เฮนรี แควิลล์: พระเอกรักสัตว์ ผู้ (เคย) สวมบท ‘ซุปเปอร์แมน’ ด้วยชะตาที่ไม่แน่นอน

เฮนรี แควิลล์: พระเอกรักสัตว์ ผู้ (เคย) สวมบท ‘ซุปเปอร์แมน’ ด้วยชะตาที่ไม่แน่นอน

เฮนรี แควิลล์ (Henry Cavill) โบกมือลาบทบุรุษเหล็ก ‘ซุปเปอร์แมน’ (Superman) หลังเพิ่งประกาศว่าจะกลับมาเมื่อเดือนตุลาฯ ถือเป็นการปิดฉากความไม่แน่นอนของซุปเปอร์แมนเวอร์ชั่นแควิลล์ที่มา ๆ ไป ๆ พร้อมพลิกดูอีกด้านชีวิตที่เป็นคนรักสัตว์

  • เฮนรี แควิลล์ บอกลาบทซุปเปอร์แมนหลังประชุมกับ เจมส์ กันน์ และ ปีเตอร์ ซาฟราน
  • เฮนรี เกือบได้เป็นซุปเปอร์แมนในภาพยนตร์ ‘Superman Returns’ ในปี 2006
  • เขามีชีวิตอีกด้านกับการเดินหน้าบรรลุเป้าหมายกอบกู้สัตว์ที่อาจสูญพันธุ์

ผมได้มีการประชุมกับ เจมส์ กันน์ และ ปีเตอร์ ซาฟราน และผมก็มีข่าวร้ายจะมาบอกครับทุกคน… ต่อไปจากนี้ผมคงไม่ได้กลับคืนจอในบทบาท ‘ซุปเปอร์แมน’ อีกแล้ว…

นับเป็นข่าวที่ทำให้แฟน ๆ ผู้ติดตามจักรวาลภาพยนตร์ดีซี หรือเหล่าคนที่ชอบบุรุษเหล็ก ‘ซุปเปอร์แมน’ (Superman) เวอร์ชั่นล่าสุดรู้สึกผิดหวังไม่น้อย เมื่อ ‘เฮนรี แควิลล์’ (Henry Cavill) นักแสดงรูปหล่อมาดดี ออกมาประกาศข่าวสำคัญผ่านอินสตราแกรมของตัวเองว่าเขาจะ “ไม่กลับคืนจอในบทบาทซุปเปอร์แมน อีกแล้ว” หลังจากที่ได้ข้อสรุปจากการประชุมกับ CEO ของค่ายอย่าง เจมส์ กันน์ (James Gunn) และ ปีเตอร์ ซาฟราน (Peter Safran) 

ไม่เพียงแต่คนนอกอย่างเรา ๆ เท่านั้นที่รู้สึกช็อคกับข่าวนี้ เพราะแควิลล์เองก็รู้สึกไปในทำนองเดียวกัน เพราะหากย้อนกลับไปไม่นานก่อนหน้า ในช่วงเดือนตุลาคมของปี 2022 ก็มีข่าวออกมาแจงว่าแควิลจะกลับมารับบทซุปเปอร์แมนอีกครั้ง! แต่กลับกลายเป็นว่าสองเดือนต่อมาเกมดันพลิก…

ไม่เพียงแค่เขาจะไม่ได้กลับมาตอนนี้ แต่เขาจะไม่ได้กลับมา ‘อีกแล้ว’ 

แควิลล์เองก็แจงเรื่องนี้ไว้ในโพสต์ของตัวเองด้วย โดยเขาได้แสดงความเห็นกับความเปลี่ยนแปรไปมาของการตัดสินใจจากค่ายเอาไว้ว่า

การมาชี้แจงข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นั่นก็คือชีวิตแหละครับ ความเปลี่ยนแปรไปมาคือสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นแควิลล์ก็อธิบายต่อว่าเขาเคารพในการตัดสินใจจากทางเจมส์และปีเตอร์ผู้คุมหัวเรือใหญ่ของภาพยนตร์ค่ายดีซีและทิศทางการดำเนินต่อไปข้างหน้าของจักรวาล แม้ตนเองจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไปข้างหน้าอีกแล้ว แต่ตัวเขาก็ได้อวยพรให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลทุกคนดำเนินหน้าไปด้วยโชคที่ดีและความสุข

หลังจากอัพเดทสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมบอกลาและอวยพรกับทางดีซีจบสิ้น แควิลล์ก็หันหน้ากลับมาหาด้านหนึ่งที่สำคัญเอามาก ๆ สำหรับเขา ซึ่งก็คือผู้ชมและแฟน ๆ ทุกคนที่คอยติดตามเขาเสมอมา รวมถึงความหมายของบทบาทซุปเปอร์แมนที่แม้เขาจะจากไป แต่ตัวละครดังกล่าวยังคงแข็งแกร่งคอบพิทักษ์ผู้คนต่อไป โดยข้อความในส่วนนี้ของเขามีเนื้อหาดังนี้:

ถึงทุกคนที่ยืนเคียงข้างกันเสมอมา จะเศร้าจะโศกกันเสียหน่อยก็คงไม่เป็นอะไร แต่พวกเราต้องจดจำไว้อย่างหนึ่ง ซุปเปอร์แมนยังคงไม่หายไปไหน ทุกสิ่งที่เขายืนหยัดยังคงเดิม รวมถึงตัวอย่างมากมายที่เขามุ่งแสดงให้เห็นก็ยังคงแจ่มชัดไม่คลายหาย ช่วงเวลาแห่งการสวมผ้าคลุมของผมได้เคลื่อนผ่านไปแล้ว แต่ไม่ใช่กับสิ่งที่ซุปเปอร์แมนต่อสู้เสมอมา การเดินทางร่วมกับพวกคุณทุกคนเป็นอะไรที่สนุกมาก ๆ ครับ…

ซุปเปอร์แมนกับความไม่แน่นอน

ถ้าจะอธิบายเหตุการณ์นี้ว่าทำให้ เฮนรี แควิลล์ ‘อดเป็นซุปเปอร์แมน’ ก็คงไม่ถูกเสียทีเดียวนะ เพราะแควิลล์เองก็ได้แสดงบทบาทบุรุษเหล็กแบบเต็ม ๆ ไปแล้วกว่าสามเรื่อง (ไม่รวมบทบาท Cameo) ไม่ว่าจะเป็น Man of Steel (2013), Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) และ Justice League (2017) แต่คงต้องเสริมเพิ่มไปอีกสักคำเป็น ‘อดเป็นซุปเปอร์แมนต่อ’

แต่สาเหตุที่เราเอ่ยถึงเรื่องราวการอดเป็นซูปเปอร์แมนของแควิลล์ก็เพราะว่า ก่อนหน้าที่จะได้ครองบทบาทซุปเปอร์แมนในปี 2013 ย้อนกลับไปเกือบสิบปี แควิลล์ก็เกือบจะได้เป็นบุรุษเหล็กใน Superman Returns (2006) ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ก่อนที่ท้ายที่สุด ‘แบรนดอน เราธ์’ (Brandon Routh) จะคว้าผ้าคลุมแดงไปสวมแทน 

ย้อนกลับไปในตอนนั้นโปรเจคภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวไม่ได้มีชื่อเหมือนที่มันถูกปล่อยออกมาในภายหลัง แต่มันมีชื่อว่า ‘Superman: Flyby’ ซึ่งในโปรเจคนี้มีผู้กำกับหลายคนที่มาเกี่ยวโยงกับการสร้างของมัน แต่ในช่วงที่ ‘แม็กจี’ (McG) นั่งแท่นผู้กำกับอยู่นั้น เฮนรี แควิลล์ก็เป็นหนึ่งในนักแสดงที่เขาเล็งไว้มาให้เล่นบุรุษเหล็กด้วย ถึงขั้นที่ว่าได้ลองสวมชุดแล้วลองถ่ายภาพเพื่อทดสอบหน้ากล้องกันไปแล้วเลยด้วย

