‘เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน’ การปกป้องความทรงจำไม่ให้เลือนหายของกุนซือตำนานลูกหนัง

เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน คือ อดีตกุนซือทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุมทีมกว่า 26 ปีครึ่ง พาทีมคว้า 38 ถ้วยรางวัลใหญ่ ทั้งลีกในประเทศและยุโรป

แต่เบื้องหลังความสำเร็จที่โลกจดจำ คือเรื่องราวของปัญหาสุขภาพและความพยายามปกป้องความทรงจำของชายคนนี้ให้คงอยู่

ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเมื่อภรรยา ‘เคธีย์ เฟอร์กูสัน’ จากไป เขาใช้เวลาจมอยู่กับความเศร้าและอยู่แต่บ้าน แต่วันนี้เขาฝึกสมองทุกวัน เพื่อปกป้องความทรงจำแสนพิเศษพัดผ่านเข้ามาไม่ให้มันเลือนหายไป

เรื่องราวของเซอร์อเล็กซ์จึงไม่ใช่เพียงประวัติศาสตร์ฟุตบอล แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิต แม้วันเวลาจะเปลี่ยนไป ความรัก ความทรงจำ และความเข้มแข็งภายในใจ ยังคงส่องสว่างและเป็นบทเรียนให้ทุกคนกล้าที่จะก้าวต่อไป

วันที่สุขภาพไม่เหมือนเดิม

หลังจากวางมือมาเกือบ 2 ทศวรรษ เซอร์อเล็กกลายเป็นผู้ป่วยต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพราะหลอดเลือดสมองแตกอย่างกระทันหันที่บ้านเมื่อปี 2018

เพราะมีคนแวะมาเยี่ยมต่อเนื่อง อาการของเขาก็ทรุดลง สิ่งที่ชัดเจนที่สุด คือ เสียงของเขาเริ่มหายไป 

“ผมยังจำได้ ผมสงสัยว่าผมจะมีโอกาสได้เห็นวันฟ้าใสอีกกี่ครั้ง มันเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ ผมพยายามจะพูด แต่พูดไม่ออก ตอนหมอเข้ามาในห้อง ตอนนั้นผมร้องไห้ เพราะรู้สึกสิ้นหวัง”

ตอนนั้น ศัลแพทย์บอกว่า เขามีโอกาสรอดชีวิตเพียง 20% สิ่งที่เขากลัวมากที่สุด คือ การสูญเสียความทรงจำและกลายเป็นภาระครอบครัว ถึงจะเป็นแบบนั้น  เขาก็ใช้ใจสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งใจทำกายภาพบำบัด รวมถึงฝึกพูดจนเสียงเขากลับมาได้ในที่สุด 

“ผมคงเกลียดที่สุดถ้าต้องสูญเสียความทรงจำ เพราะมันจะทำให้ผมกลายเป็นภาระต่อครอบครัวด้วยการที่ผมนั่งอยู่บ้านโดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร คุณหมอสองคนให้ผมเขียนชื่อลูก ๆ ชื่อเพื่อน ๆ ชื่อทีมฟุตบอล และชื่อนักเตะของผม ผมก็แค่เขียนไปเรื่อย ๆ”

สุดท้าย จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวได้ตามปกติ และแม้ไม่ได้ทำงานโค้ชแล้ว แต่ก็ยังคงไปชมเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นครั้งคราว

เพราะฟุตบอล คือ งานและความสุขของเขาจริง ๆ 

การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของภรรยาผู้เป็นลมใต้ปีก 

ปี 2023 เคธีย์ เฟอร์กูซัน ภรรยาและผู้นำครองครัว สตรีผู้เป็นดั่งดวงใจของเซอร์อเล็กซ์จากไปในวัย 84 ปี 

ทั้งสองคนพบรักกันขณะทำงานที่โรงงานพิมพ์ดีด แต่งงานและมีลูกด้วยกัน 3 คน หลังจากพิธีไว้อาลัย เซอร์อเล็กซ์พูดถึงภรรยาของเขาไว้ว่า “ภรรยาของผม แคธี่ คือบุคคลสำคัญตลอดเส้นทางอาชีพของผม เป็นหลักแห่งความมั่นคงและกำลังใจ คำพูดใด ๆ ก็ไม่เพียงพอที่จะอธิบายได้ว่ามันมีความหมายกับผมมากแค่ไหน”

หลังจากเคธีย์ไม่อยู่กับเขาแล้ว จากคนที่มักจะออกไปข้างนอกบ้านอยู่บ่อย ๆ กลายเป็นคนติดบ้าน  พอรู้ตัวเขาก็ก้าวออกจากบ้าน ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ก่อนที่ความทรงจำของเขาจะเลือนหายไปอีกครั้ง

