6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

เบนซ์-อรรถพล หนุนดี เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์สวนสัตว์เปิดเขาเขียว คือผู้ที่ใช้ความพยายามกว่า 6 ปีในการโพสต์เรื่องราวและความน่ารักของฮิปโปแคระ 'หมูเด้ง' ลงบนโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ

KEY

POINTS

‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ คือคนหนุ่มวัย 32 ปี ผู้ทำหน้าที่ดูแลสัตว์ในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี สถานที่ที่เขาทุ่มเวลาและความพยายาม ในการดูแลสุขภาพกายใจของสัตว์นานาชนิด ตั้งแต่ฮิปโปแคระ คาปิบารา หมีขอ เก้ง กวาง และสล็อต มาแล้วไม่ต่ำกว่า 9 ปี 

ก่อนหน้านี้ อรรถพลเคยทำงานเป็นพนักงานขับรถบรรทุก ขนส่งวัสดุก่อสร้างสารพัดอย่าง ทั้งหิน ดิน ทราย และเครื่องจักรกล ส่งตรงถึงที่หมายทั่วประเทศ ทั้งเหนือ-ใต้-ออก-ตก จะดึกดื่นแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะนี่คืองานที่เขารัก จึงขอทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ของถึงมือลูกค้าได้ทันเวลา

แต่กว่าอรรถพลจะก้าวเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวอย่างในทุกวันนี้ เส้นทางอาชีพใหม่ของเขาไม่ต่างจากพรหมลิขิต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบุคลิกส่วนตัวที่ทำให้เขากล้าออกไปคว้าทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามา 

และโอกาสที่ว่าก็ลอยมาอยู่ตรงหน้า… 

เมื่อเขาเห็นประกาศรับสมัครพนักงานจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และพบว่าคุณสมบัติหลายอย่างตรงกับตัวเอง ทั้งความอึด ถึก ทน ที่สำคัญคือความรักในสัตว์ อรรถพลตัดสินใจครั้งใหญ่ ลาออกจากงานที่เขารัก กรอกใบสมัครเข้าทำงานในสวนสัตว์ โดยหมายมั่นว่าจะเข้าไปทำงานในตำแหน่ง พนักงานขับรถส่งอาหารสัตว์ 

แต่แล้วโชคชะตาก็ได้พาให้เขารับบทบาทใหม่ที่ไม่คาดคิด นั่นคือการดูแลฮิปโปแคระ และจากวันนั้นเอง เขาจึงกลายมาเป็นพี่เลี้ยงของ ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปแคระขวัญใจของคนทั้งสวนสัตว์

กว่าหมูเด้งจะเป็นที่รู้จักอย่างในทุกวันนี้ อรรถพลใช้เวลากว่า 6 ปี ค่อย ๆ โพสต์รูป บอกเล่าเรื่องราว และคลิปวิดีโอความน่ารักของหมูเด้งลงในเพจเฟซบุ๊ก ‘ขาหมู แอนด์ เดอะแก๊ง’ จนกระทั่งคนจากทั่วสารทิศเริ่มหลั่งไหลเข้ามาดูความน่ารักน่าเอ็นดูของฮิปโปแคระ แห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียวกันอย่างล้นหลาม

นี่คือเส้นทางของอรรถพล หนุนดี ชายที่เชื่อในพลังแห่งความพยายาม ว่าทุกครั้งที่ลงมือทำ ผลของการกระทำนั้นจะไม่สูญเปล่า แม้ต้องแลกมาด้วยเวลาครึ่งค่อนทศวรรษ และเรื่องราวของเขาคือเครื่องยืนยันว่า ‘พลังคุณ... ทำได้กว่าที่คิด’ หากหัวใจยังศรัทธาและไม่หยุดลงมือทำ

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

01 - พลังเล็ก ๆ ของเด็กชายที่เติบโตมาเป็น ‘พี่เลี้ยง’