แต่ท้ายที่สุดแล้วแม็กจีก็ไม่ได้เดินหน้าต่อไปกับโปรเจคด้วยเหตุผลหลายประการ ทำให้ ‘ไบรอัน ซิงเกอร์’ (Bryan Singer) ก้าวขึ้นกำกับโดยมีเราธ์แสดงเป็ยซุปเปอร์แมนดังที่เราได้เห็นกันในภาพยนตร์เวอร์ชั่น 2006 นับว่าเป็นการคลาดบทครั้งแรกของแควิลล์ แต่ก็ไม่แน่ ถ้าหากแควิลล์ได้บทตั้งแต่ในวันนั้น เราอาจจะไม่เห็นเขาในเวอร์ชั่นปัจจุบันก็เป็นได้

อย่างที่เราทราบกันว่าเส้นทางชีวิตและการแสดงก็ดำเนินต่อเรื่อยมา จนได้มาสวมผ้าคลุมสีแดงจริง ๆ ในปี 2013 กับ Man of Steel จนทำให้ชื่อของเขาขยายไปกว้างไกลกว่าเดิม แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่มีภาคต่อจากภาพยนตร์ภาคแรก มีเพียงภาพยนตร์ที่รวมตัวละครอื่น ๆ อย่าง Batman v Superman: Dawn of Justice และ Justice League แทน 

แต่หลังจาก Justice League ก็เป็นระยะเวลากว่า 5 ปีที่ไม่มีการสร้างภาคต่อของซุปเปอร์แมนเลย ไม่ว่าจะแควิลล์หรือแฟน ๆ ผู้ติดตามทุกคนก็เฝ้ารออย่างมีความหวัง จนกระทั่งเดือนตุลาคมมีการออกมาบอกว่าซุปเปอร์แมนจะกลับมา แต่สองเดือนต่อมาสถานการณ์ก็ผันแปรไปเป็นอย่างที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้า

 

ถอดผ้าคลุมร่วมช่วยอนุรักษ์

ผมคิดว่าการรักษาความแตกต่างหลากหลายทางสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกของเราจะสำคัญขึ้นอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้ครับ

คือถ้อยคำที่ เฮนรี แควิลล์ ให้สัมภาษณ์กับ BBC เกี่ยวกับประเด็นที่เขาได้เข้าร่วมและเป็นตัวแทนของ ‘The Durrell Wildlife Conservation Trust’ ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์ที่มีเป้าหมายมุ่งรักษาให้สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ บนโลกใบนี้จากการสูญพันธุ์ ตัวแควิลล์เองก็เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรนี้ตั้งแต่ยังเด็กแล้ว เขาอาจจะรู้หรือไม่รู้จัก แต่ย้อนกลับไปในตอนนั้น องค์กรดังกล่าวเป็นองค์กรที่สร้างสวนสัตว์ที่แควิลล์มักไปตอนเด็ก

แควิลล์ก็ได้เป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ไปถึงเป้าหมายอย่างจริงจัง โดยเขาได้ไปลงพื้นที่กว่า 50 โปรเจคที่องค์กรได้ริเริ่มเอาไว้ แถมยังเข้าร่วมกับแชลเลนจ์กาวิ่งเพื่อการกุศลในชื่อ ‘Durell Challenge’ อีกด้วย แต่ก็ยังไม่ได้หยุดแค่นั้น แม้จะไม่ได้เป็นแบทแมน แต่เขาก็ได้นับอุปถัมภ์พันธุ์ค้างคาวที่มีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ด้วยตัวเองอีกต่างหาก 

และนี่ก็เป็นเพียงด้านหนึ่งของชีวิตผู้ (เคย) สวมบทบาทซุปเปอร์แมน แต่เอาตามจริงก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น ที่เห็นว่ามุ่งหน้าแสดงภาพยนตร์และช่วยสัตว์โลกอยู่แบบนี้ หากไปสำรวจอีกด้านหนึ่ง แควิลล์นี่เรียกได้ว่าเป็นเกมเมอร์ตัวยงเลยทีเดียว สามารถอ่านข้อมูลดังกล่าวต่อได้ที่บทความ ‘เฮนรี แควิลล์ พระเอกติดเกม

 

ภาพ

ซ้าย - IMDb

กลาง - Axelle/Bauer-Griffin / Contributor - Getty Images

ขวา - Instagram: @henrycavill

 

อ้างอิง

The Untold Truth Of Henry Cavill - Looper

Henry Cavill Returning As Superman - Deadline

Superman actor Cavill joins wildlife trust - BBC