‘โคโค่ ลี’ พลังเสียงในเพลง Before I Fall in Love ที่ไม่มีวันถูกลืม นักร้องผู้ครองใจคนทั่วโลก

‘โคโค่ ลี’ พลังเสียงในเพลง Before I Fall in Love ที่ไม่มีวันถูกลืม นักร้องผู้ครองใจคนทั่วโลก

‘โคโค่ ลี’ (Coco Lee) เจ้าของเสียงร้องในเพลง ‘Before I Fall in Love’ ที่อยู่ในความทรงจำ เธอจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับภายหลังประสบภาวะซึมเศร้า

  • ‘โคโค่ ลี’ นักร้องหญิงเชื้อสายฮ่องกง-อเมริกัน เจ้าของเสียงร้องในเพลงอมตะอย่าง Before I Fall in Love เสียชีวิตลงในปี 2023 หลังประสบภาวะซึมเศร้า และพยายามจบชีวิตตัวเอง
  • เส้นทางการทำงานและบทเพลงของโคโค่ ลี ยังคงอยู่ในความทรงจำแฟนเพลงตั้งแต่เพลงดัง Before I Fall in Love จนถึง A Love Before Time 

ใครหลายคนที่เติบโตมากับคนในบ้านที่มีอายุสี่สิบกว่าปีขึ้นไปคงจะต้องเคยได้ยินบทเพลงอันแสนไพเราะของ ‘โคโค่ ลี (Coco Lee)’ นักร้องเสียงใสเชื้อสายฮ่องกง-อเมริกันคนนี้เป็นแน่ ทั้งเพลงรักอมตะที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความกลัวแต่ยังคุ้มค่าที่จะเสี่ยงของการตกหลุมรักอย่าง ‘Before I Fall In Love’ ซึ่งประกอบภาพยนตร์เรื่อง Runaway Bride นำแสดงโดยจูเลีย โรเบิร์ตส์ และริชาร์ด เกียร์

หรือจะเป็นเพลง ‘A Love Before Time’ เพลงรักที่แสดงถึงความรักบนเส้นทางอันยาวไกล ที่สุดท้ายจะนำทางฉันไปหาเธอเสมอ ประกอบภาพยนตร์ Crouching Tiger, Hidden Dragon กำกับโดยผู้กำกับชื่อดัง อั้ง ลี่ 

บทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักชีวิตส่วนตัวของโคโค่ เส้นทางชีวิตอันน่ามหัศจรรย์ของเธอ และการจบชีวิตอันน่าเศร้าในวัยเพียง 48 ปี

ชีวิตวัยเด็กและจุดเริ่มต้นของเด็กหญิงเฟอร์เรน ‘โคโค่ ลี’

เฟอร์เรน ‘โคโค่’ ลี เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1975 ที่ฮ่องกง เป็นลูกสาวคนสุดท้องของคุณพ่อชาวจีน-อินโดนิเซีย (ผู้เสียชีวิตก่อนที่เธอจะลืมตาดูโลก) และคุณแม่ชาวฮ่องกง พี่ ๆ ของโคโค่คือแนนซี่ และแคโรล ลี ซึ่งแนนซี่ เองก็ได้กลายมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของโคโค่เมื่อเธอกลายมาเป็นนักร้อง เมื่อโคโค่อายุได้ 9 ปี เธอและครอบครัวก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ซาน ฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา และเข้าเรียนมัธยมต้น-มัธยมปลาย 

โคโค่ โตมากับครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักและเสียงดนตรี คุณพ่อของเธอเป็นนักธุรกิจที่เล่นแซกโซโฟนได้ ขณะที่คุณแม่เป็นคุณครูสอนเปียโนและนักร้องเพลงสำหรับภาพยนตร์ (playback singer) ทำให้เธอค้นพบความหลงใหลและความสามารถในด้านดนตรีของตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก

จุดเริ่มต้นในเส้นทางดนตรีของโคโค่ เริ่มต้นขึ้นในปี 1993 เมื่อเธอเดินทางไปเยี่ยมแนนซีและแคโรลที่ย้ายกลับไปอยู่ที่ฮ่องกงแล้ว ขณะที่อยู่ที่ฮ่องกง โคโค่ ตัดสินใจออดิชั่นในงานที่เรียกว่าเป็นงานค้นหาดาวดวงใหม่ของฮ่องกง ในการแข่งขันที่ชื่อ New Talent Search ครั้งที่ 12 ซึ่งในปีนั้นมีผู้สมัครถึงหนึ่งหมื่นคน โค่โค่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า

“ฉันคิดว่าพวกเขาคงไม่มีทางเลือกฉันแน่ ๆ ฉันเป็นแค่เด็กสาวตุ้ยนุ้ยจากซานฟรานซิสโก ที่แทบจะพูดจีนกวางตุ้งไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพลงที่ฉันเลือกในการร้องออดิชั่นเป็นเพลงภาษาอังกฤษ ซึ่งมันก็ทำให้ฉันเสียเปรียบ แต่พวกเขาก็ยังติดต่อฉันกลับมา ฉันภูมิใจมาก ๆ”

ในตอนนั้น โคโค่เลือกร้องเพลง Run To You ของ Whitney Houston และได้รางวัลอันดับหนึ่งจากการแข่งขัน หลังจากนั้น ผู้บริหารของ Capitol Records สาขาที่ฮ่องกงก็ติดต่อเธอเพื่อเซ็นสัญญา

มู่หลานของชาวจีน และบทบาทของนักร้องสาวเสียงทรงพลัง

โคโค่ ได้แรงบันดาลใจจากนักร้องยุค 80s และ 90s อย่าง มาดอนน่า, ไมเคิล แจ็คสัน และ มารายห์ แครี เธอเคยเล่าว่าการร้องเพลงแนว R&B ด้วยภาษาจีนกวางตุ้งเป็นอะไรที่ท้าทายมาก ๆ เพราะภาษานี้เป็น tonal language (ภาษาที่เสียงของวรรณยุกต์มีผลต่อความหมายของคำ เช่น ภาษาไทย) เพราะฉะนั้น คำหนึ่งคำอาจหมายถึงอะไรได้หลายอย่างที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับการออกเสียง ดังนั้น เพื่อจะเป็นนักร้องในดนตรีแบบที่เธอชอบ เธอจึงเรียนภาษาจีนกลางที่เธอคิดว่าโทนเสียงมีความยืดหยุ่นกว่าด้วยตัวเอง และนั่นเองที่ทำให้เพลงของเธอเริ่มเป็นที่นิยมและแพร่หลายอย่างรวดเร็วในทวีปเอเชีย

ในปี 1998 โคโค่ ถูกเลือกให้เป็นผู้พากย์เสียง ‘ฮัว มู่หลาน’ พากย์เป็นภาษาจีน ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Mulan (1998) รวมไปถึงได้รับโอกาสได้การร้องเพลงหลักของเรื่อง นั่นก็คือเพลง Reflection นั่นเอง และในปี 1999 โคโค่ ได้ปล่อยอัลบั้มเพลงภาษาอังกฤษชุดแรกของตัวเองชื่อ ‘Just No Other Way’ ซึ่งเป็นเพลงแนวป็อปและอาร์แอนด์บี ในอัลบั้มนี้นี่เองที่มีเพลง Before I Fall In Love อันโด่งดัง เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Runaway Bride แน่นอนว่า อัลบั้มของเธอเป็นที่พูดถึงและได้รับความนิยมอย่างมาก 

หนึ่งในจุดสูงสุดและเป็นที่จดจำที่สุดในชีวิตของโคโค่ คือได้ร้องเพลง A Love Before Time ซึ่งเป็นเพลงประกอบหลักของภาพยนตร์เรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon หนังกำลังภายในแนวผจญภัยที่กวาดรางวัลไปหลายสำนัก บทเพลงที่เธอร้องก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของปี 2001 และเธอยังได้ขึ้นแสดงสดบนเวทีออสการ์ที่สหรัฐอเมริกาต่อหน้าดาราและนักแสดงฮอลีวูดมากมาย

