04 ธ.ค. 2561 | 18:33 น.
“Fantasista มหัศจรรย์สิงห์นักเตะ” คือการ์ตูนญี่ปุ่นในดวงใจของ ‘เจ’ ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลชื่อดังของไทย ซึ่งนอกจากความหลงใหลส่วนตัวในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องนี้แล้ว การ์ตูนเรื่องนี้ยังมีเค้าโครงเรื่องที่คล้ายกับชีวิตจริงของเจ้าเจ อีกด้วย “Fantasista มหัศจรรย์สิงห์นักเตะ” คือผลงานเขียนของ มิชิเทรุ คุซาบะ เป็นเรื่องราวของ ซากาโมโต้ เทปเป้ พระเอกของเรื่อง นักฟุตบอลร่างเล็กจากเกาะคิวชูที่เต็มไปด้วยทักษะและพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอล เทปเป้ ฝันว่าวันหนึ่งเขาจะต้องเป็นนักฟุตบอลระดับโลกให้ได้ แม้ในช่วงแรกจะไม่ได้การยอมรับจากเพื่อนร่วมทีมก็ตาม แต่ด้วยความรักในฟุตบอลและความมุ่งมั่นทำให้เขาได้มีโอกาสไปค้าแข้งกับ เอซี มิลาน ทีมดังจากศึก กัลโช่ เซเรีย อา ของอิตาลี และประสบความสำเร็จกลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นที่ได้การยอมรับมากที่สุดคนหนึ่ง [caption id="attachment_1252" align="aligncenter" width="258"]
ชนาธิป เป็นคนที่หลงใหลในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอยู่แล้ว และการ์ตูนญี่ปุ่นก็กลายเป็นสิ่งที่เขาชอบไม่แพ้ฟุตบอลเลยทีเดียวโดยเฉพาะการ์ตูนที่เกี่ยวกับฟุตบอล ในวัยเด็กเขามักจะใช้เวลาว่างที่เหลือจากการเล่นฟุตบอลไปเช่าการ์ตูนมาอ่านเสมอ “พอนั่งรถโรงเรียนไปถึงโรงเรียนผมต้องออกไปเช่าหนังสือก่อนที่จะหยิบหนังสือเรียนอีก ผมจะชอบอ่านพวกนิยายของแจ่มใส การ์ตูนก็ชอบอ่านนารุโตะ แล้วก็การ์ตูนฟุตบอลอย่าง Fantasista มหัศจรรย์สิงห์นักเตะ” การเปรียบเทียบระหว่าง ชนาธิป กับ เทปเป้ ถูกพูดถึงมากขึ้นในช่วงที่เขาย้ายไปคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ใหม่ ๆ ซึ่งนอกจากเขาจะใส่เสื้อและเบอร์แข่ง (เบอร์ 18) เหมือนกับพระเอกของเรื่องแล้ว ที่มาของท่าดีใจหลังทำประตูได้ของชนาธิป ก็มาจากท่าของตัวละครใน Fantasista อย่าง มัลโค คุโอเร่ “อีกคนในเรื่องที่ผมชอบก็คือ มัลโค คุโอเร่ ตัวเอกในเรื่องเขาตัวเล็กเหมือนกับผม คือเขาจะใช้จินตนาการ ในการเล่นบอล ทำให้เห็นภาพล่วงหน้าประมาณสามวินาทีก่อนที่บอลจะมา ผมเลยทำท่าหน้านี้ (ท่าตอนที่ยิงประตูบรินเบนได้) ว่าผมได้วาดจินตนาการลงไปแล้ว บ้าไหม?” ย้อนไปเมื่อ 30 ปีก่อน มีพ่อค้าขายขนมหวานคนหนึ่งที่รักฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ได้ไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับหลวงพ่อวัดไร่ขิงไว้ว่า หากตนมีลูกชายก็อยากให้เก่งเหมือนยอดนักเตะอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นชะตาฟ้าลิขิตหรือไม่ที่ ชนาธิป ดันเกิดในเดือนตุลาคมแถมออกมาตัวเล็กเหมือนกับมาราโดน่าอีกด้วย “แรงบันดาลใจของผมจริง ๆ แล้ว คงต้องเป็นพ่อผมน่ะแหละ เพราะพ่อผมปลูกฝังผมมา เขาใช้วิธีแบบครูพักลักจำ เริ่มต้นจากการไม่มีความรู้เรื่องฟุตบอล แต่ไปดูไปศึกษามาจากคนอื่น แล้วเอามาปรับใช้ ตอนนี้ก็เรียนรู้ขึ้นเรื่อย ๆ ให้ตัวเองเอามาสอนต่อได้ ผมว่าพ่อผมเป็นแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดสำหรับผม” [caption id="attachment_1258" align="aligncenter" width="386"]
