ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม

'ออม-โชติกา ถิระกิตติกุล' อดีตเชฟในต่างแดน ตัดสินใจกลับบ้าน มาเปิดร้าน 'ย้อยหย่อย' นครปฐม เพื่อดูแลแม่ที่ป่วยหนัก

KEY

POINTS

เราชื่อ ออม-โชติกา ถิระกิตติกุล ความฝันวัยเด็กคืออยากเป็นเชฟที่ต่างประเทศ เราจึงเลือกเรียนเชฟที่วิทยาลัยดุสิตธานี พอเรียนจบก็ได้มีโอกาสไปเป็นเชฟที่อเมริกา และได้กลับมาไทย มาทำธุรกิจส่วนตัวด้านอาหาร แต่ด้วยความที่จะต้องเดินทางไปส่งของที่กรุงเทพบ่อย ๆ แม่จึงเป็นห่วงเรื่องการเดินทาง ที่ต้องขับรถออกจากบ้านแต่เช้า และกลับบ้านตอนดึก ๆ แทบทุกวัน ทำให้เรามีปากเสียงกับแม่หลายครั้ง

แม่จึงเสนอให้เราไปอยู่ต่างประเทศ เราก็ได้เลือกไปที่ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียด้วยวีซ่านักเรียน ระหว่างนั้นเราก็ได้ทำงานถึง 3 งาน โดยเป็นอาชีพเชฟทั้งหมด ในช่วงเวลาที่อยู่ออสเตรเลีย เราเหนื่อยมาก ๆ เพราะต้องหาเงินเรียนเอง และตั้งใจทำงานมาก กดดันตัวเอง หาอะไรใหม่ ๆ พยายามไขว่คว้าหาความรู้ตลอดเวลา จนสามารถเป็น Head Chef ได้ ในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง 

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม

แต่จากนั้นไม่นาน เราก็ได้รับข่าวจากเมืองไทย น้องชายโทร.มาบอกว่า

“ตอนนี้ แม่อยู่ CCU* นะ ไม่ฟื้นมา 3 วันแล้ว ”

*ห้องที่ใช้เพื่อทำการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดโดยเฉพาะ

เราตกใจและเป็นห่วงแม่มาก วันที่ได้คุยกับแม่หลังจากที่แม่ฟื้น เราร้องไห้หนักมาก ๆ และตัดสินใจในทันทีว่าเราจะกลับไทย แต่ช่วงนั้นเป็นช่วง Covid ทำให้จองตั๋วเครื่องบินกลับยากมาก ระหว่างนั้นเราเลยจัดการเรื่องโรงเรียนและที่ทำงานให้เรียบร้อย และคิดว่าเราจะกลับไปทำอะไรที่ไทยดี ? ถ้าไปทำงานประจำ คงยากที่จะดูแลแม่ หรือจะทำอาหารสไตล์ที่เราถนัด คืออาหารไทย ไทยฟิวชั่น อาหารเวสเทิร์น ก็คงไม่เหมาะกับสถานการณ์ในช่วง Covid และสถานที่ที่ไม่ค่อยอำนวยเรื่องการจอดรถ

เราเลยเอาอาชีพของที่บ้านตั้งแต่รุ่นอาม่า ต่อด้วยแม่ที่ทำขนมไทยขายส่งที่ตลาดเช่น ลอดช่อง ทับทิม ซ่าหริ่ม และของหวานต่าง ๆ และป้าสะใภ้ซื้อมาขายต่อที่หน้าบ้าน (ร้านปัจจุบันของเรา) ก็คือน้ำแข็งไส เราเลยคิดว่าอาชีพที่บ้านเราทำมากว่า 60 ปีนี้แหละที่เลี้ยงเรามาจนโตได้  เราจะทำให้มันดีขึ้น ด้วยการยกระดับน้ำแข็งไสให้คนไทยกลับมากิน ขายไม่ต้องแพงมาก เพื่อให้คนไทยได้กลับมากินของไทย เพราะเราเชื่อว่าของไทยมีดี และตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะทำร้านนี้ ให้เป็นของดีประจำจังหวัดนครปฐม ใครมาเที่ยวนครปฐม ต้องแวะกิน  ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม

