06 พ.ย. 2568 | 18:12 น.

KEY
POINTS
หากไม่มีการบิดพลิ้วในสัญญา การยุบสภาของนายกรัฐมนตรี ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ จะเกิดขึ้นตามกรอบ MOA ที่ทำร่วมกันระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน 4 เดือน หรือภายในวันที่ 31 มกราคม
หรือไวกว่านั้น….?
คำถามที่ทุกพรรคได้รับพร้อมกันก็คือ “พร้อมเลือกตั้งกันแค่ไหน?” เพราะถึงในนาทีนี้เชื่อว่าหลาย ๆ พรรคก็ยังไม่พร้อมจะเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย แกนนำรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่เปิดตัวมาดีด้วยพลังเทคโนแครต แต่เริ่มโดนโยงภาพกับสแกมเมอร์และธุรกิจสีเทา หรือพรรคกล้าธรรม ที่ดูจะพร้อมด้วยอำนาจและบารมีแต่ก็มาเสียรังวัดกับประเด็น ‘กัน จอมพลัง’ และกระแสคลั่งชาติที่ตีกลับ
แม้กระทั่งพรรคประชาชนที่เป็นแกนนำฝ่ายค้านที่ประกาศว่าพร้อมจะเลือกตั้ง แต่การที่จะต้องรักษากระแสสูงให้เท่ากับ ‘พิธาฟีเวอร์’ นั้นไม่ง่ายเลย
รวมไปถึงอดีตรัฐบาล 2 ปี 2 นายกรัฐมนตรีอย่างพรรคเพื่อไทย ที่เมื่อ DNA ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อย่าง ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ก้าวลงจากบัลลังก์เปิดทางให้พรรคสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ก็ไม่ได้มีความพร้อม และอยู่ในสถานการณ์เลือดไหลไม่หยุด คนเก่าอยากออก คนใหม่ไม่อยากเข้า กระแสถดถอย จากเคยฝันถึงแลนด์สไลด์ แต่ในวันนี้เซียนการเมืองพูดกันถึงว่า “จะต่ำร้อยหรือไม่?”
‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ คือชื่อของผู้นำคนใหม่ที่จะพาพรรคเพื่อไทยเข้าสู่ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นพร้อมคณะกรรมบริหารพรรคชุดใหม่ และน่าจะเป็นครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทยจะลงเลือกตั้งในแบบที่ไม่มีลุ้นที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากประเมินกันตามหน้าเสื่อ
‘หนิม’ จุลพันธ์ ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์พรรคเพื่อไทยในวันที่เวิ้งว้าง เพราะขนาดคุณพ่อที่เป็นคนเก่าคนแก่อย่าง ‘สมพงษ์ อมรวิวัฒน์’ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังลาออกจากพรรค หลังจากผิดใจกับน้องสาวของนายใหญ่ ภาพที่ออกมาจึงมีความขัดแย้งในขณะที่พ่อก้าวขาออก แต่ลูกชายกลับก้าวขาขึ้นไปนำ เป็น ‘อมรวิวัฒน์’ คนที่ 2 ที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
จุลพันธ์เกิดในครอบครัวการเมือง สำหรับคนที่ติดตามการเมืองจะรู้จักชื่อ ‘พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์’ อดีตอธิบดีกรมตำรวจที่มีศักดิ์เป็นลุงเป็นอย่างดี เพราะมีส่วนเข้าร่วมการทำรัฐประหารกับ ‘พล.อ.สุจินดา คราประยูร’ ที่จี้ ‘พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ’ นายกรัฐมนตรีกลางอากาศ โดยดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ รสช.
