ต๋อง ศิษย์ฉ่อย : วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง

ต๋อง ศิษย์ฉ่อย : วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง

วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง

ต๋อง ศิษย์ฉ่อย, วัฒนา ภู่โอบอ้อม, เจมส์ วัฒนา หรือไทยทอร์นาโด สุดแท้แต่ว่าเราจะเรียกเขาว่าอย่างไร แต่ที่แน่นอนคือในยุค ‘90 ชายคนที่ได้ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในสถานะนักสนุกเกอร์ระดับโลกที่ไปไกลถึงอันดับ 3 ของโลกทัดเทียมกับสตีเฟน เฮนดรี ไปจนถึงรอนนี โอซุลลิแวน ล่าสุด เขากลับมาพร้อมกับตำแหน่งแชมป์ซีเกมส์ 2021 ประเภทกีฬาสนุกเกอร์เดี่ยว 15 แดง เรื่องราวชีวิตของเขาที่ให้สัมภาษณ์กับ The People ไม่ต่างอะไรกับเรื่องราวบนโต๊ะสนุกเกอร์ในวัยเรียน เริ่มต้นชีวิตด้วยการเปิดผ้าสักหลาด, ฝึกฝนจนก้าวสู่จุดสูงสุดแบบ maximize break, ชิงดำกับคู่แข่งระดับท็อป, ถูกวางสนุกเกอร์จนชีวิตสะดุด แต่สุดท้ายก็รวบรวมกำลังใจปิดเฟรมเพื่อเริ่มเกมชีวิตใหม่ต่อไป ไม่ว่าจะผ่านอะไรมา แต่พายุไทยทอร์นาโดลูกนี้ ก็ยังไม่อ่อนแรงลงและพร้อมจะเป็นลมใต้ปีกให้กับนักสนุกเกอร์ไทยรุ่นใหม่เสมอ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย : วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง ⚪️ เปิดสักหลาด : ครูพักลักจำสู่มือสมัครเล่นแชมป์โลก “ผมขออนุญาตท้าวความนิดนึงนะ คือว่าผมเริ่มเล่นสนุกเกอร์ตั้งแต่สมัย 9 ขวบ เพราะตอนนั้นน่ะเล่นอยู่ที่โต๊ะคลองเตยนะครับ คุณแม่ก็ทำธุรกิจเป็นเจ้าของโต๊ะสนุ้ก ถ้าคุณแม่ไม่ได้เป็นเจ้าของโต๊ะสนุ้ก ผมก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับคำว่าสนุกเกอร์ แต่ว่าขณะเดียวกันที่คุณแม่เปิดโต๊ะสนุ้กที่คลองเตย แม่ก็ไปซื้อบ้านอยู่ที่หมู่บ้านเสรี รามคำแหงนะครับ เพื่อว่าอะไร เพื่อให้ผม ต๋องกับตั้ม get away from snooker คือไม่อยากให้อยู่ใกล้กับสนุกเกอร์ เพราะเมื่อก่อนต้องขออนุญาตพูดตรง ๆ ว่า ภาพพจน์ของสนุกเกอร์มันดูค่อนข้าง Low แล้วก็ดูน่ากลัวนะครับ ด้วยความที่ว่า เรามาจากยุคอันธพาลครองเมืองเนอะ มันมีทั้งเสือสิงห์กระทิงแรดอยู่ตามโต๊ะ มันน่ากลัวนะคุณ “แล้วโต๊ะก็ไม่ใช่โต๊ะแอร์ด้วย สูบบุหรี่กัน เล่นการพนันกันอะไรทุกอย่างนะ มันก็เลยดูแบบ เข้าใจของความเป็นแม่ หัวอกแม่เนอะ เขาไม่อยากให้ลูกไปสัมผัสตรงนั้น แต่ด้วยความที่โบราณท่านว่า ยิ่งพูดยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ผมก็พอโตขึ้น วันเวลามันผ่านไปเรื่อย ๆ ก็พออายุ 13 ผมก็มาเริ่มเล่นจริงจัง จริงจังก็เพราะอะไร เพราะ…แต่ตอนนั้นโชคดีที่ว่า โต๊ะคลองเตยมีบรรดาเซียน ๆ น่ะไปเล่นเยอะมาก แล้วก็เล่นเดิมพันกัน แล้วผมก็ได้ถ่ายทอดจากการมองการชมทุกท่าน แล้วก็ได้ไปสัมผัส ลงเล่นบ้างไม่เล่นบ้าง ก็รู้สึกว่า แต่โชคดีว่ามีเซียน ๆ ไปเล่นเดิมพันเยอะที่นั่น ก็ได้ซึมซับครับ “จริง ๆ แล้วก็อีกแหละครับ ก็พอผม ตอนนั้นเรียนอยู่ศรีวิกรม์ ม.1 ถึง ม.3 เพื่อน ๆ ก็ยังไม่มีใครทราบว่า ผมเล่น แล้วผมมาเรียนเซนต์จอห์นอยู่ปีแรกพาณิชย์นะครับ ตึกใน ก็เทอมแรกจบไป ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น ก็คือผมไปเดินสายเลย นั่นคือก้าวแรกของการเข้ามาเป็นนักสนุกเกอร์เต็มตัว ก็คือออกไปเล่นเดิมพันมีเงินอยู่ประมาณไม่เกิน 3,000 บาท 6 ชีวิตครับ เพื่อน ๆ หุ้น ๆ กัน มีคนละ 100, 200, 300 สมัยก่อน 40 ปีที่แล้ว เราแทบจะไม่มีตังค์กันอยู่แล้ว ถามว่า เราเก่งไหม เราไม่มีใครรู้หรอกครับ นอกจากจะมีการปะทะ นั่นก็หมายถึงว่าผมได้ออกไปเล่น แล้วผมคิดว่าที่มาของต๋อง ศิษย์ฉ่อย ก็คือเงิน 3,000 บาทนั่นแหละ เพราะถ้าเกิด 3,000 บาทนั้นผมเดินสายไปแล้ว ผมแพ้ตั้งแต่แมตช์แรก ผมก็กลับไปเรียนเซนต์จอห์นเหมือนเดิม “แต่คุณรู้ไหมว่า จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบ 40 ปี ผมยังไม่ได้กลับไปเรียนเซนต์จอห์นเลยนะ และจากวันนั้นน่ะ 3,000 บาท เมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้วผมสามารถ turn into 600,000 กว่าบาทในเดือนเดียวนะ ในเดือนเดียว ผมออกไปประมาณ 19-20 แมตช์ แพ้แค่แมตช์เดียว 19 แมตช์นี่ชนะหมดเลย ก็นั่นแหละถึงเริ่มรู้ว่า เออเราก็มีฝีมือเหมือนกันนะ “เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น แล้วผมก็ผ่านมันมาได้ แต่ชีวิตการเดินทางเดินสายของผมมันหยุดแค่ตรงนั้นนะ 600,000 กว่าบาท แล้วก็มาเล่นแชมป์ดาวรุ่ง เล่นกับเต่า หลังสวน นำ 3-1 แล้วแพ้เต่า หลังสวน วันนั้นเดิมพันกัน 700,000 กับ 400,000 ผมต่อเขา 7-4 แล้วผมแพ้นะ ผมแพ้นะ จากวันนั้นเต่าก็เป็นดาวรุ่งในรุ่นราวคราวเดียวกันที่ว่าแทงดีในยุคนั้นนะครับ แล้วก็ไปถึงผู้ใหญ่จนได้ เขาก็เลยส่งคนมาทาบทามว่า สนใจจะไปอังกฤษไหมนะครับ จากวันนั้นมาจนวันนี้ก็ไปอยู่ที่อังกฤษนะครับ แล้วก็ไปต่อยอดจากเป็นสมัครเล่น แล้วก็ไปเล่นที่อังกฤษ 2 ปีแรกยังไม่มีอะไรนะครับ ยังไม่มีอะไรแล้วก็จนจะไปได้แชมป์สมัครเล่นโลกนะครับ ที่ซิดนีย์ปี 1988 ผมก็อายุ 18 ปีเต็มพอดี แล้วก็ไปเทิร์นโปร ได้ตั๋วเทิร์นโปรไปอังกฤษครั้งแรกปี 1989 นะครับ “ตอนเป็นแชมป์สมัครเล่นโลก ไม่มีเงินอัดฉีดจากรัฐบาล แล้วปีถัดมามีเงินรางวัลเพิ่มเป็น 200,000 กว่าบาทนะครับ แต่ตอนปีที่ผมได้ไม่มีอะไรเลย ก็เลยงงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่เป็นไร