08 พ.ย. 2566 | 16:57 น.
“ขอไม่วิจารณ์ประเด็นดังกล่าว ขอไม่ทำอะไรให้พรรคแปดเปื้อนไปมากกว่านี้ ขอออกมา ขอให้พรรคเดินหน้าต่อไปตามอุดมการณ์ เพื่อวันหนึ่ง พรรคก้าวไกลจะเป็นรัฐบาลในอนาคต มีอะไรที่จะช่วยยกมือในสภา ก็จะช่วยเต็มที่ เท่าที่คน ๆ หนึ่งจะช่วยได้”
หนึ่งในท่อนของบทสัมภาษณ์สุดท้ายทั้งน้ำตาของ ส.ส.ที่ถูกพูดถึงที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาจากพรรคก้าวไกล ‘ปูอัด - ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์’ จากเขตจอมทอง - บางขุนเทียน
สิ่งที่กลายเป็นประเด็นในข้อถกเถียงเรื่องความประพฤติของ 2 ส.ส.พรรคก้าวไกล คือ ‘ปูอัด’ และวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 2 กลับเป็นหอกที่พุ่งตรงไปสู่พรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ที่บอกว่า ทำการเมืองแบบใหม่ และยกระดับจริยธรรม ไม่ทำการเมืองแบบเดิม ๆ สั่นคลอนความเชื่อมั่นของ ‘ด้อมส้ม’
โดยเฉพาะประเด็นที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือ ‘มติที่ไม่เท่ากัน’ เมื่อการประชุมนัดแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีมติขับวุฒิพงศ์ พ้นพรรค แต่ในกรณีของไชยามพวาน เสียงในการลงมติชี้ขาดกลับไม่เป็นเอกฉันท์ ทำได้แค่เพียง “ตัดสิทธิ์เด็ดขาด” ในพรรค เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ระบุว่าจะต้องใช้เสียง ส.ส. 3 ใน 4 ของพรรคในการขับพ้นสมาชิก แต่ในเคสของปูอัดนั้นเสียงไม่ถึง
ทำให้เกิดคำถามว่าใครคือ 22 ส.ส.ที่โหวตเลือกจะเซฟปูอัด มีการคาดเดาต่าง ๆ นานา ซึ่งทั้งตัว เพชร - กรุณพล เทียนสุวรรณ โฆษกของพรรคก้าวไกล และ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค สั่งห้ามส.ส.ให้ข่าวจนมีไลน์หลุด และมีการเลี่ยงไปว่า กรณีที่มีการพยายามคาดเดารายชื่อ 22 ส.ส.นั้น เป็นการ ‘ล่าแม่มด’ ซึ่งในความเป็นจริง การโหวตภายในวันนั้นเป็นการโหวตโดยเปิดเผย
ส.ส.หลายคนในพรรคออกมาพาเหรดยืนยันว่า เป็นผู้ร่วมลงมติในการขับส.ส.ไชยามพวาน ทั้ง รักชนก ศรีนอก, ธิษะณา ชุณหะวัณ หรือ ‘ทนายแจม’ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ที่เป็นส.ส.หญิงออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับมติที่ไม่ขับส.ส.คนดังกล่าวออกจากพรรค โดยย้ำว่า ในการลงมติครั้งแรกนั้น “ไม่มีคำขอโทษ” จากส.ส.ชายที่ตกเป็นผู้ถูกพิจารณา
กว่าจะมาถึงวันนี้ ปูอัด เองก่อนที่จะเข้ามาสู่การเมืองก็ผ่านงานบันเทิงมาก่อน ทั้งการประกวดร้องเพลง a-play Singing Fighter รหัส AP30 ของสถานีวิทยุออนไลน์ a-play และแสดงภาพยนตร์ ชอบกด Like ใช่กด Love ของค่ายพระนครฟิล์ม ประกบกับ มอส - ปฏิภาณ ปัฐวีกานต์ มาแล้ว และด้วยความสนใจทางการเมืองก็เคยชิมลางจากการประกวดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ทางช่องบลูสกายแชนเนล ของพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง ‘The Governor ผู้ว่าฯหน้าใหม่’
ถึงแม้ปูอัดจะเคยกล่าวในการแถลงครั้งแรกหลังลงมติว่า “ตนเองเติบโตมาจากอนาคตใหม่” แต่หากย้อนกันตามจริงแล้ว ปูอัด คือผลผลิตลูกหม้อจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยเคยเป็นสมาชิกกลุ่ม New Dem ที่รวบรวมคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงเลือกตั้งในปี 2562 ที่มีแกนนำอย่าง ปลื้ม - สุรบถ หลีกภัย, หมอเอ้ก คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ และ ไอติม - พริษฐ์ วัชรสินธุ โดยเคยปรากฏภาพปูอัดไปช่วยไอติมลงพื้นที่หาเสียงเมื่อครั้งลงสมัครในเขตบางกะปิ-วังทองหลาง และหลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ปูอัด ก็ไปทำงานในบริษัทที่พริษฐ์ เป็นผู้บริหารอย่าง StratDee แพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยปูอัดเข้าไปร่วมทำ UX Research
เมื่อเกิดการเคลื่อนไหวชุมนุมของม็อบราษฎร ปูอัดเองก็มีส่วนเข้าไปเคลื่อนไหวทางการเมืองตัวแทนกลุ่ม Resolution รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ‘ร่างรื้อระบอบประยุทธ์’ และท้ายที่สุดทั้งพริษฐ์ และไชยามพวาน ได้ย้ายเข้ามาอยู่สังกัดพรรคก้าวไกล โดยพริษฐ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนไชยามพวาน ลงสมัครในแบบส.ส.เขต จอมทอง-บางขุนเทียน
