‘In the MOOD for Healing’ เมื่อดนตรีคือภาษาแห่งการเยียวยา

‘In the MOOD for Healing’ เมื่อดนตรีคือภาษาแห่งการเยียวยา

‘In the MOOD for Healing’ พาเราเข้าใกล้หัวใจของ Music Therapy ผ่านเสียงเบสอันอบอุ่นของ ‘นาธาน อีสต์’ และการผสานพลังของศิลปินจากหลากวัฒนธรรม จนดนตรีกลายเป็นพื้นที่ร่วมของความรัก สันติภาพ และการดูแลใจคนเมืองอย่างอ่อนโยน

KEY

POINTS

ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีของสวนเบญจกิติ สวนป่าขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพมหานคร บรรยากาศยามเย็นวันนั้น (29 พฤศจิกายน 2025) คละเคล้าไปด้วยความวุ่นวายของการเตรียมความพร้อม เสียงระหว่างซาวด์เช็ค และความขวักไขว่ของทีมงานเบื้องหลัง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าค่ำคืนนี้จะมีปรากฏการณ์ทางดนตรีเกิดขึ้น

นี่คือเบื้องหลังของงาน ‘MedMusic in the Park 2025’ กิจกรรมดนตรีในสวนที่โรงพยาบาลเมดพาร์ค (MedPark) ตั้งใจรังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด ‘In the MOOD’ เพื่อมอบดนตรีเป็นเครื่องมือบำบัด (Music Therapy) ปลอบประโลมจิตใจและคลายความเหนื่อยล้าให้แก่คนเมือง 

ทว่า ท่ามกลางความโกลาหลหลังเวที กลับมีมวลพลังงานบางอย่างที่แตกต่างออกไป ความสงบนิ่ง ความถ่อมตน และความลึกซึ้ง ที่แผ่ออกมาจากกลุ่มศิลปินที่มารรวมตัวกัน โดยหัวใจสำคัญของค่ำคืนนั้น คงหนีไม่พ้น ‘นาธาน อีสต์’ (Nathan East) มือเบสระดับโลกผู้ฝากผลงานไว้ในเพลงฮิตนับพันเพลง 

เมื่อบทสนทนาเริ่มต้นขึ้นถึงปรัชญาทางดนตรีที่เขายึดถือมาตลอดชีวิตการทำงาน คำตอบไม่ใช่เรื่องของทฤษฎีซับซ้อนหรือเทคนิคแพรวพราว แต่กลับเรียบง่ายและงดงาม

“ผมขอนิยามมันว่าเป็นภาษา... ภาษาแห่งความรัก สันติภาพ และพันธกิจในการรับใช้ผู้คนผ่านตัวโน้ต”

คำพูดนี้สะท้อนตัวตนของนาธาน เสียงเบสของเขาที่หลายคนยกย่องว่ามีความ ‘เป็นมนุษย์’ (Deeply Human) อบอุ่น และทรงพลังนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ แต่คือผลลัพธ์ของความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ก้าวแรกในสตูดิโอ เขาตระหนักเสมอถึงเรื่องของเสียงและแรงสั่นสะเทือน (Vibrations) โดยเฉพาะในย่านเสียงต่ำ เป้าหมายสูงสุดคือการทำให้เสียงนั้น “ก้องกังวานไปถึงหัวใจและความเป็นมนุษย์”

นาธาน เล่าถึงช่วงแรกของการทำงานว่า เขาให้ความสำคัญกับการทดลองหา ‘โทนเสียง’ (Tone) ที่ใช่ที่สุด ถึงขนาดต้องปรับเปลี่ยนปิ๊กอัพ (Pickups) ในเครื่องดนตรีเบสหลายต่อหลายครั้งเพื่อหาการตอบสนองที่ดีที่สุด เพราะสำหรับเขา ทุกเพลงมีเอกลักษณ์ และเสียงเบสต้องผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกับบทเพลงนั้น ๆ 

