มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

ทำไม จิบิ มารูโกะจัง เด็กสาวตัวเล็กอายุ 9 ขวบที่วัน ๆ สร้างแต่เรื่องน่าปวดหัว ถึงได้ชื่อว่าเป็น เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนทั่วโลกต่างหลงรัก

ใครทำอะไร เราก็ชวนเขาไป
ชวนทำอะไร เราก็ชวนเต้นรำ
ใครมีปัญญาก็ออกมาร้องนำ
โชว์วีรกรรมก็ด้วยการทำเสียง

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนิยาม แต่โมโมโกะ ซากุระ หรือ จิบิ มารูโกะจัง เด็กสาวตัวเล็กอายุ 9 ขวบที่วัน ๆ สร้างแต่เรื่องน่าปวดหัว ก็ได้สร้างภาพจำว่าเป็นเด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น และทุกคนก็ต่างจดจำภาพลักษณ์นี้ของเธอได้อย่างแม่นยำ แต่ก็ด้วยความเอ็นดู

Chibi Maruko-chan หรือที่รู้จักกันในชื่อ หนูน้อยจอมซ่า มารูโกะจังการ์ตูนที่เคยออกอากาศในประเทศไทยทางช่อง 3 เมื่อปี 2541 จากผลงานการเขียนของ โมโมโกะ ซากุระ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวส่วนหนึ่งในวัยเด็กของผู้เขียนเองออกมาเป็นเรื่องราว ก็เป็นอีกหนึ่งการ์ตูนที่มีชื่อเสียงของยุค 90-2000 ใครก็ตามในยุคนั้นสามารถเรียกชื่อเด็กผู้หญิงแก้มแดงในชุดนักเรียนประถมสีขาว-แดงคนนี้ได้ไม่มีผิดเพี้ยน
มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

ฝันแล้วก็จะอยากฝันอีก อยากชวนเธอไปเดินอยู่ในความฝันแล้วพากันไป คิดแล้วก็หยิบเอาเสื้อใหม่ ใส่ที่ตัวสวยไป แล้วก็ออกไปเดินเฉย ฝอยกันให้ฟุ้ง” 

ท่อนแรกของเพลง เก็บฝันหรือ Yume Ippai ในภาษาญี่ปุ่น เพลงประกอบการ์ตูนที่อธิบายถึงความเป็นเด็กน้อยตัวป่วน ช่างฝันของมารูโกะจังได้เป็นอย่างดี เรื่องราวของเธอในการ์ตูนไม่ได้ซับซ้อน เป็นชีวิตประจำวันของเด็กประถมคนหนึ่งและครอบครัวกับผองเพื่อนในจังหวัดชิซึโอกะ 

จริง ๆ แล้วเรื่องราวของมารูโกะจังนั้นไม่ได้สลับซับซ้อนเท่าไหร่นัก กิจวัตรของการตื่นนอน ออกไปเรียน ไปเล่นซนกับเพื่อน ก็ไม่ได้ต่างกับชีวิตจริงของเด็ก ๆ ในวัยเดียวกันมาก (หรืออาจจะมากกว่าปกติสักเล็กน้อยพอเป็นสีสันให้กับการ์ตูน

อันที่จริงแล้ว เราอาจจะเห็นได้ว่ามารูโกะจังไม่ได้ขี้เกียจ (ขนาดนั้น) แต่เพราะชีวิตประจําวันที่เรียบง่ายในเมืองที่ไม่วุ่นวายอย่างจังหวัด ชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนที่น่ารัก และครอบครัวที่อบอุ่น ก็ทําให้มารูโกะจังนั้นมีนิสัยสบาย ๆ โดยมีพื้นฐานที่มาที่ไปจากชีวิตของผู้เขียนเอง จึงทำให้เรื่องราวอันแสนเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ของเด็กประถมตัวเล็ก ๆ คนนี้ ดึงดูดแฟน ๆ และทำให้เราหลงรักเธอได้ไม่ยากนัก 

และเพื่อไม่ให้มารูโกะจังดูเป็นเด็กขี้เกียจจริง ๆ ในสายตาของทุกคน ก็ต้องทำการ ปกป้องน้องเสียหน่อย ด้วยการย้อนกลับไปเล่าถึงจังหวัดชิซึโอกะ ที่จริง ๆ แล้วก็เป็นเมืองต่างจังหวัดซึ่งขึ้นชื่อว่ามีอากาศและธรรมชาติอันบริสุทธิ์เป็นอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น อันเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ที่นี่มีจังหวะการใช้ชีวิตที่มีความเร่งรีบน้อยกว่าเมืองใหญ่อย่างโตเกียว และก็เป็นปกติที่กิจวัตรของเด็กวัยนี้จะดำเนินไปด้วยความเรียบง่าย ซุกซน ก็ทำให้เราสามารถเข้าใจได้ไม่ยากว่า การทำตัวสบายๆ หรือนอนเล่นท่ามกลางเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามท่ามกลาวอากาศอันสดชื่น น่าจะเป็นกิจกรรมที่ไม่ว่าใครก็จะเผลอดื่มด่ำกับวิถีชีวิตนี้ได้ไม่ยากนักเมื่อมาถึง 

