เมื่อ ‘ธงโจรสลัด One Piece’ กลายเป็นสัญญะต่อต้านอำนาจไม่ชอบธรรม 

เมื่อ ‘ธงโจรสลัด One Piece’ กลายเป็นสัญญะต่อต้านอำนาจไม่ชอบธรรม 

ธงโจรสลัด Jolly Roger จากทะเลแคริบเบียนถึง One Piece ถูกหยิบมาเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านอำนาจไม่ชอบธรรม ทั้งบนท้องถนน สนามฟุตบอล และเวทีดิจิทัล

KEY

POINTS

จากเหตุการณ์จลาจลที่อินโดนีเซียและเนปาล ผู้ประท้วงนำธงโจรสลัดจากมังงะเรื่อง ‘วันพีช’ (One Piece) มาเป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐบาล ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ‘ธงโจรแห่งท้องทะเล’ ถูกนำมาเป็นเครื่องหมายของการต่อต้านและขับเคลื่อนสังคม 

บทความนี้จะพาเราไปสำรวจการเดินทางของธงหัวกะโหลกไขว้ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์อันดุเดือด ไปจนถึงการเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมืองในยุคปัจจุบัน 

‘Jolly Roger’ 

ธงโจรสลัดที่ผู้คนคุ้นตาที่สุดคือ ธงหัวกะโหลกไขว้บนพื้นดำ หรือที่เรียกว่า ‘Jolly Roger’ มีหลักฐานการปรากฏอยู่ในบันทึกเมื่อปี ค.ศ. 1724 ส่วนที่มาของชื่อนี้ยังคงเป็นประเด็นถกเถียง บ้างเชื่อว่ามาจากคำว่า ‘Old Roger’ ซึ่งหมายถึงปีศาจหรือเป็นนามเรียกแทน ‘ความตาย’ ในภาษาอังกฤษยุคนั้น 

เมื่อ ‘ธงโจรสลัด One Piece’ กลายเป็นสัญญะต่อต้านอำนาจไม่ชอบธรรม 

อีกข้อสันนิษฐานหนึ่งของชื่อนี้มาจากภาษาฝรั่งเศส ‘Jolie Rouge’ ซึ่งเป็นชื่อของธงแดงที่โจรสลัดฝรั่งเศสใช้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าว่า ‘บาร์โธโลมิว แบล็กบาร์ต โรเบิร์ตส์’ (Bartholomew ‘Black Bart’ Roberts) โจรสลัดเวลส์ผู้โด่งดัง ชอบใส่ชุดผ้าไหมสีแดงในยามรบจนได้รับฉายาจากฝรั่งเศสว่า ‘le Jolie Rouge’ และสลัดกลุ่มนี้ใช้ธงรูปหัวกะโหลกไขว้ จึงอาจทำให้ธงลายนี้ถูกเรียก Jolly Roger ตามฉายาของพวกเขาไปด้วย  

เมื่อ ‘ธงโจรสลัด One Piece’ กลายเป็นสัญญะต่อต้านอำนาจไม่ชอบธรรม 

แต่ไม่ว่าที่มาจริง ๆ จะเป็นอย่างไร คำว่า Jolly Roger ก็กลายเป็นคำเรียกรวม ๆ ของธงโจรสลัด ซึ่งธงนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะดีไซน์หัวกะโหลกไขว้เพียงแบบเดียวเท่านั้น เพราะบรรดาโจรสลัด มักจะวาดธงที่สื่อถึงความรุนแรงอื่น ๆ หรือเพื่อเป็นสัญลักษณ์กลุ่มก้อนของตนเองลงไปในธง เช่น ธงรูปโครงกระดูกทั้งตัว (ตัวแทนความตายที่น่าสะพรึงกลัว), นาฬิกาทรายมีปีก (เตือนว่าเวลาชีวิตของเหยื่อกำลังจะหมดลง), ตัวหัวใจที่ถูกแทง (สื่อถึงการถูกสังหาร) รวมถึงธงรูปอาวุธนานาชนิด 

การใช้ธงของโจรสลัดมักเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม พวกเขาจะไม่เปิดเผยตัวตั้งแต่แรก แต่เลือกใช้ธงอื่นล่อเหยื่อไว้ก่อน กระทั่งเข้าใกล้ระยะจู่โจมจึงชักธงประจำกลุ่มขึ้นเพื่อข่มขวัญ โดยแต่ละสีและสัญลักษณ์มีความหมายต่างกัน เช่น ธงดำลายหัวกะโหลกไขว้ หมายถึง “โจรสลัดกำลังมา และจะไม่ปรานีหากขัดขืน” หากฝ่ายตรงข้ามยกธงขาวก็ถือว่ายอมแพ้ แต่ถ้าไม่ยอม ธงดำจะถูกเปลี่ยนเป็น ธงแดง ที่หมายถึง “ไม่ละเว้นชีวิต” ซึ่งเรื่องนี้มีบันทึกในจดหมายปี ค.ศ. 1724 ของ ‘กัปตัน ริชาร์ด ฮอว์กินส์’ (Richard Hawkins) ที่เล่าว่าเรือโจรสลัดเริ่มด้วยธงดำเพื่อเตือน แต่เมื่อเขาไม่ยอมจำนน พวกมันก็เปลี่ยนเป็นธงแดงเพื่อประกาศว่าจะฆ่าไม่เหลือ 

เมื่อ ‘ธงโจรสลัด One Piece’ กลายเป็นสัญญะต่อต้านอำนาจไม่ชอบธรรม 

แม้โจรสลัดจะดูโหดร้ายแต่หลายคนก็มองว่า กลุ่มโจรเหล่านี้ถูกผลักออกจากสังคม เพราะโจรสลัดจำนวนมากคืออดีตลูกเรือพาณิชย์หรือทหารที่ถูกกดขี่ จึงรวมตัวกันเป็น ‘กบฏของทะเล’ ทำให้อีกแง่ของโจรสลัดและธงของพวกเขา เป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการกดขี่จากจักรวรรดิและนายทุน 

การต่อต้านบนผืนหญ้าของทีมฟุตบอลนอกสายตา

‘ซังต์ เพาลี’ (St. Pauli) 

หลังจากโลกเริ่มรู้จักกับโจรสลัด คำว่า ‘Pirate’ ก็ถูกนำไปใช้ในหลากหลายบริบท ตัวอย่างเช่น ในทศวรรษ 1960 สถานีวิทยุเถื่อนในอังกฤษและหลายประเทศยุโรปที่ออกอากาศเพลงต้องห้ามโดยไม่ขึ้นกับกฎหมาย ถูกเรียกว่า ‘Pirate Radio’ เพื่อสะท้อนความเป็นผู้ท้าทายอำนาจและกฎเกณฑ์ที่มีอยู่ 

ต่อมา ธงโจรสลัดก็ถูกหยิบมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านอย่างชัดเจนและทรงพลัง หนึ่งในกรณีที่มีชื่อเสียงที่สุดคือกรณีของสโมสรฟุตบอล ‘ซังต์ เพาลี’ (St. Pauli) จากเยอรมนี ที่เลือกใช้ Jolly Roger เป็นเครื่องหมายประจำตัว 

เมื่อ ‘ธงโจรสลัด One Piece’ กลายเป็นสัญญะต่อต้านอำนาจไม่ชอบธรรม 

ซังต์ เพาลี เป็นย่านหนึ่งในเมืองฮัมบูร์ก (Hamburg) ทางตอนเหนือของประเทศ เยอรมนี ย่านท่าเรือเก่าแก่แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่ของ ‘คนชายขอบ’ และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมย่อย (subculture) ที่หลากหลาย ตั้งแต่แรงงานท่าเรือ ศิลปิน นักดนตรี ไปจนถึงย่านเริงรมย์ที่คึกคัก 

หนึ่งในสัญลักษณ์โดดเด่นของสโมสรนี้คือ ธงหัวกะโหลกไขว้บนพื้นดำ โดยที่มาของเรื่องนี้ต้องเล่าย้อนกลับไปในช่วงที่นาซีครองเยอรมันในช่วงปี 1930 ตอนนั้นซังต์ เพาลีมีการต่อต้านระบอบนี้ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานต่อการกดดันของนาซีได้  

ต่อมาเยอรมันแพ้สงครามโลก และถูกหั่นออกเป็นสองส่วนคือ เยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะวันตก ซึ่งทั้งสองฝั่งก็มีแนวคิดทางการเมืองต่างกันสุดขั้ว โดยเมืองฮัมบูร์กถึงแม้จะอยู่ฝั่งเยอรมันตะวันตก แต่ก็มีกลุ่ม ‘นีโอนาซี’ (Neo-Nazism) และกลุ่มขวาจัดอาศัยอยู่เยอะมาก จนเกิดความขัดแย้งทะเลาะวิวาทอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะในสนามบอลซึ่งเป็นความบันเทิงที่นิยมของคนในเมือง 

