กำเนิด ‘วันหยุดพักร้อนแบบได้รับค่าจ้าง’ มรดกปฏิวัติแรงงานจาก ‘ฝรั่งเศส’

กำเนิด ‘วันหยุดพักร้อนแบบได้รับค่าจ้าง’ มรดกปฏิวัติแรงงานจาก ‘ฝรั่งเศส’

การปฏิวัติแรงงานครั้งสำคัญในฝรั่งเศสปี 1936 มอบสิทธิวันหยุดพักร้อนแบบได้รับค่าจ้างแก่คนทำงานเป็นครั้งแรกในโลก ก่อนแพร่กระจายเป็นสิทธิมนุษยชนสากลที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้

KEY

POINTS

  • ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายรับรองสิทธิวันหยุดพักร้อนประจำปีแบบได้รับค่าจ้างในปี 1936
  • การพักผ่อนเคยเป็นสิทธิพิเศษของชนชั้นสูง ก่อนการนัดหยุดงานครั้งประวัติศาสตร์ของคนงาน 2 ล้านคนจะเปลี่ยนแปลงสังคม
  • แนวคิด “ทำงานเพื่อมีชีวิต ไม่ใช่มีชีวิตเพื่อทำงาน” ของฝรั่งเศสเป็นรากฐานสำคัญของสิทธิแรงงานที่แพร่หลายไปทั่วโลก

ใน ‘วงการศิลปะ’ เรารู้จักฝรั่งเศสผ่านโมเนต์ เรอนัวร์ และมาติส ใน ‘วงการอาหาร’ เรารู้จักฝรั่งเศสผ่านไวน์ ชีส และอาหารรสเลิศ ใน ‘วงการแฟชั่น’ เรารู้จักฝรั่งเศสผ่านชาแนล ดิออร์ และหลุยส์ วิตตอง แต่ในโลกของการทำงานและคุณภาพชีวิต เราควรรู้จักฝรั่งเศสในฐานะ ‘ผู้บุกเบิกสิทธิวันหยุดพักร้อนประจำปีแบบได้รับค่าจ้าง’

เมื่อ 89 ปีที่แล้ว ฝรั่งเศสตัดสินใจว่า ‘การพักผ่อน’ ไม่ควรเป็นเพียงสิทธิพิเศษของ ‘ชนชั้นสูง’ แต่ควรเป็นสิทธิของทุกคน และการตัดสินใจนั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของ ‘คนงาน’ ทั่วโลก

ก่อนมีวันหยุดพักร้อน คนงานทำงานแบบไม่มีวันพัก

เพื่อเข้าใจว่าการพักร้อนประจำปีเป็นการปฏิวัติทางสังคมได้อย่างไร เราต้องย้อนกลับไปสำรวจชีวิตการทำงานในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นช่วงที่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเข้าสู่ช่วงเติบโตเต็มที่ โรงงานต่าง ๆ เปิดทำงาน 6 - 7 วันต่อสัปดาห์ คนงานโรงงานทำงานสัปดาห์ละ 50 - 60 ชั่วโมง แทบไม่มีวันหยุด นอกจากวันอาทิตย์ (ถ้าโชคดี) และวันหยุดทางศาสนาเพียงไม่กี่วันต่อปี

‘พักผ่อน’ เป็นคำที่แทบไม่ปรากฏในพจนานุกรมของชนชั้นแรงงาน มีแต่ชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถหยุดงานไปเที่ยวพักผ่อนที่ชายทะเลหรือภูเขาได้เป็นเดือน ๆ ในขณะที่ธุรกิจของพวกเขายังคงดำเนินต่อไปโดยมีลูกจ้างคอยขับเคลื่อน แน่นอนว่าคนงานไม่มีเงื่อนไขแบบนี้ เพราะการลาหยุดหมายถึงการสูญเสียรายได้ ซึ่งครอบครัวส่วนใหญ่ไม่สามารถรับได้

โลกถูกแบ่งเป็นสองขั้วอย่างชัดเจน ขั้วแรกคือกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่มีชีวิตโดยปราศจากความเหน็ดเหนื่อย ขั้วที่สองคือมวลชนส่วนใหญ่ที่แทบไม่มีโอกาสได้พักหายใจจากวงจรการทำงานที่ไม่มีวันจบสิ้น เป็นโลกที่การพักผ่อนคือ ‘สินค้าฟุ่มเฟือย’ ที่คนธรรมดาไม่มีวันสัมผัสได้
 