ในปีเดียวกันนั้นเอง โคโค่ ได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เชื้อสายจีนคนแรกของชาแนลอีกด้วย นับว่าเป็นปีทองของโคโค่เลยทีเดียว

 

การต่อสู้กับโรคซึมเศร้า

โคโค่ ปรากฎตัวในหน้าสื่อและวงการบันเทิงอยู่เรื่อย ๆ และในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เธอได้ออกเพลงและอัลบั้มใหม่อยู่ตลอด ซิงเกิลล่าสุดของโคโค่คือ ‘Tragic’ ซึ่งเพิ่งถูกปล่อยมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2023 

ในอินสตราแกรมส่วนตัวของเธอช่วงก่อนจบปี 2022 เธอเพิ่งโพสต์ข้อความว่าปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ยากลำบากมาก ๆ ของเธอ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็สนับสนุนให้ผู้ติดตามทุกคนของเธอแบ่งปันพลังบวกให้คนรอบข้างและจงเป็นบุคคลตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น นั่นอาจเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่บอกให้หลาย ๆ คนรับรู้ว่าเธออาจกำลังเผชิญปัญหาบางอย่างในชีวิตอยู่

แต่ในท้ายที่สุด เมื่อช่วงค่ำตามเวลาไทยของวันที่ 5 เดือนกรกฎาคม 2023 พี่สาวทั้งสองของเธอโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ด้วยความเศร้าอย่างสุดหัวใจ เราเสียใจที่จะต้องพูดถึงข่าวอันน่าเศร้าให้กับทุกคน โคโค่ได้ทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้ามาเป็นเวลาสองสามปีแล้ว แต่อาการของเธอนั้นแย่ลงมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา”

“ถึงแม้ว่าโคโค่ จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญและพยายามอย่างถึงที่สุดในการสู้กับโรคนี้ แต่น่าเศร้าที่ปีศาจร้ายในตัวของเธอเอาชนะเธอได้” 

โคโค่ พยายามฆ่าตัวตายที่บ้านของตัวเองเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที ตั้งแต่นั้น เธออยู่ในอาการโคม่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม เธอเสียชีวิตลง

เหตุการณ์นี้สร้างความเศร้าโศกอย่างถึงที่สุดให้กับครอบครัวของเธอ นั่นเพราะเธอกำลังจะได้ฉลองกับการทำงานเป็นนักร้องครบรอบ 30 ปี ทางครอบครัวของเธอให้สัมภาษณ์ไว้ว่า โคโค่ เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นคนที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเปิดโลกใหม่ให้กับนักร้องเชื้อสายจีนไปสู่เวทีดนตรีระดับสากล และเธอเปล่งประกายอย่างงดงามเพื่อชาวจีนทุกคน

 

ตำนานที่จะอยู่ในใจของแฟนเพลงทุกคนตลอดไป

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบทเพลงของโคโค่ ลี ปลอบประโลมโลกใบนี้ด้วยความงดงาม ใครหลายคนในยุคนี้โตมากับการฟังเพลงของโคโค่ หรือแม้แต่ยังหยิบยกเพลงของโคโค่มาร้องเวลาไปร้องคาราโอเกะอยู่เสมอ

การจากไปแบบกะทันหันของเธอทำให้ทุกคนต่างโศกเศร้า และเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ทำให้ทุกคนรับรู้เรื่องของโรคซึมเศร้าที่ถือเป็นภัยเงียบซึ่งหลายคนมองข้ามไปหรือไม่ทันได้สังเกต

ในชีวิตจริง เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนคนหนึ่งจะต้องแบกรับอะไรเอาไว้อยู่ภายในบ้าง หวังว่าทุกคนจะใจดีกับผู้อื่นและมีเมตตากับคนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักให้ได้เท่าที่สามารถทำได้ เพื่อที่เหตุการณ์สลดนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นกับใครอีก

 

เรื่อง: บัณฑิตา อดุลโภคาธร

ภาพ: แฟ้มภาพ Getty Images

อ้างอิง:

LA Times

New York Times

Deadline

PinkVilla