29 ก.ค. 2568 | 18:00 น.
KEY
POINTS
‘ห้วยยาง’ คือหมู่บ้านที่ผมเติบโต (กาญจนบุรี) ‘ห้วยน้ำเย็น’ คือหมู่บ้านที่แฟนผมเติบใหญ่(ตาก)
2 หมู่บ้านนี้ห่างไกลกันหลายร้อยกิโลเมตร วัฒนธรรมที่หล่อหลอมผมขึ้นมาคือ ‘โซ่ง’ (ไทยทรงดำ) เลือดที่ไหลเวียนในกายของแฟนผมคือ ‘ม้ง’ ขนบที่บ่มเพาะเราสองขึ้นมานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราคบ และเรียนรู้ร่วมกันอยู่หลายปีก่อนที่จะรู้ว่าเรากำลังจะมีสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ถือกำเนิดขึ้น
เราแต่งงาน และสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ เพื่อรองรับการมีอยู่ของเด็กหญิงคนนั้น ‘บ้านธารตะวัน’ ถูกตั้งตามชื่อลูกสาวคนแรกของเรา ในพื้นที่ที่แน่นขนัดไปด้วยผู้ลี้ภัยสงครามชาวพม่า ที่เข้ามารับจ้างทำไร่ให้กับคนม้งในบริเวณ 19 หมู่บ้านที่รัฐจัดสรรให้ในช่วงสงครามคอมมิวนิสต์ ที่นี่จึงอัดแน่นไปด้วยคนของสงครามและเรื่องราวของสงครามที่ยังคุกกรุ่นอยู่เสมอ
ผมลดทอนเรื่องราวการเลี้ยงลูกที่ยืดยาว โดยย่นย่อลงใน 1 บรรทัด
"ผมใช้เวลาไปกับความรักของครอบครัว และพื้นที่ที่ผมอยู่อย่างคุ้มค่า"
อีก 3 ปีต่อมา ลูกชายคนเล็กก็ได้ลืมตามาดูโลกอีกคน และผมก็ได้กลายเป็นมืออาชีพในการเลี้ยงลูก เข้าขวบปีที่ 5 ผมตระหนักได้ว่าผมจำเป็นต้องทำงาน และจำเป็นให้ลูกเข้าเรียนในระบบแทนที่จะเป็น home school อย่างที่ตั้งใจ
กาแฟพื้นถิ่นและงานศิลปะ ผมตั้งโต๊ะเล็ก ๆ ใต้ร่มสนที่ยืนเป็นแถว หลายร้อยต้นขึ้นเป็นแนวน่ารักขนาดเคียงคู่กันไปบนไหล่เขา ของความสูง 800 เมตรจากระดับน้ำทะเล วางอุปกรณ์คั่วกาแฟไว้ 4-5 ชุด ที่ปิ้งขนมปัง และแยมผลไม้หลากรส มีอุปกรณ์ชงกาแฟแบบ slow bar หลายเมล็ดกาแฟคั่วเองจากไร่พี่ ๆ ที่รู้จักกันบนเขตเขาของ อ. อุ้มผาง แรกตั้งใจให้บริการกับผู้สัญจรก่อนมุ่งหน้าไปสู่เส้นทางที่โค้ง 1,199 โค้ง
พอจบการทำแคมป์ที่สวนสนที่ผมทำกิจกรรมอยู่ในช่วงฤดูหนาว ตอนนั้นผมเองกำลังสนุกกับการจัดกิจกรรมแคมป์ตามแนวความคิดที่ว่า กาแฟ ‘พื้นถิ่น กับงานศิลปะ’ ไปตามอุทยาน และตามสถานที่ที่ร่มรื่นต่าง ๆ ในตัวอำเภอพบพระ และแม่สอด รวมถึงบริเวณใกล้เคียง พอเข้าสู่ฤดูหนาว ผมก็หวนกลับมาเปิดที่สวนสน กม. 49 อีกครั้ง
มันเริ่มมาจากการเดินทางมาถึงของโควิด 19 ที่ศูนย์อพยพอุ้มเปี้ยม ความกลัวกระจายตัวอย่างรวดเร็ว มันปนเปื้อนอยู่ในอากาศและสัญญาณไร้สายต่าง ๆ มันสั่นคลอนชีวิตของทุกคนในสังคม
ในอำเภอแม่สอดต่างเงียบ ร้านกาแฟยิ่งเงียบกว่า ยิ่งแคมป์กาแฟของผมนี่ไม่ต้องเอ่ยถึง ผมก็เลยคิดว่าน่าจะรวบรวมชวนร้านเพื่อนกาแฟที่ชอบพอกัน มาจัดกิจกรรมกาแฟเล็ก ๆ ร่วมกันที่แคมป์สวนสน ผมจึงเริ่มโทรประสานงานหาร้านเพื่อนต่าง ๆ ในแม่สอด พบพระ อุ้มผาง ท่าสองยาง และอำเภอเมือง
เพื่อน ๆ ต่างสนใจในกิจกรรมนี้ และตอบรับกันมาอย่างดี ฤดูกาลกาแฟครั้งที่ 1 เริ่มต้น และผ่านพ้นไป กาแฟพื้นถิ่น งานศิลปะ งานทำมือ อาหารทานเล่น น้องช้างหลายเชือกจากปางช้างของน้องรักของผม คนมาร่วมงานกันหลายพันคนในวันเดียว จากการเตรียมงานของคนคนเดียวมันมอบชุดประสบการณ์อย่างตรงไปตรงมาให้กับผม และสร้างความเชื่อมั่นบางอย่างให้กับผู้คนบนพื้นที่นี้
