ผลเนชั่นโพล ครั้งที่ 2 ‘พิธา-ก้าวไกล’ มาแรงท้าเพื่อไทย ฟากอนุรักษนิยมส่อต้องเร่งเครื่อง

ผลเนชั่นโพล ครั้งที่ 2 ‘พิธา-ก้าวไกล’ มาแรงท้าเพื่อไทย ฟากอนุรักษนิยมส่อต้องเร่งเครื่อง

เนชั่นโพล ครั้งที่ 2 ยังสะท้อนกระแสของ ทิม - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล มาแรงท้าทายขั้วพรรคเพื่อไทย ส่วนผลโพล ส.ส.บัญชีรายชื่อและแบ่งเขต พรรคที่นำมา 2 อันดับแรก คือเพื่อไทยและก้าวไกล สะท้อนสัญญาณแลนด์สไลด์ของฝั่งเสรีนิยม?

ทีมทำโพล ‘เนชั่นโพลเลือกตั้ง 66’ รายงานผลการรวบรวมข้อมูล เนชั่นโพล ครั้งที่ 2 ตามหลังจากครั้งที่ 1 ซึ่งได้รายงานผลไปเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน 2566 เรียบร้อยแล้ว สำหรับเนชั่นโพลครั้งที่ 2 ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างรวมทั้งประเทศพบว่า คนที่อยากให้เป็นนายกฯ ที่สุด อันดับแรกคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แห่งพรรคก้าวไกล ตามมาด้วย แพทองธาร ชินวัตร แห่งพรรคเพื่อไทย และอันดับ 3 คือเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทยเช่นกัน

สำหรับการจัดโพล มีเครือข่ายจัดทำ ‘เนชั่นโพลเลือกตั้ง 66’ ได้แก่ 1. มหาวิทยาลัยนวมินธราธิราช 2. ที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) 3. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ 4. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ 5. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี 6. สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา

กลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้มีจำนวน 115,399 ตัวอย่าง แบ่งเป็น กทม.จำนวน 35,969 ตัวอย่าง และภูมิภาค 79,430 ตัวอย่าง

การสำรวจในต่างจังหวัด 367 เขต ทีมงานลงพื้นที่สำรวจระหว่าง 24 เม.ย. - 3 พ.ค. และการสำรวจใน กทม. 33 เขต ทีมงานลงพื้นที่สำรวจระหว่าง 28 เม.ย. - 3 พ.ค.

การสำรวจมีค่าความคลาดเคลื่อน (error) ดังนี้ กทม. 33 เขต อยู่ที่ 3%, เขตเมืองสำคัญต่างจังหวัด 8 เขต อยู่ที่ 5% และเขตเลือกตั้ง 359 เขต อยู่ที่ 7% 

ผลเนชั่นโพล ครั้งที่ 2 ‘พิธา-ก้าวไกล’ มาแรงท้าเพื่อไทย ฟากอนุรักษนิยมส่อต้องเร่งเครื่อง

ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างรวมทั่วประเทศ เมื่อถามว่าคนที่อยากได้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด ผลออกมาดังนี้

1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์                       พรรคก้าวไกล        29.4%
2. แพทองธาร ชินวัตร                     พรรคเพื่อไทย        27.57%
3. เศรษฐา ทวีสิน                           พรรคเพื่อไทย        13.26%
4. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา         พรรครวมไทยสร้างชาติ    8.85%
5. ไม่แน่ใจ / ยังไม่ตัดสินใจ                                                  5.33%
6. อนุทิน ชาญวีรกูล                       พรรคภูมิใจไทย               4.03%
7. จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์                  พรรคประชาธิปัตย์           2.49%
8. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ          พรรคพลังประชารัฐ         2.37%
9. ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้                                                1.66%
10. วันมูหะมัดนอร์ มะทา                พรรคประชาชาติ             1.56%
11. สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์                 พรรคไทยสร้างไทย         1.23%
12. พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส    พรรคเสรีรวมไทย             1.1%
13. วราวุธ ศิลปอาชา                     พรรคชาติไทยพัฒนา       0.49%
14. กรณ์ จาติกวณิช                      พรรคชาติพัฒนากล้า        0.38%
15. อื่น ๆ                                                                            0.28%