“ตอนเรียนอยู่ชั้น ป.4-ป.6 ผมเคยรับจ้างดูแลสุนัขพันธุ์ด้วยนะ” อรรถพลเปิดบทสนทนา 

นั่นคือก้าวแรกที่ทำให้เขาได้เป็น ‘พี่เลี้ยง’ คอยทำหน้าที่ดูแลสุนัขในฟาร์ม มากกว่าการเลี้ยงสัตว์ในบ้านทั่วไป ประสบการณ์ของเขาชวนให้เรารู้สึกทึ่งไม่น้อย เพราะคงมีไม่กี่คนนัก ที่มีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิดกับสัตว์จำนวนมากตั้งแต่เด็ก

“แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้รับจ้างหรอกครับ” เขาเฉลย พลางหัวเราะ

“พอดีญาติ ๆ เขาเปิดฟาร์มสุนัข ตอนนั้นผมก็เลี้ยงหลายสายพันธุ์มาก ๆ มีอยู่ประมาณ 20 ตัว ผมก็ไปช่วยแล้วได้เงินค่าขนมกลับมานิดหน่อย”

แต่หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษา อรรถพลเริ่มหันมาโฟกัสกับการเรียนมากขึ้น จึงไม่ค่อยมีเวลาไปช่วยดูแลฟาร์มสุนัขเหมือนอย่างก่อน แต่ความผูกพันกับเพื่อนต่างสายพันธุ์ยังคงอยู่ในใจเสมอ โดยเฉพาะกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก  

“จริง ๆ บ้านผมอยู่ใกล้กับสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเลย” 

“พี่ ป้า น้า อาของผมส่วนใหญ่ทำงานกันที่นี่ ตอนเด็ก ๆ ผมก็มาสวนสัตว์บ่อย มาเที่ยวบ้าง มาดูพี่ ๆ ทำงานบ้าง ก็รู้สึกผูกพันกับที่นี่เหมือนกัน เพราะคนรู้จักก็ทำงานตรงนี้ด้วยกันหมด”

เราจึงอดถามไม่ได้ว่า เคยวาดฝันไหมว่าอยากจะเดินตามรอยญาติ ๆ เข้าไปทำงานในสวนสัตว์เหมือนกับเขาบ้าง 

“คิดครับ” เขาตอบตรงไปตรงมา 

“เพราะถ้าได้ทำงานใกล้บ้านก็คงดี แล้วก็จริง ๆ ตอนสมัครงานที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ผมตั้งใจจะมาเป็นคนขับรถส่งอาหารสัตว์นะ เพราะชอบงานลุย ๆ แต่วันแรกที่เข้ามา กลายเป็นว่าต้องมาดูแลฮิปโปแทน” 

อรรถพลเล่าอย่างอารมณ์ดี แน่นอนว่าการเปลี่ยนจากคนขับรถ มาเป็นคนดูแลฮิปโปดูจะไกลกันมากโข เพราะเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเส้นทางชีวิตของตัวเองจะพลิกผันได้ถึงขนาดนี้ และหากย้อนไปยังจุดเริ่มต้นชีวิตวัยทำงาน ช่วงที่อรรถพลยังเรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี สาขาอิเล็กทรอนิกส์ ควบคู่กับเรียน ปวส. สาขาไฟฟ้าในวันอาทิตย์ไปด้วย เวลาว่างของเขาคือการออกไปหารายได้เสริม  โดยคิดเพียงแค่ว่าอยากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ในช่วงวัยที่ยังมีแรง และความกล้ามากพอจะลองทำอะไรใหม่ ๆ เอาไว้ให้ได้มากที่สุด

“ตอนนั้นผมเรียนอยู่ พอมีเวลาว่างก็เลยเดินเข้าไปของานจากบริษัทข้างบ้านมาทำ แรก ๆ เขาก็ให้เป็นคนเก็บตั๋ว ​โบกรถ ได้ค่าจ้างวันละประมาณ 300 บาท ผมก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย พอทำงานได้ระยะหนึ่ง จากเก็บตั๋ว ผมก็เริ่มหัดขับรถไปส่งของ บางครั้งไปนอนค้างต่างจังหวัดเป็นเดือน ๆ บางทีก็ 3 เดือน 5 เดือนเลยก็มี กินนอนบนรถ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนรถทั้งหมด”

ชีวิตของอรรถพลส่วนใหญ่จะอยู่กับตัวเองเป็นหลัก เขาไม่ค่อยได้เจอใครมากนัก จึงไม่แปลกที่ตลอดเวลาสามปีแรกของการทำงาน เพื่อนที่รู้ใจเขามากที่สุด ก็คือตัวเขาเอง 

