‘วิชาล การ์ก’ ซีอีโอที่เลิกจ้างพนักงาน 900 คน ผ่าน Zoom กับบทเรียนสำคัญขององค์กร

‘วิชาล การ์ก’ ซีอีโอที่เลิกจ้างพนักงาน 900 คน ผ่าน Zoom กับบทเรียนสำคัญขององค์กร

บทเรียนของ ‘วิชาล การ์ก’ ซีอีโอที่เลิกจ้างพนักงาน 900 คน ผ่าน Zoom กับบทเรียนสำคัญขององค์กร

KEY

POINTS

“นี่ไม่ใช่ข่าวที่คุณอยากจะได้ยิน เรากำลังจะเลิกจ้างพนักงานด้วยเหตุผลหลายประการ และคุณคือพนักงานผู้เคราะห์ร้ายในกลุ่มนั้น” 

นี่คือประโยคที่คนทำงานไม่อยากได้ยินที่สุด แต่มันได้เกิดขึ้นมาแล้วในหลายต่อหลายบริษัท และกำลังจะเกิดขึ้นต่อไปในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ 

แต่ถึงแม้ ‘การถูกเลิกจ้าง’ หรือ ‘เลย์ออฟ’ จะมีให้เห็นต่อเนื่องตั้งแต่โควิด-19 ระบาด สำหรับหัวอก ‘คนถูกเลิกจ้าง’ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับ ต้องอาศัยการสื่อสารด้วยความ ‘เห็นอกเห็นใจ’

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกความจริงนั้นโหดร้าย นอกจากจังหวะเวลาที่เกิดขึ้นอย่าง ‘กะทันหัน’ ยากเกินกว่าที่จะทำใจยอมรับได้ในทันที ในโลกทุนนิยมยังมีอีกหนึ่งตัวอย่างที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นการเลิกจ้างที่ ‘โหดเหี้ยม’ และ ‘ไร้ความเป็นมนุษย์’ มากที่สุดเคสหนึ่ง 

ย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคม 2021 ‘วิชาล การ์ก’ (Vishal Garg) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทสินเชื่อออนไลน์ของอินเดีย Better.com ถูกถล่มเละ หลังจากประกาศเลิกจ้างพนักงานประมาณ 900 คน ผ่านทาง Zoom 

ในเหตุการณ์ครั้งนั้น การ์กได้แจ้งพนักงานในบริษัทระหว่างการโทรผ่าน Zoom ว่า “สวัสดีทุกคน ขอบคุณที่เข้าร่วม ผมมาหาคุณพร้อมกับข่าวใหญ่ อย่างที่ทราบกันดีว่าตลาดมีการเปลี่ยนแปลง และเราต้องก้าวไปกับมันเพื่อความอยู่รอด เพื่อหวังว่าเราจะสามารถเติบโตและส่งมอบภารกิจต่อไปได้

“นี่ไม่ใช่ข่าวที่คุณอยากจะได้ยิน แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นการตัดสินใจของผม และผมต้องการให้คุณได้ยินมันจากผม มันเป็นการตัดสินใจที่ท้าทายจริง ๆ นี่เป็นครั้งที่สองในอาชีพของผม ที่ผมทำสิ่งนี้ และผมไม่ได้อยากทำ

“ครั้งก่อนที่ผมทำผมถึงกับร้องไห้ สำหรับครั้งนี้ผมหวังว่าจะแข็งแกร่งขึ้น แต่เรากำลังจะเลิกจ้างพนักงานประมาณ 15% ของบริษัท ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งการตลาด ประสิทธิภาพ การดำเนินการ และการเพิ่มกำลังผลิต 

หากคุณอยู่ในสายนี้ คุณเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้เคราะห์ร้ายที่กำลังถูกเลิกจ้าง การจ้างงานของคุณที่นี่จะสิ้นสุดลงโดยมีผลทันที” 

หลังการประกาศฟ้าผ่า ชายผู้นี้ก็แจ้งว่าฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะส่งอีเมลแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และการเลิกจ้าง ขณะที่ในเวลาต่อมาก็เขาจัดประชุมทาวน์ฮอลล์กับพนักงานที่เหลือ 