ตั้งแต่เด็ก ชนาธิป ถูกปลูกฝังทักษะการเล่นฟุตบอลมาจากคุณพ่อของเขา ก้องภพ สรงกระสินธ์ ซึ่งเปรียบเหมือนเป็น ซากาโมโต้ โคโตเนะ โค้ชและพี่สาวของเทปเป้ คนที่คอยสอนทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟุตบอลให้กับเทปเป้ แถมในเรื่องโคโตเนะก็มักจะหาวิดีโอการเล่นของมาราโดน่าให้เทปเป้คอยเลียนแบบ เหมือนกับชีวิตจริงของชนาธิปเลย “เมื่อวานพี่ฉันเปิดวิดีโอของมาราโดน่าให้ดูน่ะ” ประโยคที่เทปเป้ อธิบายถึงที่มาการจับบอลอันน่าทึ่งของเขา “พออ่านไปแล้ว (Fantasista ) รู้สึกเหมือนว่ามันเป็นตัวเรา ในเรื่องตัวเอกคือ ซากาโมโต้ เทปเป้ ที่มีพี่สาวเป็นคนคอยเคี่ยวเข็ญ คอยสอนมาตั้งแต่เด็ก สำหรับผมก็มีพ่อเป็นคนที่คอยสนับสนุน” ชนาธิป พูดถึงมุมหนึ่งในชีวิตจริงของเขา ที่เหมือนกับใน Fantasista สไตล์การเล่นของชนาธิป เปี่ยมไปด้วยทักษะอันน่าทึ่ง ราวกับว่า เทปเป้ หลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนยังไงยังงั้น ทั้งเรื่องของการสร้างสรรค์จังหวะให้เพื่อนทำประตู หรือยามที่ทีมเสียบอลทั้งคู่ก็มักจะชอบวิ่งไล่บอลไม่มีเหนื่อยเพื่อช่วยให้ทีมกลับมาครองบอลเสมอ และที่สำคัญทั้งคู่มักจะมีจังหวะลากเลื้อยโซโล่จากกลางสนามไปทำประตูได้เหมือนกันอีกด้วย โดยเฉพาะในรอบคัดเลือกนัดสุดท้ายของศึกเอซีแอล เมื่อปี 2017 ชนาธิป เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่เส้นวงกลมของสนามหลบสองกองหลังของบริสเบน เข้าไปทำประตูได้ เหมือนกับที่เทปเป้ เคยทำในเกมประเดิมสนามของเขาเช่นกัน
คำว่า Fantasista จริง ๆ แล้วแปลว่าเพลย์เมกเกอร์ หรือ ตัวเปลี่ยนเกม ซึ่งเป็นตำแหน่งถนัดของชนาธิป ย้อนไปในช่วงแรกกับซัปโปโร ชนาธิป ไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีมมากนัก ไม่มีใครคอยส่งบอลให้เขาเหมือนสมัยก่อน ตลอดทั้งเกมเขาต้องวิ่งไปทั่วสนาม คอยไล่บอลและหาจังหวะด้วยตัวเอง และทุกครั้งที่เขามีโอกาสชนาธิปก็ไม่เคยปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป เขาเริ่มแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตัวเอง จนสุดท้ายชนาธิปกลายเป็นคนที่เพื่อนไว้ใจและอยากจะส่งบอลให้เสมอ ชนาธิปเคยพูดไว้ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นว่า วันหนึ่งเขาจะเป็น Fantasista ให้กับซัปโปโรให้ได้ “จะพยายามครับ จะพยายามเป็นให้ได้ ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของทีม อยากไปช่วยทีมเขาและสร้างความแตกต่างให้ได้ ผมไปทีมเขาอาจจะอยู่อันดับนี้ ผมอยากไปทำให้ทีมเขาอันดับดีขึ้น” [caption id="attachment_1254" align="aligncenter" width="386"]
“ความสำเร็จไม่มีทางลัด ไม่มีใครซื้อความฝันได้ เราต้องทำมันด้วยตัวเราเอง” เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์
ที่มา : https://www.gmlive.com/ความฝันชนาธิปและความหวังของFantasistaในซัปโปโร https://www.youtube.com/watch?time_continue=131&v=AYMjENs_Mt0 https://www.instagram.com/p/BS8v7sRBKQn/