“ผมอยู่กับตัวเองเยอะมากเลย” เขาว่า

“แต่ก่อนหน้านั้น พ่อกับแม่ก็เคยให้ผมช่วยทำงานอยู่ในไร่เหมือนกันนะ ทั้งปลูกมันสำปะหลัง ทำไร่อ้อยในสวนของพ่อกับแม่” อรรถพลเล่าถึงสิ่งที่เขาได้ทำสิ่งที่เรียกว่า ‘งาน’ อย่างจริงจัง ก่อนจะมาเจอโลกกว้างด้วยตัวเอง

“พอผมเรียนจบพ่อบอกว่าไม่เลี้ยงแล้ว (หัวเราะ) ให้เราทำงานหาเงินเอง เลยแนะนำให้ผมลองทำงานขับรถบรรทุกเหมือนพ่อดู ผมก็เลยได้ทำงานตรงนี้กับบริษัทข้างบ้านนี่แหละ”

“หลังจากขับรถอยู่ได้ประมาณ 3 ปี ตอนนั้นจอดรถนอนพักอยู่แถวสุวรรณภูมิมา 3 เดือนแล้ว ผมก็เห็นประกาศรับสมัครงานของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เลยลองสมัครดู เพราะผมอยากลองทำอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง” 

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

02 -  บททดสอบ ‘พลังใจ’ ของพี่เลี้ยงฮิปโปแคระ

จากวันที่อรรถพลก้าวเข้าสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเป็นครั้งแรก เขาคิดเพียงแค่ว่าจะได้ขับรถส่งอาหารสัตว์อย่างที่วาดหวังไว้ เพราะนี่คือสิ่งที่เขาถนัดมากที่สุดก็ว่าได้ แต่ราวกับชะตาฟ้าลิขิต เมื่อ ‘ว่าที่’ พี่เลี้ยงหมูเด้งคนนี้ ได้ถูกมอบหมายให้ดูแลสัตว์ในโซนฮิปโปโปเตมัส โดยในบริเวณนั้นมีตั้งแต่ฮิปโปแคระ คาปิบารา และสล็อต ก่อนหน้านั้นเขาเคยดูแลเก้ง กวาง และหมีขอมาด้วย นี่คือสารพัดสัตว์ที่เขาทุ่มทุกอย่าง เพื่อดูแลสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด

“ช่วงทำงานใหม่ ๆ ก็ทำงานตาม zookeeper รุ่นน้า รุ่นอา เขาก็สอนผมมา ทุกอย่างผมทำตามรุ่นพี่ทั้งหมด เพราะว่าเราเองก็ไม่ได้เรียนจบหรือมีประสบการณ์ทางด้านนี้มาก่อน อันนี้ก็เป็นวิธีที่ผมดูแลสัตว์” 

“แต่อีกด้านหนึ่ง ผมก็ไปศึกษาพวกระบบนิเวศเพิ่มเติมด้วย ไปอ่านดูว่าฮิปโปหรือว่าสัตว์ในโซนที่เราดูแลปกติแล้วอาศัยอยู่ในทวีปไหน ชอบอากาศเป็นยังไง อยู่ในน้ำหรือว่าบนบกสบายตัวกว่ากัน แล้ววันนึงต้องกินอาหารปริมาณเท่าไหร่ ผมอยากเข้าใจสัตว์ที่เราดูแลให้มากขึ้น ก็เลยไปอ่านเพิ่มเติม”

“แต่ยังไงวิธีการดูแลสัตว์ก็ต้องให้พี่ ๆ เป็นคนสอนทั้งหมด” เขาย้ำ

อรรถพลยอมรับว่าช่วงแรกของการทำงานชีวิตของเขาค่อนข้างราบเรียบ แต่พอเริ่มมีลูกฮิปโปตัวใหม่เกิดมา นั่นแหละคือวินาทีที่เปลี่ยนวันธรรมดาให้กลับมาสดใสขึ้นอีกเท่าตัว จนเขาอยากจะอยู่เฝ้าฮิปโปทั้งวันทั้งคืนก็ว่าได้