มีรายงานด้วยว่า เขายังกล่าวหาพนักงานประมาณ 250 คนที่ถูกเลิกจ้างว่าขโมยเงินบริษัท ด้วยการรายงานชั่วโมงทำงานมากเกินจริง โดยทำงานเพียง 2 ชั่วโมงต่อวัน แต่อ้างสิทธิ์เป็น 8 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น 

‘แอนน์ ฟรังก์’ ผู้บริหาร Chartered Management Institute แสดงความเห็นถึงการเลิกจ้างครั้งนั้นว่า “ผู้จัดการที่ไม่ดีจะไล่คนออกอย่างเลวร้าย ไม่ว่าจะด้วยสภาวะเสมือนจริงหรือต่อหน้า” เธอกล่าวอีกว่า “สิ่งที่เราเรียนรู้ในช่วงโควิด-19 ระบาด คือความเห็นอกเห็นใจเป็นสิ่งสำคัญ” ที่น่าเป็นห่วงคือ “วิธีที่การ์กเลิกจ้างพนักงานอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในอนาคตของ Better.com

นี่คือธุรกิจที่ต้องพบปะกับลูกค้า พวกเขาทำหน้าที่จัดหาสินเชื่อจำนองให้ผู้คน ฉันแน่ใจว่าลูกค้าจำนวนมากหรือผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้ากำลังคิดว่า นี่ถ้าพวกเขาทำกับพนักงานแบบนี้ พวกเขาจะทำกับลูกค้ายังไง” 

ต่อมา การ์กได้ออกมาขอโทษต่อกรณีที่เขาบอกเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากผ่าน Zoom โดยกล่าวว่า “ผมล้มเหลวในการแสดงความเคารพ และแสดงความขอบคุณอย่างเหมาะสมต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งต่างก็มีส่วนร่วมใน Better ผมเป็นคนตัดสินใจที่จะเลิกจ้างพนักงาน แต่ในการสื่อสาร ผมถือว่าตัวเองทำผิดพลาดในการดำเนินการ การทำเช่นนั้นทำให้คนอื่นอับอาย” 

ก่อนหน้านั้น การบริหารจัดการของเขาก็เคยตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์มาก่อน โดยฟอร์บสรายงานว่า ในอีเมลที่เขาเขียนถึงพนักงานระบุข้อความว่า “คุณช้าเกินไปแล้ว คุณคือฝูงโลมาโง่เขลา หยุดเถอะ หยุดเดี๋ยวนี้ คุณกำลังทำให้ผมอับอาย” 

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดคำถามว่า แล้วอะไรคือวิธีเลิกจ้างพนักงานอย่างถูกวิธี? 

‘ราเชฟ ซัฟฟ์’ ที่ปรึกษานโยบายอาวุโสที่ Chartered Institute of Personnel and Development มองว่า การที่องค์กรต่าง ๆ ต้องลดพนักงานในบางครั้งเป็นความจริงที่แสนยากลำบาก “แต่วิธีที่พวกเขาดำเนินการและความเป็นมนุษย์ที่พวกเขาปฏิบัติจะส่งผลต่อการจัดการกับข่าวที่ชวนตกใจนั้น” 

ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ชี้ว่า สถานการณ์ที่พนักงานของ Better.com ในสหรัฐฯต้องเผชิญ จะไม่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร เพราะตามกฎหมายแล้วนายจ้างจะต้องเข้าสู่ระยะเวลาการปรึกษาหารือกับพนักงานอย่างน้อย 30 วัน หรือ 45 วัน หากมีคนถูกเลิกจ้างมากกว่า 100 คน และในช่วงเวลานั้นพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับคำอธิบายที่เหมาะสม อย่างผ่อนคลาย มีการตักเตือนกันก่อน มีการเตรียมการเรื่องข่าว และอธิบายเหตุผลว่าทำไม นอกจากนี้ นายจ้างในสหราชอาณาจักรยังต้องมองหางานให้กับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างด้วย 

