24 พ.ย. 2568 | 18:24 น.

KEY
POINTS
‘เฉอ จื้อเจียง’ หนุ่มใหญ่จากหูหนาน กลายเป็นเจ้าพ่อสแกมเมอร์ระดับโลกที่รัฐบาลจีนสั่งล่าหัว ผู้สร้างปฐมบท ‘จีนเทา’ หลอกคนหนุ่มสาวหลายแสนชีวิตมาทํางานหลอกลวง เพื่อดูดเงินจากผู้บริสุทธ์ทั่วโลก
‘โมฮัมเหม็ด’ วัย 26 ปี จบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยในธากา ด้วยความรักเทคโนโลยี เขาฝันอยากทํางานดูแลเซิร์ฟเวอร์ใหญ่ ๆ สักแห่ง แต่โลกความจริง บริษัทไอทีในบังกลาเทศมีตําแหน่งงานจํากัด ตั้งแต่เรียนจบ เขาทําได้เพียงรับงานฟรีแลนซ์ ดูแลระบบให้บริษัทเล็ก ๆ ที่ค่าแรงไม่มากนัก
กระทั่งวันหนึ่ง มีอีเมล์ลึกลับส่งถึงเขา ระบุข้อความ “มีงานดูแลระบบคราวด์ ในเมียนมา เงินดี ที่พักฟรี” เขาจึงตอบกลับไปโดยไม่ลังเล เพราะเชื่อว่าเป็นโอกาสของชีวิต แต่โมฮัมเหม็ดไม่รู้เลยว่ากําลังพาชีวิตก้าวสู่หุบเหวครั้งใหญ่ ในอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ระดับโลก
โมฮัมเหม็ดใช้เงินเก็บซื้อตั๋วเครื่องบินมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ เจอนายหน้าคนไทย บอกให้เขาขึ้นรถตู้ พร้อมชายหนุ่มชาวเอเชียอีกหลายคน ซึ่งทุกคนถูกบอกแบบเดียวกันว่า “ได้งานไอที ระบบคลาวด์ เงินเดือนสูง” ทั้งจากอินเดีย เนปาล ฟิลิปปินส์ และไทย
รถตู้ขับข้ามคืนเดินทางมาถึงพรมแดนเมียนมา–ไทย ใน อ.แม่สอด ก่อนรถแล่นข้ามฝั่งแม่นํ้าเมย จากถนนลาดยางก็กลายเป็นฝุ่นสีแดง มีป้ายภาษาเมียนมา และอังกฤษกํากับข้างล่างว่า ‘Shwe Kokko’ ก่อนรถตู้หยุดหน้าประตูเหล็ก ของตึกสูงนับสิบชั้น บนป้ายมีภาษาจีนที่เขาอ่านไม่ออก
จากนั้นโลกแห่งความฝันของโมฮัมเหม็ดก็พังทลายลง เมื่อชายสะพายอาวุธสงคราม สั่งให้ถอดซิมการ์ด โทรศัพท์ถูกเก็บ พาสปอร์ตถูกยึด ประตูเหล็กปิดลง และแทนที่จะถูกพาตัวไปห้องเซิร์ฟเวอร์ โมฮัมเหม็ดถูกพาไปยังอาคารกระจกเต็มไปด้วยจอคอมพิวเตอร์นับร้อย มีชายชาวจีนรูปร่างใหญ่เป็นหัวหน้า กับลูกน้องที่เป็นทหารกะเหรี่ยงติดอาวุธจํานวนหนึ่ง
ชายชาวจีนยิ้มบาง ๆ สั่งงานที่แท้จริงว่า โมฮัมเหม็ดและเพื่อน ต้องสร้างโปรไฟล์ปลอม เป็นชื่อใหม่ ตัวตนใหม่ และหยิบโทรศัพท์ กับสมุดบันทึกหมายเลขโทรศัพท์หนาเป็นปึก โทรหลอกให้คนโอนเงิน พร้อมคําสั่งจากชายชาวจีนเป็นภาษาอังกฤษว่า “ชีวิตของพวกแก ตอนนี้มีค่า 20,000 เหรียญ หากไม่ทําตามคําสั่งก็จะถูกลงโทษ และถูกขายไปที่อื่น และหากอยากเป็นอิสระ ก็ให้ญาติพี่น้องโอนเงินค่าไถ่มา 20,000 เหรียญ”
ตอนแรกโมฮัมเหม็ดคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น จนกระทั่งหนุ่มฟิลิปปินส์ที่ปฏิเสธจะทําตามสําสั่ง ถูกพานท้ายปืนทหารกะเหรี่ยงฟาดเข้าที่ท้ายทอยจนเลือดหยดลงพื้น เขาจึงรู้ว่า กําลังเผชิญขุมนรก
