‘ทิม คุก’ มีดีอะไร? ทำไมผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Tesla อยากได้ตัว

‘ทิม คุก’ มีดีอะไร? ทำไมผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Tesla อยากได้ตัว

'ทิม คุก' (Tim Cook) ถูกพูดถึงและได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 3 ของ Tesla เปิดประเด็น "ถึงเวลาเปลี่ยน CEO คนใหม่ และต้องการแบบ ทิม คุก" ด้วยคุณสมบัติหลายอย่างทำให้เขาเป็น CEO ของ Apple ที่ทรงอิทธิพลและประสบความสำเร็จคนหนึ่งด้วยแนวคิดหลายด้าน

  • ทิม คุก เคยได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน CEO ที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในบรรดาบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ในปี 2012
  • ทิม คุก เป็นหนึ่งใน CEO ที่รวยที่สุดในโลก
  • เขาถูกยกให้เป็น CEO ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่ง และประสบความสำเร็จด้วยวิธีการคิดที่มีชั้นเชิง

 

ช่วงปั่นกระแสของ ‘อีลอน มัสก์’ (Elon Musk) เจ้าพ่อนักประดิษฐ์สายฉีกกฎเรียกว่าแทบจะมีข่าวรายวันก็ว่าได้ อย่างล่าสุดที่โพสต์ทวีตเตอร์ตั้งคำถามว่า เขาควรออกจากตำแหน่งผู้นำของ Twitter หรือไม่ ถือเป็นการแซวตัวเองกลับหลังจากที่ KoGuan Leo หนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Tesla เปิดประเด็นว่า “ถึงเวลาที่ Tesla ควรมี CEO คนใหม่”

ความน่าสนใจตกไปที่ ‘ทิม คุก’ (Tim Cook) CEO ของ Apple Inc. วัย 62 ปี เพราะในคำพูดของ KoGuan Leo เขาพูดยกตัวอย่างถึงคุณสมบัติที่ดีของผู้นำว่าควรเป็นแบบ ทิม คุก ซึ่งเขายังย้ำอีกว่า อีลอน มัสก์ ละทิ้ง Tesla และทำงานไม่เต็มเวลา

ทิม คุก ได้การยอมรับให้เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ดีที่สุดในโลกจากหลาย ๆ คนที่พูดถึงเขา ซึ่งเราจะพาไปเรียนรู้เส้นทางความคิด ความสำเร็จแบบฉบับของ ทิม คุก ว่าเขามีวิธีการคิดและจัดการกับเรื่องต่าง ๆ แบบไหนซึ่ง ทิม คุก ถือว่าเป็นบุคคลที่มักจะถูกยกตัวอย่างอยู่บ่อย ๆ ท่ามกลางแรงกดดันเพื่อทำให้ Apple เติบโตซึ่งไม่ได้ง่ายเลย

 

วิธีคิดแบบ 'ทิม คุก'

ข้อมูลจากเว็บไซต์ strategic leaders ได้พูดถึงคุณสมบัติเด่น ๆ ของ ทิม คุก ในฐานะที่เป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งที่อยู่ในสปอร์ตไลต์มานาน อย่างแรกเลยนิสัยของเขามักจะกล้าคิดและพร้อม ‘รับความเสี่ยง’ เสมอ ถึงแม้ว่าอาจจะกระทบต่อชีวิตคนรอบข้างก็ตาม

พูดง่าย ๆ ก็คือ เมื่อถึงเวลาที่เขาพร้อมจะรับความเสี่ยงเพื่อให้ประสบความสำเร็จเขาก็ยอม ทิม คุก เชื่อและมักจะพูดเวลาที่ให้สัมภาษณ์ว่า “บางครั้งความเสี่ยงก็ทำให้เกิดความล้มเหลว แต่หากเราไม่กล้าที่จะล้มเหลว เราก็อาจไม่มีวันจะประสบความสำเร็จได้”

“หากไม่มีความมั่นใจที่จะรับความเสี่ยงที่คำนวณหรือประเมินได้ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากคนรอบข้าง”