บนเวที MedMusic ครั้งนี้ นาธานไม่ได้มาเพียงลำพัง แต่มาพร้อมกับทีมศิลปินที่สะท้อนภาพจำลองของโลกไร้พรมแดน ทั้ง ‘แจ็ค ลี’ (Jack Lee) มือกีตาร์ฟิวชั่นแจ๊สชั้นนำสัญชาติเกาหลี, ‘โดนัลด์ บาร์เรทท์’ (Donald Barrett) มือกลองผู้เปี่ยมพลัง, ‘โนอาห์ อีสต์’ (Noah East) เลือดเนื้อเชื้อไขผู้สืบทอดจิตวิญญาณดนตรี รวมถึง ‘โนริฮิโตะ ซูมิโตโม’ (Norihito Sumitomo) นักแซ็กโซโฟนและ EWI มือฉมังจากญี่ปุ่น รวมถึงแขกรัญเชิญอย่าง ‘มาเรียม เกรย์’ 

‘In the MOOD for Healing’ เมื่อดนตรีคือภาษาแห่งการเยียวยา

สำหรับนาธานแล้ว การรวมตัวของศิลปินต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา และต่างวัย ไม่ใช่อุปสรรคหรือความท้าทาย แต่คือแรงบันดาลใจ

“ความหลากหลายคือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของโลกใบนี้” นาธาน กล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย “เราอาจมาจากคนละที่ แต่เราพูดภาษาเดียวกัน คือดนตรี เราหายใจด้วยอากาศเดียวกัน และมีความรู้สึกร่วมกันในเรื่องความรักและครอบครัว ผมไม่ชอบการแบ่งแยก แต่ผมเชื่อในการผนวกรวม (Inclusion) ว่าเราทุกคนอยู่ทีมเดียวกัน”

การแสดงในค่ำคืนนี้ จึงเปรียบเสมือนบทพิสูจน์ว่าโลกสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ผ่านเสียงดนตรี และเมื่อมองภาพรวมของงานที่จัดขึ้นโดยโรงพยาบาล เพื่อเยียวยาผู้คน นาธาน เผยความรู้สึกทิ้งท้ายว่า

“มันเกินกว่าที่ผมจะจินตนาการหรือฝันถึง มันให้ความรู้สึกเหมือนการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ ฉลองให้กับชีวิต สุขภาพ ดนตรี สันติภาพ ความรัก และความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราตั้งใจจะส่งมอบให้แก่ผู้ชมทุกคน” 

จากมุมมองของความรักและสันติภาพของ นาธาน อีสต์ เราขยับมาพูดคุยกับชายผู้เปรียบเสมือนสถาปนิกทางดนตรีของวง แจ็ค ลี  มือกีตาร์และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ท่ามกลางเสียงเครื่องดนตรีที่กำลังถูกปรับจูน แจ็ค เล่าถึงรากฐานทางดนตรีของเขาที่เกิดจากการ ‘ผสมผสานพิเศษ’ (Special Blending) ระหว่างรากเหง้าความเป็นเอเชียและประสบการณ์ดนตรีแจ๊สอันเข้มข้นจากมหานครนิวยอร์ก

“ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในนิวยอร์ก ได้มีโอกาสพบปะและเล่นดนตรีกับนักดนตรีชั้นนำอย่าง บ๊อบ เจมส์, นาธาน อีสต์ และวง โฟร์เพลย์ ซึ่งช่วยหล่อหลอมผมอย่างมาก แต่ในแก่นแท้แล้ว... ผมก็ยังคงเป็นคนเอเชีย” แจ็ค กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจ

‘In the MOOD for Healing’ เมื่อดนตรีคือภาษาแห่งการเยียวยา

ความน่าสนใจของ แจ็ค ลี ไม่ได้อยู่แค่ฝีมือการเล่นกีตาร์ที่หาตัวจับยาก แต่คือวิธีคิดแบบ ‘โปรดิวเซอร์’ ที่เขาพกติดตัวขึ้นไปบนเวทีเสมอ เขาไม่ได้มองหาจังหวะที่จะโชว์ความเร็วของนิ้วหรือลูกเล่น (Licks) ที่หวือหวาแพรวพราว แต่มองภาพรวมของดนตรีเป็นที่ตั้ง

“ผมชอบที่จะมองดนตรีในภาพรวม (Music as a whole) มากกว่าจะสนใจแค่เครื่องดนตรีชิ้นเดียว เราพยายามทำดนตรีออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมเรียนรู้จากการได้ขลุกอยู่กับคนอย่าง นาธาน นั่นคือการทำให้วงทั้งวงฟังดูดี ไม่ใช่แค่ตัวเราคนเดียว”

หากนาธานคือหัวใจ และแจ็คคือโครงสร้าง โดนัลด์ บาร์เรทท์ มือกลองของวง คือผู้ทำหน้าที่เล่าเรื่องราวผ่านจังหวะ สำหรับโดนัลด์แล้ว กลองคือเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลังที่สุด