‘ชเว ก๊กโก่’ คือเมืองที่มีขนาดกว้างเพียงภายในตึกที่หุ้มด้วยลูกกรงของโมฮัมเหม็ด แต่ความเป็นจริง มันคือเมืองขนาดย่อมที่ถูกเนรมิตรขึ้นกลางป่าดิบและภูเขาสลับซับซ้อนของเมืองเมียวดี พรมแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่อิทธิพลของทหารกองกําลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของกองกําลังชาติพันธุ์กะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) ที่มีสายสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมา
ในบทความ ‘Shadow Capital at Myanmar’s Margins: Shwe Kokko New City and its Predecessors’ โดย ISEAS ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมอง (Think Tank) ของสิงคโปร์ ที่เผยแพร่เมื่อเดือน ธ.ค. 2020 ระบุว่า ชเวก๊กโก่ เริ่มได้รับความสนใจจากนานาชาติตั้งแต่ปี 2020 ในฐานะ ‘ไชนาทาวน์’ แห่งใหม่
จากการเติบโตอย่างรวดเร็วในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ มีอาคารทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและประกอบธุรกิจถูกสร้างขึ้นเป็นจํานวนมาก ทั้งศูนย์การค้า ร้านค้า โกดังเก็บสินค้า ที่พักอาศัยหรูหรา รวมถึงบ่อนการพนันหรือกาสิโน
ซึ่งบริษัทที่พัฒนาเมืองนี้ขึ้นมา คือ ‘ย่าไถ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป’ (Yatai International Holdings Group) ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกง ได้สิทธิใช้ที่ดินพัฒนาโครงการเมืองใหม่ชเวก๊กโก่ ด้วยเม็ดเงิน ลงทุน 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ บนเนื้อที่ 120 ตารางกิโลเมตร โดยขายฝันว่า ในอนาคตชเว ก๊กโก จะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟจากนครย่างกุ้งของเมียนมาถึงกรุงเทพฯ ของไทย และถนนจากนครคุนหมิงของจีนถึงกรุงเทพฯ ของไทย รวมถึงชเวก๊กโก่จะเป็นแหล่งรวมของเมืองที่เหมาะสมกับการถ่ายทําภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ มีสวนน้ำ สนามกอล์ฟ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวปีละ 8 แสนคน
บุคคลที่อยู่เบื้องหลังของบริษัทแห่งนี้ คือหนุ่มใหญ่ชาวจีนที่ชื่อว่า ‘เฉอ จื้อเจียง’ ผู้เนรมิตให้หุบเขาที่เคยเงียบสงัดในยามค่ำคืน มีกลุ่มอาคารสว่างไสวตลอด 24 ชั่วโมง เสียงคีย์บอร์ดดังตลอดกะกลางคืน จากคนหนุ่มสาวที่ถูกควบคุมอยู่หลังประตูเหล็ก
เขาเกิดที่มณฑลหูหนานในปี 1982 ในยุคที่จีนกําลังเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เขาเริ่มต้นจากการทําธุรกิจเล็ก ๆ หลายรูปแบบ ก่อนเข้าสู่วงการลอตเตอรี่ออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่ผู้เล่นชาวจีนช่วงปี 2000
