Fujii Kaze นักร้องญี่ปุ่นมาดเซอร์ที่กำลังมาแรง ศิลปินแห่งสายลมพลังบวกผู้นำพาสันติ+สุข

Fujii Kaze นักร้องญี่ปุ่นมาดเซอร์ที่กำลังมาแรง ศิลปินแห่งสายลมพลังบวกผู้นำพาสันติ+สุข

‘ฟูจิอิ คาเสะ’ (Fujii Kaze) นักร้องหนุ่มญี่ปุ่นที่กำลังมาแรง เจ้าของวีรกรรมมากมาย เพียบพร้อมด้วยทักษะดนตรีอันเยี่ยมยอด และรูปลักษณ์คมคาย มาดเซอร์ สร้างปรากฏการณ์ฮือฮามากมาย

  • ‘ฟูจิอิ คาเสะ’ (Fujii Kaze) นักร้องหนุ่มญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022 เขาสร้างปรากฏการณ์ต่าง ๆ มากมายในยุคออนไลน์
  • นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูคมคาย มาดเซอร์ เขายังมีทักษะทางดนตรีที่ยอดเยี่ยม ผลงานของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันทางดนตรี

เชื่อว่าคนที่ไถ TikTok บ่อย ๆ น่าจะเคยผ่านตาท่าระบำเซิ้งแบบญี่ปุ่นจากเพลง ‘Matsuri’ หรือผ่านหูเพลง ‘Shinunoga E-Wa’ ที่ฮิตมากในบ้านเราเมื่อปีที่แล้ว (2022) กันบ้าง ซึ่งเจ้าของเพลงทั้ง 2 ก็คือหนุ่มที่ชื่อ ‘ฟูจิอิ คาเสะ’ (Fujii Kaze)

เขาเป็นศิลปินที่มาแรงสุด ๆ ในญี่ปุ่นยุคโควิด-19 ด้วยฝีมือเปียโนระดับฉกาจฉกรรจ์ อีกทั้งยังหน้าตาคมคายมาดเซอร์ มีบุคลิกทะเล้นเฮฮาน่าเอ็นดู และสร้างปรากฏการณ์มาหลายอย่าง เช่น โชว์เปียโนเดี่ยวทั้งที่ไม่มีเพลงเป็นทางการแต่บัตรขายหมดจนต้องเพิ่มวัน หรือจัดแสดงคอนเสิร์ตในสนามกีฬาโล่ง ๆ

ว่าแต่อะไรทำให้เขาเป็นศิลปินที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งในตอนนี้ มาลองย้อนดูกัน

‘ฟูจิอิ คาเสะ’ (Fujii Kaze) ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 1997 ที่ Satosho เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น มีประชากรประมาณ 10,000 คน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด Okayama เป็นลูกคนสุดท้องที่มีพี่ชาย 1 คนกับพี่สาว 2 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีชื่อเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ (พี่ชายคนโตชื่อ Sora พี่สาวชื่อ Umi กับ Riku ความหมายของชื่อคือท้องฟ้า ทะเล แผ่นดิน และ Kaze คือสายลม ตามลำดับ)

เห็น ‘คาเสะ’ เป็นอัจฉริยะทางดนตรีแบบนี้ หลายคนคงนึกว่า พ่อแม่ต้องเป็นนักดนตรีแน่ ๆ แต่เปล่าเลย บ้านของเขาเปิดกิจการร้านกาแฟ คนที่มีอิทธิพลต่อเขาอย่างมากคือคุณพ่อที่รักในเสียงดนตรีและทำให้เขาฟังเพลงหลากหลายแนวตามพ่อไปด้วย