“กลองคือเรื่องของการสื่อสาร (Communication) ล้วน ๆ” โดนัลด์ ย้ำประโยคนี้หลายครั้ง “การเล่าเรื่อง (Storytelling) คือสิ่งที่ผมเรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก จากการฟังมือกลองระดับตำนาน อย่าง เอลวิน โจนส์, ปาปา โจ โจนส์ และ ฟิลลี โจ โจนส์”

เมื่อถูกถามถึงการทำงานร่วมกับมือเบสระดับโลกอย่างนาธาน อีสต์ ในส่วนของกรู๊ฟ (Groove) โดนัลด์ ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า การเล่นกับนาธานเหมือนการเล่นดนตรีกับบุคคลอันเป็นที่เคารพรัก (Loyalty) แต่ท้ายที่สุดแล้ว ‘เพลง’ คือเจ้านายที่แท้จริง หน้าที่ของเขาไม่ใช่การกำหนดกรู๊ฟที่ตายตัว แต่คือการ “เปิดหูให้กว้างที่สุด” เพื่อสนับสนุนสิ่งที่เกิดขึ้น

“นาธานไม่ได้เล่นเบสเหมือนมือเบสทั่วไป แต่เขาเล่นเหมือนศิลปิน เหมือนนักร้อง (Like a singer) เมื่อคุณเข้าใจจุดนี้ คุณจะไม่ยึดติดอยู่กับที่ แต่คุณจะไหลไปตามดนตรี”

ปิดท้ายบทสนทนาหลังเวทีกับ โนอาห์ อีสต์ ลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้น ในฐานะนักเปียโนและออร์แกน โนอาห์ ไม่ได้มองตัวเองเป็นเพียงลูกชายของตำนาน แต่เขามองตัวเองในฐานะ ‘ผู้รับใช้ดนตรี’

“ปรัชญาของผมคือการรับใช้ดนตรี (Serve the music) ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทิ้งอัตตา (Ego) ไว้ข้างหลัง และใส่ทุกอย่างที่คุณมีลงไปในบทเพลง” โนอาห์ กล่าว

สำหรับเขา ดนตรีคือ ‘บทสนทนา’ การแสดงดนตรีร่วมกันจึงเหมือนการพูดคุยที่ต้องรู้จักจังหวะจะโคน ไม่พูดแทรก และรับฟังซึ่งกันและกัน ความอ่อนน้อมถ่อมตนและความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ในทุก ๆ วัน คือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในวงดนตรีระดับโลกชุดนี้

‘In the MOOD for Healing’ เมื่อดนตรีคือภาษาแห่งการเยียวยา

เมื่อแสงไฟบนเวทีสาดส่อง และเสียงดนตรีโน้ตแรกของวงดังขึ้นท่ามกลางความร่มรื่นของสวนเบญจกิติ ภาพความวุ่นวายหลังเวทีที่เราเห็นก่อนหน้านี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความกลมกลืนอันสมบูรณ์แบบ เสียงแซ็กโซโฟนและ EWI ของ โนริฮิโตะ ซูมิโตโม สอดประสานไปกับกีตาร์ของแจ็ค ลี โดยมีจังหวะกลองของโดนัลด์และเสียงเบสของนาธาน คอยโอบอุ้มทุกท่วงทำนอง

คอนเสิร์ต MedMusic in the Park 2025 เป็นช่วงเวลาแห่งการเยียวยา (Healing) ตามเจตนารมณ์ของโรงพยาบาลเมดพาร์ค ที่ต้องการให้ดนตรีเป็นสื่อกลางในการดูแลสุขภาพใจของผู้คน สมดังคำกล่าวทิ้งท้ายของ นาธาน อีสต์ ที่ว่า

“นี่คือการเฉลิมฉลองของชีวิต สุขภาพ และความรัก... องค์ประกอบที่เราอยากมอบให้กับทุกคน”

และในค่ำคืนนั้น ผู้ชมทุกคนต่างสัมผัสได้ว่า ดนตรีบำบัดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในโรงพยาบาล แต่เกิดขึ้นได้ทุกที่... ที่มีดนตรีและหัวใจที่เปิดรับ

 

เรื่อง: อนันต์ ลือประดิษฐ์, รัตตภูมิ นิลศิริ