แต่ปี 2014 คือจุดเปลี่ยนสําคัญ เมื่อเขาถูกศาลจีนตัดสินเกี่ยวกับกิจกรรมลอตเตอรี่ออนไลน์ผิดกฎหมาย แต่แทนที่จะยุติเส้นทางสร้างเม็ดเงิน เขากลับเลือกเดินออกจากประเทศ และมุ่งหมายจะพัฒนาอาณาจักรใหม่ในประเทศที่กฎหมายอ่อนแอกว่า ระหว่างปี 2015-2017 เฉอย้ายศูนย์ธุรกิจสู่ฟิลิปปินส์และกัมพูชา ที่เป็นดั่งแผ่นดินทองของเว็บพนันจีน เพราะกฎหมายปราบปรามพนันไม่เข้มงวด มีการทุจริตสูง ทําให้นักลงทุนจีนทะลักเข้าไปตั้งคาสิโน และธุรกิจสีเทา
เฉอกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดการพนันออนไลน์ข้ามชาติ เขาทําเงินจํานวนมหาศาลจากผู้เล่นจีนที่ถูกจํากัดไม่ให้เล่นภายในประเทศตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายเบี้ยบ้ายรายทางเข้าหาบุคลสําคัญในแวดวงราชการ เพื่ออํานวยความสะดวกกับการสร้างอาณาจักรของเขา รวมถึงบริจาคเงินให้รัฐบาลกัมพูชา ทําให้ 2017 เฉอ จื้อเจียงได้รับ สัญชาติกัมพูชา ใช้ชื่อใหม่ ‘ตัง เครียง ขาย’ ในการทําธุรกิจ ก่อนขยายเครือข่ายไปยังชายแดนเมียนมา สถานที่ซึ่งจํานวนเงินที่มากพอเท่ากับกฎหมาย
เฉอ ควักเงินสร้าง ‘Yatai New City Project’ เป็นจุดเริ่มต้นพลิกฟื้นใหม่เมืองกลางป่าดิบ เอกสารแสดงว่าเป็น ‘เขตเศรษฐกิจพิเศษ’, เมืองใหม่, ศูนย์คาสิโน, คอมเพล็กซ์ไฮเทค แต่ในความเป็นจริง โครงการนี้ค่อย ๆ กลายเป็น ‘ศูนย์กลางคอลเซ็นเตอร์สแกมเมอร์’ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีคาสิโนบังหน้า แต่อาคารส่วนใหญ่ถูกปิดล้อม ระบบอินเทอร์เน็ตถูกควบคุม คนงานหลายพันถูกล่อลวงมาจากจีน ลาว ไทย มาเลเซีย และจากเอเชียใต้ ถูกบังคับทํางานโทรหลอกลวง, พนันออนไลน์ และโรแมนซ์สแกม
ปัจจัยสําคัญที่เฉอขยายอาณาจักรได้รวดเร็ว เพราะเขาทําอย่างที่เคยทํา คือการใช้เงินนําหน้า จับมือกับ ‘หม่อง ชิต ตู่’ ผู้นําคนสําคัญกองกําลังกะเหรี่ยง BGF ซึ่งควบคุมพื้นที่แทนรัฐบาลเมียนมา ทําให้เจ้าหน้าที่รัฐของจีน ไทย และเมียนมาเข้าไม่ถึง
และจากรูปรอยขบวนการสแกมเมอร์ ทําให้วลี ‘จีนเทา’ ถูกใช้แทนคนจีนที่สร้างธุรกิจนอกกฎหมายนอกแผ่นดินจีน ซึ่งเฉอ จื้อเจียง อยู่ในบัญชีหัวขบวน
วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ระยะเวลาเพียง 9 เดือน แต่โมฮัมเหม็ดรู้สึกเหมือนเป็นเวลานับสิบปี เขาจําไม่ได้ว่า ถูกบังคับให้หลอกลวงคนไปกี่คน และมีคนชราสิ้นเนื้อประดาตัวต้องเผชิญความเจ็บปวดจนจบชีวิตตัวเองไปกี่คน เพราะที่นั่น โมฮัมเหม็ดไม่รับรู้ข่าวคราวภายนอก เขารู้เพียงว่า เงินที่เขาหลอกลวงมามี มูลค่าเกิน 20,000 เหรียญ และมันควรเป็นใบเบิกทางให้เขาได้กลับบ้านไปหาแม่
