คิคุโอะ อิเบะ ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-Shock

คิคุโอะ อิเบะ ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-Shock

คิคุโอะ อิเบะ (Kikuo Ibe) ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-SHOCK พร้อมกับนาฬิกา Limited รุ่นฉลองครบรอบ 40 ปี G-SHOCK Anniversary

คิคุโอะ อิเบะ ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-Shock

ถ้าให้นึกถึงแบรนด์นาฬิกาที่เป็นตำนาน แน่นอนว่า G-SHOCK จะเป็นหนึ่งในชื่อที่ใครหลายคนจะนึกถึง เพราะย้อนไปหลายสิบปีก่อน G-SHOCK ถือเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ฮอตฮิตที่ใคร ๆ ก็อยากใส่ และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 40 ปีพอดี ซึ่ง G-SHOCK ก็ยังคงเป็นที่นิยมเพราะขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ ความทนทาน และเอกลักษณ์การออกแบบที่ดูดี ใส่แล้วมั่นใจ แต่กว่าจะมาเป็น G-SHOCK ที่ทุกคนรักในแบบทุกวันนี้ เราจะพาทุกคนไปดูเบื้องหลังแนวคิด ไปพูดคุยกับคุณคิคุโอะ อิเบะ ผู้ออกแบบที่ทำให้นาฬิกา G-SHOCK อยู่เหนือกาลเวลามาจนถึงทุกวันนี้

คิคุโอะ อิเบะ วิศวกรนักออกแบบนาฬิกาแห่ง CASIO กับจุดเริ่มต้นของ G-SHOCK

‘คิคุโอะ อิเบะ’ คือวิศวกรผู้ออกแบบนาฬิกา G-SHOCK สุดทนทานในตำนาน เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ G-SHOCK อย่างแท้จริง ย้อนไปตอนที่เขาเริ่มเข้ามาทำงานนั้น โจทย์แรกที่ได้รับจากบริษัท คือต้องหาวิธีออกแบบนาฬิกาให้บางและเบาที่สุดให้ได้เพื่อให้ตรงกับความนิยมของผู้คนในช่วงนั้น แต่แล้วดันมีเหตุการณ์สำคัญในชีวิตวันหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม นั่นก็คือเขาทำนาฬิกาที่พ่อมอบให้เป็นของขวัญหล่นจนแตกกระจาย นาฬิกานั้นสำคัญต่อจิตใจเขามาก นับแต่นั้นมาคุณอิเบะจึงตั้งใจมุ่งมั่นที่จะทำนาฬิกาที่แข็งแกร่งและทนทานที่สุดออกมาให้ผู้คนได้ใส่กันให้ได้ และแน่นอนว่าเขาทำสำเร็จ G-SHOCK ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก

คิคุโอะ อิเบะ ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-Shock คิคุโอะ อิเบะ ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-Shock

‘Never Give Up’ คำขวัญประจำใจ คิคุโอะ อิเบะ และที่มาของนาฬิกา G-SHOCK

จุดเริ่มต้นของนาฬิกา G-SHOCK อันโด่งดังไม่เคยมีคำว่าง่าย ‘คุณอิเบะ’ เริ่มเล่าย้อนไปถึงก้าวแรกที่ต้องล้มอยู่หลายต่อหลายครั้ง

“ผมล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่นั่นเพราะผมกำลังจะทำในสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน มันเลยต้องยากแบบนี้ ตอนนั้นผมทดลองโยนนาฬิกาลงมาจากตึก ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้งมาก เพราะอยากรู้ว่าตัววัสดุกับเทคนิคที่ใช้ มันจะช่วยให้นาฬิกาทนแรงกระแทกสุดโหดได้ไหม ช่วงแรกผมจะโยนกี่ครั้ง นาฬิกาก็แตกละเอียดหมดทุกครั้ง ไม่มีเรือนไหนที่รอดมาได้เหมือนที่ผมตั้งความหวังไว้เลย”

ถ้าวันนั้นคุณอิเบะยอมแพ้ G-SHOCK ก็จะไม่มีโอกาสได้ถือกำเนิดขึ้น คุณอิเบะยอมรับว่าช่วงเวลาที่เจอแต่ความผิดหวังมันรู้สึกท้อมาก แต่แทนที่จะเลิก กลายเป็นว่าคุณอิเบะยิ่งฮึดสู้กว่าเดิม