จะเพลงยุคไหนสมัยไหนก็ฟังหมด ไม่ใช่แค่แจซหรือคลาสสิก เขายังฟังเพลงป็อปทั่วไป คาโยเคียวขุ (เพลงป็อปยุคโชวะ) กระทั่งเอ็งกะ (ลูกทุ่งญี่ปุ่น) และแม้จะเล่นดนตรีไม่เป็นแต่ก็คอยสอนเขาเล่นเปียโนบ้าง แซกโซโฟนบ้างตั้งแต่อายุ 3 ขวบ (บางครั้งก็สอนภาษาอังกฤษ) จนเด็กชายคาเสะ ติดใจ กลับจากโรงเรียนมาก็ขลุกอยู่แต่กับเปียโนและเสียงเพลง

พอใกล้จบชั้นประถม พ่อที่ยังไม่มีกระทั่งโทรศัพท์มือถือแต่มองการณ์ไกลก็บอกกับเขาว่า “ตอนนี้เป็นยุคของยูทูบแล้วนะ” และร่วมมือกับพี่ชายจัดแจงถ่ายคลิปเขาเล่นเปียโนคัฟเวอร์เพลงต่าง ๆ ในร้านกาแฟของที่บ้านลงยูทูบ (YouTube) เป็นครั้งแรก

โดยพื้นเพเขาเป็นเด็กสนุกสนานเฮฮา ชอบสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อน ๆ จนถูกเรียกว่า ‘แปลก’ (ในแง่ดี) ก็ว่าได้ อย่างไรก็ดี เขาก็มีช่วงเวลาที่ไม่แน่ใจในตนเอง ตอนม.ต้น เขามีเพื่อนที่ชอบคุยเรื่องดนตรีกัน แต่ไม่ได้บอกเพื่อนว่าเล่นเปียโนเพราะตอนนั้นคิดว่าการที่เด็กผู้ชายเล่นเปียโนมันน่าอาย

เมื่อเห็นว่าเด็กคนอื่น ๆ ใช้ชีวิตกันอย่างไรก็ทำให้เขาสงสัยในตัวเองเป็นบางครั้งว่าเขาเป็นเด็กปกติหรือเปล่า ทำไมถึงเอาแต่ขลุกเล่นเปียโนอยู่ในห้อง เล่นไปทำไม อะไรแบบนี้

มันอาจเป็นความรู้สึกจากจิตใต้สำนึกที่กลัวว่า จะสูญเสียชีวิตปกติไปก็ได้ เขาจึงพยายามลองทำกิจกรรมหลากหลาย อยากสนุกกับชีวิตนักเรียนปกติให้เหมือนคนอื่น ๆ ทั่วไป อยากร้องไห้ หัวเราะและซาบซึ้งแบบเดียวกับเด็กที่ไม่ได้หมกมุ่นกับดนตรีแบบเขา

ลึก ๆ แล้ว เขาคิดว่าอาจจะอยากใช้ชีวิตปกติธรรมดาที่ไม่มีดนตรีก็ได้ แต่ก็ค่อย ๆ ตระหนักได้ว่า เขาไม่จำเป็นต้องปกติเหมือนคนอื่นหรอก การแตกต่างจากคนอื่นไม่ใช่เรื่องแปลก ก็เลยลาออกจากชมรมบาสเกตบอล และทำตัวเหมือนที่เคยเป็นมา

คาเสะ เลือกต่อม.ปลายที่ Okayama Joto High School แผนกดนตรี นี่เป็นช่วงที่เขาว่างเว้นจากการลงคลิปในยูทูบ เพราะไปจริงจังกับการเรียน มีโอกาสโชว์เสียงร้องต่อหน้าคนอื่นเป็นครั้งแรก และยังเป็นช่วงที่เขาขัดแย้งกับพ่อแม่เล็กน้อยด้วย เพราะที่บ้านอยากให้เป็นนักเปียโน แต่เจ้าตัวอยากเป็นนักร้องมากกว่า

