Divas Café รายการทีวีถูกตีตรา ‘ควายแดง’ เคยมีดรีมทีม ‘แขก-ช่อ-โบว์’ ทำเนื้อหาที่มาก่อนกาล

Divas Café รายการทีวีถูกตีตรา ‘ควายแดง’ เคยมีดรีมทีม ‘แขก-ช่อ-โบว์’ ทำเนื้อหาที่มาก่อนกาล

รายการ ‘ดีว่า คาเฟ่’ (Divas Café) อดีตรายการยอดฮิตของช่อง Voice TV ที่ครั้งหนึ่ง ‘แขก คำผกา’ ‘ช่อ พรรณิการ์’ และ ‘โบว์ ณัฏฐา’ ตัวตึงจากหลากหลายขั้วในปัจจุบันเป็นพิธีกรร่วมกัน ภาพความทรงจำของรายการทีวีที่มีผู้หญิงวิเคราะห์เรื่องต่าง ๆ ด้วยแนวคิดแบบหัวก้าวหน้า คุยด้านสิทธิ เสรีภาพ

  • ครั้งหนึ่งในอดีต ‘แขก - คำผกา’,  ‘ช่อ - พรรณิการ์’ และ ‘โบว์ -  ณัฏฐา’ เคยทำรายการ ‘ดีว่าส์ คาเฟ่’ (Divas Café) ร่วมกัน เป็นรายการเนื้อหาเชิงวิเคราะห์โดยผู้หญิงที่พูดถึงแง่มุมที่ก้าวหน้า
  • แม้รายการนี้จะยุติลงแล้ว แต่ในปัจจุบัน ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของทั้งสภาพการเมือง สถานะและบทบาทของพิธีกรหลายรายจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ตัวรายการ พิธีกร และเนื้อหา ยังถือเป็นอีกหมุดหมายหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงในสังคมหลายแง่มุม

เมื่อไม่กี่วันมานี้ เพจเฟซบุ๊คที่ชื่อว่า ‘Double Standard’ ได้แชร์รูปภาพรายการ ‘ดีว่าส์ คาเฟ่’ (Divas Café) อดีตรายการยอดฮิตของช่อง Voice TV ที่ครั้งหนึ่ง คุณ ‘แขก คำผกา’ คุณ ‘ช่อ พรรณิการ์’ และคุณ ‘โบว์ ณัฏฐา’ เคยเป็นพิธีกรร่วมกัน ทำเอาหลายคนตื่นเต้นตกใจ และอยากรู้ว่านั่นคือเรื่องจริงเหรอ บรรยากาศของรายการจะเป็นอย่างไร เขาตีกันไหม ย้อนความไปจนถึงรายการนั้นคือรายการอะไร เกี่ยวกับอะไร ถึงขั้นหลายคนย้อนกลับไปดูเทปเก่า ๆ

บทความนี้จึงอยากอธิบายความเป็นมาเป็นไปของรูปภาพดังกล่าว รวมถึงเนื้อหาของรายการ Divas Café ที่สุดแสนจะก้าวหน้า ยิ่งไปกว่านั้น เวลาที่ผ่านมาแล้วกว่าทศวรรษ รายการนี้ได้ทิ้งอะไรให้แก่สังคมไทยไว้บ้าง และเราควรถูกจัดวาง Divas Café ไว้ตรงไหนในประวัติศาสตร์สื่อและวิวัฒนาการของประชาธิปไตยไทย

ย้อนกลับไปในช่วง 1-2 ทศวรรษ หากพูดถึงรายการของผู้หญิง เราคงทราบกันว่าโดยมากจะเป็นรายการข่าวบันเทิง ซุบซิบดารา หรือขยับขึ้นมาหาสาระหน่อยก็อาจจะเป็น ‘ผู้หญิงถึงผู้หญิง’ หรือ ‘แจ๋ว’ ซึ่งประเด็นส่วนมากจะเป็นเกล็ดความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพและเคล็ดลับตามแบบฉบับแม่บ้าน มีบ้างที่จะพูดถึงประเด็นสังคม แต่ก็เป็นการวิเคราะห์บนฐานคิดแบบศีลธรรมอันดี ความดี - ชั่วแบบคาดเดาได้

จนกระทั่ง ต้นปี 2012 ช่อง Voice TV ได้เปิดตัวรายการใหม่คือ Divas Café เป็นรายการวิเคราะห์ข่าวของผู้หญิงโดยมีพิธีกรหญิงสามคนหลัก ๆ (เหล่าแฟนคลับรู้ดีว่าเราจะเรียกการรวมตัวของสามท่านนี้ว่าเป็น กาแฟรสดั้งเดิม เพราะเป็นพิธีกรรุ่นแรก) ซึ่งประกอบด้วย