ด้วยความที่เป็นครอบครัวใหญ่ในต่างจังหวัด ที่ไม่ได้มีแค่พ่อ แม่ ลูก แต่บ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ๆ ของมารูโกะนั้นยังมีญาติผู้ใหญ่อย่างคุณปู่ ทำให้เรื่องราวความป่วนของมารูโกะนั้นเกี่ยวพันกับสมาชิกในครอบครัวอยู่ตลอด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะกันตามวัยกับพี่สาวอย่างซากิโกะจัง หรือโดนคุณแม่ที่กำลังบ่นในความสุดแสนจะขี้เกียจที่ไม่ยอมทำความสะอาดห้องของเธอ และการอ้อนคุณปู่ที่แสนจะใจดีเพื่อปลอบประโลมความน่าปวดหัวจากปัญหาที่เธอเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง

ภายนอกรั้วบ้าน เรื่องราวสุดป่วนของมารูโกะจังในวัย 9 ขวบก็คงไม่พ้นในรั้วโรงเรียน ซึ่งแม้จะเป็นโรงเรียนประถมแบบญี่ปุ่นที่เราหาดูได้ในการ์ตูนได้ทั่วไป แต่ด้วยความเป็นต่างจังหวัดก็ยังแฝงบรรยากาศแบบบ้าน ๆ ที่หาไม่ได้ในเมือง เช่นการไปจับปลาริมแม่น้ำที่ไม่ไกลจากโรงเรียน ซึ่งไม่ว่าจะในโรงเรียนหรือสถานที่ข้างนอก มารูโกะก็ยังไม่ลืมที่จะพกความเด๋อด๋าสุดแสนน่ารักของเธอติดไปด้วยในทุกสถานการณ์

แม้ว่าการ์ตูน จิบิ มารูโกะจังจะไม่ได้ ขายของความเป็นจังหวัดชิซึโอกะแบบเต็มที่ แต่เราก็ยังสัมผัสชีวิตที่เรียบง่ายของครอบครัวและผองเพื่อนมารูโกะจังได้อย่างไม่รู้สึกฝืน ผ่านสายตาอันไร้เดียงสา (?) ของเด็กสาววัยประถมที่ทำให้เราอยากรู้อยากเห็นความเป็นไปของบ้านมารูโกะจังมากขึ้น

มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

จังหวัดชิซึโอกะ (静岡県 Shizuoka-ken) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น มีขนาดพื้นที่ประมาณ 1,411 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ ซึ่งส่วนหนึ่งเมืองชิซึโอกะนี้มีพื้นที่ตั้งอยู่บนฐานของภูเขาไฟฟูจิ เป็นเหตุผลที่ทำให้เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากแทบทุกมุมของเมืองชิซึโอกะอีกด้วย 

โดยภูเขาไฟฟูจินี่เองที่ทำให้ดินบริเวณนี้เต็มไปด้วยแร่ธาตุอันอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงแหล่งน้ำซึ่งได้จากการละลายของหิมะจากยอดเขาไฟ ไหลรวมกันมาเป็นสายน้ำบริสุทธิ์ที่หล่อเลี้ยงผลผลิตและชีวิตของชาวซิชึโอกะ

มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

นอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้ว ชิซึโอกะยังมีอีกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างปราสาทคาเคกาวา ปราสาทไม้ของญี่ปุ่นแห่งแรกที่ได้สร้างขึ้นใหม่โดยใช้วิธีการเดิม ปัจจุบันส่วนของปราสาทถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้เรียนรู้วิถีการดำเนินชีวิตในอดีต และถ้าขึ้นไปบนหอคอยของปราสาทจะสามารถรับชมทัศนียภาพที่สวยงามของเมือง รวมถึงสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิในวันที่ท้องฟ้าสดใสได้ 

และนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแล้ว สภาพอากาศบริสุทธิ์ ดินดี นํ้าดี และความเอาใจใส่ในการทำงานของผู้คนที่นี่ ก็เลยทำให้จังหวัดนี้กลายเป็นแหล่งปลูกชาที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย มารูโกะจังจึงอยากพาทุกคนไปพักดื่มชากันให้สบายใจ และรับรู้เรื่องราวอันแสนอบอุ่นจากชาแห่งชิซึโอกะไปพร้อมกัน

มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

ชาชิซึโอกะนั้นจะทำการคัดเลือกยอดใบชาต้นฤดูการเก็บเกี่ยว (1st flush) หรือชาวญี่ปุ่นเรียกว่า อิจิบันฉะ” (Spring winter tea) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใบชาจะสะสมคุณค่าสารอาหารที่ดีเอาไว้ในลำต้นตลอดฤดูหนาว และเมื่อรวมกับแหล่งน้ำบริสุทธิ์ที่ได้จากการละลายหิมะบนภูเขาไฟฟูจิอันเต็มไปด้วยแร่ธาตุสำคัญ จึงทำให้ใบชา 1st flush มีกลิ่นหอม รสชาติดี และให้ความเข้มข้นของคุณค่าต่าง ๆ ในใบชาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

เมื่อได้ใบชาคุณภาพมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็มาถึงมือของ เซนเซ ซาโตรุ ฟูจิโมโต กรีนทีมาสเตอร์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านชาเขียวจากชิซึโอกะ วัย 61 ปี ที่ใช้เวลากว่า 30 ปีในการศึกษาและพัฒนาใบชาชนิดต่าง ๆ เพื่อจับสังเกตทุกรายละเอียดของชาเขียว ตั้งแต่สีของน้ำชาเมื่อผ่านความร้อน กลิ่นหอมหลากหลายรูปแบบในระดับความร้อนที่แตกต่าง จนได้รสชาติที่เกิดจากการปรุงอย่างมีศิลป์อันเป็นเอกลักษณ์ และเซนเซ ซาโตรุ ฟูจิโมโตะ ยังเป็นผู้ปรุงชาชิซึโอกะส่งตรงถึงคนไทยอีกด้วย สำหรับด้านใบชาคุณภาพนั้นส่งตรงมาจากไร่ของคุณโอฮาชิซัง เกษตรกรจากไร่ชาออร์กานิคแห่งชิซึโอกะ

มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

ชาลาลา ชาลาลา พร้อมเมื่อไหร่ก็ร้อง
ชาลาลา ชาลาลา คิดไม่ออกก็ร้อง
ชาลาลา ชาลาลา ชวนกันไปบ้านมารูโกะ

ตื่นเช้าออกไปสร้างวีรกรรมสุดป่วนกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน ตกเย็นกลับบ้านกินข้าวพร้อมกับครอบครัวและตีกับพี่สาวพอเป็นพิธีค่อยเข้านอน ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวง่าย ๆ ของเด็กผู้หญิงป.3 คนหนึ่ง ที่ฟังดูไม่มีอะไร แต่กลับถูกเล่าออกมาอย่างสนุกและจริงใจจนทำให้ทุกคนหลงรักและเอ็นดูเธอมามากกว่า 30 กว่าปี

มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

ชิซึโอกะ ดินแดนที่ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และทรัพยากรทางธรรมชาติที่ดี นอกจากเรื่องราวอันแสนน่ารักของมารูโกะจังแล้ว จังหวัดนี้ก็ยังให้กำเนิดชารสชาติญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ออกมาจากความตั้งใจ อันอบอุ่นของชาวชิซึโอกะไปด้วยพร้อม ๆ กัน 

มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

และสำหรับใครที่อยากสัมผัสจิตวิญญาณของจังหวัดชิซึโอกะ เราก็พามารูโกะจังมาเป็นไกด์กิตติมศักดิ์ที่จะพาทุกคนออกเดินทางไปพร้อมกัน ถ้าพร้อมไปต่อแถวกันที่คอมเมนต์ได้เลย!

มารูโกะจัง เด็กผู้หญิง ป.3 ที่ขี้เกียจที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนต่างหลงรัก

เรื่อง: ณัฐพล ดุรงค์ฤทธิ์ชัย & ทศพล เหลืองศุภภรณ์

ภาพ: ShizuokaxMaruko

อ้างอิง:

https://thepeople.co/momoko-sakura-chibi-maruko-chan/
https://www.facebook.com/shizuokatourism/posts/2829996147130191/
http://www.ichitandrink.com/shizuoka/shizuokabyichitan.php
https://thestandard.co/momoko-sakura/https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2_%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2_%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87_(%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B9%8C)https://www.japan.travel/th/spot/182/#:~:text=%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%B2,%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87