ก่อนจบม.ปลาย มีการจัดคอนเสิร์ตในโรงเรียน เขาขึ้นเวทีไปพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นและยอมรับว่าลูกร้องเพลงได้ หลังจบม.ปลาย และมีชื่อเสียงในฐานะยูทูเบอร์ระดับหนึ่งก็มีคนติดต่อให้ไปเล่นตามงานต่าง ๆ ซึ่งเขาก็ไปหมด ไม่เกี่ยงงานเล็กงานใหญ่ พร้อมกันนั้นก็มองหาหนทางเผยแพร่เพลงของตัวเองด้วย

แน่นอนว่ายูทูบเหมาะสมที่สุด ก่อนหน้านี้คนลงคลิปคือพ่อกับพี่ชาย แต่นับจากนี้ไปเขาเป็นคนจัดการเองแล้ว เขาพัฒนาฝีมือและสร้างฐานแฟนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมียอดคนติดตามเกินหมื่น

เข้าฤดูร้อนปี 2018 ก็เริ่มมีคนจากค่ายเพลงให้ความสนใจในตัวเขา มีผู้จัดการช่วยจัดหางานได้ไปเล่นตามที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศรวมถึงโตเกียว ย่างต้นฤดูใบไม้ผลิปี 2019 เขาก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่เมืองหลวงเพื่อสานฝันสู่เส้นทางนักดนตรีที่อยากมีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ย้ายไปโตเกียวได้ไม่นาน ขนาดยังไม่มีเพลงของตัวเองอย่างเป็นทางการเขาก็ได้เล่นเทศกาลดนตรีใหญ่ ๆ อย่าง VIVA LA ROCK 2019 หรือ SPACE SHOWER SWEET LOVE SHOWER ก่อนสร้างเรื่องด้วยการตัดสินใจจัดโชว์ Fujii Kaze ‘Jazz & Piano’ The First ที่ตอนแรกวางแผนจัดแค่วันเดียว แต่ว่าบัตรขายหมดทันทีเลยต้องเพิ่มอีกวัน

ด้านสตาฟฟ์สถานีวิทยุ Nippon Broadcasting รู้เรื่องนี้เข้าจึงติดต่อชวนไปออกรายการ All Night Nippon 0(ZERO) ด้านคาเสะ ที่ออกรายการวิทยุเป็นครั้งแรกก็สร้างความฮือฮาด้วยการโชว์ perfect pitch (ทักษะความแม่นยำในการระบุระดับเสียง-โน้ต) เล่นเพลงตามคำขอของผู้ฟังแบบสด ๆ 

หลังจากนั้นไม่นานเกินรอ 18 พฤศจิกายน 2019 เป็นวันที่เขาปล่อยเพลงแรกของตัวเองชื่อ Nan-Nan ที่ออกกับค่าย HEHN RECORDS ของเขาเองและ UNIVERSAL SIGMA ที่เป็นค่ายใหญ่ เพลงนี้เขาแต่งเก็บไว้ตั้งแต่อายุ 19 (หรือหลังจบม.ปลาย) และเป็นเพลงที่เขาภูมิใจมาก เพราะใส่ภาษาถิ่นบ้านเกิดเข้าไปด้วย

ตามด้วยปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกชื่อ HELP EVER HURT NEVER ในปี 2020 พร้อมประกาศทัวร์แต่ต้องยกเลิกไปเพราะโควิด-19 ซึ่งเขาก็ชดเชยแฟน ๆ ด้วยการไลฟ์สตรีมเล่นเปียโนให้ดูแทน 

เขายังคงทำคลิปลงยูทูบสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนจนมีผู้ติดตามเกิน 1 ล้านในปี 2021 และปีเดียวกันนี้เองที่เขาสร้างปรากฏการณ์ด้วย Fujii Kaze ‘Free’ Live 2021 คอนเสิร์ตที่อยากให้ผู้ฟังปลดปล่อยใจอย่างเสรีไปกับเสียงเพลงของเขา