พายุทางการเมืองที่เปลี่ยนทุกสิ่ง

ฝรั่งเศสในช่วงต้นทศวรรษ 1930 อยู่ในภาวะที่เปราะบางอย่างยิ่ง เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เรียกร้องความเปลี่ยนแปลง กระแสฟาสซิสต์ในยุโรปกำลังเติบโต และความไม่พอใจของชนชั้นแรงงานกำลังถึงจุดเดือด ถึงเวลาแล้วที่ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนทิศทาง

การเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 1936 นำไปสู่ชัยชนะของกลุ่ม ‘แนวร่วมประชาชน’ (Popular Front) นำโดย ‘เลออง บลูม’ (Léon Blum) จากพรรคสังคมนิยม เป็นครั้งแรกที่ฝรั่งเศสมีนายกรัฐมนตรีสังคมนิยม และเป็นครั้งแรกที่ชาวยิวได้ดำรงตำแหน่งนี้ในฝรั่งเศส ชัยชนะนี้จุดประกายความหวังในหมู่คนงาน และเริ่มลุกโชนเป็นการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

กำเนิด ‘วันหยุดพักร้อนแบบได้รับค่าจ้าง’ มรดกปฏิวัติแรงงานจาก ‘ฝรั่งเศส’

คนงานกว่าสองล้านคนปิดโรงงาน ยึดสถานที่ทำงาน และเรียกร้องเงื่อนไขการทำงานที่ดีขึ้น ท่ามกลางข้อเรียกร้องนั้น มีประเด็นที่ไม่เคยมีใครกล้าฝันมาก่อน นั่นคือ ‘สิทธิในการพักผ่อนประจำปีโดยได้รับค่าจ้างเต็ม’

‘ข้อตกลงมาติญง’ จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติแรงงาน

ภายใต้แรงกดดันจากการนัดหยุดงานครั้งมโหฬาร รัฐบาลของบลูมจัดการเจรจาฉุกเฉินที่ ‘โรงแรมมาติญง (Matignon) ระหว่างตัวแทนนายจ้างและสหภาพแรงงาน จนนำไปสู่ข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า ‘ข้อตกลงมาติญง’ (Matignon Agreements) ซึ่งรวมถึงการขึ้นค่าแรง สัปดาห์ทำงาน 40 ชั่วโมง และที่สำคัญที่สุด วันหยุดพักร้อนประจำปีที่ได้รับค่าจ้างเป็นเวลา 2 สัปดาห์
 

วันที่ 20 มิถุนายน 1936 กฎหมายได้ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการ และฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ให้สิทธิวันหยุดพักร้อนประจำปีแบบได้รับค่าจ้างแก่คนทำงานทุกคน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ใดมาก่อน

“การพักผ่อนไม่ใช่เรื่องของความฟุ่มเฟือย แต่เป็นความจำเป็นทางสังคม” บลูมกล่าวในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง แนวคิดนี้ได้ปฏิวัติความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างงานและชีวิต

 

เมื่อคนธรรมดาได้ไปเที่ยวทะเลครั้งแรก

ผลกระทบทางสังคมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและลึกซึ้ง ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ครอบครัวคนงานสามารถวางแผนวันหยุดได้โดยไม่กังวลว่าจะไม่มีเงินซื้ออาหาร รถไฟในช่วงฤดูร้อนปี 1936 เต็มไปด้วยครอบครัวที่เดินทางออกจากปารีสและเมืองอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ไปยังชายหาดและชนบท สำหรับคนจำนวนมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นมหาสมุทร

“เครื่องแบบของคนงานถูกแทนที่ด้วยชุดว่ายน้ำ” หนังสือพิมพ์ Le Petit Parisien รายงาน ชายหาดที่เคยเป็นอาณาเขตของคนรวย กลายเป็นสถานที่แห่งความเท่าเทียมชั่วคราว ครอบครัวคนงานและนายทุนอาบแดดข้าง ๆ กัน แม้ว่าจะไม่ได้พูดคุยกันก็ตาม

