นิวัฒน์ บุญลักษณาวงศ์ : คุณครูและนักเขียน ผู้ใช้ภาษาอังกฤษเป็น ‘พลัง’ จุดประกายฝันให้เด็กไทย และทำให้เห็นว่า “พลังคุณ… ทำได้กว่าที่คิด”

บางครั้ง พลังเล็ก ๆ ของคุณ ทำได้มากกว่าที่คิด

‘นิวัฒน์ บุญลักษณาวงศ์’  คุณครู นักเขียน และหนึ่งในสองผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นนักปลุกพลังจากแคมเปญ ‘พลังคุณ… ทำได้กว่าที่คิด’ โดยกลุ่มธุรกิจ TCP ก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกส่งต่อพลังของตัวเองผ่านหนังสือและห้องเรียนภาษาอังกฤษ

แม้ว่าจะเคยเป็นคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่เพราะเชื่อในพลังเล็ก ๆ ของตัวเองว่า ทำได้ จนกระทั่งสามารถนำประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษของตัวเองมาเป็นสะพาน ส่งต่อเทคนิค วิธีคิด และแรงบันดาลใจ ให้เด็ก ๆ หลายรุ่นกล้าที่จะเปิดโลกการเรียนรู้ด้วยตัวเอง

“เราอยากถ่ายทอดในสิ่งที่เรารู้ เพราะผมเคยไม่เก่งภาษาอังกฤษมาก่อน แล้วเราจะทำอย่างไรให้เด็กเข้าใจในแบบที่เราเข้าใจ” 

เพราะนิวัฒน์เชื่อว่า ทุกคนต่างมีพลังของตัวเอง และเมื่อพลังของทุกคนมารวมกันจะสามารถพาสังคมไปข้างหน้าได้ เหมือนที่พลังของเขาเริ่มก่อตัวขึ้นผ่านบทบาทการเป็นนักเขียนและคุณครู

นี่จึงเป็นหัวใจของแคมเปญ ‘พลังคุณ… ทำได้กว่าที่คิด’ ของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ร่วมมือกับ The People ที่อยากบอกทุกคนว่า ทุกคนมีพลังอยู่ในตัวเอง เพียงแค่กล้าเริ่ม กล้าลงมือทำ และกล้าเดินไปข้างหน้า

เมื่อพลังเกิดขึ้นจากความกล้าที่จะออกจาก Comfort Zone

ประสบการณ์การเป็นครูของนิวัฒน์เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อเพื่อนชวนให้ไปลองเป็นติวเตอร์ครูสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็ก ๆ  ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปลุกความฝันที่อยากจะเป็น ‘นักเขียน’ ‘วิทยากร’ หรือไม่ก็ ‘เจ้าของธุรกิจ’ ขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเป็นครูสอนพิเศษ แต่มันเป็นความรู้สึกว่า เราอยากถ่ายทอดในสิ่งที่เรารู้ เพราะผมเคยไม่เก่งภาษาอังกฤษมาก่อน แล้วเราจะทำอย่างไรให้เด็กเข้าใจในแบบที่เราเข้าใจ” 

พอได้สอนเด็ก ๆ บ่อยขึ้น เขาจึงลาออกจากงานประจำในวัย 27 ปี เพื่อมาทำตามความฝันของตัวเอง โดยเลือกที่จะเปิดโรงเรียนกวดวิชาเพื่อส่งต่อความรู้ของเขาให้กับเด็ก ๆ 

“ทำงานอยู่ 5 ปีในสายการตลาด คิดว่าถึงเวลาที่เราต้องทำตามความรู้สึก ทำตามความฝันของตัวเอง ก็เลยตัดสินใจลาออก”

การตัดสินใจครั้งนี้อาจเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่สำหรับนิวัฒน์ มันคือก้าวสำคัญที่พาเขาเข้าใกล้ความฝัน และเริ่มต้นเส้นทางใหม่ที่เขาเลือกเอง

พลังที่เปลี่ยนฝันให้เป็นจริง

“ภาษาอังกฤษมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการทำมากแค่ไหน แต่ว่ามันเป็นที่ข้างในเลยว่าเราอยากทำได้ อยากพูดเป็นไหม” นิวัฒน์บอก

เหตุผลที่ทำให้นิวัฒน์เลือกสอนและเขียนหนังสือภาษาอังกฤษ เพราะอยากเพิ่มโอกาสในการทำงาน แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่เก่งภาษาอังกฤษ แต่พยายามหาวิธีเรียนภาษาอังกฤษของตัวเองจนเจอทางของตัวเอง

