08 พ.ค. 2568 | 00:00 น.
การประชุมลับเพื่อคัดเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่นับว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่โลกต้องจับตามอง ไม่เพียงแค่ บุคคลดังกล่าวจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของศาสนาที่มีผู้ศรัทธามากกว่า 1.4 พันล้านคนทั่วโลก แต่เขาคนนั้นยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดจุดยืนของศาสนจักรที่มีต่อเรื่องต่าง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเมือง ความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ ไปจนถึงความแตกต่างหลากหลายและเสรีภาพในสังคม
จะมีคำกล่าวหนึ่งในภาษาอิตาลีว่า “Dopo un papa grasso, viene un papa magro” หรือแปลเป็นไทยว่า “หลังจากพระสันตะปาปาอ้วน ก็จะมีพระสันตะปาปาผอม” ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยผลลัพธ์ของการเลือกตั้งในการประชุมลับเพื่อเลือกสมเด็กพระสันตะปาปาองค์ต่อไป ทว่านัยยะของคำกล่าวที่ว่าอาจไม่ได้เกี่ยวกับขนาดของรอบเอวเสียขนาดนั้น แต่อาจจะเป็นเรื่องของ ‘จุดยืน’ ของพระสันตะปาปาแต่ละองค์มากกว่า
ถึงแม้ว่าพระสันตะปาปาองค์ก่อนจะมีจุดยืนที่เอนเอียงไปในทิศทางไหน และได้รับความนิยมมากเพียงใด ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าบุคคลต่อไปที่จะมารับช่วงต่อจะมีจุดยืนที่เอนเอียงไปในทิศทางเดียวกัน เพราะบางทีอาจจะตรงกันข้ามเสียด้วยซ้ำ แนวโน้มเป็นเช่นนี้เพราะอาจเป็นแนวคิดที่อยากจะถ่วงสมดุลระหว่างซ้ายกับขวาให้เหวี่ยงไปมาเหมือนลูกตุ้มตามกฎฟิสิกส์ (Pendulum Swing)
ในเรื่องของจุดยืนก็เรื่องหนึ่ง แต่ไม่ว่าโป๊ปคนถัดไปจะมีรูปร่างแบบใด จะมีรอบเอวเล็กหรือใหญ่แค่ไหน ‘รานิเอโร มันชิเนลลี’ (Raniero Mancinelli) ช่างตัดเสื้อและเจ้าของร้าน ‘มันชิเนลลี คลีโร’ (Mancinelli Clero) ที่ได้ให้บริการกับบุคลากรทางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกมามากมายตั้งแต่นักบวช บิชอป พระคาร์ดินัล ไปจนถึงสมเด็จพระสันตะปาปาผู้ล่วงลับทั้งสามองค์ — สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 (Pope John Paul II), สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 (Pope Benedict XVI) และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (Pope Francis)
ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของชายผู้อยู่กับเครื่องไม้เครื่องมือตัดเสื้อมากว่า 70 ปี จนได้กลายเป็นร้านประจำของพระคาร์ดินัลหรือแม้แต่พระสันตะปาปาองค์ก่อน กับความหวังในปัจจุบันที่อยากจะเห็นสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่สวมเสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาสักครั้งบนระเบียงเซนต์ปีเตอร์ที่เขาจะปรากฎตัวกับสาธารณชนเป็นครั้งแรก
‘มันชิเนลลี’ (Mancinelli) คือสกุลของเขาที่สืบต่อมาตั้งแต่รุ่นพ่อที่มีอาชีพเป็นช่างตัดเสื้อเหมือนกัน ส่วน ‘Clero’ คือคำเดียวกับคำว่า ‘Clergy’ ที่มีความหมายว่า ‘นักบวช’ ในภาษาอิตาลี เมื่อผสมกันจนกลายเป็นชื่อร้านของ รานิเอโร มันชิเนลลี ที่มีคำอธิบายในตัวอย่างชัดเจนว่าคือร้านตัดชุดสำหรับนักบวชแห่งศาสนาคริสต์
ร้านของมันชิเนลลี ตั้งอยู่ที่ ถนนบอร์โก ปิโอ หมายเลข 89 และ 90 ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวจาก ‘มหาวิหารนักบุญเปโตร’ (St. Peter's Basilica) สถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่ในนครรัฐวาติกัน (Vatican City) และ ณ สถานที่แห่งนี้คือร้านที่ รานิเอโร มันชิเนลลี ในวัยอายุ 86 ปี เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1962 จนมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 63 ปีแล้ว