พอกลับมาถึงไทย เราก็ได้วางแผนทั้งเรื่องแม่และเรื่องงาน รวมถึงทำร้านด้วยเงินเก็บทั้งหมดที่มีของเรา ระหว่างที่ทำร้าน เราก็ทำงานทุกอย่างแทนแม่ ดูแลแม่ พาแม่ไปหาหมอ และวางแผนการทำธุรกิจ เราคิดเสมอว่า แม่ทำมาได้ไงตลอด 30 ปี

โคตรเหนื่อยเลย แม่โคตรเก่ง เราเลยรู้สึกว่า ไม่ได้แล้ว เราต้องรวยให้เร็ว จะได้พาแม่ไปเที่ยว ไปกินของอร่อย ๆ บ้าง

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม

ร้านของเราตั้งชื่อว่า “ย้อยหย่อย” ที่ตั้งชื่อนี้ เพราะว่า “ย้อย” เป็นชื่อของแม่ เราอยากให้เป็นร้านของแม่ และ “หย่อย” เป็นคำที่แม่ชอบพูด ตอนได้กินของอร่อย ๆ พอรวมกันเลยเป็นแสลงที่แปลว่า “อร่อย” เหมือนเวลาเด็กพูดไม่ชัด แถมยังน่ารักอีกด้วย  ตอนเปิดร้านช่วงแรกก็มีคำวิจารณ์ และคนดูถูกมากมาย เช่น ขายแพงแบบนี้ ใครจะไปกิน, ไปอยู่ต่างประเทศมากลับมาทำได้แค่ขายน้ำแข็งไสเนี่ยนะ?

และหลังจากเปิดร้านได้ 3 เดือน ก็โดน lock down ในช่วงนั้น ขายได้แค่วันละ 300-700 บาทต่อวัน มากสุดก็ไม่เกิน 1,500 บาท หลังปิดร้านเราเลยทำขนมขึ้นมาขาย ส่งออนไลน์ รับทำเค้กวันเกิด ทำขนมส่งกรุงเทพ ระหว่`างทำออเดอร์ตอนกลางคืน ก็เรียนการทำ Online Marketing, ทำ Content ทำ Tiktok ไปด้วย โพสต์เรียกลูกค้าทุกวัน ลูกค้าก็เริ่มรู้จัก เพราะขนมของเรามีรสชาติและหน้าตาไม่เหมือนใคร ทำให้ร้านติดกระแส social ขายดีมาก ๆ

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เปิดมาได้ปีครึ่งแล้ว เริ่มมีหลายห้างมาติดต่อให้ไปเปิดพื้นที่ ทั้งต่างจังหวัดและใจกลางกรุง มีสำนักข่าวและสื่อต่าง ๆ มาสัมภาษณ์ มีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์เยอะมาก มีนายทุนติดต่อมาด้วย ที่หน้าร้านก็ขายดีมาก ๆ เรียกว่าร้านแตกได้เลย

แต่ระหว่างนั้นแม่ก็ป่วยหนักขึ้น ด้วยความที่แม่เป็นหลายโรคมาก เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง บางครั้งก็เข้าอุบัติเหตุกลางคืนเพราะติดเชื้อบ้าง ไข้ขึ้นบ้าง พอจะได้คิวผ่าตัดหัวใจ ล้มหัวสมองฟาดอีก ต้องผ่าตัดสมองด่วน ช่วงนี้แหละที่หนักสุด ๆ เพราะแม่ติดเชื้อด้วย ในช่วงนั้นเราต้องอยู่โรงพยาบาลและห้ามออกไปไหนเลย เพราะอยู่ในช่วงโควิด ทำให้เราเครียดมาก ร้านก็ต้องบริหารงานผ่านกล้องและโทรศัพท์ แม่ก็เหมือนเด็กเลย ร้องไห้งอแงทั้งคืนและไม่นอนเลย เราก็ไม่ได้นอนไปด้วย ทำให้เราเกิดความเครียด น้ำหนักเราลดฮวบ แต่ทุกอย่างผ่านมาได้ด้วยดี จัดการร้านและแม่จนทุกอย่างดีขึ้น