“หลังจากเธอจากไป ผมติดอยู่ในบ้านมากเกินไป ผมย้ายไปอยู่ชนบท ข้างบ้านลูกชาย แต่แค่นั่งดูทีวีก็ไม่พอ ผมเลยตัดสินใจออกเดินทาง ผมไปซาอุดีอาระเบีย ฮ่องกง และบาห์เรน แต่มันก็ยาก ตอนที่คุณกำลังรู้สึกเศร้า”

เพราะมีน้องชายที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม เขาจึงเข้าใจดีว่า การที่ความทรงจำแสนวิเศษหายไปคงเป็นเรื่องยากและทุกข์ไม่น้อย

เซอร์อเล็กซ์โทรศัพท์หาน้องชายอยู่บ่อย ๆ บอกให้น้องจดบันทึกเสียงต่าง ๆ ส่วนตัวเขาก็ชอบฟังเพลงและเลือกเล่นปริศนาอักษรไขว้เพื่อฝึกสมอง

“พอถึงวัยนี้ มันอดคิดไม่ได้หรอกว่า ความจำเราจะยังดีอยู่ไหม ผมจะอายุ 84 ปี แล้วนะ บางทีก็ลืมไปบ้าง แต่ผมคิดว่า คงเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ 20-30 ปีก่อนแล้ว ไม่มีใครมีความจำ 100% หรอก แต่ตอนผมยังเป็นผู้จัดการทีม ความจำเป็นสิ่งสำคัญมาก ตอนนี้ผมเลยทำปริศนาอักษรไขว้บ่อย ๆ ร้องเพลงเยอะ ๆ แล้วก็อ่านหนังสือ”

บทเพลงที่เติมเต็มห้วงความทรงจำที่ขาดหาย

ปัจจุบันเซอร์อเล็กซ์ทำหน้าที่เป็นทูตของ Playlist for life องค์กรการกุศลจากสหราชอาณาจักรที่ใช้เสียงดนตรีดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

“ผมเห็นน้องชายแล้วมันสะเทือนใจผมจริง ๆ ผมเลยเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ดนตรีมีบทบาทสำคัญต่อผู้ป่วยสมองเสื่อม คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักร้องเก่งก็ร่วมได้ แค่รู้เนื้อเพลงก็พอแล้ว”

ทำให้อีกหนึ่งเคล็ดลับการฝึกสมองของเซอร์อเล็กซ์ คือ การร้องเพลงในทุกวัน เพลงในเพลย์ลิสต์ของเขาบรรจุด้วยเพลงคุณภาพอย่างเช่น Will You Love Me Tomorrow ของ ‘The Shirelles’ และ ‘My Way’ ของแฟรงก์ ซินาตรา

“ผมร้องเพลงทุกเช้า ผมรู้ว่าตัวเองร้องไม่เก่ง แต่ผมก็ยังร้อง ไม่มีอะไรจะมาหยุดผมได้”

การได้มาทำงานตรงนี้ ทำให้เซอร์อเล็กซ์มีความสุข สดชื่น เพราะเขาเชื่อว่า ถึงสมองจะพรากความทรงจำไป แต่ดนตรีจะทำให้ตัวตนของคุณเปล่งประกายและเชื่อมผู้ป่วยกับคนรอบข้างเข้าหากัน

“ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแล ภรรยา ลูกชาย ลูกสาว ดนตรีจะช่วยเชื่อมความสัมพันธ์เหล่านี้ แม้ภาวะสมองเสื่อมจะพรากคน ๆ นั้นไปจากคุณ”

แม้ชีวิตจะผ่านทั้งความสูญเสียและความท้าทาย แต่เซอร์อเล็กซ์ยังคงก้าวเดินต่อไปด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง ดนตรีไม่ได้เป็นเพียงเสียงเพลงสำหรับเขาเท่านั้น แต่มันคือ สะพานเชื่อมความทรงจำ ความรัก และความผูกพัน ที่ไม่เคยเลือนหาย

สำหรับเขาแล้ว ทุกโน้ต ทุกทำนอง คือการย้ำเตือนว่า แม้เวลาจะเปลี่ยนไป แต่ความสัมพันธ์และความรักจะยังคงอยู่กับเราเสมอ

 

ภาพ : Getty Images

 

อ้างอิง

Lady Cathy Ferguson, the wife of former Man Utd manager Sir Alex Ferguson, dies / skysports

“I was crying” – Sir Alex Ferguson reveals his health struggles and it’s heartbreaking / onefootball

Sir Alex Ferguson: Former Man Utd manager discusses brain haemorrhage in new film / BBC

Ferguson on music, memory and dementia projects / BBC

“I was crying” – Sir Alex Ferguson reveals his health struggles and it’s heartbreaking / weallfollowunited

Sir Alex Ferguson speaks to BBC Breakfast for National Playlist Day / Playlist for Life