“ในหัวผมคิดอยู่อย่างเดียว คือจะต้องหาวิธีที่ทำให้นาฬิกาของผมทนทานที่สุดให้ได้ และผมจะต้องสร้างนาฬิกาที่แข็งแกร่งที่สุดให้สำเร็จ พอทดสอบแล้วไม่สำเร็จ ผมกลับมาแก้ปัญหา แล้วเอาออกไปทดลองใหม่ ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ ในที่สุด G-SHOCK ก็เกิดขึ้น มันเป็นนาฬิกาที่อึดที่สุดตามที่ผมตั้งใจไว้ได้จริง ๆ พอผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ผมเรียนรู้อย่างหนึ่งคือ ‘Never Give Up’ ผมพูดกับตัวเอง บอกตัวเองมาตลอดในวันที่ทุกอย่างมันดูยากไปหมด ผมแค่บอกตัวเองไปเรื่อย ๆ ว่าห้ามยอมแพ้เด็ดขาด จะยอมแพ้ไปก่อนไม่ได้ ถึงวันนี้ผมก็ยังเตือนตัวเองอยู่ตลอดว่า Never Give Up”

 

คิคุโอะ อิเบะ ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-Shock

แต่ถึงแม้จะคิดค้นนาฬิกาที่ทนทานที่สุดออกมาได้สำเร็จแล้ว แต่คุณอิเบะก็ยังต้องเจออุปสรรคอีก เพราะนาฬิกาของเขากลับไม่ใช่นาฬิกาที่ตรงกับกระแสความนิยม ณ ขณะนั้น ทำให้  G-SHOCK ถูกเมินในช่วงแรกแต่ในท้ายที่สุด ความพยายามของเขาที่ตั้งใจคิดค้นนาฬิกาที่แข็งแกร่งและทนทานแบบที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้ออกดอกออกผล เพราะ G-SHOCK เริ่มเป็นที่เลื่องลือ คนเริ่มเห็นแล้วว่ามันทนทานจริง ๆ จนสื่อหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา ไทย รวมทั้งประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย เริ่มพูดถึง G-SHOCK จนเริ่มเข้ามาเป็นที่รู้จัก และถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางนาฬิการะดับตำนานมาจนถึงทุกวันนี้

แน่นอนว่า ‘Never Give Up’ คือคำพูดสั้น ๆ ที่เรียบง่าย แต่ก็ทรงพลังมากพอที่จะทำให้คุณอิเบะเดินหน้าต่อในวันนั้น จนทำให้ทั่วโลกได้มีโอกาสสัมผัสกับ G-SHOCK ในวันนี้

เส้นทาง 40  ปีของนาฬิกา G-SHOCK

หลังจากที่ G-SHOCK เข้าตลาด และได้รับความนิยมในกลุ่มหนุ่มสาวในที่สุด ‘คุณอิเบะ’ ก็ได้พา G-SHOCK โลดแล่นมาได้ตลอดในฐานะแบรนด์นาฬิกาทนทานที่ยังเป็นตัวเลือกของผู้คนทุกยุค ทุกสมัย เขาเล่าว่า

“ผมดีใจมากเวลาเห็นวัยรุ่น คนหนุ่มสาวใส่นาฬิกา G-SHOCK แต่ผมจะคิดตลอดว่าผมยังอยากเห็นคนเหล่านี้สนุกกับการใส่ G-SHOCK อยู่ในวันที่พวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว มันเลยเป็นที่มาของนาฬิการุ่น MR-G ครับ เราตั้งใจออกแบบให้โดดเด่นเป็นรุ่นพรีเมียม วัสดุจะเป็นโลหะล้วนทั้งหมดเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ แต่ความยากจะอยู่ที่พอเราใช้โลหะล้วน ตัวป้องกันกรอบนาฬิกาจะหายไป ทำให้โดนรับแรงกระแทกเต็ม ๆ แต่ด้วยสปิริต Never Give Up ของ G-SHOCK สุดท้ายเราเลยหาเทคนิคและวัสดุที่เหมาะสมกันจนได้ตัว MR-G รุ่นแรกออกมาที่วางขายตอนปี 1996 ครับ”