“ผมอยากเล่น อยากถ่ายรูป ลูกฮิปโปมันน่ารักมาก แล้วยิ่งเราชอบเล่นกับสัตว์อยู่แล้ว มันก็เลยรู้สึกสนุกที่ได้อยู่กับเขา”

ก่อนที่อรรถพลจะไล่รายชื่อของบรรดาฮิปโปโปเตมัสที่เขาดูแล เริ่มตั้งแต่

พะโล้ - ลูกฮิปโปแคระตัวแรกที่เขาเข้ามาทำงานได้ราวหกเดือน

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

ขาหมู - ฮิปโปพันธุ์ใหญ่ จุดเริ่มต้นของการทำเพจเฟซบุ๊ก ‘ขาหมู แอนด์ เดอะแก๊ง’ หลังจากขาหมูและเขาอยู่ด้วยกันมาราวสามปีกว่า  

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

หมูตุ๋น - ฮิปโปแคระที่มีรูปร่างหน้าตาและนิสัยคล้ายกับ ‘หมูเด้ง’ ซุปตาร์ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวอย่างกับแกะ

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

หมูหวาน - ฮิปโปแคระอีกหนึ่ง ที่นิสัยน่ารัก แถมยังคุ้นเสียงกับกลิ่นของเขา เวลาเรียกชื่อหมูหวานแต่ละครั้งก็ชอบเดินมาหาอยู่เสมอ

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

นี่คือเหล่าฮิปโปที่กลายเป็นขวัญใจแฟนเพจบนโซเชียล จนมีผู้ติดตามกว่า 4 แสนคนบน Facebook และกว่า 2 ล้านคนใน TikTok ทั้งหมดคือ พลังแห่งความน่ารักของฮิปโป แห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จนตกคนทั่วโลกได้อย่างอยู่หมัด 

และเมื่อ ‘หมูเด้ง’ ลืมตาดูโลกพี่ ๆ ของเจ้าตัวน้อยรายนี้ ก็มีฐานผู้ติดตามหลักล้านอยู่แล้ว อรรถพลจึงไม่แปลกใจนัก หากหมูเด้งจะมีคนรักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

“ผมคิดว่า ถ้าหมูเด้งเป็นลูกฮิปโปตัวแรกอาจจะไม่ดังเท่าตอนนี้ก็ได้”

“เพราะว่าพี่ ๆ เขามีผู้ติดตามเยอะมากอยู่แล้ว ก่อนที่หมูเด้งจะเกิดอีกนะ ตอนหมูเด้งเกิดน่าจะมีผู้ติดตามอยู่เกือบ 3 แสนคนแล้ว พอเรามีฐานผู้ติดตามจากหมูตุ๋น หมูหวาน ขาหมู แฟน ๆ เขาก็จะแชร์ภาพแชร์อะไร กลายเป็นว่าหมูเด้งเลยเป็นที่รู้จักไปด้วย”

เมื่อถามถึงเคล็ดวิชาว่าอะไร ทำให้ฮิปโปในความดูแลของเขาและพี่ ๆ สวนสัตว์เปิดเขาเขียวถึงสนิทกับคนดูแลได้ขนาดนี้ อรรถพลตอบติดตลกว่า เขาหิวครับ

“มันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย อย่างฮิปโปเขาค่อนข้างที่จะรู้เรื่อง เหมือนฟังภาษาเราเข้าใจ ประมาณว่าเรียกให้มาก็มา หลัก ๆ คือ เขาหิว”

“สัตว์สายพันธุ์อื่น เช่น สล็อต คาปิบารา เขาไม่ได้เข้าใจภาษาเราขนาดนั้น แต่ว่าพอเราเลี้ยงเขานาน ๆ อยู่กับเขาเยอะก็จะคุ้นกับกลิ่นแล้วก็เสียง อย่างเวลาเขาทำตามที่เราบอกได้ เราก็จะให้ขนมเป็นรางวัล พอได้ยินเสียงเราปุ๊ปก็จะเดินมาละ หลัก ๆ ก็เดินมาหาของกินนั่นแหละ”

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

ส่วนวิธีการดูแลหมูเด้ง อรรถพลบอกว่าเขาจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ให้หมูเด้งได้สัมผัสทุกอย่างด้วยตัวเอง 