อันนี้ก็เราได้ซื้อตั๋วเทิร์นโปรมา แล้วพอตั้งแต่วันที่ผมเทิร์นโปรไป ผมก็ไปรู้จักคุณมิสเตอร์ทอม มอร์แรน ก็คือผู้จัดการ ณ ตอนนั้นนะ เป็นคนอังกฤษโอนสัญชาติเป็นคนไทยนะครับ ชื่อคุณธำรง ธรรมรัตนชัย ท่าน make a deal with กับผมเลยว่า ให้ผมเซ็นสัญญากับแก 4 ปี 4 ปีว่า ในระหว่างที่ คือทำกันเล่น ๆ น่ะ ว่าเทิร์นโปร ถ้าเจมส์ วัฒนาทำได้ก็ดี ทำไม่ได้ก็ไม่ว่าอะไร ก็เซ็นสัญญา 4 ปีไว้ให้ผมขึ้น top 32 คนให้ได้ ผมได้แชมป์โลกสมัครเล่นนะ แชมป์เอเชียนะ แล้วก็แชมป์ Pro Ticket อันดับ 1 ในปีเดียวกันหมดนะคุณ 3 แล้วก็ไปได้ English Open Semi-final ถ้าผมได้ English Open มันก็จะเหมือน 4 grand slam ในปีเดียวกันหมด แต่ไม่ได้ ไปแพ้ แต่จุดนั้นมันก็เลยทำให้คุณทอมเขาเซ็นสัญญากับผม “แล้วปีแรกที่ผมเทิร์นโปร tournament แรก ผมชนะประมาณ 12-13 คนนะ เข้าไปชิงแชมป์กับ Stephen Hendry แล้วรายการที่ 2 Rothmans Grand Prix ในปีนั้น ผมไปจบที่อันดับที่ 32 นะครับ ในปีเดียวกัน ก็เลยทำ ขึ้นจาก 32 ไป 20 20 ไป 5 5 ไป 3 ขึ้นไวมาก ก็เลยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นไว ก็เลยทำให้ผู้จัดการเขางง อย่าว่าแต่ผู้จัดการงง ผมก็งง ผมเซอร์ไพรส์คนทั้งประเทศดีกว่าว่า ขึ้นไปไวมากนะครับ ก็เลยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นไว มาไวเคลมไวนะครับผม” ต๋อง ศิษย์ฉ่อย : วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง ? Maximum Break: พิสูจน์ตัวเองจนเป็น ‘เจมส์ วัฒนา’ “สมัยก่อน Facebook ก็ไม่มี ตอนสมัยผมไป 15 ปีแรก มือถือยังไม่มีเลยครับ รุ่นผม มันสนุกเกอร์ล้วน ๆ อยู่กับสักหลาดเขียวล้วน ๆ ผมซ้อมวันละ 12 ชั่วโมงนะ ปีหนึ่งเต็ม ๆ คนเดียวนะ ทำไมซ้อมคนเดียว เพราะไม่มีใครซ้อมกับเรา ถามว่าทำไมไม่มีใครซ้อมกับเรา ผมเคยไปขอ Joe Johnson ซ้อม เขาเพิ่งได้แชมป์โลกมา คุณรู้ไหมเขาตอบว่าไง เขาบอกว่าไม่เล่นด้วย เพราะเอ็งไม่มีดีกรี คือไม่มีชนชั้นน่ะ ผมก็เลยงงว่าอะไรวะ จะซ้อมชนชั้นด้วยเหรออะไรอย่างนี้ รู้สึกเขาดูแคลนเรามาก คนอังกฤษนะ ตั้งแต่วันนั้นมา คุณรู้ไหมว่าผมสาบานกับเทพยดาฟ้าดิน แล้วผมจะไม่ไปแตะ United Kingdom อีก แล้วคุณรู้ไหมโบราณเขาว่า ยิ่งเกลียดก็ยิ่งเจอ 36 ปีที่ผ่านไป ผมยังไป ๆ มา ๆ อยู่เลยนะครับ ถ้าไม่ติดโควิด-19 นี่ก็เกือบ 40 ปีแล้วครับ “จริง ๆ ผมได้แชมป์ ranking นะ แล้วผมได้รองแชมป์ British Open 3 ปีซ้อน ผมเข้าชิงประมาณ 11 รายการ อันนี้เก็บคะแนนนะ ผมเสียดายว่า ผมน่าจะได้มากกว่า 3 แชมป์ มันก็ แต่เจอสมัยที่ผมได้แชมป์นี่ ผมเจอแต่ Top 8 ทั้งนั้นเลยนะครับ Top 8 คน ซึ่งเรียกว่าหัวกะทิทั้งนั้น แล้วก็ Mr.Stephen Hendry ทำให้ผมผิดหวังเยอะ เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า เออ…ถ้าเกิดไม่มีเขาสักคน ผมคงจะได้แชมป์เยอะกว่านี้ แต่จริง ๆ แล้วเขานี่ Champion of the Champions ตัวจริงครับ เพราะเขาแทง He plays like a champion จริง ๆ นะครับ เพราะฉะนั้นต้องให้เครดิตเขานะครับ ก็ถือว่าจริง ๆ มันมีทั้งดีและไม่ดี มันไม่ดีอยู่อย่างเดียวที่ผมไม่ชอบก็คือ ตอนที่ผมอยู่ Top 16 ผมต้องอยู่ปีหนึ่ง 10 เดือน หมายถึงอยู่อังกฤษนะ 10 เดือน กลับมาก็มาทำวีซ่าแค่ 2 เดือน แล้วก็ใช้ปีหนึ่ง ปีละ 10 เดือน อยู่ประมาณ 15 ปีนะครับ “คุณทอมอยู่กับผมประมาณ 6 ปี หลังจากนั้นผมก็เคว้งละ เคว้งแล้วก็เลยแบบว่า เพราะการไปอยู่ที่นู่น ถ้าเราไม่มีเพื่อนร่วมทางไปด้วย เราก็ต้องเดินไปคนเดียว แบกคิวเอง สัมภาระเองอะไรเองนะครับ เดินทางค่อนข้างเยอะ แล้วก็ข้ามจากเมืองไทยไปอังกฤษ แล้วก็ต้องเผื่อเวลา jet lag ด้วยอะไรด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นระหว่างทางมีเรื่องราวเยอะครับ มีทั้งดีและไม่ดีนะครับ แต่ผมไม่ค่อยมีประสบการณ์ที่ดีกับคนอังกฤษสักเท่าไรนะ ขออนุญาตพูดตามตรงว่า เพราะว่าเขาก็จะดูเหมือน ถ้าเราไม่ใช่มาเป็นเจมส์ วัฒนาในตอนนั้น เขาอาจจะไม่ยอมรับ เพราะตอนแรกที่ผม เขาถามผม Where do you come from? ผมบอก Thailand มันไม่รู้จัก Thailand นะคุณ มันพูดแต่ Taiwan มันไม่รู้จัก Thailand ซึ่งผมแค้นมาก เพราะไทยแลนด์กับไต้หวันใกล้กันจริง แต่ว่ามันคนละประเทศไง เขาคิดว่าเราหน้าตาเหมือนกันหมด ก็รู้สึกว่าเขาดูแคลนพวกเรา จากสายตานะรู้สึกได้ สัมผัสได้ ก็รู้สึกไม่ชอบเลย ทุกวันนี้ก็ไม่ชอบ ไปเพราะสนุกเกอร์อย่างเดียวเลยครับ ใครบอกว่า ผู้ดีอังกฤษ ผมไม่เชื่อหรอกนะครับ “คุณรู้ไหม คนที่ ไม่ซ้อมกับผม Joe Johnson น่ะ ตั้งแต่ผมเทิร์นโปรไป เขาก็ไม่เคยชนะผมสักครั้งเลย เอาอย่างนี้ดีกว่า เล่นในการแข่งขัน 7-8 ครั้งเขาไม่เคยชนะผมเลย เพราะความที่ผมสั่งสมความแค้นที่ว่า เหมือนคุณ discredit เรา จริง ๆ เราเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน การที่เราไปซ้อมกับ you เหมือนมันเป็นการเขาเรียกอะไร เชื่อม connecting people สำหรับผมนะ คุณไม่ควรจะมาแบ่งชนชั้นวรรณะหรือ discredit เราต้องให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สำหรับผม ถ้าผมเป็นเขานะ ในวันนั้นผม ใครมาขอซ้อมด้วย ผมว่ามันน่าจะแชร์ มันไม่เหมือนมวยจีนรึเปล่าคุณ คือคุณจะแบ่งพลังลมปราณไปให้เขา ณ ตอนนั้นมันไม่ใช่ ผมคิดว่า เขาใจแคบนะครับ” ต๋อง ศิษย์ฉ่อย : วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง ⚫️ It's been a