รานิเอโร มันชิเนลลีเรียนที่โรงเรียนเซเลเซียน (Salesian School) ซึ่ง ณ ที่แห่งนั้นเองที่ทำให้เขาได้ซึมซับขนบธรรมเนียมของศาสนาคริสต์มาตั้งแต่เด็ก ชีวิตในฐานะช่างตัดเสื้อของมันชิเนลลีเริ่มตั้งแต่เขามีอายุ 15 ปี โดยที่ในตอนนั้นเขาได้เรียนรู้และช่วงงานพ่อของเขา ก่อนที่จะออกมาเปิดร้านเป็นของตัวเองและได้ตัดเสื้อผ้าให้กับเหล่านักบวช บิชอป พระคาร์ดินัลมากหน้าหลายตา ไล่เรียงมาตามลำดับจนมาถึงปัจจุบันนี้ มันชิเนลลีก็ยังทำงานอยู่เช่นเคยโดยมีลูกสาวและหลานชายวัย 23 ปีคอยช่วยงาน
ตลอดเส้นทางอันยาวนานในฐานะช่างตัดเสื้อและเจ้าของกิจการร้านมันชิเนลลี คลีโร ช่วงเวลาที่น่าจะเป็นเกียรติในชีวิตเขามากที่สุดคือการที่มีโอกาสได้กับตัดเสื้อผ้าอาภรณ์ให้กับสมเด็จพระสันตะปาปาถึงสามพระองค์ นับตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ต่อด้วย สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
แน่นอนว่าลูกค้าผู้มาใช้บริการกับมันชิเนลลีล้วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นนักบวชหรือพระคาร์ดินัล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ได้มีโอกาสตัดชุดและอาภรณ์ให้บุคคลสำคัญอย่างพระสันตะปาปาถือเป็นเกียติยิ่ง ไม่เพียงต่อร้านของเขา แต่ยังรวมไปถึงตัวของ รานิเอโร มันชิเนลลี เองอีกด้วย
แม้จะเป็นชุดในแบบเดียวกัน แต่ในเชิงรายละเอียดนั้น มันชิเนลลีเล่าว่าพระสันตะปาปาแต่ละองค์ก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น พระสันตะปาปาฟรานซิสต้องการผ้าขนสัตว์ที่เบาเป็นพิเศษและทนทาน ส่วนพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ในทางกลับกัน ทรงชอบผ้าผสมขนสัตว์กับไหม ซึ่งดูเป็นทางการและหรูหรากว่า ส่วนสมเด็จพระสันตะปาปาองค์แรกที่มันชิเนลลีได้มีโอกาสถวายงานให้อย่างจอห์น ปอล ที่ 2 ก็สวมชุดที่ทำจากผ้าขนสัตว์เนื้อหนากว่า มันชิเนลลีเล่าว่า ไม่ใช่เพราะทรงหนาวง่าย แต่เพราะทรงเจ้าเนื้อ และต้องการผ้าที่คงรูปได้ดีกว่า
แต่ในบรรดาพระสันตะปาปาทั้งสามพระองค์ ดูเหมือนว่าพระองค์ล่าสุดอย่างโป๊ปฟรานซิสคือพระสันตะปาปาที่มันชิเนลลีมีความทรงจำด้วยมากที่สุด ทั้งในแง่ของการบริการตัดเสื้อและมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นระหว่างทาง
รานิเอโร มันชิเนลลี ได้พบเจอกับพระสันตะปาปาฟรานซิสตั้งแต่วันที่เขายังเป็น ‘ฮอร์เฮ เบร์โกกลิโอ’ (Jorge Bergoglio) เพราะเขาได้เล่าว่าเมื่อราว ๆ 30 กว่าปีก่อนโป๊ปฟรานซิสได้มาซื้อกางเขนประดับอกที่ทำจากเหล็กจากร้านของแมนซิเนลลี ซึ่งเป็นกางเขนที่พระสันตะปาปาใช้กระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต
“พระองค์เป็นกันเอง ร่าเริง ราวกับว่าเรารู้จักกันมาทั้งชีวิต ผมได้พบพระองค์อย่างน้อยห้าครั้ง พระองค์ทรงเลือกผม”
— รานิเอโร มันชิเนลลี ให้สัมภาษณ์กับ National Catholic Reporter ถึงความรู้สึกที่เขามีต่อพระสันตะปาปาฟรานซิส
ตั้งแต่ในวันที่เขายังเป็นเบร์โกกลิโอไปจนถึงวันที่โลกรู้จักเขาในนามโป๊ปฟรานซิส มันชิเนลลีคือช่างตัดเสื้อที่พระสันตะปาปาผู้ล่วงลับเลือกที่จะใช้บริการ และมันชิเนลลีก็ได้สะท้อนภาพรวมของเสื้อผ้าในแบบที่พระสันตะปาปาต้องการว่าคือ ‘ความเรียบง่าย’ เพราะพระองค์ไม่ต้องการวัตถุดิบราคาแพงเลย เพียงแต่ต้องการผ้าที่เรียบง่ายและทนทาน