ส่วนคุณพ่อ สมพงษ์ นั้น ได้รับการผลักดันจาก ‘กำนันเป๊าะ’ สมชาย คุณปลื้ม คนโตแห่งชลบุรีในการชักจูงสู่ถนนการเมือง และมีส่วนตั้งพรรคสามัคคีธรรม ที่ตั้งขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการรสช. ก่อนที่จะโลดแล่นในยุทธจักรการเมืองกับ ‘กลุ่ม 16’ โดยเป็นหัวหน้ากลุ่ม 16 ที่มีทีมอย่างเนวิน ชิดชอบ, วราเทพ รัตนากร และจำลอง ครุฑขุนทดเป็นขุนพลรอบกายที่ร่วมมือกันล้มรัฐบาล ‘ชวน หลีกภัย’ จากกรณีแจกส.ป.ก. 4-01 ของ ‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ เอื้อกับนายทุนภาคใต้
ดังนั้นตระกูลอมรวิวัฒน์ไม่เคยหายไปจากการเมืองไทย จุลพันธ์จึงเหมือนเหล้าใหม่ในขวดเก่าของการเมืองไทยที่สืบทอดผ่านระบบสายเลือด บ้านใหญ่แห่งเชียงใหม่ 1 ใน 3 ตระกูลเคียงคู่กับ ‘ชินวัตร’ และ ‘บูรณุปกรณ์’ และเขาก็ก้าวเข้าสู่การเมืองครั้งแรกในสนามเลือกตั้งเชียงใหม่ปี 2548 ในนามพรรคไทยรักไทยในยุครัฐบาลพรรคเดียว 377 จาก 500 ที่นั่ง
อีกทั้งจุลพันธ์ยังดองตระกูลการเมืองโดยการคว้าหัวใจขวัญใจของหนุ่ม ๆในสภาอย่าง ‘น้องยิ้ม’ วิสาระตี เตชะธีรวัฒน์ ลูกสาวของ ‘วิสาร เตชะธีรวัฒน์’ คนสนิทของสมพงษ์ เป็นการดองระหว่างสายอำนาจบ้านใหญ่เชียงใหม่-เชียงราย เรียกได้ว่าเป็นตระกูลการเมืองอย่างแท้จริง
จุลพันธ์เรียกได้ว่าเป็นลูกหม้อของ ‘พรรคทักษิณ’ อย่างแท้จริงตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาสู่ยุคพรรคพลังประชาชนที่คุณพ่อสมพงษ์เป็นรองหัวหน้าพรรค ก่อนที่พรรคจะถูกยุบและสมพงษ์ถูกตัดสิทธิ์ จนมาถึงพรรคเพื่อไทย จุลพันธ์ไม่เคยสอบตกเลยแม้ครั้งล่าสุดกระแสสีส้มมาแรง แต่ในเขตอำเภอแม่แตง สะเมิง และกัลยาณิวัฒนา ยังเป็นฐานที่เหนียวแน่นของจุลพันธ์ที่เฉือนชนะผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลเพียงแค่พันกว่าคะแนน
ด้วยโปรไฟล์ด้านเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาฯ และจบการศึกษา MBA จากมหาวิทยาลัยบอสตัน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแนวหน้าของสหรัฐฯทำให้จุลพันธ์มักถูกมอบหมายให้เป็นคนพูดเรื่องเศรษฐกิจทั้งตอนเป็นฝ่ายค้านและรัฐบาล
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ในปี 2554 ในประเด็นการรับมือเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตการณ์โควิด 19 ของจุลพันธ์ถือว่าเป็นอีกซีนสำคัญที่ชื่อของเขาอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลท์ โดยการกางข้อมูลให้เห็นว่าประเทศไทยนั้นเติบโตต่ำกว่า 2% ต่ำที่สุดในประเทศอาเซียน การกระจายวัคซีนที่ผิดพลาดของรัฐบาลขณะนั้นกระทบกับปากท้องของประชาชนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย การตัดสินใจล็อกดาวน์ที่ผิดพลาดสร้างความเสียหายต่อประชาชนในขณะมาตรการรับสิทธิ์เยียวยาต้องแย่งกันลงทะเบียน เรียกเสียงฮือฮาให้กับสภาในขณะนั้น
เรื่องการแจกเงินเยียวยานั้น จุลพันธ์อาจจะไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งมันจะย้อนกลับมาเข้าตัวเขา เพราะหลังจากพรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคก้าวไกลในปี 2566 แต่ได้พลิกขั้วมาเป็นรัฐบาลหลังจากฉีก MOU ‘ปฏิญญาช็อกมิ้นท์’ แล้ว เขาเองในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะต้องมาเป็นผู้เดินหน้าชี้แจงนโยบายเรือธงอย่าง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท’ เนื่องจากนายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอย่าง ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นั้น เน้นเดินสายเปิดตลาดการค้ากับต่างประเทศ