นั่นคือ ไม่ใช่แค่ท่องศัพท์ แต่ต้องผสมคำเป็น ลองอ่าน เรียนหลักไวยากรณ์ และลองแปลความหมายดู 

พอตั้งใจแล้ว เขาก็ต้องทำให้ได้ 

“พอผมตั้งเป้า ไม่ว่ายังไงก็ต้องพูดให้ได้ คราวนี้เรียนภาษาอังกฤษต่อเนื่องเลย 3-5 ปี ตอนนั้นทำงานไปด้วย ก็เรียนทุกวัน พอรู้สึกว่าได้แล้ว ก็เรียนไวยากรณ์ให้เร็วขึ้น แล้วก็ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ ABAC (มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ)” 

ตลอดเวลากว่าครึ่งทศวรรษ เขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความพยายามไม่เคยทรยศใคร แม้ต้องเหนื่อยกาย เหนื่อยใจมากแค่ไหน แต่ทุกก้าวเล็ก ๆ ที่ไม่หยุดเดิน คือพลังที่พาเขามาถึงวันนี้ และเรื่องราวของนิวัฒน์ยังย้ำเตือนว่า “พลังคุณ… ทำได้กว่าที่คิด” เมื่อหัวใจยังเชื่อมั่นและลงมือทำต่อไป

นั่นจึงทำให้ เขารวบรวมวิธีเรียนภาษาอังกฤษแล้วนำมาถ่ายทอดผ่านหนังสือ ‘Step Up 1-2-3: นี่หรือ Grammar ทำไมง่ายจังอ่ะ’ ส่งต่อให้กับรุ่นน้องที่อาจกำลังเจอปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นหนังสือเล่มแรกในชีวิตของเขาที่ทำให้ประตูโอกาสบานแรกเปิดขึ้น

ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย และเสนอวิธีการเรียนภาษาอังกฤษใหม่ ๆ ไปพร้อมกับแบบฝึกหัดที่ทำให้เด็ก ๆ สามารถฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง หนังสือเล่มนี้จึงถูกจัดอันดับเป็นหนังสือขายดี Top 100 หมวดภาษาในระดับประเทศ 

“รู้สึกดีใจ ภูมิใจว่า หนังสือเราเริ่มวางจำหน่ายแล้วอยู่ในชั้นที่เป็นหนังสือแนะนำด้วย ตอนเขียน เราตั้งใจทำ คิดแค่ว่า  ถ้าตายไปก็จะมีผลงานนี้อยู่บนโลกใบนี้ คิดแค่นี้จริง ๆ ว่าอย่างน้อย ๆ มันมีผลงานของเราอยู่บนโลกใบนี้”

จากหนังสือเล่มแรกสู่เล่มต่อ ๆ มา เช่น ‘Vocab แซ่บเว่อร์’ นิวัฒน์ยังคงส่งต่อความรู้และแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่ ทำให้ภาษาอังกฤษวิชาที่หลายคนมองว่ายาก กลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่าย และสร้างทำให้เด็ก ๆ สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจ

กระแสความนิยมของหนังสือที่ดีเกินคาด ทำให้โรงเรียนกวดวิชาที่เขาก่อตั้งก็ค่อย ๆ เป็นที่รู้จัก จนต่อยอดสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ได้สำเร็จตามที่หวัง จนเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เขาสามารถถ่ายทอดความรู้ พร้อมจุดประกายให้เด็ก ๆ กล้าคิดและกล้าลงมือทำ

การส่งต่อพลังของครูถึงนักเรียน 

วันนี้ ‘ศูนย์จีเนียส สแควร์’ โรงเรียนที่นิวัฒน์ปลุกปั้นขึ้นมา เปิดสอนหลายวิชาเพื่อตอบโจทย์นักเรียนหลายวัย ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงวัยทำงาน แต่นิวัฒน์ก็ยังมีความสุขกับงานที่รัก เพราะพลังที่ก่อตัวขึ้นในใจเริ่มเห็นผลผ่านโรงเรียนที่เขาใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยตัวเอง

เพราะดวงตาและรอยยิ้มของเด็ก ๆ เป็นหลักฐานชัดเจนว่า ทุกก้าวที่เขาเดินผ่านมาไม่สูญเปล่า และพลังที่เขายอมรับและโอบกอดตัวเอง คือ การเติมเต็มชีวิตและใจให้พร้อมก้าวต่อไป

“พลังของผมเริ่มเห็นผลตอนที่เด็ก feedback กลับมาว่า สามารถอ่านได้ เขียนได้ หรือเข้าใจในสิ่งที่เราถ่ายทอดไปได้ ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว

“การเป็นครูเหมือนเรือจ้างจริง ๆ พอพายให้เด็กถึงฝั่งก็ถือว่าหน้าที่เสร็จสิ้น ต่อจากนั้นเขาจะมีเส้นทางของตัวเอง อาจจะไม่นึกถึงเราด้วยซ้ำ แต่ไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่เราต้องการคือการส่งต่อให้เขาเดินต่อไปได้ด้วยตัวเอง”

จากโรงเรียนเล็ก ๆ ที่เกิดจากความฝันและพลังในตัวของนิวัฒน์ วันนี้ ศูนย์จีเนียส สแควร์ผสมผสานความรู้ด้านตะวันตกอย่าง Neuro Linguistic Programming (NLP) ของ Dr. John Grinder ผู้ก่อตั้ง NLP Academy ซึ่งเน้นการดึงศักยภาพและความมั่นใจของเด็ก เข้ากับเทคนิคการสอนและการจดจำจากตะวันออกโดย Tetsuya Yasukochi ได้อย่างลงตัวผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว เพื่อให้เด็กไทยได้โอกาสเรียนรู้ตามมาตรฐานโลกที่เชื่อในเรื่องการพัฒนาศักยภาพส่วนบุคคล การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการคิดอย่างเป็นระบบ

ด้วยเหตุนี้ ห้องเรียนของจีเนียส สแควร์จึงไม่ใช่เพียง ‘ห้องเรียนตามตำรา’ แต่เป็นพื้นที่ทดลองและแลกเปลี่ยนที่ออกแบบให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน เพื่อปลุกให้เด็กได้ค้นพบศักยภาพของตนเอง และกล้าที่จะฝันไกลกว่าเดิม

เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของนิวัฒน์ คือ การทำให้นักเรียนคิดเป็น พึ่งพาตัวเองได้ ทำให้เด็กมีจิตใจที่เข้มแข็ง  ทั้งด้านความรู้ (IQ) และความเข้าใจชีวิต (EQ) เพื่อพร้อมเผชิญโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและไม่แน่นอน 

พลังที่เชื่อมทุกคนเข้าหากัน

ไม่ว่าจะผ่านโรงเรียนหรือการเขียนหนังสือ เขาตั้งใจทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ด้วยความหวังว่าจะเป็นพลังเล็ก ๆ ที่ทำให้คนทุกวัยเข้าถึงความรู้รูปแบบใหม่และเปิดโลกภาษาอังกฤษให้กับเด็ก ๆ

ขณะเดียวกัน เขาก็คิดว่า ทุกคนต่างมีพลังในแบบของตัวเอง สำหรับเขา พลังคือการรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และลงมือทำให้สิ่งนั้นเป็นจริง เพราะเมื่อพลังของทุกคนต่างส่องแสงแล้วมาบรรจบกัน มันจะสามารถขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้าได้ไกลกว่าที่หลายคนคิด

“ผมเชื่อว่าทุกคนมีพลังของตัวเองอยู่แล้ว พลังเล็ก ๆ จะเกิดขึ้นเมื่อเราเลือกที่จะแชร์สิ่งดี ๆ ต่อกัน และพลังเหล่านี้เมื่อรวมกันก็สามารถขับเคลื่อนสังคมได้อย่างมหาศาล”

เพราะบางครั้งพลังเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในใจ อาจเปลี่ยนชีวิตของคุณไปตลอด และอาจเป็นแรงผลักดันให้คุณกล้าคิด กล้าลงมือทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มธุรกิจ  TCP ให้ความสำคัญ ผ่านแคมเปญ “พลังคุณ…ทำได้กว่าที่คิด”

แคมเปญที่เชื่อว่า ทุกคนมีพลังซ่อนอยู่ในตัวเอง พลังที่เริ่มจากความกล้า การตัดสินใจลงมือทำ และการส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้คนรอบข้าง พลังเล็ก ๆ เหล่านี้เมื่อรวมกัน สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เราคาดคิดได้

เรื่องราวของนิวัฒน์บอกเราว่า พลังอาจเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ แต่เมื่อกล้าลงมือทำ มันสามารถเปลี่ยนชีวิต และขับเคลื่อนสังคมได้จริง

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในจุดเริ่มต้นหรือกำลังเผชิญความท้าทายใด ๆ จงเชื่อในพลังของตัวเอง ลงมือทำ และแชร์สิ่งดี ๆ ต่อไป เพราะพลังคุณ…ทำได้กว่าที่คิด และสามารถเปลี่ยนชีวิตคุณ รวมถึงโลกใบนี้ได้เช่นกัน

ภาพ : นิวัฒน์ บุญลักษณาวงศ์