บิล เกตส์ เคยมอง ‘การนอนมาก’ เป็นนิสัยที่ขี้เกียจ แต่ตอนนี้กลับให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก

บิล เกตส์ เคยมอง ‘การนอนมาก’ เป็นนิสัยที่ขี้เกียจ แต่ตอนนี้กลับให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก

อภิมหาเศรษฐีเบอร์ต้น ๆ ของโลกอย่าง ‘บิล เกตส์’ (Bill Gates) เคยมองว่า การนอนมากเป็นนิสัยที่ขี้เกียจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความคิดในเรื่องนี้ของเขาเปลี่ยนแปลงไปด้วย และให้ความสำคัญกับการนอนมากขึ้น

  • บิล เกตส์ อภิมหาเศรษฐีเบอร์ต้น ๆ ของโลก ในวัยหนุ่ม เขาเคยทำงานหามรุ่งหามค่ำ แทบไม่ได้นอน
  • สมัยยังหนุ่ม บิล เกตส์ มองว่า การ  ‘นอนมาก’ เป็นนิสัยที่ขี้เกียจ
  • เมื่อพ่อบิล เกตส์ ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ความคิดเรื่องการนอนของเขาจึงเปลี่ยนไป

‘บิล เกตส์’ เป็นอภิมหาเศรษฐีเบอร์ต้น ๆ ของโลกที่เป็นต้นแบบให้กับใครหลายคน ซึ่งในวัยหนุ่มเกตส์เป็นคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ แทบไม่ได้นอน เพราะเขามองว่า นิสัยหนึ่งที่สะท้อนถึงความขี้เกียจของคนเรา คือ ‘การนอนเยอะ’ แต่มาถึงตอนนี้มุมมองต่อเรื่องดังกล่าวเรื่องของเขาได้เปลี่ยนไป ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

เกตส์ เคยเปิดเผยในรายการพอดแคสท์ที่ชื่อ Unconfuse Me with Bill Gates ว่า ตอนเขาอายุประมาณ 30-40 ปีได้แข่งกับเพื่อนในวงการว่า ใครจะสามารถอดนอนได้มากกว่ากัน เพราะตอนนั้นพวกเขาเชื่อว่า การนอนน้อย จะทำให้มีเวลาในการคิดสร้างสรรค์งานได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเมื่อก่อนตัวเขาเองจะนอนวันละ 6 ชั่วโมงเท่านั้น

ขณะที่เพื่อน ๆ ก็เกทับว่า นอนแค่ 5 ชั่วโมงหรือบางวันไม่นอนเลยด้วยซ้ำ ซึ่งตอนนั้นเกตส์รู้สึกว่า เป็นเรื่องที่เจ๋งมาก และตัวเขาเองควรจะนอนให้น้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากคิดเองว่า การนอนเยอะเป็นนิสัยของคนขี้เกียจ และคนเราไม่จำเป็นต้องนอนเยอะ

แต่แล้วเมื่อพ่อของเขาป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ทำให้เกตส์หันมาให้ความสนใจและเรียนรู้เกี่ยวกับสุขภาพของสมองเพื่ออยากทราบถึงสาเหตุของการป่วยดังกล่าว แล้วพบว่า สัญญาณการบ่งชี้ถึงการป่วยเป็นอัลไซเมอร์หรือโรคจิตเสื่อมต่าง ๆ ส่วนหนึ่งมาจากเรานอนหลับเพียงพอหรือไม่และคุณภาพการนอนเป็นอย่างไร

โดยจากการศึกษาของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาดพบว่า ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป หากในแต่ละคืนนอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงมีแนวโน้มป่วยเป็นโรคจิตเสื่อมเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือเสียชีวิตภายใน 5 ปี เมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกันแต่นอน 6-8 ชั่วโมงต่อคืน ขณะที่คนอายุ 20-64 ปี ควรนอน 7-9 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดี

นอกจากนี้เกตส์ยังได้เปลี่ยนทัศนคติต่อการนอนหลับหลังจากได้อ่านหนังสือ Why We Sleep ที่เขียนโดย Matthew Walker ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับและผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การนอนหลับของมนุษย์แห่ง University of California Berkeley (เกตส์ยกให้เป็นหนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือเล่มโปรดของเขาด้วย)

โดยหนังสือเล่มดังกล่าว จะอธิบายถึงกระบวนการนอนหลับ และหากละเลยการนอนไม่ว่าจะนอนไม่ครบ 8 ชั่วโมง หรือคุณภาพการนอนไม่ดี จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเรามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้ ความทรงจำ การตัดสินใจ อารมณ์ความรู้สึก ระบบภูมิคุ้มกันโรค เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งถึง 2 เท่า มีปัญหาต่อสุขภาพของหัวใจและสมอง ไปจนถึงอายุขัยของคนเราด้วย

นั่นยิ่งตอกย้ำให้เกตส์เห็นความสำคัญของการนอนที่เพียงพอ และเปลี่ยนทัศนคติตลอดจนพฤติกรรมการนอนของตัวเองในวัย 65 ปี โดยเห็นว่า การนอนหลับให้เพียงพอไม่ใช่นิสัยของคนขี้เกียจ แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย และทุกคนต้องนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน รวมถึงตัวเขาด้วย

เกตส์ยังแนะนำถึงการเพิ่มคุณภาพในการนอนหลับด้วยว่า ให้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้หลอดไฟ LED ภายในห้องนอน เพราะหลอดไฟชนิดนี้จะปล่อยแสงสีฟ้า ซึ่งจะส่งผลให้นอนไม่หลับออกมามากกว่าหลอดไฟชนิดอื่น ๆ 

รวมถึงควรนอนในห้องที่มีอุณหภูมิเหมาะสมกับการนอน โดยร่างกายของคนเราจะมีอุณหภูมิต่ำลงขณะนอนหลับ ดังนั้นเกตส์มักตั้งอุณหภูมิภายในห้องนอนของเขาไว้ที่ 65 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 18 องศาเซสเซียส 

เขายังแนะนำให้งีบหลับระหว่างวัน ก่อนเวลา 15.00 น. ด้วย เพราะจะช่วยปรับปรุงความคิดสร้างสรรค์และช่วยสุขภาพหลอดเลือดหัวใจให้ได้ดี (อย่างีบหลับหลัง 15.00 น.เนื่องจากจะทำให้กลางคืนหลับยากขึ้น)

เมื่ออ่านจบแล้ว คุณเห็นด้วยกับบิล เกตส์ หรือไม่ แสดงความคิดเห็นกันมาได้นะ

.

ภาพ : Getty Images

.

อ้างอิง

fastcompany

cnbc

Bill Gates Sleep

harvard