long day “วันที่ผมเบรก maximum break มันเป็นอะไรที่ว่า รายการใหญ่ด้วยนะ ถ่ายทอดสด British Open 1992 มั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด 1992 รอบ 16 คน เจอ Tony Drago วันนั้นจะเป็นอารมณ์ที่ผมนิ่งมาก แล้ววันนั้นเป็นอารมณ์ที่ผมอยากจะแทง 147 นิ่งมาก แล้วที่นิ่งไปกว่านั้นคือวันนั้นพอผมเดินออกมา เวลาที่คุณเบรก 147 ตามประเพณี ธรรมเนียมปฏิบัติ คนเขาจะ Congratulations you วันนั้นผมออกมาเจอ Hendry เจอ John Parrott เจอ Jimmy White แต่ละคนเงียบหมดเลย แม้กระทั่งเจอเจ้าหน้าที่ของ World Snooker เขาก็ เอ๊ะ! ทำไมวันนี้มันเงียบ ผมเพิ่งได้แล้ว 147 แต่สรุปแล้วอะไรรู้ไหมคุณ เขารู้แล้วว่าพ่อผมโดนยิง แต่ตามกฎกติกามารยาทน่ะ เวลาถ้าเกิดมีญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดนกระทำถึงชีวิตหรือปางตาย เขาห้ามบอกห้ามพูด เพราะกลัวจะมีผลกระทบ เราสามารถเลิกเล่นได้เลย “แต่ว่าพอผมออกมาเจอคุณทอม (ทอม มอร์แรน ผู้จัดการส่วนตัว) ที่ห้องนักข่าว เพราะผมเพิ่งเบรก คนก็ยังเงียบอยู่ ผมก็ทำไมมันเงียบ ก็เลย คุณทอมเขาเลยร้องไห้ ผู้จัดการผมร้องไห้ก่อนว่า พ่อโดนยิงเข้าที่ท้ายทอย แล้วอยากจะรู้ว่า ผมอยากจะหยุดการแข่งขันเลยไหม แล้วกลับเมืองไทยวันรุ่งขึ้นเลยไหม ผมก็เลยปรึกษากับทางคุณทอมว่า เอายังไงดี เพราะตอนนี้ผมกำลังต้องการคะแนนด้วย กำลังแบบหัวเลี้ยวหัวต่อ แล้วคนก็กำลังแบบ เราก็กำลังแบบ hot นะตอนนั้น กำลังแบบ เราก็ทั้งดีใจเสียใจ ก็เลยงง ๆ ว่า เอาไง คุณทอมก็เลยบอกเอางี้ดีกว่า เล่นให้จบเลยดีกว่า ก็เล่นไปถึงรอบชิง รอบชิงนั่นเป็นรายการแรกนะที่ว่าแฟนคลับผมน่ะสูสีกับ Jimmy White เพราะผมเข้าไปชิงกับ Jimmy White แล้วผม แต่ว่าถึงไปรอบชิง ผมแทงเหมือนซังกะตายโดน Jimmy White นำไป 7-0 แล้วก็ไล่มา 8-7 แล้วไปแพ้ 10-7 รายการ ในรายการ British Open นะครับ “หลังจากนั้นก็ แล้วก็ไปแชมป์อีกรายการหนึ่งที่… ชนะ John Parott 9-5 หรือ 9-4 หลังจากนั้นก็กลับเมืองไทย มาเคารพศพคุณพ่อ เอาถ้วยรางวัลมาอุทิศให้กับคุณพ่อ เพราะว่าให้เก็บศพคุณพ่อไว้ก่อน 100 วัน เพื่อว่าให้รอผม ว่างเสร็จแล้วก็ค่อยกลับมา เพราะตอนนั้นอยู่อังกฤษซะส่วนใหญ่นะครับ แล้วกลับมาก็ไปทำฌาปนกิจศพโดยแบบถูกต้องตามประเพณี” ต๋อง ศิษย์ฉ่อย : วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง ⚫️ ชิงดำ: คู่แข่งในความทรงจำ #Stephen_Hendry “Stephen Hendry เป็นนักสนุกเกอร์ที่ผมนับถือเขานะ ในความเป็นนักสนุกเกอร์ เขาเป็นคนที่เหี้ยม ฉายาเขา ‘มัจจุราชผมทอง’ แล้วเขาแทงนี่ เขาเป็นอันดับ 1 10 ปีเต็ม เกือบ 10 ปี 9 ปีครึ่ง เขาได้แชมป์โลก 7 สมัย UK ซ้อน 