แนวคิดที่ 2 ของ ทิม คุก ก็คือ ‘มีสมาธิและตั้งใจฟังผู้อื่นมาก’ ถึงแม้ว่า ‘สตีฟ จอบส์’ ผู้ก่อตั้ง Apple โดยส่วนตัวจะเป็นคนที่ร่าเริงและสดใส แต่บุคลิกนี้ตรงข้ามกับ ทิม คุก ที่เข้ามารับตำแหน่ง CEO เป็นคนที่ 2 จนถึงปัจจุบัน เขาเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวและเงียบขรึม ชอบคิดอะไรเงียบ ๆ และตั้งใจฟังผู้อื่นค่อนข้างมาก

Saeed Magahsooloo ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออเบิร์นพูดถึง ทิม คุก ว่า “ฉันแทบไม่เคยเห็นเขาตั้งคำถามเลย เขานั่งเงียบ ๆ และศึกษาตลอดที่ผู้อื่นพูด”

นอกจากนี้ ทิม คุก เคยสัมภาษณ์กับ Businessweek โดยพูดถึงความถ่อมตนว่าเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารคน อย่างเวลาที่ไปเยี่ยมชมร้านสาขาของ Apple ต้องมีส่วนร่วมกับลูกค้า เขาพูดด้วยว่า “ในฐานะ CEO ก็เช่นกัน อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องกลายเป็นคนโดดเดี่ยวไม่มีส่วนร่วมกับใคร หรือไม่คุยไม่ฟังใคร ผมว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากในตำแหน่งสูง”

“การอ่อนน้อมถ่อมตนจะทำให้คุณได้รับความเคารพจากพนักงาน และเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นมากต่อการเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่”

นอกจากนี้ ทิม คุก ได้พูดถึงรูปแบบการทำงานภายใต้การบริหารของเขาคือ “ทีมทำงานของเราทำงานแบบไม่หยุด เรียกว่าเป็นทีมที่ขยันและช่วยกันเพื่อการเติบโตของแบรนด์ ซึ่งตลอดศตวรรษที่ 21 Apple ถือว่าโดดเด่นและอยู่ในความสนใจของผู้บริโภคมาตลอด”

มีบทวิเคราะห์จากหลายที่เกี่ยวกับการทำงานของ ทิม คุก ในฐานะ CEO ของ Apple เหตุผลที่เขาเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จและมีอิทธิพลในแวดวงผู้นำมากเป้นอันดับต้น ๆ ที่คนพูดคุยเพราะว่า ระบบการทำงานของ Apple ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ทำงานซับซ้อน แลพะ CEO จำเป็นต้องใช้ความคิดแบบมีชั้นเชิง มีกลยุทธ์เพื่อการตัดสินใจอย่างสมบูรณ์ที่สุด

ซึ่งประสบการณ์ทำงานของเขาที่ IBM กว่า 12 ปี ถือว่าทำให้เขากลายเป็นบุคคลตัวอย่างที่มีการคิด แนวทางการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างน่าสนใจคนหนึ่งเลย

ทั้งนี้ สไตล์การบริหารของ ทิม คุก ในมุมมองของ Harvard Business Review ได้พูดไว้ว่า “เขาถือว่าเป็น ‘ผู้นำแบบตัวคูณ’ (Multiplier) คือเป็นคนประเภทที่ทวีปัญญาและสร้างสรรค์ในคนเดียว ซึ่งผู้นำคาแรคเตอร์นี้จะทำให้พนักงานฉลาดขึ้น คิดแบบนวัตกรรมมากขึ้น และมีความสามารถมากขึ้นผ่านสไตล์การบริหารของผู้นำ”

ความคิดเห็นจากหลายคนทำให้เข้าใจว่า เพราะอะไรผู้ถือหุ้นของ Tesla ถึงพูดถึงการบริหารแบบ ทิม คุก ว่าเป็นคาแรคเตอร์ CEO ที่เขาต้องการ ซึ่งผลลัพธ์จะไม่ใช่แค่การเติบโตของแบรนด์ แต่ยังรวมไปถึงอนาคตธุรกิจ ความสามารถของพนักงานในองค์กร และความทุ่มเทที่เห็นผลชัดเจน

 

 

 

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

Startuptalky

Strategicleaders

Markets businessinsider

Ceoworld