หลังจากเจอโควิดหนักในช่วงนั้นเราหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ไปเกือบ 1 ปีเต็ม ครั้งนี้เราเลือกจัดสถานที่ที่ร่มรื่น มีลำธารไหลผ่าน จากการตอบรับที่ดีในปีก่อนหน้า ผมจึงเพิ่มการจัดงานเป็น 2 วัน หลังจากการทำงาน เก็บงานมันเหนื่อยจริง ๆ นะ เช่นเดิม มันเป็นงานที่คนในพื้นที่รอคอย และยิ่งคึกคักมากกว่าเก่า
ปีที่ 3 ผมมาจัดที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ ตอนนี้เน้นหนักเรื่องงานศิลปะมากขึ้น ผมนำผลงานศิลปะของเด็ก ๆ ที่โรงเรียนจากแม่สอดมาแสดงควบคู่ไปกับงานของผม ผมทดลองการจัดวาง landscape ทางอารมณ์ จัดวางองค์ประกอบใหม่ ๆ นำเสนอแนวความคิดที่สนุกเชื่อมโยงกับสุนทรียะ เจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้นับจำนวนนักท่องเที่ยวได้เกือบหมื่นคน และเป็นคนในพื้นที่ 90%
ความเป็นตัวของตัวเองของผมยิ่งระห่ำขึ้น ผมทำงานศิลปะ และบทกวี ผลึกร่วมกัน เพิ่มวันจัดขึ้นเป็น 3 วันให้คุ้มกับการสร้างผลงานทั้งเขียนภาพ และบทกวี ผมเชิญครูกวีทางสุพรรณมาขับขานบทกวี ชวนเพื่อนจากขอนแก่นที่เป็นนักดนตรี กวีมาขับลำนำ และมาบรรเลงเพลงกวี เชิญพี่คลีวงคลีโพ จากเชียงใหม่มาสอนให้เล่น ‘เตหน่า’ เครื่องดนตรีของปกาเกอะญอ และมีกิจกรรม workshop มากมายสอดแทรกไปกับร้านกาแฟ และบูธอาหารต่าง ๆ รวมกันกว่า 70 บูธ มีดนตรีสดขับกล่อมตลอดทั้งวัน เพื่อรองรับผู้คนที่ขึ้นมาเที่ยวปีนี้
เจ้าหน้าที่นับจำนวนนักท่องเที่ยวได้หมื่นกว่าคน ทั้ง ๆ ที่ฝนตกหนักทั้ง 2 วัน หลังจากจบงานผมนอนแน่นิ่งอยู่ 1 อาทิตย์เต็ม
มีผู้คนจำนวนมากที่ขึ้นมาดื่มกาแฟกับผม และนิยามผมว่า “ความงามที่แท้จริงไม่เรียกร้องคนสนใจ” โดยหยิบยืมคำมาจากหนังเรื่อง วอสเตอร์ มิสตี้ ผมมักจะชอบทำงานเงียบ ๆ ในบ้าน และร้านกาแฟผมเชื่อมั่นในคุณค่าบางอย่าง หากมันพูดแทนหรือสื่อสารได้ ผมคิดว่ามันจะทรงพลังมากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมไม่พูดหรือไม่เรียกร้องให้คนสนใจในสิ่งที่ผมทำ ในขอบเขตที่ผมพอรับได้ มันคือ การประนีประนอมกับตัวเองที่สุดในฐานะคนทำงานศิลปะที่อนุญาตให้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ แต่ในงานที่เกี่ยวกับชุมชน และชงกาแฟ คนจัดงานแคมป์ ผมว่ามันคือความอะลุ่มอล่วย ของตัวตนที่หลายหลายภายใน
ในขณะที่ผมเขียนบทความนี้ เป็นวันเข้าพรรษา ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเป็นเดือนแล้ว ผมเปิดร้านเงียบ ๆ ชงกาแฟ วาดภาพให้ผู้คนที่มาดื่มเป็นที่ระลึก ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเกินกว่า 500-600 คนแล้ว เปี่ยมสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มยินดีตอนที่เขาได้รับ สนุกในท่าทีเขินอายของชายหญิงที่นั่งอยู่เป็นแบบ จะมีสักกี่ครั้งกันนะที่เราจะได้เห็นความเคอะเขินอย่างพองาม ผมรักงานที่ผมทำอย่างหมดหัวจิตหัวใจเลยหล่ะ
ทุก ๆ เย็นผมจะกลับมานอนที่บ้าน เมื่อลูก ๆ ยังเล็ก ผมกลับมาเล่านิทานก่อนนอน เมื่อลูกโตขึ้นหน่อยผมกลับมาเล่นกับเขา วันไหนขายดีผมก็มักซื้อขนมมาฝาก งานของผมมักอยู่ในขอบเขตพื้นที่ปริมณฑลที่เรียกว่า ‘บ้าน’ เสมอ
ขอบคุณสำหรับการอ่าน ที่เหมือนการรับฟังเรื่องราวเรื่องเล่าของคนทำงานศิลปะ…บนภูเขานะครับ