“เราผูกพันกับเขา(หมูเด้ง)อยู่แล้ว วิธีการดูแลเลยจะไม่มีอะไรพิเศษ อยู่กับหมูเด้งทุกวัน มันเหมือนรู้กัน เราก็เล่นกับเขาเยอะหน่อย ทำอะไรให้เขาสนใจเราบ้าง แตะตัวให้รู้ว่าเขายังมีเราอยู่ตรงนี้นะ เราไม่ได้แค่เข้ามาให้อาหารแล้วออกไป พอทำแบบนี้เขาก็คุ้นกับเรา”

จากวันแรกเมื่อ 9 ปีก่อน อรรถพลค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ จนกลายเป็นทักษะพิเศษของเหล่า zookeeper ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้ามองพฤติกรรมของสัตว์อยู่ไม่ห่าง ใช้หัวใจในการดูแลสัตว์ทุกตัวอย่างชิดใกล้ และพยายามศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด จนกลายเป็นสายสัมพันธ์พิเศษระหว่างคนและสัตว์ที่ไม่มีตำราเล่มใดสอน

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

03 - พลังเล็ก ๆ ที่ก่อตัวขึ้นผ่านสองมือ จนสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก

ตลอดเส้นทางการทำงาน อรรถพลเล่าว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทุกอย่างเป็นจริงได้ ไม่ใช่แค่ความพยายามส่วนตัวเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเขาได้รับโอกาสและแรงสนับสนุนจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่เปิดพื้นที่ให้เขาได้ลองนำเสนอความน่ารักของเหล่าสัตว์ป่าออกสู่สายตาชาวโลก

“ทุกอย่างที่ผมทำ ไม่ได้เกิดจากผมคนเดียว มันคือการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้อำนวยการคนก่อน ๆ มาจนถึง ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ณรงวิทย์ ชดช้อย และเพื่อนร่วมงาน ถ้าไม่มีแรงหนุนตรงนี้ หมูเด้งก็คงไม่เป็นที่รู้จักอย่างที่เห็น”

“การทำตรงนี้ เหมือนเป็นการรวมพลังจากหลายฝ่ายอยู่เหมือนกันนะ”

“เพราะผมสร้างขึ้นมาใหม่เลย ทำตอนที่ทุกคนยังไม่เห็นภาพว่าจะเป็นยังไง มันเป็นอะไรที่ใหม่มาก ๆ เมื่อ 6 ปีก่อน แต่ทุกคนก็พร้อมสนับสนุน และเมื่อทุกฝ่ายร่วมกันก็กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เกินกว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก”

สิ่งสำคัญที่สุดที่เขาย้ำกับเราคือ หลักการดูแลสัตว์ที่เรียกว่า สวัสดิภาพสัตว์ 5 ประการ ก่อนจะไล่เรียงทั้งหมดให้เราฟัง 

หนึ่ง - อิสระจากความหิวกระหาย (Freedom from hunger and thirst)

สอง - อิสระจากความไม่สบายกาย (Freedom from discomfort)

สาม - อิสระจากความเจ็บปวดและโรคภัย (Freedom from pain injury and disease)

สี่ - อิสระจากความกลัวและไม่พึงพอใจ (Freedom from fear and distress) 

ห้า - ​อิสระในการแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ (Freedom to express normal behavior)

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ยึดเป็นแกนหลักของการทำงาน และจะไม่มีวันละเมิดหรือทำให้สัตว์ในความดูแลของพวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอันขาด 

“ถ้าให้พูดเข้าใจง่ายเลยก็คือ ไม่ไปเล่นกับสัตว์มากจนเกินไป ไม่แตะตัวเขาเยอะ ไม่จับสัตว์ใส่เสื้อผ้าของมนุษย์ อันนี้ก็ถือว่าเป็นการละเมิดสวัสดิภาพสัตว์ จริง ๆ ก็คือการจัดเตรียมสถานที่ให้เขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติมากที่สุด ถึงจะอยู่ในสวนสัตว์ก็ตาม”

