15 ม.ค. 2562 | 17:27 น.
ศตวรรษที่แล้ว การมีกองทัพม้าในครอบครองหลายสิบม้า อาจเทียบได้กับกองร้อยยานเกราะขนาดย่อม ที่พร้อมสำหรับศึกสงคราม แต่ในปัจจุบันฝูงอาชาจำนวนนี้ กำลังถูกใช้เป็นอาวุธหลักในการสร้างความหวังให้กับเด็กพิเศษ นั่นคือความตั้งใจของคนเลี้ยงม้าที่ชื่อ เลิศพงษ์ มั่นวงศ์ “ครอบครัวผมเป็นตระกูลคนเลี้ยงม้า เลี้ยงม้ามานานเกือบร้อยปี ผมที่เป็นรุ่นที่สาม เลยได้คลุกคลีอยู่กับม้ามาตั้งแต่หัวยังสูงไม่พ้นหลังม้าเลย” ตระกูลมั่นวงศ์ เริ่มต้นเลี้ยงม้ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2471 โดย แดง มั่นวงศ์ เป็นผู้บุกเบิกการเลี้ยงม้าพันธุ์พื้นเมืองเป็นรายแรกๆ ของจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อใช้ม้าเป็นพาหนะในการเดินทางรับกิจนิมนต์ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งอยู่ห่างไกล ไม่ต่างจากการใช้รถยนต์ในปัจจุบัน . ต่อมาในปี 2500 สนิท มั่นวงศ์ พ่อของเลิศพงษ์ ได้นำม้ามาใช้ลากรถเพื่อบรรทุกสินค้าท้องถิ่นไปจำหน่ายในตัวเมือง แล้วขยายเป็นการเลี้ยงม้าแข่งในสนามม้า ช่วงที่เศรษฐกิจของจังหวัดอุบลฯ กำลังเฟื่องฟูจากการที่ทหารสหรัฐฯ เข้ามาตั้งฐานทัพระหว่างสงครามเวียดนาม สมาชิกตระกูลมั่นวงศ์หลายคนเลยได้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับม้า ทั้งจ๊อกกี้แชมป์ประเทศไทย 5 ปีซ้อน ที่เคยได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ดาร์บี้ (Derby) 1 สมัย อย่าง ประดิษฐ์ มั่นวงศ์ ซึ่งยังคงทำอาชีพผู้ฝึกซ้อมม้าแข่งฝีเท้าเยี่ยมระดับประเทศอยู่ที่นครราชสีมา และ อุทิศ มั่นวงศ์ ที่เป็นหัวหน้าคอกม้าที่สโมสร The Horses เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสโมสรขี่ม้าระดับนานาชาติ ที่นำม้าออกไปแข่งขันประเภทขี่ม้ามาราธอน (Endurance Horse) จนได้แชมป์ระดับนานาชาติหลายปีติดต่อกัน ส่วน เลิศพงษ์ หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในปี 2546 ก็ได้ทำงานที่ สมาคมราชกรีฑาสโมสร โปโลคลับ อยู่หลายปี ในตำแหน่งผู้ดูแลม้า (Stable Supervisor) ประจำแผนกขี่ม้า ก่อนจะออกมารับช่วงต่อคอกม้าของครอบครัว ซึ่งน่าจะเป็นคอกม้าแข่งคอกเดียวและคอกสุดท้ายที่เหลืออยู่ของที่นี่ “ผมเลี้ยงม้าต่อจากรุ่นพ่อแม่ เมื่อเกือบสิบปีที่แล้วได้เปิดสโมสรขี่ม้าอุบลโพนีคลับ เป็นสโมสรขี่ม้าเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกของสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย เราตั้งเป้าว่าจะช่วยให้กับชาวอุบลฯ และจังหวัดใกล้เคียง ได้มีประสบการณ์ในการขี่ม้าที่สนุก ปลอดภัย และถูกต้องตามหลักขี่ม้าสากล”