ง และมีข่าวลือว่าเธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขณะที่คุณครูในโรงเรียนที่เธอศึกษาอยู่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสองปีที่ผ่านมาทางโรงเรียนและหน่วยงานพิเศษได้ติดต่อไปยังพ่อของเธอถึงสองครั้ง เพื่อขอคำอนุญาตให้นำเธอเข้าบำบัดในสถานพยาบาลทางจิตเวช เพราะเธอมักมีพฤติกรรมรุนแรง และมีแนวโน้มฆ่าตัวตาย (ปี 1978 เธอเคยถูกจับฐานยิงปืนเข้าใส่หน้าต่างของโรงเรียนประถมโกรเวอร์ คลีฟแลนด์) แต่พ่อของเบรนดาปฏิเสธและยืนกรานว่าลูกสาวเขามีสุขภาพจิตปกติดี   / And daddy doesn’t understand it He always said she was good as gold /   คำให้การของเบรนดา เบรนดาถูกพิพากษาจำคุก 25 ปี หรือตลอดชีวิต ตามคำตัดสินของศาลที่จะเวียนมาเป็นรอบ สิ่งที่บ่งบอกถึงพฤติกรรมอันไม่อยู่กับร่องกับรอยของเธอคือคำให้การที่ไม่คงที่ และเปลี่ยนไปอยู่เสมอจากปากของเจ้าตัว เบรนดาบอกว่าเธอได้ไรเฟิลสังหารมาจากพ่อ เป็นของขวัญในวันคริสต์มาส “ฉันขอวิทยุเขา แต่สิ่งที่เขาให้มากลับเป็นปืน ฉันคิดว่าพ่ออยากให้ฉันฆ่าตัวตาย” คำอ้างของเธอขัดกับคำให้การของพ่อและลูกพี่ลูกน้อง ที่ยืนกรานว่าเธอร้องขอปืนและกระสุนด้วยปากของเธอเอง เช่นเดียวกับอีกคำให้การ เบรนดาอ้างว่าเธอลงมือก่อเหตุโดยไร้สติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์และยาขนาดแรงชนิดหนึ่ง แต่จากผลตรวจเลือดของเธอกลับไม่พบร่องรอยของแอลกอฮอล์หรือยาแม้แต่น้อย กระนั้นก็ยังมีคำให้การที่ฟังดูน่าเชื่อถือ (แต่ไม่มีน้ำหนักในชั้นศาล) ในครั้งหนึ่งของการพิจารณา เธอกล่าวว่าสาเหตุแห่งปัญหาสุขภาพจิตของเธอมาจากพ่อ - เธออ้างว่านับตั้งแต่แยกทางกับแม่ของเบรนดาเมื่อเธออายุได้ 9 ขวบ พ่อของเธอก็มักจะลวนลามและล่วงเกินเธออยู่เป็นประจำ ซึ่งพ่อของเบรนดาปฏิเสธข้อกล่าวหาจนกระทั่งวันสุดท้ายในชีวิตเขา ก่อนการเสียชีวิตเมื่อปี 2016 แต่ครั้งที่พ่อของเบรนดาได้ไปเยี่ยมเธอในห้องขัง เขาพบกับ ‘ชีลา’ (Sheila) เด็กสาวในห้องขังข้างเคียงที่รูปร่างละม้ายกับลูกสาวของตัวเองอย่างกับแกะ ต่างแค่ชีลาเด็กกว่า ทั้งคู่เริ่มความสัมพันธ์ฉันคู่รัก และภายหลังก็แต่งงานและมีบุตรด้วยกัน แต่ชีลาจากไปหลังจากคลอดบุตรคนแรกได้ไม่นาน เพราะคำให้การที่เลื่อนลอยและสภาพจิตใจของเบรนดาที่มีภาวะซึมเศร้าเป็นทุนเดิม ทำให้ปัจจุบันเธอยังถูกคุมขังและรับการรักษาอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงในแคลิฟอร์เนีย โดยไร้กำหนดปล่อย และรอคอยวันทัณฑ์บนรอบถัดไปที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปี 2021 ท่ามกลางคำให้สัมภาษณ์ของเหล่าเด็ก ๆ ที่เคยได้รับประสบการณ์โหดร้ายในวันดังกล่าว ที่ล้วนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และพูดคล้าย ๆ กันว่าพวกเขาไม่ได้โกรธแค้นอะไรเธอมากมายอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากให้เธอได้รับการปล่อยตัว หลายคนที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับเบรนดารวมทั้งทนายของเธอได้อธิบายถึงสภาพจิตใจของเธอในปัจจุบันว่า “เธอจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้ชัดเจนนัก และไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไรในเชิงลึกได้อีก แต่เธอเสียใจที่การกระทำในอดีตของเธออาจกลายเป็นแรงจูงใจให้เด็กที่มีปืนหลายคนคิดอยากจะทำตาม”   I Don't Like Mondays และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่บันดาลใจให้ บ็อบ เกลดอฟ เขียนเพลง ‘I Don’t Like Mondays’ ขึ้นมา โดยตัวบ็อบเองเคยเล่าถึงเพลงฮิตจากคดีโศกเพลงนี้เอาไว้ว่า “การทำของเธอ (เบรนดา) คือการกระทำที่ไร้เหตุผลโดยสมบูรณ์แบบ และเหตุผล ‘ไม่ชอบวันจันทร์’ ของเธอก็ไร้เหตุผลโดยสมบูรณ์แบบเช่นกัน ผมเขียนเพลงที่ไร้เหตุผลเพลงนี้ขึ้นมาเพื่ออธิบายมัน และผมไม่ได้พยายามจะใช้ประโยชน์อะไรจากโศกนาฏกรรม” เช่นเดียวกับคำพูดของเขา บ็อบไม่ได้คิดแม้แต่น้อยว่ามันจะกลายเป็นเพลงฮิต เพราะทีแรกนักร้องคนนี้ตั้งใจให้มันเป็นเพลงหน้าบี และถึงกับเคยถามค่ายเพลงของตัวเองว่า “คุณบ้าหรือเปล่า นี่มันไม่ใช่เพลงฮิตสักหน่อย” ตอนที่รู้ว่าพวกเขาจะเผยแพร่มันในรูปแบบซิงเกิล อย่างไรก็ตาม ชาร์ตของเพลงนี้ก็พิสูจน์ว่าเขาคิดผิด เพราะมันทะยานขึ้นอันดับ 1 ใน 32 ประเทศทั่วโลก ยกเว้นอเมริกา ซึ่งก็เข้าใจได้ไม่ยากนัก เพราะที่มาของเพลงนั้นเกิดจากปัญหาการครอบครองปืนที่เป็นปัญหาใหญ่ที่ดินแดนแห่งเสรีดินแดนนี้แก้ไม่ตกมาอย่างยาวนาน  ทั้งนี้ นอกจากปัญหาการครอบครองปืนแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวก็ยังสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาสุขภาพจิตนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยให้ผ่าน ๆ ไปโดยไม่ได้รับการแก้ไขได้ หากก่อนหน้าปี 1979 พ่อของเบรนดายอมให้เธอได้รับการบำบัดและรักษาอย่างถูกต้อง เรื่องราวอันแสนโหดร้ายและความตายในวันจันทร์อาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้   ที่มา:  https://www.sandiegouniontribune.com/news/public-safety/sd-me-brenda-spencer-school-shooting-20190129-story.html https://murderpedia.org/female.S/s/spencer-brenda.htm https://www.thesun.co.uk/news/8800944/who-brenda-spencer-released-from-prison-which-bob-geldof-song-inspire/ https://medium.com/california-dreaming/brenda-spencer-i-dont-like-mondays-33dff454ddf0 https://medium.com/chameleon/the-first-female-school-shooter-in-the-u-s-said-she-did-it-because-she-didnt-like-mondays-6a870c45b33a