ม้า อรนภา คนบันเทิงฝีปากกล้า ตำนานยุคบุกเบิกในไทย และหลากเรื่องเผ็ดร้อน

ม้า อรนภา คนบันเทิงฝีปากกล้า ตำนานยุคบุกเบิกในไทย และหลากเรื่องเผ็ดร้อน

ม้า - อรนภา กฤษฎี คนบันเทิงที่เป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศอีกรายที่เคยผ่านงานหลากหลาย ยุคที่ผู้ตระหนักถึงบทบาทของ LGBTQ+ ในไทย มีไม่มากนัก แต่นั่นตามมาด้วยฝีปากกล้า และการแสดงความคิดเห็นที่เผ็ดร้อน

  • ม้า อรนภา กฤษฎี โลดแล่นในวงการบันเทิงยาวนาน แต่มีอันต้องเว้นระยะห่างจากงานไป
  • บทบาทในหน้าที่การงานท่ามกลางแสงไฟบนเวที มาคู่กับฝีปากกล้า และสไตล์การแสดงความคิดเห็นที่เผ็ดร้อน

หากพูดถึงพิธีกรที่ฝีปากกล้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา เชื่อว่าชื่อของ ‘ม้า - อรนภา กฤษฎี’ คงเป็นอีกหนึ่งคนที่หลายคนนึกถึง เพราะเจ้าตัวกล้าพูดอย่างตรงไปตรงมาหลายครั้ง จนเกิดดราม่าตามมาอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งนอกจากเป็นคนกล้าพูดแล้ว เจ้าตัวยังเป็นผู้บุกเบิกของ LGBTQ+ ในสังคมไทยอีกด้วย

‘ม้า - อรนภา กฤษฎี’ หรือชื่อเดิมว่า ‘แป๊ะ - พรชัย กฤษฎี’ เกิดวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2497 ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาวจังหวัดสมุทรสงคราม เกิดในครอบครัวคนจีนที่พ่อแม่ให้การยอมรับในตัวตนของเธอ โดยม้า อรนภา จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ตอนเด็ก ม้า อรนภา มีชื่อเล่นจริง ๆ ว่า ‘แป๊ะ’ ส่วนชื่อ ‘ม้า’ มาจากละครเรื่องแก้วหน้าม้า ที่เจ้าตัวชอบทำท่าเลียนแบบตัวละครให้เพื่อน ๆ ดู จนเป็นที่จดจำและถูกเรียกขานด้วยชื่อม้า มานับตั้งแต่นั้น

ม้า อรนภา กับเส้นทางในวงการ

ม้า อรนภา  แจ้งเกิดในวงการบันเทิงจากการเป็นนางแบบ ในปี พ.ศ. 2525 โดยถ่ายแบบให้นิตยสารลลนา ก่อนจะมีงานเข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งถ่ายแบบ เดินแบบ ละคร และภาพยนตร์ โดยเฉพาะการถ่ายแบบลงปกนิตยสารที่พูดได้เลยว่า ม้า อรนภา ขึ้นปกมาเกือบทุกเล่มแล้วก็ว่าได้

ม้า อรนภา เปิดตัวว่าเป็นกลุ่ม LGBT อย่างกล้าหาญในยุคนั้นที่ยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับมากเท่าที่ควร ด้วยลุคสาวผมสั้น หน้าม้า ถือเป็นสาวประเภทสองคนแรก ๆ ที่โด่งดังในภาพลักษณ์เป็นหญิงแท้ในสังคมไทย นอกจากนี้ เจ้าตัวยังมีความสามารถในด้านแฟชั่น เมคอัพ และการวิเคาระห์นางงามที่ค่อนข้างแม่นยำอีกด้วย

ม้า อรนภา กับบทบาทงานในวงการบันเทิง

หลังแจ้งเกิดในฐานะนางแบบจนเป็นที่รู้ไปทั่ว รวมถึงงานละครและภาพยนตร์อีกกว่า 50 เรื่อง ม้า อรนภา ได้ผันตัวเองมาเอาดีด้านการเป็นพิธีกรในรายการบันเทิงเป็นหลัก ด้วยคาแรกเตอร์ที่พูดตรง ฝีปากกล้า และเต็มไปด้วยความมั่นใจ รวมถึงเคยเป็นหนึ่งในกรรมการหลักของรายการเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว มาก่อนด้วย

แม้ภาพลักษณ์จะเป็นคนปากจัด ปากตรง แต่หนึ่งสิ่งที่ม้า อรนภา ทำมาโดยกว่า 20 ปีที่ผ่านมา คือการเป็นแม่อุปถัมภ์ของสมาคม Young Women’s Christian Association of Bangkok รับดูแลอุปการะเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสในเรื่องการเรียนและอุปกรณ์การศึกษา โดยเจ้าตัวเคยโพสต์ภาพพร้อมเด็กที่รับอุปการะ พร้อมข้อความระบุว่า

“20 ปีที่เป็นแม่ ตามโครงการแม่อุปถัมภ์ของ YWCA วันนี้เป็นวันแม่พบลูก เป็นลูกชาย หญิง ที่ดูแลมา 8 ปี ให้การศึกษา และเสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน เป็นลูกคู่ล่าสุดจากลูกหลายๆ คนที่เคยดูแล แต่พอพวกเขาแข็งแกร่ง ยืนหยัดด้วยตัวเองได้ ก็จากไปช่วยที่บ้านทำมาหากิน หรือไม่ก็หายไปโดยไม่รู้เหตุผล

เราก็เริ่มเลี้ยงดูใหม่ซึ่งก็ผ่านมาหลายคู่ แต่ทุกครั้งก็จะบอกกับลูกว่า แม่สามารถส่งเสียให้ลูกเรียนได้สูงที่สุดเท่าที่ลูกต้องการ นี่คือความตั้งใจที่จะให้เขายืนอยู่ได้ในสังคมนี้ และเป็นการให้ที่คืนสู่สังคม โดยเริ่มจากพื้นฐานของสังคมนั้นคือเยาวชน และขอให้เขาเป็นคนดี ด้วยความตั้งใจของแม่ ที่ให้โดยไม่มีข้อแม้”

ม้า อรนภา กับการเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง

ในปี พ.ศ. 2556-2557 ช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. ม้า อรนภา เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ขึ้นเวทีราชประสงค์ ปราศรัยโจมตีรัฐบาล ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ โดยมีการกล่าวว่า “ยอมรับว่ายิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นคนสวย แต่หากพิจารณาการบริหารประเทศในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่า คุณไม่ได้ไปต่อค่ะ”

ปี พ.ศ. 2563 ในช่วงที่กลุ่มเยาวชนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เรียกร้องให้ ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ม้า อรนภา เคยคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กด้วยถ้อยคำว่า “นอนแหกXXอยู่บ้านไป ไม่ต้องมาเรียน เด็กเปรต”

ทำให้สังคมและโลกโซเชียลเกิดการแบน ม้า อรนภา อย่างหนักและเรียกร้องให้ถอดออกจากงานในวงการบันเทิงทั้งหมด  จนทางม้า อรนภา ต้องประกาศขอยุติบทบาทการทำหน้าที่พิธีกรใน 2 รายการที่เจ้าตัวทำอยู่ นั่นก็คือ ‘3 แซ่บ’ ทางช่อง 3  และ ‘ข่าวใส่ไข่’ ทางไทยรัฐทีวี หลังถูกกระแสสังคมวิจารณ์อย่างหนักถึงการใช้คำหยาบคายในพื้นที่สาธารณะ และได้กลับไปช่วยแม่ขายห่อหมก โดยมีแฟนคลับประจำคอยช่วยอุดหนุน

จนกระทั่งช่วงต้นปี พ.ศ. 2565  ม้า อรนภา ส่งสัญญาณคล้ายอยากกลับเข้ามาทำงานในวงการอีกครั้ง ด้วยภาพขณะช่างแต่งหน้ากำลังแต่งหน้าให้กับตนเอง พร้อมแคปชั่นสั้น ๆ ว่า “อยากทำงาน”