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม แม่เริ่มกลับมาเป็นปกติในเวลา 4 เดือน แต่ก็กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ยอมรับว่าชีวิตช่วงนั้นเหนื่อยมาก ๆ เราเลยรู้สึกว่าเราเก่งที่สามารถจัดการทุกอย่างออกมาดี แต่สิ่งที่ทำให้เราดีใจที่สุดคือแม่เห็นเราประสบความสำเร็จและหมดห่วง แม่บอกว่า “แม่ภูมิใจในตัวหนูมากนะ หนูเก่งมาก”

ในระหว่างนั้น แม่ก็ยังเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยและมีผ่าตัดใหญ่ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เราดีใจอีกครั้งที่แม่ผ่านมาได้ ธุรกิจก็ไปได้ดีมากๆ แม่เริ่มพยายามฝึกกลับมาเดิน พูดคุยรู้เรื่อง สุดท้ายเรามีความสุขได้แค่แปปเดียว 3 เดือนต่อจากนั้นแม่เราติด covid ทำให้อาการทรุดหนักเลย เราเลยไปเฝ้าแม่อีกครั้ง อยู่ดูแลแม่ เปลี่ยนแพมเพิร์ส เช็ดตัว ป้อนยาผ่านสาย ทำทุกอย่าง ๆ ที่เคยทำ

แม่ฟื้นมาวันที่ 5 มาบอกว่า “รักหนูนะ” นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ได้ยินจากแม่ แล้วแม่ก็หลับไป

จนวันที่ 8 พยาบาลบอกว่า แม่ไม่ไหวแล้วนะ เรากรี๊ดลั่นห้องเลย กลัวไปหมด กลัวความสูญเสีย กลัวที่จะต้องได้ยินว่า แม่เราไม่อยู่กับเราแล้ว

ในตอนนั้นเราตั้งตัวไม่ทันและรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือ กลัวแม่จากไป และการกลับมาไทยครั้งนี้ ต้องการมาอยู่กับแม่ อยากให้แม่แข็งแรง รอดูเราประสบความสำเร็จ และเราก็รีบทำให้สำเร็จเพราะอยากให้แม่สบายกับเค้าบ้าง ตอนนั้นเรารู้สึกว่า เราจะทำต่อไปเพื่อใคร เพื่ออะไร เราสนิทกับแม่มาก โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ เพราะเราก็อยู่กับแม่ตลอด ไปไหนมาไหนด้วยกัน ต่อสู้ฝ่าฟันเรื่องต่าง ๆ มาด้วยกัน เป็นเหมือนเพื่อนสนิทอีกคนเลย 

ก่อนแม่จะเสียไม่กี่ชั่วโมง เป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิต เพราะเราไม่รู้เลยว่าแม่จะไปจริง ๆ ตอนไหน เครื่องตรวจคลื่นหัวใจสวิงที ร้องดังเสียงน่ากลัว หัวใจเรานี่ห่อเหี่ยวไปเลย เราเห็นแม่พยายามหายใจสู้ เป็นภาพที่ยังจดจำติดในความรู้สึกที่มันลืมและลบออกไม่ได้เลย เราก็สวดมนต์และพูดกับแม่พร้อมน้ำตาไว้ว่า

“หนูจะดูแลครอบครัว ดูแลป๊ากับน้อง ให้ดีที่สุด และจะทำ Brand ย้อยหย่อย ให้ไปไกลระดับประเทศให้ได้นะแม่”

เราไม่รู้ว่าแม่จะรับรู้ในสิ่งที่เราพูดไปมั้ย  แต่เราตั้งใจทำจริง ๆ แม่สอนอะไรไว้หลาย ๆ อย่าง ดีใจที่สุดที่ได้มาเป็นลูกของแม่คนนี้