5 สมัยติดกัน Master 5 สมัยติดกัน แล้วเขาเคยได้แชมป์ ได้แชมป์สูงสุดในฤดูกาลเดียว 8 แชมป์ ซึ่ง Never been done ไม่มีใครเคยทำได้ และเขาทำเงินรางวัลมากกว่า £750,000 10 ปีเต็ม ซึ่ง World Record ตรงนี้ “เดี๋ยวนี้เงินรางวัลสูงขึ้น แต่ว่า tournament เยอะขึ้น ค่าใช้จ่ายมากขึ้น มันก็ยุคใครยุคมันนะครับ ก็คิดว่า Hendry นี่เขาทำอะไรที่ว่า แล้วก็เป็นคนที่แทง Under Pressure ดีที่สุดในโลก ผมว่านะ ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่เขาโชว์ให้พวกเราเห็นนะครับ แล้วเขาก็ทำให้นักสนุกเกอร์หลายคนบอบช้ำและผิดหวังไปเยอะ แต่ในยุคของผมกับ Stephen Hendry ก็มี Steve Davis ‘เทพบุตรคิวทอง’ แชมป์โลก 6 สมัยอีก ซึ่งคนนี้ผมก็ประทับใจ ผมชอบสมองของ Steve เพราะว่าเล่น 10 ครั้งไม่เหมือนกันสักครั้ง เขาจะเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเล่นหมดเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดสดก็ดี คนนี้นี่สุดยอดครับ สมองเขานะ tactic เขาเยี่ยม” #Ronnie_O_Sullivan “Ronnie O’Sullivan ก็เป็นเพื่อน น้องรักดีกว่า รุ่นน้องผมประมาณ 6-7 ปี ผม 52 เขาประมาณ 45-46 แล้ว Ronnie นี่ผมไปเห็นตั้งแต่เขาเด็ก ๆ เลย และที่ผมชอบคือพ่อลูกคู่นี้ ทุก tournament ที่ผมลง เขาลงหมดเลย แล้วก็เราเจอกันประมาณอยู่ 2-3 ปี แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็คือพ่อผมมาโดนยิง แล้วพ่อเขามาติดคุก น่าจะเป็นปีเดียวกันมั้ง เพราะว่าพ่อเขาไปแทงคนตายที่ Soho ที่ London นะครับ ไปแทงคนดำตาย เราก็เลยหัวอกเดียวกัน ตั้งแต่นั้นมาเราก็สนิทกัน แล้วเขาก็โตไวมาก แล้วเขาก็บอกผม มีผมเป็นไอดอล เพราะด้วยความที่ว่าผมอดทนมาก ที่ว่าข้ามน้ำข้ามทะเลไปเล่นสนุกเกอร์ ซึ่งถ้าเป็นเขา แค่อาทิตย์เดียวเขาก็ทำไม่ได้ “แต่เราต้องไปอยู่ประเทศที่เราไม่เคยอยู่มาก่อนหรือไม่เคยเจอมาก่อน ปีละ 10 เดือนคุณคิดดูนะครับ เขาถือว่า เขาซูฮกผม ผมก็ถือว่าเป็นคำติชมที่ดี” ต๋อง ศิษย์ฉ่อย : วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง ⚪️⚫️? ถูกวางสนุ้ก: วันที่ฟอร์มชะงัก “ก็มันเป็นช่วงวิบากนะคุณ มันจะเป็นช่วงเบื่อด้วย อย่าลืมว่าผมอยู่อังกฤษ ในระหว่างทาง 36 ปี มันมีทั้งดีและไม่ดี มันผ่านช่วงดีมาแล้ว ตอนนี้มันเริ่มวิบากเข้ามาแล้ว วิบากก็มีช่วง พอเราแพ้มาบ่อย ๆ แต่สนุกเกอร์ที่อยู่เมืองนอกมันไม่ดีตรงว่า ไปบ่อย ๆ มันกลับประเทศเราไม่ได้ มันต้องอยู่แช่ แล้วมันเป็นอะไรที่มันบั่นทอนจิตใจ เพราะเรา ผมไม่ได้เพิ่งไปแบบใหม่ ๆ ไง ผมไปมาหลายสิบปี แล้วก็รู้สึกว่ามันเบื่อแล้ว ยอมรับว่าเบื่อนะ ท้อแท้แบบอยากจะเลิกหลายครั้งแล้ว