03 ต.ค. 2568 | 21:58 น.
ท่ามกลางความท้าทาย ผู้ประกอบการไทยต่างรู้ดีว่าโลกธุรกิจไม่ง่าย แต่ในความยากก็ยังซ่อนโอกาสใหม่ๆ อยู่ คำถามสำคัญคือ “SME ไทยที่สร้างมูลค่าธุรกิจคิดเป็น 1 ใน 3 ของ GDP ทั้งประเทศ จะก้าวต่ออย่างไรให้แข็งแรงและยั่งยืน?” คุณโอลิเวอร์กิตติพิงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และมีเดีย ทรูคอร์ปอเรชัน ได้พลิกมุมมองสร้างแบรนด์ไทยให้ทรงพลัง จุดกลไกขับเคลื่อน SME ไทยให้ก้าวไกลในเวทีโลก ผ่านเวทีเสวนา Global Shifts, Local Impacts: Navigating the Future of Thai SMEs ที่จัดโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และพันธมิตรเอกชน
ชู Human Intelligence & Cultural Capital สร้างแบรนด์ด้วย “หัวใจ”
คุณโอลิเวอร์กิตติพิงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และมีเดีย บมจ.ทรูคอร์ปอเรชัน ถ่ายทอดแนวคิดที่น่าสนใจว่า
“วันนี้โลกไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและ AI เพียงอย่างเดียว ธุรกิจยังต้องขับเคลื่อนด้วย Human Intelligence & Cultural Capital ที่สื่อสารผ่าน AI ให้เทคโนโลยีและอัลกอริทึมเป็นสะพานเชื่อมความรู้สึก พาแบรนด์เข้าถึงใจผู้บริโภคได้ถูกจังหวะและทรงพลังได้อย่างแท้จริง นี่คือสิ่งที่จะทำให้แบรนด์แตกต่างและยั่งยืน”
นอกจากนี้คุณโอลิเวอร์ยังเน้นว่า “การใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรม และการสังเกตวิถีชีวิตของผู้คนอย่างลึกซึ้ง ควรกลายเป็นส่วนผสมสำคัญทางการตลาด และเมื่อผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อสร้างนวัตกรรมร่วม (collaborative innovation) ก็จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันแบรนด์ผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลกได้ แม้เทคโนโลยีจะก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง ทั้ง AI หรือการเปลี่ยนผ่าน 5G สู่ 6G แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือมิติแห่งอารมณ์ ความรู้สึก ความพึงพอใจ และความประทับใจที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ หาก SME ไทยสามารถผสานความเข้าใจมนุษย์อย่างลึกซึ้ง (human touch) และหัวใจที่เข้าถึงผู้คน (people empathy) เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล ทำการตลาดตรงกลุ่ม และสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เข้าถึงใจผู้บริโภค ก็จะเป็นกุญแจสำคัญให้เติบโตในตลาดโลกได้”
อย่าขายทุกอย่างให้ทุกคน! ชี้ SME ไทย ต้องชัดเจนใน Business Model ก่อนบุกโซเชียล
ในยุคที่อุตสาหกรรมสื่อไทยมีมูลค่ากว่า 130,000 ล้านบาทต่อปี และกำลังเปลี่ยนผ่านจากสื่อหลักสู่สื่อดิจิทัล ผู้ประกอบการต้องตระหนักว่า “การเข้าถึงใจผู้บริโภค” ไม่ได้เริ่มจากการซื้อโฆษณา แต่ต้องเริ่มจาก “Business Model ที่ชัดเจน และคอนเทนต์ที่สะท้อนความจริงแท้ของแบรนด์” ถึงเวลาพลิกจากการตลาด 4P แบบดั้งเดิม สู่ People First 4P ที่ใช้ “ใจคน” เป็นตัวนำ คือ
ดังนั้น SME ไทยในยุคดิจิทัลจึงต้อง “พูดภาษามนุษย์ให้เป็น” ตั้งหลักที่ Business Model ก่อนทุ่มงบซื้อโฆษณา ชัดเจนกับตัวเอง เริ่มตั้งคำถามด้วย Why ที่ใหญ่กว่า What “คุณค่าและความแตกต่างของคุณคืออะไร? ทำไมต้องซื้อ? คุณกำลังคุยกับใคร? และคุณกำลังขายอะไร?” ไม่ต้องพยายาม “เป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน”
สร้าง Talent รุ่นใหม่ เริ่มจากเมตตา – โอบรับทุกความต่าง – Empowering ผลักดัน SME ไทย
คุณโอลิเวอร์กล่าวเสริมว่า “การสร้างคน” คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการผลักดัน SME ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน Talent รุ่นใหม่ คือบุคลากรที่ผู้นำองค์กรต้องทำให้ “รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า” ไม่ใช่เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญด้าน Hard Skill หรือ Soft Skill ซึ่งการโอบรับทุกความแตกต่าง การ Empower และการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ปลอดภัยทางจิตใจ จะช่วยให้คนทำงานกล้าลองผิดลองถูก เรียนรู้ และพัฒนาตนเอง ขณะเดียวกัน ผู้นำก็ต้องเปลี่ยนตนเองจากการ “สั่งการ” มาเป็น “ฟังให้มากขึ้น พูดให้น้อยลง” ยึดหลักเมตตาและคุณธรรม เข้าใจความต่างและคุณค่าของคนแต่ละรุ่น ทำให้เกิด Collaboration เป็นพลังสร้าง Impact และเกิด Power Skill ซึ่งเป็นทักษะแท้จริงในการผลักดันนวัตกรรมและขับเคลื่อน SME ไทยให้ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
พลิกจุดอ่อน ให้กลายเป็นพลัง ด้วย “Collaborative Innovation”
“ไม่มีใครเก่งไปหมดทุกเรื่อง SME ต้องชัดเจนว่าเราถนัดอะไร และไม่เก่งด้านไหน พร้อมหาเพื่อนร่วมทางที่จะมาเสริมแกร่งให้เราได้ และเมื่อผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อสร้างนวัตกรรมร่วมกัน (collaborative innovation) จากจุดอ่อนที่เคยเป็นข้อจำกัดจะถูกเสริมจนกลายเป็นจุดแข็งใหม่ นี่คือหัวใจสำคัญที่จะผลักดันให้แบรนด์ SME ไทยแข็งแรง ทรงพลัง และก้าวไกลสู่เวทีโลกได้อย่างแท้จริง ซึ่งทรู คอร์ปอเรชันไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม แต่คือ Tech Company ที่พร้อมเคียงข้าง SME ไทย ด้วยบริการและโซลูชันที่จะเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการพร้อมรับมือกับความท้าทาย คว้าโอกาสธุรกิจใหม่ๆ เติบโตอย่างมีคุณค่าและยั่งยืน” คุณโอลิเวอร์กล่าวสรุป