“นายจ้างจำเป็นต้องบอกพวกเขาจริง ๆ ว่า ได้ใช้ทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมดแล้ว และนี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่อยากทำ มันคือการจากไปพร้อมกับศักดิ์ศรีและความเคารพที่บริษัทจะมีให้” อีกหนึ่งสิ่งที่เธอตั้งข้อสังเกตคือ การ์กได้พูดถึงผลกระทบที่มีต่อตัวเองด้วย ตรงที่เขาพูดว่า “ครั้งก่อนผมร้องไห้” แต่ก็นั่นแหละ เขาเอาแต่พูดถึงผลกระทบของตัวเอง แล้วพวกพนักงานที่ถูกเลิกจ้างละ?

ด้าน ‘เจมมา เดล’ อาจารย์ด้านกฎหมายการจ้างงานและการศึกษาธุรกิจที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล จอห์น มัวร์ส ในสหราชอาณาจักร กล่าวถึงการ์กว่า “ไม่มีทางที่จะเป็นผู้นำองค์กรได้” ทั้งยังเสริมด้วยว่า “มีตั้งหลายวิธีที่จะทำสิ่งนี้ แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก แต่ก็ยังคงความเห็นอกเห็นใจและเหมาะสมเอาไว้ได้” เธอยังมองด้วยว่าวิธีนี้อาจเป็นอันตรายต่อบริษัทและพนักงานของบริษัท “พนักงานที่เหลืออยู่จะมองว่าวิธีที่บริษัทปฏิบัติต่อเพื่อนพนักงาน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าพวกเขาจะถูกปฏิบัติอย่างไรในอนาคต” 

แต่ตอนนี้ วิชาล การ์ก ได้รับบทเรียนจากเรื่องนี้แล้ว และเขากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ในบทสัมภาษณ์กับ TechCrunch เขาเปิดเผยว่า “ผมกำลังมุ่งมั่นอย่างมากเพื่อจะเป็นเจ้านายที่ใจดียิ่งขึ้น” เขาเปิดเผยด้วยว่า เขาได้ผ่าน ‘การฝึกอบรมความเป็นผู้นำ’ มาแล้วหลายครั้ง เพื่อพยายามเรียกความไว้วางใจจากทีมงานของเขากลับคืนมา

“ผมเคยคิดว่าผมยึดภาระหน้าที่เป็นหลัก มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และมุ่งเน้นกับสิ่งที่ทำเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต แต่ผมได้เรียนรู้แล้วว่าเพื่อทำให้ลูกค้าของเราพึงพอใจ เพื่อนร่วมทีมของเราก็ต้องรู้สึกยินดีด้วย ผมจึงต้องมุ่งมั่นอย่างหนัก เพื่อเปลี่ยนวิธีที่ผมแสดงออกต่อทีมทุกวัน และเพื่อให้มีความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น ผมยังปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความมีน้ำใจแบบเดียวกับที่ผมกระทำต่อลูกค้าของเรา” เขาให้สัมภาษณ์กับ TechCrunch 

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการเลิกจ้างที่อาจเกิดขึ้นอีก เขากล่าวว่า “ผมไม่สามารถบอกคุณได้อย่างตรงไปตรงมาว่าเราจะมีการเลิกในอนาคตอีกหรือไม่ ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับตลาดจำนอง แต่ตอนนี้เราคิดว่าเรามีจำนวนพนักงานที่เหมาะสมแล้ว และอันที่จริงเรากำลังเพิ่มจำนวนพนักงานส่วนต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต” 

ซีอีโอชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียยังกล่าวด้วยว่า ประสิทธิภาพของตลาด การดำเนินการ และความสามารถในการผลิต ล้วนเป็นเหตุผลเบื้องหลังการเลิกจ้างครั้งใหญ่ในปี 2021 

 

เรียบเรียง: พาฝัน ศรีเริงหล้า
ภาพ: เพจเฟซบุ๊ก Better

อ้างอิง:
''Worked Hard To Be Kind'': Indian-Origin CEO Who Fired 900 On Zoom Call

Vishal Garg: US boss fires 900 employees over Zoom

Better.com CEO fires 900 employees over Zoom