ช่วงทศวรรษ 1980 แฟนบอลจำนวนไม่น้อยของสโมสรฮัมบูร์ก (Hamburger SV) เริ่มเบื่อหน่ายกับความรุนแรงในสนามที่นำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิต พวกเขาจึงย้ายมารวมตัวกันเชียร์ทีมร่วมเมืองอย่างซังต์ เพาลี แทน เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับแฟนบอลหัวรุนแรง (Hooligan)  

ประกอบกับย่านซังต์ เพาลีเองก็มีพื้นฐานทางความคิดที่ต่อต้านฝ่ายขวาอยู่แล้ว แฟนบอลกลุ่มนี้จึงพัฒนาอัฒจันทร์ให้กลายเป็น ‘ป้อมปราการของฝ่ายซ้าย’ ที่ยืนหยัดอย่างแข็งกร้าวในการต่อต้านฟาสซิสต์ การเหยียดเพศ การเหยียดผิว และการเหยียดเชื้อชาติ จนได้สโลแกนประจำทีมที่โด่งดังว่า “No Room for Fascists” หรือ “ไม่มีที่ว่างสำหรับพวกฟาสซิสต์” (ต่อมาพัฒนาเป็นแคมเปญ No room for Racist ที่ใช้ทั่วโลกเพื่อต่อต้านการเหยียดสีผิวในการแข่งขันฟุตบอล) และยังทำให้ซังต์ เพาลีเป็นสโมสรแรกในเยอรมนีที่ออกกฎห้ามสัญลักษณ์ขวาจัดและพฤติกรรมเหยียดทุกรูปแบบในสนามอย่างเด็ดขาด 

ส่วนที่มาของสัญลักษณ์ธงหัวกะโหลกไขว้นั้น ทางสโมสรเปิดเผยว่า เกิดขึ้นจากแฟนบอลที่ชื่อว่า ‘ดอค มาบูเซ’ (Doc Mabuse) ได้นำธง Jolly Roger มาโบกสะบัดในการแข่งขัน เพื่อเป็นตัวแทนของ กลุ่มคนนอกและผู้ที่ไม่มีที่ยืนในสังคม จนได้รับความนิยม และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วโลกจดจำ มากกว่าตราสโมสรของซังต์ เพาลีด้วยซ้ำ 

‘พรรคโจรสลัด’ (Pirate Party) ผู้ต้องการปฏิวัติกฎหมายดิจิทัล  

เข้าสู่ยุคมิลเลนเนียม คำว่า Pirate ในวงการดิจิทัลถูกใช้เพื่อเรียกกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ปี 2006 นักเทคโนโลยีชาวสวีเดนที่ชื่อว่า ‘ริคการ์ด ฟอลค์วิงก์’ (Rickard Falkvinge) และกลุ่มของเขา กลับตีความคำนี้ใหม่ โดยมองว่า กฎหมายลิขสิทธิ์และการเซ็นเซอร์ที่เข้มงวด กำลังบ่อนทำลายเสรีภาพยุคใหม่และเพื่อขับเคลื่อนประเด็นสิทธิพลเมืองบนอินเทอร์เน็ตและการปฏิรูปกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาพวกเขาจึงก่อตั้งพรรคการเมืองที่ชื่อว่า ‘พรรคโจรสลัด’ (Pirate Party) 

แก่นแท้ของพรรคโจรสลัดคือการต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองในยุคดิจิทัล โดยมองว่าความรู้เป็นทรัพยากรส่วนรวมที่ทุกคนควรเข้าถึงได้เท่าเทียม พรรคจึงเรียกร้องให้ปฏิรูปกฎหมายลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร ลดการผูกขาด และสนับสนุนระบบ ‘โอเพ่นซอร์ส’ (Open Source) – ‘โอเพ่นแอคเซส’ (Open Access) เพื่อเร่งนวัตกรรมและการแบ่งปันความรู้ 

นอกจากนี้ยังผลักดันประเด็นสำคัญอย่างความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต คัดค้านการสอดแนม สนับสนุนความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ต (Net Neutrality) และผลักดันการปกครองที่โปร่งใสผ่านเทคโนโลยี 

พรรคโจรสลัดสวีเดนสร้างกระแสครั้งใหญ่บนเวทีการเมืองยุโรป เมื่อคว้า 7.1% ของคะแนนเสียงในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปปี 2009 ส่งผลให้ ‘คริสเตียน เองส์ทรอม’ (Christian Engström) กลายเป็น ส.ส. โจรสลัดคนแรก ความสำเร็จนี้ทำให้แนวคิดของพรรคแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีพรรคโจรสลัดเกิดขึ้นแล้วกว่า 40 ประเทศ ทั้งในยุโรป เช่น เยอรมนี ไอซ์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ออสเตรีย ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์, ในทวีปอเมริกา เช่น แคนาดา เม็กซิโก ชิลี และบราซิล ขณะที่เอเชียก็มีพรรคโจรสลัดในอินเดีย ญี่ปุ่น ตลอดจน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 

