‘ธี่หยด 3’ จุดเริ่มต้นของเสียงเรียกสุดสยองจากบาดแผลในอดีต

แม้จะเข้าโรงภาพยนตร์ไปได้เพียง 2 วัน แต่ ‘ธี่หยด 3’ ก็ทุบสถิติยอดผู้ชมวันแรกสูงสุดอันดับ 1 ในปีนี้ด้วยการทำรายได้มากถึง 60 ล้านบาททั่วประเทศ 

ภาคนี้ยังคงความเป็นหนังผีสายบู๊เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือวิญญาณผีชุดดำถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง มีธนูไฟ หมัดไฟ และกระพรวนเหล็กมาเป็นเครื่องมือปราบผี 

เรื่องราวของ ‘ธี่หยด 3’ เริ่มต้นเมื่อ ‘ยี่’ น้องสาวคนเล็กหายตัวไป ทำให้พี่ ๆ และจ่าปพันธ์ต้องออกเดินทางตามหาทันที 

แม้เส้นเรื่องยังมีช่องโหว่อยู่บ้าง แต่หนังก็ฮุคให้เราเหนื่อยไปกับการสู้กับผี เพราะการกลับมาหญิงชุดดำครั้งนี้ทำให้เรากลับมาทบทวนประวัติศาสตร์ เปิดบาดแผลจากสงครามที่ฝังอยู่กลางใจของคนคนหนึ่ง พร้อมกับเผชิญหน้ากับอดีตและความจริงที่ถูกซ่อนไว้

/บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์ธี่หยด 3 (2568)/

ผีคือเหยื่อสงคราม

เส้นเรื่องของธี่หยด 3 ไม่ได้มีอะไรหวือหวา เพียงแต่พาเราไปดูจุดเริ่มต้นของ ‘ผีสาวชุดดำ’ ว่าต้นตอของความแค้นของเธอคืออะไร 

แล้วเราก็ได้คำตอบว่า เธอคือเหยื่อจากสงคราม

แม้ว่าผีชุดดำจะเกิดขึ้นตอนสงครามพม่ากับอังกฤษ ทำให้ ‘ต้าโหย่ว’ (ชื่อของผีชุดดำ) ต้องสูญเสียลูกไปจากปืนของทหาร

หลังจากนั้น ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผีแม่เฆ่า ผู้ต้องการให้บ้านเกิดของเธอสงบสุขจึงไปปลุกผีชุดดำขึ้นมาเพื่อฆ่าคนญี่ปุ่นที่มาสร้างบาดแผลให้แผ่นดินเกิดที่ต้องตกเป็นเชลยศึกหรือเป็นแรงงานเพื่อสร้างทางรถไฟ

จึงไม่แปลกที่ร่องรอยของกระดูกที่อยู่ในถ้ำผีที่ ‘บ่องสะโหนดเบียง’ ที่ถูกผีพรากชีวิตไปก็ยังเป็นทหารญี่ปุ่นที่เข้ามาช่วยก่อสร้างทางรถไฟเพื่อให้ญี่ปุ่นเดินทางผ่านไปพม่าได้สะดวก

ถ้าดูกันตามประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นระดมเชลยศึกมามากกว่า 150,000 คน ทั้งยังกดดันให้ทำงานหนักทั้งคืนโดยไม่มีเวลาพักผ่อน ยังไม่นับรวมกับการลงโทษเหล่าเชลยอย่างรุนแรง เมื่อทำงานไม่ได้ตามใจหัวหน้าชาวญี่ปุ่น

ยิ่งเป็นช่วงเร่งก่อสร้าง ญี่ปุ่นสั่งเพิ่มความเร็วในการทำงานเพื่อให้เสร็จทันกำหนด ในช่วงเวลาเพียง 3 เดือน สถานที่แห่งนั้นกลายเป็นสุสานของเชลยศึกนับไม่ถ้วน บางคนโดนยิง สิ้นใจเพราะโรคภัย หรือถูกทุบตี สะพานนี้ที่คนยุคปัจจุบันเรียกว่า ‘รถไฟสายมรณะ’ ไม่ใช่แค่คำพูดเชิงเปรียบเทียบ แต่หมายถึงการมรณะของผู้คนมากมายจริง ๆ

จึงบอกได้ว่า เหตุการณ์ในอดีตเป็นแผลที่ยากจะลืมเลือน เหมือน ‘ต้าโหย่ว’ ที่ยังโกรธแค้นผู้คนที่เอาชีวิตลูกเธอไป 

ต้าโหย่วไม่ได้โกรธเกลียดครอบครัวของยักษ์หรอก แต่โกรธแค้นสังคมที่ตอกย้ำว่าเธอคือเหยื่อและผลักให้เป็นคนนอก เพียงเพราะการสูญเสียลูกไปอย่างไม่มีวันกลับคืน

คงเหมือนกับที่ผีเฒ่าบอก “เมื่อไรก็ตามที่มีมนุษย์ สงครามก็ไม่มีวันสิ้นสุด”

เพราะตราบใดที่ยังมีมนุษย์ ก็ย่อมมีความขัดแย้งและสงครามอาจเกิดขึ้นได้เสมอ

 

แค้นฝังหุ่น

หลังจากต้าโหย่วเสียลูกไป เธอก็แทบจะเสียสติไปด้วย 

แม้จะหมดลมหายใจ แต่เธอเลือกเอาความเกลียดชังและความแค้นทั้งหมดฝังไว้ในร่างไร้วิญญาณของตัวเองที่ถูกตั้งไว้ในโรงศพกลางป่า