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก

และเมื่อหมูเด้งกลายเป็นซุปตาร์ ข้อความมากมายจากผู้คนทั่วโลกก็หลั่งไหลเข้ามาหาอรรถพล มีทั้งกำลังใจ คำขอบคุณ ไปจนถึงเรื่องเล่าว่าหมูเด้งช่วยทำให้ใครบางคนมีแรงลุกขึ้นมาใช้ชีวิตต่อ 

“ช่วงแรกแค่โพสต์เพราะรัก ชอบที่จะทำ ไม่คิดว่าจะช่วยฮีลใจคนอื่นได้ เราแค่เลี้ยงสัตว์แล้วถ่ายรูปลงโซเชียล แต่มีคนบอกว่า ‘หมูเด้งทำให้เขามีพลังจะอยู่ต่อ’ มันทำให้ผมภูมิใจในพลังเล็ก ๆ ของตัวเอง ถ้าจะบอกว่าเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดในชีวิตก็ได้นะ เพราะผมเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการกระทำของเราจะเปลี่ยนชีวิตของใครได้”

โดยอรรถพลบอกว่า เขาแค่ทำทุกอย่างเพราะรัก ไม่ได้คิดว่าจะมีชื่อเสียง หรือถึงจะมีชื่อเสียงมากขึ้นแค่ไหน แต่เขาก็ยังคงทำแบบเดิม ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เล่นกับหมูเด้ง และดูแลสัตว์ในโซนของตัวเองร่วมกับพี่ ๆ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป

ทว่า ‘พลังเล็ก ๆ’ ของเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่ในรั้วสวนสัตว์ แต่ยังสร้างรอยยิ้มและความหวังให้กับผู้คนทั่วโลก ไปจนถึงการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของชุมชนรอบสวนสัตว์ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งหมดนี้เกิดจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เขาทำด้วยหัวใจ

“กว่าจะมาถึงวันนี้ ผมก็ล้มลุกคลุกคลานมามากเหมือนกัน แต่ผมใช้คติว่า เวลาจะทำอะไรแล้วต้องพยายามทำให้สำเร็จ กว่าหมูเด้งจะเป็นที่รู้จักขนาดนี้ผมต้องใช้เวลานานถึง 6 ปี ผมไม่เคยท้อ หรืออยากยอมแพ้ระหว่างทาง” 

“เพราะความอดทนและพยายาม เป็นสิ่งที่ติดตัวผมมา ตั้งแต่ตอนทำงานเป็นคนขับรถบรรทุก งานนั้นสอนให้ผมรู้จักอดทน สอนให้สู้ชีวิต มันทั้งเหนื่อย หนัก และกดดัน แต่ว่าหลังจากเราผ่านเรื่องที่ยากมาได้ ทุกอย่างก็จะง่ายมาก ๆ เพราะเราเคยเจอเรื่องที่หนักกว่ามาแล้ว”

ก่อนจบบทสนทนา อรรถพลทิ้งท้ายกับเราอย่างเรียบง่าย ทว่าอัดแน่นไปด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาอย่างโชกโชนว่า

“ผมเคยผ่านวันที่ไม่รู้จะใช้ชีวิตไปเพื่ออะไร แต่พอได้ลองทำอะไรหลายอย่าง ได้เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก ดูแลสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ มันทำให้เรารู้ว่าชีวิตตัวเองก็มีค่า และมีความหมายอยู่เหมือนกัน ผมเลยเชื่อว่า ถ้าเราลงมือทำ แม้มันจะเล็กน้อยแค่ไหน สุดท้ายมันก็สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้เสมอ”

เรื่องราวของอรรถพล หนุนดี ไม่ได้สะท้อนเพียงการเปลี่ยนแปลงของชีวิตใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือรากฐานที่ทำให้เห็นว่า ‘พลัง’ จากการความกล้าในการลงมือทำ สามารถสร้างแรงกระเพื่อมไปไกลกว่าที่คิด และเมื่อพลังเล็ก ๆ เหล่านั้นถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน จึงก่อให้เกิดเป็นขุมพลังอันยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงสังคมได้จริง เพราะเราเชื่อว่า “พลังคุณ... ทำได้กว่าที่คิด”

6 ปีแห่งความพยายามของ ‘เบนซ์-อรรถพล หนุนดี’ พลังเล็ก ๆ ที่เติบใหญ่ จนฮีลใจคนทั้งโลก