ธงโจรสลัดและมังงะ ‘วันพีช’ (One Piece) 

‘วันพีช’ (One Piece) มังงะญี่ปุ่นชื่อดังได้ก้าวออกจากหน้ากระดาษสู่การเป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องเสรีภาพที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อประชาชนโบก ‘ธงโจรสลัดหมวกฟาง’ (ธงสัญลักษณ์ของกลุ่มตัวเอก) คู่กับธงชาติ ในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลจนกลายเป็น ไวรัล ในสื่อสังคมออนไลน์  

โดยขบวนการนี้ถูกเรียกขานว่า #DarkIndonesia ซึ่งเป็นแคมเปญที่เกิดขึ้นจากรวมตัวของนักศึกษาและประชาชนที่ไม่พอใจหลายนโยบายรัฐบาลของประธานาธิบดี ‘ปราโบโว ซูเบียนโต’ (Prabowo Subianto) ตั้งแต่ปัญหาเศรษฐกิจ คอร์รัปชัน ไปจนถึงการเพิ่มอำนาจทหารในบ้านเมือง 

การที่มังงะเรื่องนี้ถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านอำนาจรัฐนั้น มาจากแก่นเรื่องของวันพีชเองที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เสรีภาพ โดยโลกของวันพีชนั้นมี ‘รัฐบาลโลก’ (World Government) เป็นองค์กรปกครองศูนย์กลางที่อ้างว่ารักษาความสงบเรียบร้อย แต่เบื้องหลังกลับกดขี่ประชาชนและปกป้องอภิสิทธิ์ของ ‘เผ่ามังกรฟ้า’ (ชนชั้นขุนนางโลก ผู้สืบสายเลือด ‘ผู้สร้างโลก’ ที่ครองสถานะเสมอเทพเจ้า)  

ส่วน ‘โจรสลัด’ ในเรื่อง แม้ในสายตารัฐจะถูกตราว่าเป็นอาชญากร แต่โจรสลัดหลายกลุ่ม (โดยเฉพาะกลุ่มหมวกฟางของลูฟี่) กลับยึดมั่นในมิตรภาพ ความยุติธรรม และต่อสู้เพื่อปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ในดินแดนต่าง ๆ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก 

อีกทั้งการนำมังงะหรือภาพยนตร์มาใช้ในการชุมนุมนั้น สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และหลบเลี่ยงการเอาผิดทางกฎหมายได้ในระดับหนึ่ง (เพราะไม่ได้ระบุชื่อบุคคลหรือสถาบันโดยตรง) นักวิเคราะห์ในอินโดนีเซียชี้ว่า ธงโจรสลัดจาก One Piece กลายเป็น ‘รูปแบบหนึ่งของการเสียดสีและประชดประชัน’ ที่ประชาชนใช้แสดงความไม่พอใจโดยไม่ต้องปะทะตรง ๆ ขณะที่บางคนมองว่าการหยิบยืมมังงะมาช่วยอธิบายความอยุติธรรมในสังคม ทำให้คนทั่วไปโดยเฉพาะวัยรุ่นเห็นภาพและเข้าใจปัญหาได้ง่ายขึ้น 

การนำธงกะโหลกไขว้หมวกฟางมาเป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐบาลของกลุ่มผู้ประท้วงชาวอินโดนีเซียนั้น นับว่าทรงพลังมากขึ้นทุกวัน โดย ‘ดร.อาเด มารุป วิราซันจายา’ (Dr. Ade M. Wirasenjaya) อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยมุฮัมมาดิยะห์ ยอกยาการ์ตา (Universitas Muhammadiyah Yogyakarta (UMY) อินโดนีเซีย กล่าวกับ สำนักข่าวบีบีซี (BBC) ว่า  

“สัญลักษณ์ของวันพีชดูเหมือนต้องการสื่อสารไปยังนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ในอินโดนีเซียว่า 'เฮ้ คุณได้บิดเบือนและยึดครองเจตนารมณ์แห่งชาตินิยมที่บรรพบุรุษของชาติต้องการสร้างขึ้น’” 