มันชิเนลลีเล่าว่าเมื่อเขาได้เห็นข่าวการเสด็จสวรรคตของพระสันตะปาปาฟรานซิส ก็ย่อมตามมาพร้อมกับความเสียใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับความภาคภูมิใจว่าในภาพที่เขาเห็น พระองค์ก็ยังสวมเสื้อผ้าที่ตัวเขาเป็นผู้ตัดเองกับมือ เพราะเขาจำได้ทันทีจากรายละเอียดเล็ก ๆ บริเวณรอบกระดุม
“โป๊ปฟรานซิสทรงยิ้มให้ผมเสมอ
บางผมรู้สึกว่าพระองค์เปรียบเสมือนญาติพี่น้องคนหนึ่ง
มากกว่าที่เป็นพระสันตะปาปาอีก”
ในร้านของเขานอกจากจะเต็มไปด้วยผืนผ้าที่ใช้ในการตัดชุดให้เหล่าบุคลากรจากศาสนจักรแล้ว ก็มีภาพของพระสันตะปาปาฟรานซิสแขวนอยู่ แน่นอนว่านอกจากความภาคภูมิใจแล้ว การที่มันชิเนลลีได้มีโอกาสเป็นช่างตัดเสื้อผ้าอาภรณ์ให้กับพระสันตะปาปาฟรานซิส เขาก็ได้สัมผัสถึงมิตรภาพที่สวยงามที่พระองค์ทรงหยิบยื่นให้ เหมือนกับที่พระองค์ทรงทอดสะพานและแผ่มันออกไปให้ผู้คนทั่วทั้งโลก
โดยปกติแล้ว เมื่อถึงช่วงที่จะต้องมีการคัดเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ก็ต้องมีการเตรียมเสื้อผ้าอาภรณ์เอาไว้ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นเวลากว่า 46 ปีที่ร้านตัดเสื้อเก่าอย่าง ‘กัมมาเรลลี’ (Gammarelli) คือผู้ที่ถูกเลือกในการตัดเสื้อผ้าเหล่านั้นเตรียมไว้เสมอ ทว่าในปีนี้ ทางร้านก็ได้ยืนยันว่าไม่ได้รับคำสั่งตัดเย็บชุดยาวสีขาวบริสุทธิ์สำหรับพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ก่อนการประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปาจากวาติกัน อาจเป็นเพราะวาติกันมีชุดใหม่ที่ยังไม่ถูกใช้งานมากเพียงพออยู่แล้ว
แต่ถึงกระนั้น หนึ่งความปราถนาของมินชิเนลลีที่ตัวเขาอยากจะเห็นเกิดขึ้นจริง คือการได้เห็นสมเด็จพระสันตะปาปาที่เพิ่งได้รับเลือกใหม่ สวมชุดคาสซ็อกของเขาขึ้นไปปรากฏตัวบนระเบียงเซนต์ปีเตอร์ที่พระองค์จะปรากฎตัวกับสาธารณชนเป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ได้รับการเลือกจากพระคาร์ดินัล และแต่งองค์ทรงเครื่องใน ‘ห้องแห่งน้ำตา’ (Room of Tears)
ดังที่กล่าวไปก่อนหน้า ในปัจจุบันนี้ รานิเอโร มันชิเนลลี ก็ยังคงเดินหน้าตัดชุดอยู่เช่นเคย ด้วยเครื่องเย็บและเตารีดเดิมที่เขาใช้ตลอดมา โดยมีทั้งลูกสาวและหลานชายของช่วยงาน ในช่วงเวลาหลังจากที่พระสันตะปาปาเสด็จสวรรคต ตัวเขาพร้อมกับหลานชายก็ได้เริ่มตัดชุดสำหรับพระสันตะปาปาเพื่อถวายให้กับนครรัฐวาติกันเผื่อว่าชุดที่เขาตัดนั้นจะอยู่บนพระกายของพระสันตะปาปาองค์ใหม่เป็นครั้งแรก
ด้วยเหตุนั้น มั้งมันชิเนลลีและหลานชายจึงต้องเดินหน้าตัดชุดให้เสร็จทั้งสามขนาด — เล็ก กลาง และใหญ่ — เพื่อที่จะเตรียมพร้อมสำหรับพระสันตะปาปาที่มีขนาดเอวแตกต่างกันไป
ตลอดชีวิตของรานิเอโร มันชิเนลลี เขาได้ถวายงานให้กับพระสันตะปาปาถึงสามพระองค์ ได้เห็นภาพผู้ทรงศักดิ์สวมใส่เสื้อผ้าฝีมือของเขาในช่วงเวลาสำคัญนับไม่ถ้วน ทว่าเพียงหนึ่งช่วงเวลาเดียว — ช่วงเวลาที่โลกทั้งใบเฝ้าจับตาระเบียงแห่งเซนต์ปีเตอร์ — นั้นยังคงเป็นเพียงภาพในจินตนาการ
แต่ภาพนั้นยังไม่เคยเลือนหาย
ด้วยมือที่ยังคงตัดเย็บอย่างมั่นคง เตารีดที่ยังคงอุ่น และเข็มด้ายที่ยังเดินหน้าต่อไป พร้อมลูกหลานที่คอยสนับสนุน มันชิเนลลีและหลานชายก็ยังคงสร้างชุดคาสซ็อก ส่งไปถึงวาติกันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
เพราะบางที... ชุดของเขาอาจจะเป็นชุดที่โลกทั้งใบเฝ้ามองอยู่ ณ ระเบียงเซนต์ปีเตอร์ ในวินาทีแรกที่พระสันตะปาปาองค์ใหม่จะกล่าวว่า
“Habemus Papam.”
ภาพ : Getty Images
อ้างอิง
College of Cardinals Report. (n.d.). Qualities of a pope: What cardinals consider during a conclave.