รัฐบาลบลูมตระหนักว่าเพียงการให้วันหยุดไม่เพียงพอ ต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากวันหยุดได้จริง จึงเกิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวราคาประหยัดสำหรับมวลชน ที่พักราคาถูก และส่วนลดค่าเดินทางสำหรับครอบครัวคนงาน

แนวคิดที่แพร่กระจายไปทั่วโลก

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสกลายเป็นคลื่นที่ซัดสาดไปทั่วยุโรปและทั่วโลก ภายในไม่กี่ปี ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเบลเยี่ยม อิตาลี และสเปนได้ผ่านกฎหมายคล้ายกัน ตามด้วยประเทศอื่น ๆ ในยุโรป สหราชอาณาจักรบัญญัติ ‘Holidays with Pay Act’ ในปี 1938 ให้สิทธิวันหยุดพักร้อนหนึ่งสัปดาห์โดยได้รับค่าจ้าง

ความสำคัญของสิทธินี้ได้รับการยืนยันในปี 1948 เมื่อปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ระบุไว้ในมาตรา 24 ว่า “ทุกคนมีสิทธิในการพักผ่อนและเวลาว่าง รวมถึงการจำกัดชั่วโมงทำงานที่สมเหตุสมผลและวันหยุดพักผ่อนประจำปีโดยได้รับค่าจ้าง”

ความคิดที่เคยดูเป็นไปไม่ได้ในปี 1935 กลายเป็นสิทธิมนุษยชนสากลในปี 1948 และเป็นบรรทัดฐานทั่วโลกในปลายศตวรรษที่ 20 ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากฝรั่งเศส

‘Les Congés Payés’: วัฒนธรรมวันหยุดที่กลายเป็นอัตลักษณ์ของฝรั่งเศส

ในขณะที่แนวคิดเรื่องวันหยุดพักร้อนแพร่กระจายไปทั่วโลก ฝรั่งเศสยังคงเป็นผู้นำในการพัฒนาสิทธินี้อย่างต่อเนื่อง สองสัปดาห์ในปี 1936 เพิ่มเป็นสามสัปดาห์ในปี 1956 สี่สัปดาห์ในปี 1969 และห้าสัปดาห์ในปี 1982 ภายใต้รัฐบาลสังคมนิยมของ ‘ฟรองซัวส์ มิตแตรรองด์’

‘Les congés payés’ หรือวันหยุดพักร้อนที่ได้รับค่าจ้าง กลายเป็นรากฐานของวัฒนธรรมฝรั่งเศสสมัยใหม่ ถนนปารีสที่แออัดจะกลายเป็นเมืองร้าง และชายหาดจะเต็มไปด้วยผู้คนในช่วงเดือนสิงหาคม เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘Grand Départ’ หรือการอพยพครั้งใหญ่ออกจากเมือง

วันหยุดพักร้อนไม่ใช่แค่สิทธิตามกฎหมาย แต่เป็นพิธีกรรมทางสังคมที่ทุกคนต้องเข้าร่วม ไม่ว่าจะรวยหรือจน บ่อยครั้งที่ชาวฝรั่งเศสจะถามกันว่า “คุณจะไปไหนช่วงปิดเทอมฤดูร้อน?” แทนที่จะถามว่า “คุณจะลาพักร้อนไหม?”

“ทำงานเพื่อมีชีวิต ไม่ใช่มีชีวิตเพื่อทำงาน”

หัวใจของการปฏิวัตินี้ไม่ใช่แค่วันหยุด แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อชีวิตและงาน ในระบบทุนนิยมเสรีสุดโต่ง มนุษย์ถูกมองเป็นเพียงปัจจัยการผลิต ที่มีค่าเมื่อผลิตสิ่งของหรือบริการเท่านั้น การพักผ่อนถูกมองว่าเป็นความอ่อนแอหรือความเกียจคร้าน

แต่แนวคิดของฝรั่งเศสท้าทายมุมมองนั้น โดยยืนยันว่ามนุษย์มีคุณค่าในตัวเอง ไม่ใช่แค่เมื่อพวกเขาทำงาน และการพักผ่อนเป็นสิ่งจำเป็นต่อจิตวิญญาณ สุขภาพ และแม้แต่ความสามารถในการทำงานในระยะยาว