เราอยู่กับแม่ต่อได้ไม่ถึง2ชั่วโมงหลังจากที่พยาบาลบอกว่าแม่ไม่ไหวแล้วนะ เราทรมานมาก ๆ เครียดจนไม่รู้จะทำยังไง เห็นแม่ในภาพแบบนี้ไม่ไหว เลยให้น้องชายมาอยู่กับแม่ต่อ เพราะช่วงหลังน้องชายเป็นคนดูแลแม่เป็นหลักในช่วงครึ่งปีหลังที่ธุรกิจเราโต และอยากให้น้องชายได้อยู่ในช่วงชีวิตสุดท้ายของแม่ หลังจากนั้นได้ชั่วโมงกว่า แม่ย้อยของพวกเราก็ได้จากไป...

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม

เราเชื่อว่าที่เราเก่งทุกวันนี้เพราะเราเก่งเหมือนแม่ แม่สอนเรามาดีมาก ๆ และดีใจที่ตัวเองก็เชื่อฟังแม่มาหลาย ๆ เรื่อง เราเชื่อว่าแม่ยังมองเราอยู่และอยู่ข้างๆเราเสมอ 

ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่อยากทำซึ่งเป็นสิ่งที่แม่เคยสอนและเคยทำมาก่อน วันนี้ขอทำย้อยหย่อยให้สำเร็จไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนนะ แล้วจะมาเปิดร้านอาหารอร่อย ๆ ที่แม่เคยสอนไว้ ลูกค้าแม่ต้องชอบมากแน่ ๆ สิ่งหนึ่งที่เราได้มาเข้าใจมันจริง ๆ หลังจากแม่เสียก็คือ สิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินทองก็คือความรู้

ถึงแม้ว่าแม่อาจจะไม่ได้รวยเหมือนใครเขา แต่แม่คือผู้หญิงที่เก่งที่สุดคนนึง ที่ดูแลครอบครัวและสอนลูกให้เติบโตมาเป็นอย่างดี ให้รู้จักขยันและมีความรู้ติดตัวไว้ประกอบอาชีพ สิ่งเหล่านี้ มีค่ามากกว่าเงินทองหรือทรัพย์สินใด ๆ ในเวลา 2 ปีครึ่ง ที่ได้กลับมาดูแลแม่ มันคุ้มค่าที่สุด ถ้าหนูเลือกที่จะอยู่ซิดนีย์ต่อ วันนี้หนูคงเสียใจมากที่สุดในชีวิตและคงไม่มีร้านที่เป็นชื่อแม่เหมือนในวันนี้ ขอบคุณแม่ย้อยมาก ๆ เลยนะ

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม ด้วยความที่เราพอจะทำคอนเท้นท์ต่าง ๆได้ประมาณหนึ่ง เราจึงได้ทำโปรเจกต์ ชื่อว่า “คนถิ่นกินอะไร” เป็นคอนเท้นท์เกี่ยวกับการแนะนำร้านอาหารในนครปฐมที่คนถิ่นนครปฐมกินจริง ๆ เหตุผลที่ทำโปรเจกต์ นี้ขึ้นมาเพราะว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทำให้กระทบกับหลายภาคส่วนและร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านบ้านๆ ที่คิดว่าหลายร้านน่าจะไม่ถนัดการทำโซเชียล เราจึงอยากเป็นคนหนึ่งที่ช่วยทำให้ลูกค้าได้รู้จักร้านอาหารของคนในท้องถิ่นมากขึ้น เพราะด้วย Follower ของร้านย้อยหย่อยเป็นคนต่างจังหวัดส่วนใหญ่