ซึ่งสร้างความไม่พอให้รัฐบาลเป็นอย่างมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ในอินโดนีเซียออกมาเตือนว่าการชักธงโจรสลัดคู่กับธงชาติเป็น ‘การบ่อนทำลายเอกภาพของชาติ’ และสมาชิกสภาบางคนกล่าวถึงการใช้สัญลักษณ์ธงโจรสลัดหมวกฟางนี้ว่า “เข้าข่ายกบฏ”  

ตำรวจในบางพื้นที่ตามยึดธงหมวกฟางและขู่จะดำเนินคดีกับผู้ชูธงด้วยข้อหาหมิ่นธงชาติและยุยงปลุกปั่น ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน เช่น องค์กร Amnesty International ที่ออกมาประณามการยึดธงว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ และเรียกร้องให้ทางการหยุดกล่าวหาประชาชนว่าเป็นผู้แบ่งแยกประเทศหรือกบฏเพียงเพราะชูธงการ์ตูน  

ทิศทางของธงที่โบกสะบัด 

จากทะเลแคริบเบียนในศตวรรษที่ 18 สู่ท้องถนนและสนามฟุตบอลในศตวรรษที่ 21 ธงโจรสลัด และสัญลักษณ์หัวกะโหลกไขว้เดินทางไกลเกินกว่าที่บรรพบุรุษผู้ให้กำเนิดจะคาดคิด  

ธงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเครื่องหมายแห่งความตายและภัยคุกคาม กลับถูกตีความใหม่โดยกลุ่มคนรุ่นหลัง ให้กลายเป็นเครื่องหมายของการท้าทายอำนาจที่ไม่ชอบธรรมและการเรียกร้องเสรีภาพ ไม่ว่าจะในรูปแบบของพรรคการเมืองที่สู้เพื่อเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต, สโมสรฟุตบอลที่ยืนหยัดเคียงข้างผู้ด้อยโอกาส หรือธงจากมังงะที่ผู้ชุมนุมใช้เพื่อส่งเสียงแทนตนเอง  

สิ่งเหล่านี้ยืนยันว่า พลังแห่งสัญลักษณ์นั้นยิ่งใหญ่ สามารถปลุกเร้าจินตนาการ สร้างความรู้สึกร่วม และ ระดมมวลชน ให้มุ่งไปสู่เป้าหมายร่วมกันได้ โดยแทบไม่ต้องเอ่ยถ้อยคำใด ๆ 

ทำให้เห็นว่า กาลเวลาจะผ่านไปนับร้อยปี แต่แก่นแท้ของจิตวิญญาณโจรสลัด ที่กล้าท้าทายอำนาจอยุติธรรมนั้น ยังคงส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น สัญลักษณ์หัวกะโหลกไขว้ยังคงโบกสะบัดในบริบทใหม่ ๆ อยู่เสมอ ประหนึ่งจะบอกให้โลกรู้ว่า ธงผืนนี้ไม่ว่าจะอยู่บนเรือโจรสลัดหรือในมือผู้ประท้วง จะยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงพลังของสามัญชนที่พร้อมจะ “เป็นกบฏ” ต่อความไม่เป็นธรรมในทุกยุคทุกสมัย  

และความน่าสนใจอยู่ที่ว่า  

ต่อไปในอนาคต สัญลักษณ์โจรสลัดนี้จะไปโบกสะบัดอยู่ ณ สมรภูมิการต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพแห่งใดอีกบ้าง… 

 

เรื่อง: อติพงษ์ ศรนารา

ภาพ: Getty Images 

 

อ้างอิง 

Brewminate. “A History of the Jolly Roger and Other Pirate Flags.” Brewminate, 27 Mar. 2023, brewminate.com/a-history-of-the-jolly-roger-and-other-pirate-flags.

“The Meanings Behind Pirate Symbols.” Real Pirates Salem, 1 Aug. 2024, realpiratessalem.com/blog/the-meanings-behind-pirate-symbols.

“Pirate Parties Across the World.” Participedia, participedia.net/organization/704.

“อ่านวันพีซตื่นมองดูไทย: ความ(อ)ยุติธรรมในนาม ‘ความยุติธรรม’.” The Momentum, 1 Feb. 2022, themomentum.co/ruleoflaw-onepiece.

“Indonesian Artists, Students Unfurl Manga Pirate Sign in Protest Symbol.” Reuters, 8 Aug. 2025, reuters.com/business/media-telecom/indonesian-artists-students-unfurl-manga-pirate-sign-protest-symbol-2025-08-08.

“Indonesians Raise Anime Pirate Flag in Protest as Nation Marks Independence.” Al Jazeera, 16 Aug. 2025, aljazeera.com/news/2025/8/16/indonesians-raise-anime-pirate-flag-in-protest-as-nation-marks-independence.