ม้า อรนภา ในงาน Fan Club Awards 2015

ล่าสุด กับช่วงการชุมนุม ‘ราษฎรหยุดเอเปค2022’ ที่มีภาพเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนปะทะกับผู้ชุมนุม จนมีคนโดนกระสุนยางยิงเข้าที่ตา เจ้าของบริษัทออร์แกไนเซอร์ชื่อดังรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความหลังถูกสลายการชุมนุม บอกว่า น่าจะใช้กระสุนจริงแทนกระสุนยาง ด้านม้า อรนภา ก็เข้ามาคอมเมนต์เสริมสั้น ๆ ว่า “เลว” จนถูกสังคมถามถึงสามัญสำนึกความเป็นมนุษย์ขึ้นมาอีกรอบ

ม้า อรนภา กับกรณีพิพาทกับคนในวงการบันเทิง

ม้า อรนภา เคยมีกรณีพิพาทกับคนร่วมวงการบันเทิง ตั้งแต่รุ่นใหญ่ยันรุ่นเล็ก ไม่ว่าจะเป็นวิจารณ์สไตล์การแต่งตัวของ ‘กาย รัชชานนท์’ ว่าไม่เข้าท่า เหมือนแมงดา โดยที่ครั้งนั้นกาย รัชชานนนท์ ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เพราะถือเป็นคำแนะนำของคนในวงการบันเทิง 

ก่อนที่จะมาถึงคิวของ ‘ทราย เจริญปุระ’ ที่วิจารณ์เรื่องวิชานาฏศิลป์ ซึ่งทาง ม้า อรนภา ได้พูดถึงเรื่องนี้ ว่าวิชานาฏศิลป์เป็นวิชาที่สามารถต่อยอดต่อได้ พร้อมยกตัวอย่างตนที่เรียนจบด้านนี้มา การเรียนนาฏศิลป์ไม่ได้จะบังคับให้ทุกคนต้องมาเป็นครู แต่เรียนเพื่อให้คนรุ่นหลังไม่โง่และเข้าใจในรากเหง้าของตนเอง

นอกจากนี้ ม้า อรนภา ยังบอกอีกว่า ถ้าไม่พอใจกับเรื่องนี้ทำไมไม่ย้ายไปอยู่ประเทศอื่น หน้าด้านมาอยู่ประเทศไทยที่มีรากเหง้าของตัวเองทำไม

‘เปิ้ล ไอรีณ’ ก็เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่เคยถูกม้า อรนภา วิจารณ์ชุดราตรีราคาหลักแสนที่เจ้าตัวใส่มาร่วมงานประกาศรางวัลงานหนึ่ง แต่กลับถูกวิจารณ์ว่าเหมือนผ้าพันต้นโพธิ์ ร้อนถึงสไตล์ลิสต์ต้องออกมาตอกกลับม้า อรนภา

ส่วน เปิ้ล ไอริณ ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับคำวิจารณ์ พร้อมน้อมรับและขอบคุณที่ทำให้มีกระแสอีกครั้ง ยังรวมถึง ‘บียอนเซ่’ กับชุดที่ใส่ในงาน Met gala ก็ถูกม้าอรนภา วิจารณ์อย่างแรงด้วยคำว่า “หมูดำ น่าเกลียด ทุเรศ ใส่แบบนี้ไม่ต้องใส่มา” ด้วยเช่นกัน 

ด้าน ‘กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์’ เมื่อครั้งมีข่าวตั้งท้องกับ ‘บี้ KPN’ ก็ถูกม้า อรนภา ถามถึง จารีตประเพณี จนมีหลายคนออกมาปกป้องและพูดถึงเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก

หรือแม้แต่ ‘ตั๊ก บงกช’ ที่ออกกำลังกายจนสวยเซี้ยะอยู่ดี ๆ ก็โดนพาดพิงถึงขั้นว่าไปรัดกระเพาะมา งานนี้ตั๊ก บงกช เองก็ไม่รอช้า ออกมาสวนกลับว่าให้กลัวบาปกรรมซะบ้าง