รวมถึงที่ร้านมักจะมีลูกค้าถามบ่อยครั้งว่า “แถวนี้มีอะไรอร่อย ๆ?” หรือ “คนถิ่นนครปฐมกินร้านไหนกัน?” เราเลยอยากเป็นสื่อกลางที่ทำให้คนต่างจังหวัดได้มาอุดหนุนร้านคนถิ่นนครปฐมจริง ๆ หากร้านเราขายดี เราก็อยากให้ร้านคนถิ่นของเราขายดีบ้าง อะไรที่เราพอมีความรู้หรืออะไรที่เราพอช่วยคนอื่นได้ เราก็อยากช่วยค่ะ ร้านไหนที่เราได้ไปรีวิวแล้วเค้าขายดี มีคนมาต่อแถวยาว ๆ เรามีความสุขมาก ๆ เหมือนเราได้ช่วยเหลือลุง ๆ ป้า ๆ ที่เค้าตั้งใจทำอาหารให้ลูกค้ากิน โดยร้านที่เราไปรีวิวจะต้องเป็นร้านที่คนถิ่นกินจริง ๆ ต้องอร่อย สะอาด และเราจ่ายเองทุกชาม  เราอยากทำให้ลูกค้าเห็นว่าเรากินจริง ๆนะ เราอยากให้มันออกมาเรียลจริง ๆ พอได้ลงคลิปก็จะมีลูกค้าประจำของแต่ละร้านมาคอมเม้นท์ต่อ ว่าร้านนี้อร่อยจริง ๆ ทำให้เรามีความสุขกับโปรเจกต์ที่เราตั้งใจทำมาเพื่อบ้านเกิดจริงๆค่ะ และอยากส่งบุญนี้ให้กับแม่ย้อยที่อยู่บนฟ้าด้วย แม่จะได้พักผ่อนให้สบายมีความสุข

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม ตอนนี้ร้านของเราเป็นของดีประจำจังหวัดนครปฐมแล้วนะคะ เราเชื่อว่า เราจะทำตามที่สัญญากับแม่ไว้ เราจะพาร้านย้อยหย่อยไประดับประเทศให้ได้ ในวันนี้ร้านของเราได้เปิดทำการมาเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว เปิดเมื่อปี 2021 อาจจะเป็นปีที่ยากหน่อย แต่ความฝันและสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ จะเป็นแรงผลักดันให้เราทำมันให้สำเร็จให้ได้ค่ะ

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม

การกลับบ้านไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่มันคือโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ โอกาสที่เราจะได้ดูแลคนที่เรารัก โอกาส ที่จะสร้างชีวิตของเราให้มีความสุข

ขอบคุณที่อ่านจนจบและทำให้เราได้มาเล่าเรื่องราวดี ๆ ในวันนี้นะคะ อยากจะเล่าสตอรี่เรื่อง “กว่าจะมาเป็นย้อยหย่อยวันนี้” ให้คนอื่นฟัง เพราะอยากให้ทุกคนรู้จักแม่ย้อย และอยากให้ร้านแม่ย้อยไปได้ไกลกว่านี้จริง ๆ ค่ะ และอยากให้เรื่องนี้เป็น Inspiration ให้กับใครหลาย ๆ คนที่กลับมาอยู่บ้านเกิด เพราะเราเชื่อว่า บ้านของเราดีที่สุด เรารู้จักมากที่สุดและอบอุ่นมากที่สุด กลับมาอยู่ใกล้ ๆ คนที่เค้ารักคุณ ดูแลกัน แล้วจะไม่มีวันเสียใจแน่นอนค่ะ อยู่ที่ไหนก็ดีได้ ถ้าเรามีทัศนคติที่ดี มีความฝัน เรียนรู้และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา และทุกวันนี้เชื่อว่า ที่ได้ดีและมาได้ไกลและเร็วขนาดนี้ เพราะเชื่อว่า เรากลับมาดูแลแม่ค่ะ และเราตั้งใจทำทุกอย่างแบบ 100%

ย้อยหย่อย: ร้านน้ำแข็งไสฟิวชั่นของลูกสาวที่กลับบ้านมาหาแม่ จนขึ้นชื่อว่าเป็นของดีนครปฐม