ในเลือกตั้งปี 2566 ไชยามพวาน ต้องมาโคจรเจอกับ ‘งูเห่าส้ม’ อย่างโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี อดีตส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ที่เมื่อเกิดเหตุยุบพรรคก็รีบย้ายเข้าไปสังกัดของพรรคภูมิใจไทย โดยครั้งนี้ โชติพิพัฒน์ หวังจะสร้างตำนาน ‘บ้านใหม่’ ฝั่งธนฯ เพราะนอกจากตัวเองแล้วยังส่งภริยาอย่าง เจณิสตา เตชะโสภณมณี ลงส.ส.เขตคลองสาน-ราษฎร์บูรณะ
แต่ก็ไม่อาจต้านทานกระแส ‘มีเราไม่มีลุง’ ของพรรคก้าวไกล ที่กวาดส.ส.กรุงเทพฯ ได้ถึง 32 จาก 33 เขต ส่งให้ลูกหม้อประชาธิปัตย์ได้เป็นส.ส.สมัยแรกชนิดที่เรียกว่า ทิ้งโชติพิพัฒน์ ขาดลอย และเป็นหนึ่งในส.ส.รุ่นใหม่ที่น่าจับตา เพราะเคยร่วมเคลื่อนไหวในการขับไล่ระบอบประยุทธ์มาก่อน
ท้ายที่สุด ชะตาพลิกผันเมื่อมีเหตุพัวพันกับเหตุ ‘ล่วงละเมิดทางเพศ’ และเมื่อมีการแถลงก็ยิ่งทำให้ภาพของพรรคดูเสียหาย ชนิด ‘เจ็บนี้รสปูอัด’ อย่างแท้จริง ทั้งในโลกออนไลน์ที่เกิดแฮชแท็ก #ปูอัดก้าวไกล และท่าโค้งขอขมาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกนำไปเป็นอินเทอร์เน็ตมีมซึ่งถูกส่งต่อ แต่เจ้าตัวไม่สามารถชี้แจงให้สังคมหมดข้อสงสัย แม้กระทั่งผู้เกี่ยวข้องในพรรคหลายคนก็ออกมาตั้งคำถาม
ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกลได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวว่า “การใช้อำนาจที่ได้จากตำแหน่งไปจูงใจล่อลวงบุคคลอื่นให้กระทำตามต้องการเพื่อแลกเปลี่ยนกัน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวพันเรื่องเพศ เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในยุคสมัยนี้ และพรรคก้าวไกลต้องยกระดับมาตรฐาน ป้องกัน ต่อต้านการคุกคามทางเพศ และความรุนแรงทางเพศในองค์กรหรือสถานที่ทำงานให้ได้ตามที่โฆษณาไว้
และหลังจากเกิดมติอัปยศดังกล่าวทำให้สังคมเห็นถึงรอยร้าวในพรรคก้าวไกลที่แบ่งออกเป็นก๊กเป็นเหล่าค่อย ๆ ปริออกจากกัน ถึงการเลือกปฏิบัติ เมื่อวุฒิพงศ์ ส.ส.ที่โดนขับออกให้สัมภาษณ์ว่า “เป็นเรื่องของการเมือง ตนอาจเป็น ส.ส. ต่างจังหวัด ส.ส.ภูธร ทำงานเรื่อง มลพิษ ค้านเรื่องเหมือง การเป็นคอนเน็กชั่นกับเพื่อน จะมีเพื่อนทางสิ่งแวดล้อมเยอะ แต่ว่าไม่มีคอนเน็กชั่นกับเพื่อนที่เป็นการทำงานเชิงการเมืองที่ต้องรู้จักคนเยอะ”
ซึ่งเกิดการเรียกร้องให้ปูอัด แสดงสปิริตเพื่อลาออก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ โดยการเคลื่อนไหวของไชยามพวาน มีเพียงการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนท้ายที่สุดเมื่อภาวะ ‘ไม่อุ้มก็เสียเพื่อน อุ้มก็เสียพรรค’ ทำให้พรรคก้าวไกลกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องประชุมรอบที่ 2 และมีมติขับไชยามพวาน พ้นพรรค
คำถามคือ การประชุมนัดที่ 2 นั้นเป็นไปเพื่อการรักษาหลักการ หรือรักษาสถานะของพรรคที่ถูกตั้งคำถามหนักขึ้น?
ไชยามพวาน ทิ้งทวนในการให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายทั้งน้ำตาหลังทราบผลการโหวตครั้งที่ 2 ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่ใช่พรรค หากจะโทษก็ขอให้โทษตนเพียงคนเดียว เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดของตนเพียงคนเดียว ถือเป็นบทเรียนมหาศาล และเป็นสิ่งที่ทำให้ตนเรียนรู้ว่า เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว สิ่งที่เคยทำ บางอย่างจะไม่สามารถทำได้
แต่ในความเป็นจริงนั้น ‘การล่วงละเมิดทางเพศ’ ไม่ควรเกิดกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือบุคคลสาธารณะไม่ใช่หรือ?
ไม่มีใครทราบได้ว่า รอยร้าวในก้าวไกลครั้งนี้จะนำไปสู่อะไรบ้าง เพราะแค่ศึกสภาถือว่าหนักหน่วงแล้ว การที่มีเรื่องภายในต้องจัดการถือว่า สั่นคลอนไม่มากก็น้อย
เรื่อง: พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ
ภาพ: แฟ้มภาพจาก NATION PHOTO
อ้างอิง: