เสียงแห่งภราดรภาพ เมื่อพลังดนตรีเชื่อมใจ ‘ไทย-อิตาลี’

เสียงแห่งภราดรภาพ เมื่อพลังดนตรีเชื่อมใจ ‘ไทย-อิตาลี’

เสียงแห่งภราดรภาพ เมื่อพลังดนตรีเชื่อมใจ ‘ไทย-อิตาลี’ ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม

ในยุคที่โลกเผชิญกับความขัดแย้งและรอยร้าว ดนตรีได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในฐานะ ‘ภาษาสากล’ ที่ทรงพลังที่สุดในการเชื่อมโยงผู้คน โครงการ  "Sounds of Brotherhood" หรือ "เสียงแห่งภราดรภาพ" โดย World Youth Orchestra Foundation (มูลนิธิวงออร์เคสตราเยาวชนโลก) ได้เดินทางมาถึงประเทศไทย เพื่อสร้างสะพานแห่งวัฒนธรรม มิตรภาพ และความเข้าใจอันดีระหว่างสองชาติ

โครงการนี้ไม่ใช่แค่การแสดงดนตรี แต่คือห้องปฏิบัติการทางศิลปะชั้นเลิศ ที่มีเป้าหมายสูงสุดในการส่งเสริมสันติภาพและการเจรจาผ่านบทเพลงและศิลปะการแสดง โดยมีหัวใจสำคัญคือการพัฒนาศักยภาพของนักดนตรีรุ่นใหม่ และใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการทลายกำแพงทางวัฒนธรรม

จากเวทีโลกสู่ใจกลางกรุงเทพฯ

World Youth Orchestra Foundation ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยสืบทอดเจตนารมณ์จากโครงการที่เริ่มต้นในปี 2001 มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการใช้ดนตรีเป็นสารแห่งสันติภาพในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามในเวียดนาม เลบานอน บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา โมร็อกโก และอิหร่าน โครงการ "Sounds of Brotherhood" ซึ่งได้รับรางวัลเหรียญเชิดชูเกียรติจากประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิตาลี ก็ได้ปักหมุดหมายต่อไปที่ประเทศไทย

กิจกรรมในประเทศไทยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม โดยได้รับการสนับสนุนหลักจาก Fondazione CDP และ Studio LCA ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และสถาบันวัฒนธรรมอิตาลีในกรุงเทพฯ 

ความพิเศษของโครงการในครั้งนี้ คือการร่วมมืออย่างแข็งขันกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทยถึง 7 แห่ง ได้แก่ สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยศิลปากร, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยรังสิต, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า "เป็นโอกาสพิเศษสำหรับนักศึกษาไทยที่จะเติบโตผ่านการแลกเปลี่ยนทางศิลปะและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก... ส่งเสริมความเป็นพลเมืองโลก ความสามัคคี และมิตรภาพที่ยั่งยืน" เช่นเดียวกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปัณณวิช สนิทนราทร คณบดีคณะดนตรี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่มองว่าโครงการนี้สอดคล้องกับ "ความมุ่งมั่นที่มีมายาวนานของสถาบันฯ ในการร่วมมือทางศิลปะระหว่างประเทศ"

กิจกรรมไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้

ตลอดระยะเวลาโครงการ จะมีการจัดเวิร์คช็อปและกิจกรรมการศึกษาทางดนตรีขั้นสูง นำโดยบุคลากรระดับโลกอย่าง ฟรานเซสโก มานารา (Francesco Manara)  นักไวโอลินโซโล่หลักจากโรงละคร La Scala อันเลื่องชื่อ และ ดามิอาโน จูรันนา (Maestro Damiano Giuranna) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ควบคู่ไปกับเวิร์คช็อปการละครสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ

กิจกรรมนี้มี 2 การแสดงสำคัญที่จะเปิดให้ผู้สนใจได้เข้าชม ได้แก่ ร็อกโอเปร่า "Bring Me to Love" การแสดงสุดพิเศษในวันที่ 1 สิงหาคม ณ Alliance Française กรุงเทพฯ นี่คือผลงานต้นฉบับที่เกิดจากการสร้างสรรค์ร่วมกันระหว่าง ดามิอาโน จ
รันน่า, เอมิเลียโน แมนนา (Emiliano Manna), นักศึกษาจาก 3 มหาวิทยาลัยในไทย และ Cosenza Conservatory of Music จากอิตาลี บทเพลงจะถูกถ่ายทอดผ่าน 3 ภาษา (ไทย, อังกฤษ, อิตาลี) เพื่อสำรวจบาดแผลของสงคราม เชิดชูความรัก และภราดรภาพ ในฐานะเครื่องมือแห่งการเยียวยา

ต่อด้วย คอนเสิร์ตใหญ่รอบสุดท้าย (Grand Finale) การแสดงปิดท้ายอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 6 สิงหาคม ณ หอประชุมมหิดลสิทธาคาร (Prince Mahidol Hall) พบกับการรวมพลังของนักดนตรีเยาวชน 90 ชีวิตจากไทยและทั่วโลก ในนาม World Youth Orchestra บรรเลงบทเพลงสุดคลาสสิก โดยมี ฟรานเซสโก มานารา รับหน้าที่นักไวโอลินโซโล และอำนวยเพลงโดย ดามิอันโน จูรันนา

เสียงแห่งภราดรภาพ เมื่อพลังดนตรีเชื่อมใจ ‘ไทย-อิตาลี’ เสียงแห่งภราดรภาพ เมื่อพลังดนตรีเชื่อมใจ ‘ไทย-อิตาลี’

นอกจากนี้ โครงการยังขยายผลสู่สังคมผ่านกิจกรรม WYO4CHILDREN ซึ่งเป็นการฝึกอบรมดนตรีให้แก่เด็กๆ ที่โรงเรียนวังน้อยพนมยงค์วิทยา จ.พระนครศรีอยุธยา และจะมีการจัดประชุมเสวนาทางวิชาการร่วมกับ La Sapienza University of Rome อีกด้วย

เสียงแห่งภราดรภาพ เมื่อพลังดนตรีเชื่อมใจ ‘ไทย-อิตาลี’

เสียงสะท้อนแห่งภราดรภาพ

เปาโล ดิโอนิสิ (H.E. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า "โครงการนี้ช่วยสร้างสะพานทางดนตรีระหว่างอิตาลีและไทย ที่ซึ่งดนตรีได้กลายเป็นภาษากลางและเปิดโอกาสให้เกิดการเสวนาข้ามวัฒนธรรม"

ขณะที่ ดามิอันโน จูรันนา ผู้ก่อตั้งโครงการ ได้ให้มุมมองที่ลึกซึ้งว่า "ในยุคที่โลกเผชิญความขัดแย้ง... Sounds of Brotherhood ต้องการทำงานร่วมกับคนหนุ่มสาว... ผ่านศิลปะที่ฟื้นฟูโลกแห่งความรู้สึก และตระหนักว่าผู้อื่นคือพี่น้องของเรา"

โครงการ "Sounds of Brotherhood" เป็นมากกว่ากิจกรรมทางดนตรี แต่คือการยืนยันว่า แม้โลกจะแตกต่างหลากหลาย แต่ศิลปะและดนตรีสามารถเป็นเส้นด้ายที่ร้อยรัดใจผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียว สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาสร้างสะพานแห่งภราดรภาพ ความเป็นปึกแผ่น และความผูกพันระหว่างประชาชนต่อไป 

นี่คือบทพิสูจน์ของโครงการที่เดินทางมาแล้วทั่วโลก ครอบคลุมกว่า 75 ประเทศ 300 มหาวิทยาลัย และเข้าถึงผู้ชมกว่า 10 ล้านคน

 

หมายเหตุ: ผู้สนใจร่วมชมการแสดงคอนเสิร์ต ร็อค โอเปร่า Bring Me To Love ในวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 19.00 น. ณ สมาคมฝรั่งเศส ถนนวิทยุ และการแสดงคอนเสิร์ต Grand Finale ในวันที่ 6 สิงหาคม เวลา 19.00 น. ณ มหิดลสิทธาคาร ศาลายา สามารถลงทะเบียนเพื่อสำรองที่นั่ง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ https://www.worldyouthorchestra.it/