“ทำงานเพื่อมีชีวิต ไม่ใช่มีชีวิตเพื่อทำงาน” กลายเป็นคำกล่าวที่สะท้อนปรัชญาชีวิตของฝรั่งเศส แนวคิดนี้แพร่กระจายไปทั่วยุโรป แต่ยังคงตรงข้ามกับแนวคิดในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ที่วันหยุดพักร้อนไม่ได้รับการรับรองโดยกฎหมายกลาง แม้กระทั่งในปี 2025

ผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นจากการพักผ่อนที่เพียงพอ

ข้อถกเถียงที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาต่อต้านการเพิ่มวันหยุดพักร้อนคือเรื่องผลิตภาพและความสามารถในการแข่งขัน แต่หลักฐานจากงานวิจัยจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า การพักผ่อนที่เพียงพอนำไปสู่ผลิตภาพที่สูงขึ้น ความคิดสร้างสรรค์ที่ดีกว่า และจำนวนวันลาป่วยที่ลดลง

ในปี 2019 บริษัทวิจัยแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างวันหยุดพักร้อนและผลิตภาพ โดยเปรียบเทียบพนักงานที่ใช้วันหยุดพักร้อนเต็มจำนวนกับพนักงานที่ไม่ใช้หรือใช้น้อย ผลปรากฏว่า กลุ่มแรกมีอัตราความเครียดและภาวะหมดไฟ (burnout) ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ และมีผลการปฏิบัติงานดีกว่าเมื่อประเมินโดยหัวหน้างาน

นอกจากนี้ ประเทศที่มีวันหยุดพักร้อนตามกฎหมายสูง เช่น เยอรมนี เดนมาร์ก และฝรั่งเศส ก็ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในด้านผลิตภาพต่อชั่วโมงการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การพักผ่อนไม่ได้หมายถึงการสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน

มรดกอันล้ำค่าจากฝรั่งเศส

เมื่อเราวางแผนวันหยุดพักร้อนประจำปี เราอาจไม่ได้นึกถึงหยาดเหงื่อและน้ำตาที่หลั่งรินในการต่อสู้เพื่อสิทธินี้ แต่เราทุกคนเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการต่อสู้นั้น
วันหยุดพักร้อนไม่ใช่แค่เวลาว่างจากการทำงาน แต่เป็นเวลาสำหรับการใคร่ครวญ การเชื่อมโยงกับคนที่เรารัก การค้นพบตัวเอง การฟื้นฟูจิตใจ และการเติมพลังให้ชีวิต มันไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่เป็นความจำเป็นสำหรับชีวิตที่สมบูรณ์

ในวันแรงงานปีนี้ ขณะที่เราเฉลิมฉลองสิทธิและศักดิ์ศรีของคนทำงาน ให้เราระลึกถึง ‘บทเรียนจากฝรั่งเศส’ การพัฒนาเศรษฐกิจที่แท้จริงต้องไม่ละเลยคุณภาพชีวิตของมนุษย์ และการหยุดพักไม่ใช่เรื่องน่าละอาย แต่เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ทุกคนควรได้รับ
 

เรื่อง: พาฝัน ศรีเริงหล้า
ภาพ: Pexels
 
อ้างอิง:
"Paid Leave." Striking Women, www.striking-women.org/module/workplace-issues-past-and-present/paid-leave. Accessed 30 Apr. 2025.
"1936 Matignon Agreements." Wikiwand, www.wikiwand.com/en/articles/1936_Matignon_agreements. Accessed 30 Apr. 2025.
"The Battle for Time to Live." Pressenza, 24 Apr. 2023, www.pressenza.com/2023/04/the-battle-for-time-to-live. Accessed 30 Apr. 2025.
"En Vacances: The First Paid French Holidays." Magnum Photos, www.magnumphotos.com/arts-culture/society-arts-culture/en-vacances-the-first-paid-french-holidays. Accessed 30 Apr. 2025.
"The French August Vacation: A Cultural Tradition." My French Country Home Magazine, www.myfrenchcountryhomemagazine.com/the-french-august-vacation-a-cultural-tradition. Accessed 30 Apr. 2025.