แต่เมื่อรวบรวมความกล้าเอ่ยปากบอกผู้คุมคนจีน โมฮัมเหม็ดกลับถูกทหารกะเหรี่ยงกระหน่ำไม้กระบองเข้ากลางหลังนับไม่ถ้วน และเขาถูกใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในชีวิต ส่วนเพื่อนชาวฟิลิปปินส์และชาวแอฟริกันอีกคน ถูกลากไปทําร้ายจนร้องลั่นโหยหวน และหายไปอย่างไม่รู้ชะตากรรม
ปี 2019-2020 นักข่าวและองค์กรสิทธิมนุษยชนเริ่มเผยแพร่หลักฐานเกี่ยวกับแรงงานสแกมเมอร์ที่ถูกทรมาน และการค้ามนุษย์ข้ามแดน มีการประเมินตัวเลขว่ามีคนถูกหลอกลวงไปทํางานในเมืองคอลเซนเตอร์สแกมเมอร์ที่สืบค้นตัวตนได้ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน แต่จากการบอกเล่าของคนที่หลบหนีรอดชีวิตออกมาจากขุมนรกชเว ก๊กโก่ มีไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน มีเงินหมุนเวียนหลายพันล้านจนถึงหมื่นล้านดอลลาร์ สื่อใหญ่อย่าง BBC, OCCRP, Justice For Myanmar เผยให้เห็นว่า ชเวก๊กโก่ ไม่ใช่แค่เมือง แต่เป็น ‘อาณาจักรอาชญากรรมดิจิทัล’
จุดเริ่มต้นที่น่าจะเรียกว่าการล่มสลายของเมืองสแกมเมอร์ชเวก๊กโก่อย่างแท้จริง เกิดเมื่อรัฐบาลจีนเผยข้อมูลตัวเลขคนจีนที่ถูกหลอกลวงมาทํางานในอุตสาหกรรมชั่วร้ายนี้ และเริ่มขยับกดดันให้รัฐบาลกัมพูชา เมียนมา และไทยดําเนินการ ทําให้เฉอ จื้อเจียง ต้องปิดคาสิโนบางแห่งในกัมพูชา แต่ในเมืองชเว ก๊กโก่ ดวงไฟยังสว่างสไวเช่นเดิม
วันที่ 13 สิงหาคม 2022 ตํารวจไทยบุกจับเฉอ จื้อเจียง ที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตามหมายแดงของตํารวจสากล และการร้องขอจากรัฐบาลจีน การจับครั้งนั้นสร้างข่าวใหญ่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเฉอ จื้อเจียงคือผู้นําของเครือข่ายพนันระดับโลก มีเหยื่อจํานวนมหาศาลในหลายประเทศ รวมทั้งไทย
เฉอถูกส่งตัวไปเรือนจําคลองเปรม ทนายยื่นคัดค้านการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหลายครั้ง แต่จีนก็กดดันต่อเนื่อง แต่ในระหว่างนั้น การดําเนินกิจกรรมในเมืองสแกมเมอร์ฝั่งเมียนมายังดําเนินไปด้วยลูกน้อง-เครือข่ายของ เฉอ จื้อเจียง
กระทั่งต้นปี 2025 เกิดกรณี นักแสดงชาวจีน ‘หวัง ซิง’ หรือ ‘ซิง ซิง’ นักแสดงชาวจีนถูกล่อลวงข้ามแดนไปชเว ก๊กโก หลังมีการเผยแพร่เรื่องนี้ลงในเว่ยป๋อ (Weibo) สื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมในจีน และครอบครัวแจ้งเรื่องไปทางการของจีน จึงมีการประสานงานกับรัฐบาลไทย และกองกําลังพิทักษ์ชายแดน BGF ฝั่งเมียนมา ช่วยเหลือออกจากเมืองสแกมเมอร์ติดชายแดน จ.ตาก ของไทยภายในเวลา 2 วัน เมื่อวันที่ 5 ม.ค.