คอยออกไปกลืนกินวิญญาณเด็กสาว รวมถึง ‘แย้ม’ ลูกสาวคนกลางจากครอบครัวตัว ‘ย.’ เพื่อต่อชีวิตให้ตัวเองไปเรื่อย ๆ เธอจึงกลายเป็นผีที่สู้กับคนใจแข็งอย่างยักษ์มาตลอดในจักรวาลธี่หยด

ทุกการกระทำของเธอจึงเป็นภาพสะท้อนของการ ‘แค้นฝังหุ่น’ ไม่มีอะไรจะมาล้มเธอได้ลง นอกจากกระบอกปืน หมัดไฟ กระพรวนเงินที่มาจากสติอันแข็งแกร่งของพี่ยักษ์เท่านั้น

เพราะสำหรับยักษ์ เขาแค่อยากให้ครอบครัวมีความสุข ไม่ต้องเสียใครไป เพราะผีตัวเดียว วันที่ยี่ถูกจับตัวไป เขาเลยเลือกที่จะลุยเดี่ยว ตั้งใจจิตให้มั่น แล้วไปสู้กับผีใน ‘บ่องสะโหนดเบียง’ ดินแดนที่อาวุธและอาคมใช้ไม่ได้ผล

ถึงจะโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยักษ์ไม่กลัว เพราะมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการคืนรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับครอบครัว

“น้องสาวผมอยู่ในอันตราย ต่อให้นรกรออยู่ข้างหน้า ยังไงพวกผมก็จะพาน้องกลับบ้านให้ได้”

สุดท้ายพี่ยักษ์ก็คือพี่ยักษ์ เขาคือคนที่รักครอบครัวมากที่สุด และยอมทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวกลับมาอยู่ด้วยกัน ผีหน้าไหนก็เอาเขาไม่ลง 

และธี่หยด 3 เอง พี่ยักษ์ก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า การเอาปืนจ่อหัว แล้วเอาเท้ากระทืบหัวผี ต่อด้วยหมัดไฟ ทำให้ผีต้องยอมจำนน 

ปิดไตรภาคที่ไปสุดได้มากกว่านี้ 

ว่ากันตามตรง ภาพรวมของธี่หยด 3 เรื่องของความสนุกและการสู้กับผียังสนุกและทำได้ดีเหมือนเคย เรียกได้ว่า ทำให้เรานั่งกำมือแน่น ตั้งแต่ 15 นาทีแรกของภาพยนตร์

ถ้าคุณมาเพื่อคาดหวังเห็นกลยุทธ์สู้ผีเท่ ๆ หรือต้องการเห็นการผนึกกำลังของเหล่า ๆ พี่ตัวย.ที่รวมตัวช่วยน้อง ๆ ธี่หยด 3 อาจเป็นคำตอบ 

แต่การเล่นกับจังหวะจั๊มสแกร์กับผู้ชมมากเกินไป ก็ทำให้คนดูพอเดาทางได้ แทนที่จะรู้สึกกลัว กลับกลายเป็นการนั่งเดาเส้นเรื่องมากกว่าการนั่งลุ้นติดขอบจอเหมือนภาคก่อน ๆ 

ถึงอย่างนั้น เราเชื่อว่า นี่เป็นผลงานที่ทีมงานทุกคนล้วนตั้งใจทำและสร้างสรรค์ผลงาน โดยเฉพาะนักแสดง อย่างณเดชน์ คูกิมิยะที่เรียกได้ว่า ภาคนี้เป็นพี่ยักษ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนเช่นเคย แต่คนที่อยากจะลุกปรบมือให้ คือ ‘น้องยี่’ ที่กรี๊ดได้สะใจ ทำคนดูอย่างเรากลัวแทนน้องไปในหลาย ๆ ฉาก 

แม้จังหวะการเล่าเรื่องและลูกเล่นบางอย่างจะยังไม่สุดเท่าภาคก่อน ๆ แต่ ธี่หยด 3 ก็สามารถปิดไตรภาคได้อย่างสมศักดิ์ศรี ทั้งในแง่ความบันเทิงและน้ำหนักทางอารมณ์ 

ถือว่าเป็นบทสรุปของเรื่องราวที่เริ่มต้นจากเสียง ‘ธี่หยด’ ในความมืดที่เป็นภาพสะท้อนของร่องรอยบาดแผลในอดีตที่จะเป็นบทเรียนให้เรารู้ว่า ความขัดแย้งและความแค้นที่ไม่จบสิ้น สามารถส่งผลกระทบต่อคนรุ่นต่อ ๆ ไปได้ 

ขณะเดียวกัน ความกล้าหาญและการเผชิญหน้ากับอดีตก็เป็นหนทางเดียวที่จะเยียวยาและก้าวข้ามบาดแผลเหล่านั้นได้

 

ภาพ : M Studio

 

อ้างอิง

ร่องรอย หลักฐาน ความทรงจำ บนเส้นทางสายมรณะ / เมืองโบราณ

“ทางรถไฟสายมรณะ” จากบาดแผลสงคราม สู่ “ทางรถไฟแห่งความหรรษา” เส้นทางท่องเที่ยวสุดปังแห่งเมืองกาญจน์ / ผู้จัดการ

Constructing the "Death Railway": The real story behind the Bridge Over the River Kwai, in Findmypast's POW records / Findmypast