แต่ที่เลิกไม่ได้ เขายังมีความเชื่อมั่นในตัวเรา แต่เขาไม่รู้หรอกว่าจิตใจเรามันไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่วันที่พ่อผมเสียแล้ว มันก็เหมือนหัวใจ เราเหมือนโดนแบ่งออกไปทีละห้อง ๆ แล้วเราก็อยู่มานานเมื่อไหร่ “โอ้! ตาผม ผมแทงเหมือนเมืองในหมอกประมาณ 6-7 ปี แต่ความที่ผมเป็นผู้ชายเนอะ ดื้อ แล้วก็ไม่กล้าโดนตาตัวเอง วันหนึ่งก็เลยเดินเข้าไปที่โรงพยาบาลเกี่ยวกับเรื่องตา ปรึกษาเพื่อนว่ามีหมอ ก็เลย ตอนแรกคิดว่าจะเข้าไปยิงเลสิก คิดว่าเป็นสั้นเอียงธรรมดา สรุปวันนั้นผมเข้าไป เขาบอกว่า ผมเป็นต้อต้องผ่าตัดด่วน ถ้ายังอยากใช้สายตา แล้วคุณรู้ไหมว่า ผ่าตัดตา 1 แพง 2 ตอนที่ผมผ่าตัด ถ้าผมกระดิกตาแค่ 2 วิ ตาบอดได้นะคุณ วันนั้นผมต้องไปนั่งหยอดยาชาประมาณ 4 ชั่วโมงคุณ เพื่อให้ตามันน่ะชาจริง ๆ เพราะระหว่างที่เขาทำ ผมต้องลืมตาด้วยนะ ผมยังจำได้เลย ต้องลืมตานะ ห้ามกระดิกนะ ๆ กระดิกนิดเดียวบอดนะคุณ แต่ก็ต้องทำ เพราะถ้ายังอยากเล่นต่อ แล้วแต่คุณเชื่อไหมว่า ผมนั่งคิด เออ…ทำไมไม่ผ่าตั้งนานแล้ว “หายแล้วผมก็ลองกลับมาแทงดู เอ้ย! มันมองเห็นชัดได้แบบ เออ… มันเหมือนคนละโลกเลยนะ แล้วหมอก็บอกว่า ผ่าตัดแล้วก็อย่านอนดึก แล้วก็พยายามออกกำลังกาย ผมก็ออกกำลังกายมาตลอดเลยนะ แล้วก็นอน เดี๋ยวนี้เข้านอนสามทุ่ม ตื่นตีสี่แล้วมัน สายตาเราแบบ เราก็ต้องดูแลมันด้วยคุณ เพราะว่าไอ้กีฬาประเภทนี้มันใช้สายตา แล้วตาผมก็ถือว่า เอียงข้างยาว แล้วก็ตอนนี้เริ่มกลับมาแค่ประมาณ 60-70 นะไม่ใช่ 100% นะคุณนะครับ” ต๋อง ศิษย์ฉ่อย : วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง ? เคล็ดลับการยืนระยะ “จริง ๆ แล้วองค์ประกอบมันมีหลายอย่าง 1. คุณต้องมีความมุ่งมั่น 2. คุณต้องมีความฝันอย่างที่ผมบอก และคุณต้องซื่อสัตย์กับอาชีพตัวเองด้วย คือบางคนอาจจะอยากรวยทางลัดนู่นนี่นั่น อันนั้นไม่ถูกต้อง เพราะตอนนี้ถ้าเกิดคุณยึดอะไรที่เป็นอาชีพ แล้วผมคิดว่ามันก็ต้องไปได้ แต่บางคนกลัวไปไม่ถึงฝัน อยากจะไปถึงก่อนงี้ไปทางลัดงี้ มันก็ไม่มันก็ไม่ดีนะ ถ้าทำแล้วครั้งที่ 1 จะมีครั้งต่อไป ผมเป็นห่วงเด็กรุ่นใหม่ เพราะว่า เพราะฉะนั้นทำอะไรต้องเชื่อมั่นในตัวเองนะครับ แล้วก็ดูว่า ดูตัวเองด้วย ผมคิดว่าดูตัวเองว่า 3-4 ปี คุณไปไหวไหม ไปไม่ไหว แล้วก็เปลี่ยนเข็มทิศยังทัน ยังมีอะไรที่ต้อนรับคุณอยู่ แล้วก็อย่าท้อแท้ เพราะทุกการ ผมเชื่อว่าทุกความสำเร็จจำเป็นต้องมีอุปสรรคเยอะ “ไม่มีอุปสรรคบารมีก็ไม่เกิด แล้วก็ความจำเจที่ผมกลัวเด็กรุ่นใหม่ที่ผมยังไม่เห็นนะ 1. คือเขาเจอการซ้อมบ่อย ๆ เขาก็เบื่อแล้วคุณ แต่สำหรับผมนี่ความจำเจคือความสำเร็จ เพราะฉะนั้นคุณต้อง