เดิมทีเขาตั้งใจจัดเป็นฟรีคอนเสิร์ตที่ไม่เก็บค่าบัตร แต่ด้วยข้อจำกัดในภาวะโรคระบาดจึงเปลี่ยนแผนเป็นการไลฟ์สตรีมแทน รูปแบบการแสดงมีแค่เขากับเปียโนกลางสนามกีฬาไร้ผู้คนที่มีความจุ 72,000 ที่นั่ง แม้ว่าเขาจะติดประหม่าอยู่บ้างและฝนก็โปรยปรายแต่ผลลัพธ์ก็จบลงด้วยดี มีผู้ชมสดเกือบ 180,000 คนและติดเทรนด์อันดับ 1 ของทวิตเตอร์ในช่วงเวลานั้น

สำหรับขั้นตอนการทำเพลงจะมาจากคาเสะ เป็นหลัก เขาเริ่มแต่งจากเมโลดี้ก่อน แล้วเนื้อเพลงตามมาทีหลัง โดยเขาจะไม่ให้เนื้อเพลงมาทำให้เมโลดี้เสียเด็ดขาด เนื้อหาต้องเขียนด้วยความจริงใจ ไม่โกหกปั้นแต่งให้ดูดีเกินจริง ก่อนส่งให้ Yaffle โปรดิวเซอร์คู่ใจตบแต่งและขัดเกลาให้ลงตัวอีกที ซึ่ง Yaffle นำความใหม่มาผสมกับความเก่าที่คาเสะ ชอบได้ลงตัวเป็นอย่างดี

จะว่าไปเนื้อเพลงของเขาก็น่าสนใจเช่นกัน ผู้ฟังทั่วไปจะตีความว่าเป็นเพลงรักก็ได้ แต่ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าเป็นอิทธิพลจากความเชื่อ ความสนใจด้านจิตวิญญาณของคาเสะ เช่นแนวคิดเพลง Nan-Nan คือ Higher Self (ตัวตนขั้นสูงหรือตัวตนของเราในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด) ที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน พูดคุยกับตัวตนที่ไร้ค่าต่ำต้อย

หรือ ‘Shinunoga E-Wa’ ที่หลายคนมองว่าเป็นเพลงคลั่งรัก แต่เขาพูดถึงตัวตนในอุดมคติที่เขาขาดมันไปไม่ได้ ซึ่งคาเสะ เองก็ปล่อยให้คนฟังตีความได้ตามใจ แต่ไม่ว่าจะตีความอย่างไร ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นเพลงที่เขาเขียนด้วยเจตนาสร้างพลังบวกให้กับคนฟัง และเขาอยากทำผลงานที่สร้างความสุขโดยก้าวข้ามกำแพงภาษาแบบนี้ต่อ ๆไป

น่าติดตามว่าหนุ่มคนนี้จะสร้างกระแสได้ถึงระดับโลกได้ดังที่ฝันไว้หรือไม่ ส่วน Kazetarian ชาวไทยก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะได้เห็นเขามาเซิ้ง ‘Matsuri’ ให้ดูกันสด ๆ ในบ้านเราไหมนะ

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับ Fujii Kaze

- เพลงของตัวเองที่ชอบเป็นพิเศษคือ Matsuri กับ Shinunoga E-Wa

- เป็นมังสวิรัติตั้งแต่ม.ปลายเพราะว่ารักสัตว์

- เลือดกรุ๊ป B (เอ้า เพลงมา)

- ชื่อแฟนคลับคือ Kazetarian มาจาก Kaze+Vegetarian(มังสวิรัติ) มีที่มาจากแฟนคลับต่างชาติ

 

เรื่อง: ธนพล ล้อมสวัสดิ์

ภาพ: (ขวา) fujiikaze/Instagram และ Fujii Kaze/YouTube

อ้างอิง:

realsound.jp/

azyanoblog.com/

ameblo.jp/okami55

eplus.jp/sf

awa.fm/artist/

@emislifeinla/YouTube

Fujii Kaze/YouTube

bikuchan.com/

fujiikazenenpyou.fc2.net

www.bilibili.com

jisin.jp/entertainment

fujiikaze.com

note.com