ระหว่างนั้นรัฐบาลจีน ส่ง ‘หลิว จงอี้’ ผู้ช่วยรัฐมนตรีความมั่นคง เข้ามารับผิดชอบประสานงานกับรัฐบาลไทย-กัมพูชา-เมียนมา และกองกําลังชนกลุ่มน้อยชายแดนไทย-เมียนมา ในการปราบปรามเมืองสแกมเมอร์
กระทั่งวันที่ 23 ตุลาคม 2025 ศาลรัฐธรรมนูญไทยวินิจฉัยว่า “กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของไทยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ” กลายเป็น ‘ไฟเขียว’ ที่รอมา 3 ปี ทางการไทยสามารถส่งตัวเฉอ จื้อเจียง ให้จีนได้ทันที และวันที่ 12 พฤศจิกายน 2025 เฉอ จื้อเจียง ถูกคุมตัวขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง มุ่งหน้าไปยังจีน เพื่อเผชิญกระบวนการยุติธรรมในบ้านเกิด ที่เขาหลบหนีมานานกว่าทศวรรษ โดยทางการจีนออกแถลงการณ์
สั้น ๆ ว่า “เฉอ จื้อเจียง คือบุคคลสําคัญที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ถูกนําตัวกลับเพื่อสอบสวนและดําเนินคดี”
จากนั้นมีการกดดันกับกลุ่มกองกําลัง BGF ของนายพลหม่อง ชิต ตู่ จนกระทั่ง BGF ต้องยอมทําลายธุรกิจสแกมเมอร์ ส่งตัวกลุ่มขบวนการชาวจีนกลุ่มใหญ่ให้ทางการจีน และช่วยเหลือผู้ที่ถูกหลอกลวงมาทํางาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจีน ส่วนรัฐบาลจีน ส่งเครื่องบินมารับตัวกลับประเทศทันที ส่วนชาติอื่น ๆ เป็นภาระของรัฐบาลไทย ในการคัดกรอง ประสานงาน และหาทางส่งกลับประเทศ
จุดจบของเฉอ จื้อเจียง ปรากฏขึ้นพร้อม ๆ กับเสียงระเบิดกลุ่มอาคารในเมืองชเวก๊กโก่ ที่กลุ่ม BFG เข้าทําลายสัญลักษณ์ ‘ความเจริญแบบหลอกลวง’
แม้การถูกลากตัวเฉอ จื้อเจียงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะเปรียบเสมือนจุดจบของชายผู้สร้างเมืองจากการพนันและการหลอกลวง แต่ไม่มีใครรับประกันได้ว่า อนาคตของดินแดนที่ไร้กฏหมายและสันติภาพ จะมีนายทุนแบบเฉอ จื้อเจียง คนใหม่มาสานต่ออีกหรือไม่
โมฮัมเหม็ด คือเหยื่อค้ามนุษย์กลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มประชาสังคมช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ฝั่งเมียนมา ที่ทํางานประสานงานทางลับกับกองกําลัง BGF บางกลุ่ม ก่อนออกมาเปิดเผยเรื่องราวของเพื่อนร่วมชะตากรรมหลากหลายสัญชาติ ปัจจุบันเขากลับไปบ้านเกิด และทํางานเป็นพนักงาน
ซอฟแวร์ของบริษัทค่ายมือถือ แต่วันเวลายังไม่สามารถลบล้างฝันร้ายจากขุมนรกชเว ก๊กโก่ เมืองหลอกลวง ที่ถูกรังสรรค์โดยเฉอ จื้อเจียง ได้
เรียบเรียง: กัณฐ์ นครสุขาลัย
ภาพ: The Nation
อ้างอิง:
Justice For Myanmar — “Who powered the expansion of cyber scams in Myawaddy?”
BBC News — “Myanmar’s Shwe Kokko: Inside a city 'built on scams'”
Al Jazeera — “Myanmar military raids online scam hub, arrests nearly 350 on Thai border”
ABC News — “Alleged Myanmar scam kingpin She Zhijiang extradited to China from
Thailand”
The Guardian — “Alleged gambling kingpin linked to scam centres extradited from Thailand to China”
The Nation (ไทย) — “She Zhijiang: From Shwe Kokko Kingpin to Klong Prem Prison”
USCC (U.S.–China Economic and Security Review Commission) — “China’s Exploitation of
Scam Centers in Southeast Asia”
MGR Online (ไทย) — “ชาวเมียนมากว่า 3,000 คนรวมตัวอวยพรให้ She Zhijiang ในพิธีบุญที่ Yatai Shwe Kokko”
ISEAS “Shadow Capital at Myanmar’s Margins: Shwe Kokko New City and its Predecessors”