‘ริชชี่ อรเณศ’ อดีตนางเอกของช่อง 3 ก็โดนม้า อรนภา เจิมด้วยการวิจารณ์ผลงานในละครเรื่องซ่อนเงารัก ในเชิงว่าเล่นไม่ถึงบทบาท ทำได้เพราะทีมงานตัดต่อช่วย จนเกิดแฮชแท็ก #saveริชชี่ และเรียกร้องให้ม้า อรนภา ออกมาขอโทษริชชี่ จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ก่อนที่ ม้า อรนภา จะออกมาตอบโต้ว่า นอกจากจะไม่ขอโทษแล้ว ถ้าพูดมากกว่านี้น้องอาจจะต้องกลับดอย ยิ่งทำให้กระแสคนไม่พอใจยิ่งเพิ่มขึ้นอีก และมองว่าการกระทำดังกล่าวของม้า อรนภา คือการเหยียดชาติพันธุ์

จนมาถึงกรณีล่าสุด เมื่อ ‘ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด’ เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาโพสต์เรื่องของดาราไทยรุ่นใหญ่คนหนึ่ง  รับจ็อบพาลูกค้าซึ่งเป็นนักแสดงน้องใหม่ ไปเสริมหล่อที่เกาหลี เกิดความไม่พอใจที่ชวนไปกินปูแล้วน้องดาราไม่ไป จึงได้ตบหน้าฉาดใหญ่กลางห้าง จนนักแสดงน้องใหม่ต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่เกาหลี

เรื่องนี้คอมเมนต์ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ ม้า อรนภา ที่อยู่ที่ประเทศเกาหลีพอดี ก่อนเจ้าตัวจะออกมาชี้แจง โดยระบุว่าทนายตั้มเขียนข้อความเกินไป อย่าใช้คำว่าตบ และมีการปรับความเข้าใจกันจบแล้ว มีอะไรคุยกันธรรมดา และจะกลับไทยมาชี้แจงในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ฟากทนายตั้มก็ได้แฉด้วยคลิปจากกล้องวงจรปิดนาทีที่ม้า อรนภา ยื่นมือไปตบหน้าน้องนักแสดงจริง

ขณะเดียวกัน ‘นก สินจัย’ ก็ได้โพสต์ให้กำลังใจม้า อรนภา ถึงเรื่องนี้พร้อมตอบกลับคนที่เข้าไปถาม โดยระบุว่า “กำลังใจให้พี่ @maornapa เราให้กำลังใจในฐานะน้องฐานะเพื่อนร่วมวงการค่ะ ผิดถูกหยาบคายหรืออย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราเชื่อว่าพี่เค้ารู้ดี เราเป็นรุ่นน้องเราเคารพรุ่นพี่นั่นคือสิ่งที่เราควรทำเท่านั้นค่ะ”

เรื่องราวเหล่านี้ล้วนทำให้ชื่อของม้า อรนภา ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างหลากหลาย

อัปเดต: ม้า อรนภา แถลงข่าวเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2565 อธิบายว่า รู้สึกเสียใจ และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับความผิดและผลที่จะตามมา เธอขอโทษน้องซึ่งถูกกระทำไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าน้องมีติดใจเรื่องใดจึงไปปรึกษาทนาย

แม้ว่า ม้า อรนภา จะชี้แจงว่าพูดคุยและได้ขอโทษไปแล้ว แต่หลังจากนั้นได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวในเวลาต่อมา (โพสต์เมื่อวันที่ 30 พ.ย.) ว่า เอ็ม - นันทวัฒน์ ผ่องบุรุษ ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่ตกเป็นข่าวด้วยนั้น ยังไม่สะดวกออกรายการ คุยแซ่บโชว์ ด้วยกันในวันนี้ (1 ธันวาคม) โดยใช้คำว่า “(น้อง)ยังไม่อยากเจอพี่”