จากสัดส่วนของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในโพลเนชั่นครั้งที่ 2 จะเห็นว่า พิธา แซงขึ้นมานำแพทองธาร ชินวัตร แล้ว หากย้อนกลับไปดูโพลเนชั่นครั้งที่ 1 ณ 15 เมษายน 2566 ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศเลือกคนที่อยากได้เป็นนายกฯ มากที่สุด ผลออกมาเป็นแพทองธาร มากที่สุดที่ 33.81% ไม่แน่ใจ/ยังไม่ตัดสินใจ 22.58% และตามมาด้วย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ 16.87%

แต่ผลโพลเนชั่นครั้งที่ 2 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่เคยไล่ตามหลังแพทองธาร ถึง 17% กลับแซงมาเป็นอันดับ 1 แทน ส่วนผลรวมของแพทองธาร ลดลงมาเหลือ 27.57%

ย้อนดูผลเนชั่นโพลครั้งที่ 1 ที่นี่

ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างรวมทั่วประเทศว่าเลือก ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ (บัญชีรายชื่อ) สังกัดพรรคใด ผลสำรวจออกมาดังนี้

1. เพื่อไทย                          39.82%
2. ก้าวไกล                           29.22%
3. รวมไทยสร้างชาติ             7.45%
4. ไม่แน่ใจ/ยังไม่ตัดสินใจ     7.07%
5. ภูมิใจไทย                        4.83%
6. ประชาธิปัตย์                    3.96%
7. พลังประชารัฐ                  3.18%
8. ประชาชาติ                      1.48%
9. ไทยสร้างไทย                  0.99%
10. เสรีรวมไทย                   0.82%
11. ชาติไทยพัฒนา              0.68%
12. ชาติพัฒนากล้า              0.34%
13. ไทยภักดี                       0.07%
14. อื่นๆ                              0.05%
15. ไทยศรีวิไลย์                   0.05%

ผลเนชั่นโพลครั้งที่ 2 พรรคเพื่อไทยยังครองอันดับ 1 ไม่ต่างจากเนชั่นโพลครั้งที่ 1 และมีสัดส่วนที่มากขึ้น โดยโพลครั้งที่ 1 พรรคเพื่อไทยมี 35.75% ส่วนโพลครั้งที่ 2 เพื่อไทยได้ 39.82% 

ขณะที่พรรคก้าวไกล เนชั่นโพลครั้งที่ 1 เคยได้ที่ 16.02% รั้งอันดับ 3 ในตาราง (อันดับ 2 คือ ไม่แน่ใจ/ยังไม่ตัดสินใจ 32.27%) มาในเนชั่นโพลครั้งที่ 2 ซึ่งทิ้งระยะห่างจากโพลครั้งที่ 1 เพียง 2 สัปดาห์ ผลของโพลครั้งที่ 2 ก้าวไกล ได้ถึง 29.22% เพิ่มขึ้นถึง 13%

ย้อนดูผลเนชั่นโพลครั้งที่ 1 ที่นี่

หากพิจารณาจากความเปลี่ยนแปลงของผลสำรวจในเนชั่นโพลทั้ง 2 ครั้ง ตัวเลขยังแปรเปลี่ยนอยู่ ดังเช่น ผลสำรวจของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่สำรวจ 2 ครั้งโดยเว้นระยะห่างเพียง 2 สัปดาห์ และสามารถแซงหน้าแพทองธาร ชินวัตร จากที่เคยตามถึง 17%

นั่นย่อมหมายความว่า ระยะเวลาระหว่างวันสิ้นสุดการสำรวจโพลไปจนถึงวันเลือกตั้งมีช่วงเวลามากถึง 11 วัน ระยะเวลานี้ยังมองได้ว่า เพียงพอที่พรรคการเมืองจะวางยุทธศาสตร์แก้เกมเพื่อดึงคะแนนเสียงและเปลี่ยนผลคะแนนได้

ดังนั้น ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งจึงน่าจับตากลยุทธ์และความเคลื่อนไหวจากพรรคการเมืองต่าง ๆ เป็นพิเศษ

 

หมายเหตุ: ข้อมูลเนชั่นโพลครั้งที่ 2 อัปเดตล่าสุดเมื่อ 4 พ.ค. 2566 ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.