คุณอิเบะยังย้ำด้วยว่าตลอดเส้นทางของ G-SHOCK เขาจะมุ่งมั่นพัฒนารุ่นใหม่ออกมาเรื่อย ๆ จะทำให้วัสดุที่ดีอยู่แล้วดีกว่าเดิมขึ้นไปอีกให้ได้ และจะนำเทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่นมาผสมผสานเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์ให้G-SHOCK โดดเด่นกว่าเดิม

40 ปี ของ G-SHOCK ฉลองด้วยนาฬิการุ่น Limited ที่มีแค่ 500 เรือนทั่วโลก

ใครที่ติดตาม G-Shock อยู่แล้วก็จะรู้ว่า G-SHOCK มีการออกแบบรุ่น Limited มาให้แฟน ๆ ได้สะสมอยู่เสมอ ในโอกาสครบรอบ 40 ปีนี้ก็เช่นกัน G-SHOCK ได้ออกนาฬิการุ่น MRG GASSAN (MRG-B20000GA) ที่ทั่วโลกมีวางขายอยู่เพียงแค่ 500 เรือนเท่านั้น ความพิเศษของนาฬิการุ่นนี้อยู่ที่ผลงานการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากศิลปะการตีดาบญี่ปุ่นแห่งตระกูลกัสซัง จนทำให้นาฬิกา G-SHOCK รุ่นนี้ขึ้นหิ้งเป็นงานฝีมือสุดประณีตที่ผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมอันทรงคุณค่าของญี่ปุ่นเข้ากับเทคโนโลยีไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันเป็นครั้งที่สองหลังจากเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2019

คิคุโอะ อิเบะ ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-Shock

ผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบครั้งนี้คือ ซาดาโนบุ กัสซัง นักตีดาบญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก เขาเติบโตขึ้นมาในโลกของการตีดาบ ได้สืบทอดงานฝีมืออันทรงคุณค่านี้มาจากผู้เป็นพ่อและตระกูลของเขาที่มีตำนานมากกว่า 800 ปี กัสซังถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์งานโบราณออกมาในรูปแบบใหม่ ๆ ทำให้เขาได้รับรางวัลทรงเกียรติมากมายในการแข่งขันรายการต่าง ๆ ได้รับความหวังว่าจะเป็นผู้นำรุ่นต่อไปของการทำดาบญี่ปุ่น และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสมาคมนักดีตาบแห่งญี่ปุ่นอีกด้วย ถือเป็นผู้ทรงเกียรติคนสำคัญในวงการหัตถศิลป์ของญี่ปุ่นท่านหนึ่ง

การมาร่วมงานของ G-SHOCK กับ Gassan จึงเป็นเรื่องที่พิเศษมาก ซึ่งคุณอิเบะมองว่าเป็นเพราะ G-SHOCK กับ Gassan มีจุดร่วมที่คล้ายคลึงกันหลายอย่าง และการมองเห็นคุณค่าที่ตรงกันของทั้ง 2 ฝ่ายนี้  ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งทนทานของนาฬิกาที่เหมือนกับการตีดาบให้แข็งแกร่งขึ้นมาของ  Gassan หรือเบื้องหลังของความไม่ล้มเลิกในการคิดค้น G-SHOCK กับคติประจำใจของตระกูล Gassan อย่างคำว่า “鍛” และ “錬 (ทันเร็น) ที่หมายถึงการฝึกฝนร่างกาย จิตใจ และฝีมือ ซึ่งทีมออกแบบได้นำคำนี้มาสลักไว้บนสายนาฬิกา G-SHOCK Limited รุ่นนี้ เพื่อสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่มีร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่ายด้วย

นอกจากจิตวิญญาณที่คล้ายคลึงกันแล้ว นาฬิกา G-SHOCK รุ่นนี้ยังมีการนำเทคนิคต่าง ๆ ในการตีดาบของกัสซังจำลองลงมาอยู่ในนาฬิกาสุดพิเศษเรือนนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกรอบไทเทนียมลวดลายใบดาบ 'อะยาสุงิ' ลวดลายที่ทำให้นึกถึงเกลียวคลื่นสวยงาม ประดับอยู่บนขอบตัวเรือน ซึ่งเกิดจากการผสมผสานของวัสดุอย่างไทเทเนียมบริสุทธิ์และไทเทเนียมชนิดพิเศษ Ti64 ที่ได้จากการนำไปหลอมแล้วทำการตกผลึกใหม่อีกครั้ง หรือการตกแต่งหน้าปัดด้วยลวดลายเพชรแบบดั้งเดิมฮิชิมากิ-การะ ที่มักพบเห็นได้บนด้ามจับดาบญี่ปุ่น ถือเป็นการนำรายละเอียดจากดาบญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาผสมผสานกับนวัตกรรมการบอกเวลาในปัจจุบันได้อย่างงดงาม