ผมมาซ้อมทุกวัน ผมก็ยังปัดโต๊ะรีดโต๊ะอย่างที่คุณเห็นเมื่อกี้ ซึ่งผมเห็นเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยปัดโต๊ะรีดโต๊ะ มาก็เล่นกันเลย แล้วก็มาบ่นว่าสักหลาดไม่ดีอะไรไม่ดี คือต้องดูแลจากหัวจรดเท้า ทุกวันนี้ผมก็ยังทำอยู่ 30 กว่าปีทำอย่างไร ผมก็ทำอย่างนั้นนะครับ ผมจะถ่ายทอดถ้าวันไหนผมเปิด academy ก็อยากจะสอนทั้งความเป็นไทยคือวัฒนาการไหว้การอะไร ตรงนี้จะถ่ายทอด ผมคิดว่าคนไทยทั้งต่างประเทศและนอกประเทศกำลังรอเราอยู่นะครับ” ⚫️ ปิดเฟรมเพื่อเปิดเกมใหม่ “อยากให้จำผมเหรอครับ ผมอยากให้จำว่า ผมเคยทำอะไรไว้บ้างก็พอ ไม่ต้องจำผมมากหรอกครับ ผมอยากจะให้จำวงการสนุกเกอร์มากกว่าว่าผมเป็นหนึ่งในคนทำงานในวงการให้กีฬา มันเคยเฟื่องฟู แล้วก็อยากให้จำว่า ผมเคยทำอะไรไว้ให้กับ จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นผมหรอก ผมอยากให้นักกีฬาทุกประเภทดีกว่า ใครที่มีรายได้สูง ๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ อยากให้ปันกัน มีใจเมตตาธรรมบ้างค้ำจุนโลกให้แบ่งปันให้กับเพื่อนฝูงบ้าง ไม่อยากให้ผมหรอก อยากให้จำสิ่งที่ผมทำว่า ผมทำอะไรไว้บ้างให้กับวงการ ทุกวันนี้ผมยังทำ อย่างอะไรใฝ่ฝันสูงสุดคืออยากให้ผ่าน พ.ร.บ. การพนัน ซึ่งมันยังไม่เกิดขึ้นสักที แต่เรายังเฝ้าวิงวอน เฝ้าภาวนาว่า เมื่อไหร่วันใดวันหนึ่งมีผู้ใหญ่ใจดีเข้ามาปลดล็อก . “เราจะได้เดินเต็ม อย่างเต็มภาคภูมิ นั่นหมายถึงเด็กรุ่นใหม่ก็จะได้เข้ามาเล่นตั้งแต่ 2 ขวบ 3 ขวบ 4 ขวบ Ding Junhui เข้าไปเล่นตั้งแต่ 4 ขวบ เป็นแชมป์โลกอายุ 14 ผมแอบ ๆ เล่น ๆ แอบเล่นซ่อนหาเป็นแชมป์โลกตอนอายุ 18 แต่ตอนนี้สนุกเกอร์มันห้ามเล่นต่ำกว่า 18 ห้ามเข้า ถ้าไปเริ่มเล่น 19 ผมว่ามันไปทำอย่างอื่นกันหมดแล้วเนอะ มันก็เลยทำให้คิดว่าเราอยู่กันแบบมาหลบ ๆ ซ่อน ๆ มานาน อยากให้ว่า ผู้ใหญ่ปลดล็อกซะที” ต๋อง ศิษย์ฉ่อย : วันที่พายุสนุกเกอร์ 'ไทยทอร์นาโด' ยังไม่อ่อนแรง ? พายุที่ยังไม่อ่อนแรง “สำหรับผมหรอ ผมว่าอาจจะมีอ่อนแรงลมครับ อาจจะมีอ่อนแรงบ้าง แต่ประสิทธิภาพสภาพยังชัดเจน เหมือนเดิมนะในความคิดผม เพราะว่า ผมยังมีความมุ่งมั่น ณ ตอนนี้นะ ผมเริ่มกลับมามีไฟอีกแล้ว ในความรู้สึกผมนะ ผมยังมีความมุ่งมั่นที่อยากจะให้ อันนี้ไม่ใช่ตัวผมแล้ว อยากจะให้วงการมันเดินต่อและนั่นหมายถึง อันนี้เป็นอารมณ์ที่ว่าค่อนข้างชัดเจน “อุดมการณ์มีแน่นอนครับ อยากให้เป็นที่จดจำ เป็นที่เลื่องลือ ไม่ใช่อยากให้จำต๋องคนเดียว ไม่อยากให้จำไทย ทอร์นาโดอย่างเดียว อยากให้จำสนุกเกอร์ ทอร์นาโด ไว้ด้วยนะครับ เพราะผมอยากจะสร้าง หาเพชรน้ำงามในวงการในอนาคตอันใกล้หรือไกล”