  • ‘ลักษณา ปันวิชัย’ หรือ ‘คำผกา’ หรือ ‘พี่แขก’ หรือ ‘นางแบกเพื่อไทย’ เป็น ดีว่าส์สายการเมือง ผู้วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นทางการเมืองอย่างเผ็ดร้อน ตรงไปตรงมา พี่แขกให้มุมมองต่อเรื่อง ๆ หนึ่งที่ไปไกลกว่าฐานคิดแบบดี-ชั่ว พยายามอ้างอิงทฤษฎีและเนื้อหาในบทความของบรรดานักวิชาการชื่อดังทั้งของไทยและต่างประเทศโดยนำมาอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย บางครั้ง อาจมีบ้างที่พี่แขกจะโดน SMS หรือ comment จากผู้ชมบางส่วนที่บ่นเรื่องอารมณ์โกรธของพี่แขกที่โทนส่งให้เสียงแหลมปี๊ด แต่เธอก็ไม่แคร์
  • ‘มนทกานติ รังสิพราหมณกุล’ หรือ ‘พี่เบีย’ อดีต บ.ก. นิตยสาร Madame Figaro ฉบับภาษาไทย พี่เบียรับหน้าที่เป็น ดีว่าส์สายแฟชั่น ภาพจำของเธอคือเสียงนุ่ม ๆ เรียกผู้ชมให้ช่วยกันส่ง SMS เข้ามาทักทายพิธีกรและร่วมแสดงความคิดเห็นในรายการ และท่านั่งไขว่ห้างซิกเนเจอร์ที่ทำให้ขาดูเรียวสวยจนดีว่าส์ทุกคนต้องทำตาม เรื่องเล่าเกี่ยวกับแฟชั่นของพี่เบียไม่ได้เป็นเพียงการบอกเล่าถึงความสวยงามหรือความหรูหราของสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม แต่เสื้อผ้าแต่ละชิ้นจะถูกโยงเข้ากับริบทของประวัติศาสตร์ สังคม และการเมือง
  • ‘วันรัก สุวรรณวัฒนา’ หรือ ‘อาจารย์เฟย์’ อาจารย์จากภาควิชาภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับหน้าที่ ดีว่าส์สายฝรั่งเศส บอกเล่าถึงประเทศฝรั่งเศสในฐานะประเทศก้าวหน้าด้านประชาธิปไตยทั้งผ่านประวัติศาสตร์ การเมือง วัฒนธรรม ปรัชญา วรรณกรรม และประเด็นร้อนในสังคม พร้อมชวนเปรียบเทียบกับความเป็นไปในสังคมไทย อาจารย์เฟย์เป็นอีกคนที่มักจะนำเนื้อความน่าสนใจจากบทความวิชาการมานำเสนอในรายการ

เวลาผ่านไปสักระยะ เริ่มมีดีว่าส์คนอื่น ๆ มาเสริมทัพ ประกอบด้วย ‘จิตต์สุภา ฉิน’ (ซู่ชิง) ดีว่าส์สายไอที ‘กรกฏ พัลลภรักษา’ (นิ่ม) ดีว่าส์สายท่องเที่ยว ‘อินทิรา เจริญปุระ’ (ทราย) ดีว่าส์สายบันเทิง อรรถ - บุญนาค ดีว่าส์สายญี่ปุ่น และอีกหลาย ๆ ท่าน เช่น ช่อ – พรรณิการ์, ฝ้าย – สุลักษณ์, โบ – ณัฏฐา, หมอตั้ว – วิพุธสินี,  อาจารย์อุ๋ย – สลิสา, เจนี่ – เออเชนี, ไก่ - ทัศนวรรณ รวมถึง อาจารย์ปวิน และอาจารย์ปิยบุตร ที่ผันบทบาทจากแขกรับเชิญมาเป็นพิธีกรประจำ

แม้ว่าแต่ละคนจะมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านชัดเจนและรายการมีการแบ่งเวลาให้ได้พูดถึงเรื่องที่เตรียมมาในแต่ละช่วงอย่างชัดเจน แต่ในช่วงเหล่าดีว่าส์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผู้ชมจะได้เห็นมุมมองของดีว่าส์การเมืองวิเคราะห์เรื่องแฟชั่น ดีว่าส์แฟชั่นเสริมข้อมูลเชิงวัฒนธรรมให้แก่ดีว่าส์ฝรั่งเศส หรือดีว่าส์ฝรั่งเศสเสริมข้อมูลเชิงปรัชญาให้แก่ดีว่าส์การเมือง

การปะทะสังสรรค์ทางความคิดนี้ทำให้เนื้อหาในรายการมีความเข้มข้น มีมิติที่ซับซ้อน และมีความน่าสนใจ และเหนือสิ่งอื่นใด นี่คือบทพิสูจน์ว่าผู้หญิงไม่ได้พูดแต่เรื่องการบ้าน แต่ยังพูดเรื่องการเมืองหรือกิจธุระของสาธารณชนได้อย่างแหลมคมและก้าวหน้า หรือผู้ชายเองก็สามารถพูดเพื่อความหลากหลายทางเพศได้ด้วยสำนึกที่ว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องของคนกลุ่มใดหลุ่มหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคน

หนึ่งเรื่องที่ Divas Café โดดเด่นมากคือการพูดถึงเรื่องเพศ  Divas Café น่าจะเป็นสื่อแรก ๆ ในไทยที่ให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้หญิงและความหลากหลายทางเพศในแง่ของการต่อสู้เชิงอุดมการณ์ เรามักจะได้ยินคำศัพท์เชิงวิชาการเกี่ยวกับเพศอยู่บ่อย ๆ เช่น ‘เพศสภาพ’ ‘เพศวิถี’ ‘อัตลักษณ์ทางเพศ’ ‘เควียร์’ ‘LGBT’ ‘ความลื่นไหลทางเพศ’ ‘สังคมชายเป็นใหญ่’ ‘ปิตาธิปไตย’ ฯลฯ

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ คำศัพท์พวกนั้นได้กลายเป็น ‘ความปกติใหม่’ ที่แทรกซึมเข้าสู่โลกทัศน์ของใครหลายคนจนเราเชื่อ ยึดมั่น และตระหนักรู้ว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นมากต่อชีวิตของพลเมือง

ยิ่งไปกว่านั้น ภาพของผู้หญิงในรายการ Divas Café ที่ทั้งเปรี้ยว เซ็กซี่ (โดยเฉพาะชุดพี่แขก) การนั่งไขว่ห้าง ความคิดก้าวหน้า น้ำเสียงที่ดัง ความโกรธ วีน หัวเราะปากกว้าง ๆ สุดเสียง ทั้งหมดนั้นสวนทางกับภาพจำของผู้หญิงในสื่อที่ต้องแต่งกายเรียบร้อย มิดชิด พูดจาเสียงเบาด้วยถ้อยคำไพเราะ แสดงออกแบบนางเอกในขนบ ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความไม่ตั้งใจหรือความเป็นธรรมชาติ แต่มันคือการพยายามจะสื่อสารกับสังคมขวาจัดว่า ความเป็นผู้หญิงมีหลายแบบ และพอเถอะกับการเชิดชูภาพลักษณ์ของผู้หญิงตามแบบขนบ

แน่นอนว่าความก้าวหน้านี้ในช่วงเกือบสิบปีก่อนของไทยย่อมถูกด่าเละจากสังคมขวาจัด ถูกแปะป้ายว่าเป็นรายการควายแดงเช่นเดียวกับรายการอื่น ๆ ใน Voice TV

จุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ของรายการน่าจะเป็นช่วงรัฐประหาร Voice TV ถูกควบคุมเนื้อหาที่จะเผยแพร่ บางครั้งถึงขั้นมีทหารมายืนสังเกตการณ์อยู่หลังกล้องขณะที่มีการถ่ายทอด ซึ่งบั่นทอนกำลังใจของพิธีกรหลาย ๆ คน โดยเฉพาะตัวยืนอย่างพี่แขกที่ถึงขั้นต้องมาขออนุญาตลางานไปช่วงหนึ่ง โดยเธออธิบายว่า ปรับตัวไม่ได้กับสภาวะการทำงานของช่องในช่วงนั้น

ในขณะเดียวกัน ผลพวงของรัฐประหารบีบบังคับรายการโดยอ้อมให้ต้องพยายามหาคอนเทนต์เรื่องอื่น ๆ มานำเสนอ ทำให้ความเข้มข้นในเชิงอุดมการณ์ประชาธิปไตยของรายการลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่แฟนคลับของรายการก็ยังเหนียวแน่น แบะรายการก็ดำเนินไปต่ออีกพักหนึ่ง

จนในที่สุดรายการ Divas Café ต้องยุติลงในปี 2015 หลังจาก Voice TV มีการปรับผังรายการ

ปัจจุบัน เราได้เห็นเหล่าบรรดาพิธีกรแยกย้ายกันไปทำหน้าที่แตกต่างกันไปในปริมณฑลทางการเมือง บางคนถูกมองว่าเป็นเหลือง บางคนเป็นแม่ยกม็อบฯ บางคนเป็นส้ม บางคนยังคงแดง แต่ทุกคนเคยหว่านเมล็ดแห่งประชาธิปไตยไว้ร่วมกันในนามของ Divas Café

จากรายการที่ถูกแปะป้ายว่าของ ‘ไอ้พวกควายแดง’ ในวันนั้น ฉันคิดว่าเราไม่ควรเหลือความทรงจำไว้เพียงแค่ภาพเพียง ‘แขก-โบว์-ช่อ’ แต่มันควรถูกให้ความหมายว่า เป็นการปฏิวัติของผู้หญิงที่ท้าทายต่อสังคมชายเป็นใหญ่ และเป็นหนึ่งในสื่อที่มีคุณูปการไม่น้อยในการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยของไทย

 

หมายเหตุ: อันที่จริงรุ่นแรกมี คุณ วิลาสินี แวน ฮาแรน ด้วย แต่จัดรายการไปเพียงไม่กี่เทป 

ภาพ: เพจ Double Standard / Voice TV