และแน่นอนว่าภายในของนาฬิกายังคงคอนเซปต์ความแข็งแกร่งเอาไว้ ด้วยโครงสร้างป้องกันการกระแทกให้กับเม็ดมะยมและปุ่มกด โมดูลบอกเวลาใช้พลังงานแสงอาทิตย์กับเทคโนโลยี บลูทูธ และการควบคุมด้วยคลื่นวิทยุเพื่อความถูกต้องและความแม่นยำที่เพิ่มขึ้น รวมถึงตัวเรือนเรืองแสงที่โดดเด่นด้วยการใช้ไฟ LED ความสว่างสูง รองรับการดูนาฬิกาในที่มืด และกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน

ด้วยที่มาอันละเอียดอ่อนทั้งหมดนี้ คุณอิเบะผู้อยู่กับ G-SHOCK มาถึง 40 ปี จึงมองว่านาฬิการุ่นนี้จึงมีความพิเศษสุดทั้งในแง่ของฟังก์ชันนาฬิกา การออกแบบ และการประสานเข้ากับงานหัตถศิลป์อันทรงคุณค่าของญี่ปุ่น ควรค่าที่นักสะสม G-SHOCK จะมีเก็บรักษาไว้

คิคุโอะ อิเบะ ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-Shock

‘Never Give Up’ ส่งต่อสปิริต G-SHOCK สู่เจ้าของนาฬิกา

คุณอิเบะบอกว่าจุดเด่นของนาฬิกา G-SHOCK อยู่ที่ความทนทานแข็งแรง นาฬิกาอื่นที่จะทนทานแบบนี้หาไม่มี นับเป็นจุดที่พิเศษมาก นอกจากนี้ G-SHOCK ก็ยังมีการพัฒนามาโดยตลอด ทั้งวัสดุแบบพลาสติก โลหะสีต่าง ๆ อยากให้คนที่ยังไม่เคยลองไปที่ร้านดูด้วยตาตัวเอง หรือจะดูในอินเตอร์เน็ต เพื่อหารุ่นที่เหมาะกับตัวเอง นอกจากนี้แล้ว Never Give Up ก็ถือเป็นสปิริตของ G-SHOCK ยิ่งสำหรับคนที่กลังฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของตัวเองอยู่แล้ว G-SHOCK ก็เปรียบเสมือนเพื่อนข้างกายที่คอยบอกเวลาให้อยู่กับชีวิตปัจจุบัน และส่งต่อสปิริตให้กับเจ้าของที่ครอบครอง G-SHOCK อยู่ว่าคุณจะยอมแพ้กับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาไม่ได้ ต้องสู้ต่อไปให้สุดด้วยสปิริต ‘Never Give Up’

แต่กว่าจะมาเป็นสุดยอดนาฬิกา G-SHOCK แบบนี้ คุณอิเบะเองก็ผ่านความล้มเหลวมาไม่น้อย แต่ด้วยสปิริต ‘Never Give Up’ ทำให้เขาสามารถอดทนต่อความล้มเหลวและก้าวข้ามผ่านอุปสรรคมาได้

“คนรุ่นนี้เก่งนะครับ มีความสามารถในตัวเอง ผมเห็นหลายคนมีความฝันที่อยากทำ แต่ได้แต่ลังเลเพราะเสียเวลาไปกับการคิด คิดเยอะจนไม่ได้ลงมือทำ ผมอยากเป็นกำลังใจให้คนหนุ่มสาวเหล่านี้ ขอให้เริ่มลงมือทำก่อน ทีละเล็กทีละน้อยก็ยังดี นั่นจะทำให้เห็นมุมมองใหม่ ๆ การคิดเป็นสิ่งที่ดี แต่การลงมือทำ ไม่ยอมแพ้กับมันจะช่วยให้เราเห็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ อีกมากมาย”

หากจะมีหนึ่งสิ่งที่เขาสามารถส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องเป็นสปิริต ‘Never Give Up’ อย่างแน่นอน

คิคุโอะ อิเบะ ตำนานแห่งความไม่ยอมแพ้ของนาฬิกา G-Shock