ซึ่งพอนำไปสู่การปฏิบัติการจริงที่รัฐบาลเพื่อไทยคาดหวังว่าจะเป็น ‘พายุหมุนทางเศรษฐกิจ’ แต่กลับกลายเป็นดั่งพัดลมฮาตาริเบอร์ 1 เพราะสิ่งที่บอกว่าจะเป็นดิจิทัลก็กลายเป็นแจกเงินสด ที่บอกว่าจะได้ถ้วนหน้ากลายเป็นทยอยแจกทีละกลุ่มตามเงื่อนไข แอปพลิเคชันทางรัฐที่คุยโวว่าจะเป็นซูเปอร์แอปฯทำได้ทุกอย่าง สุดท้ายก็เปลืองงบประมาณในการทำแอปฯและล่มลงพร้อมกับโครงการ
ถึงแม้ว่าช่วยปลายรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ทางจุลพันธ์ก็ยืนยันว่าจะสามารถเดินหน้าแจกเงินดิจิทัลเฟสที่ 3 สำหรับ กลุ่มอายุ 16 - 20 ปี 2.7 ล้านคนได้อย่างแน่นอน แต่ท้ายที่สุดก็แท้งไม่ถึงฝั่งฝัน หลังจากรัฐบาลแพทองธารต้องพ้นสภาพลงจากการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในกรณี ‘คลิปอังเคิล’ และไม่มีใครพูดถึงดิจิทัลวอลเลตอีกต่อไป กลายเป็นแผลใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่เคยมีเครดิตในการพูดแล้วสามารถทำได้ ให้เสียเครดิตความเชื่อมั่นทางการเมืองในความล้มเหลวของนโยบาย
และเมื่อแพทองธารขยับไปเป็นตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย การคัดสรรหัวหน้าพรรคเพื่อไทยครั้งนี้จึงเป็นเหมือนภาพสะท้อนว่าท้ายที่สุดแล้วตระกูลชินวัตรจะถอยฉากจากการเมืองจริงหรือไม่? เพราะมีการโยนชื่อของผู้อาวุโสทั้ง ‘จาตรุนต์ ฉายแสง’ และ ‘สุทิน คลังแสง’ หรือแม้กระทั่งอดีตหัวหน้าพรรคอย่าง ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ แต่เมื่อชื่อออกมาเป็นจุลพันธ์ ก็เป็นเหมือน ‘เหล้าใหม่ในขวดเก่า’ ที่มีความสนิทสนมกับความสัมพันธ์ ชินวัตร-อมรวิวัฒน์ ตัดกันไม่ขาด ดังนั้นการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการประคองพรรคเพื่อไทยไม่ให้ถดถอยไม่ให้ต่ำกว่าร้อยที่นั่ง ให้ผ่านการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
การก้าวออกจากพรรคของสมพงษ์ผู้พ่อ ในเดือนเดียวกับที่จุลพันธ์ผู้ลูกก้าวขึ้นเป็นผู้นำของพรรคนั้น จึงเป็นภาพที่แปลกตา หากยิ่งมองย้อนกลับไปคำกล่าวทิ้งทวนของสมพงษ์ที่ว่า “ผมไม่ได้ทิ้งพรรคในวันที่ตกต่ำ แต่เป็นฝ่ายที่เลือกจะถอยออกมาเอง เพราะได้ทุ่มเทเต็มที่มาตลอด ทั้งกับพรรคและครอบครัวชินวัตร” ที่ทำให้เห็นรอยร้าวลึก ๆ ของสมพงษ์ กับ คนบางคนในครอบครัวชินวัตร และวันนี้จุลพันธ์จะไม่มีพ่อคอยระวังหลังให้อีกต่อไป
ส่วนเป้าหมายที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งอย่าง ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ ตั้งเป้าถึง 200 ที่นั่งนั้น คงเป็นการปลอบใจปลุกใจกันเอง ในวันที่พรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคขนาดใหญ่ที่เป็นเซียนเกมส์เลือกตั้งอีกต่อไป ส่วนจะทำได้ดีแค่ไหน จุลพันธ์ ในฐานะผู้ถือธงนำคงจะเป็นคนให้คำตอบให้กับพรรคในยามที่ขาดผู้นำจิตวิญญาณ
เรื่อง: แก้วอัมพร
ภาพ: เพจเฟซบุ๊ก จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์
อ้างอิง:
Prachatai. “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เหล้าใหม่ในขวดเก่า หนิม ๆ หยิบชิ้น ‘เพื่อไทย’.” Prachatai, 2025, https://prachatai.com/journal/2025/10/115315. เข้าถึงเมื่อ 31 ต.ค. 2025.
Thai PBS. “พรรคเพื่อไทยแต่งตั้งจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่.” Thai PBS, 2025, https://www.thaipbs.or.th/news/content/351658. เข้าถึงเมื่อ 31 ต.ค. 2025.
BBC News ไทย. “ทักษิณ ชินวัตร: เส้นทางชีวิตและอิทธิพลทางการเมือง.” BBC Thai, 2025, https://www.bbc.com/thai/thailand-58405289. เข้าถึงเมื่อ 31 ต.ค. 2025.
ไทยรัฐออนไลน์. “วิสาระตี เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.หญิงผู้มากด้วยรอยยิ้ม.” Thairath Online, 2025, https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/63842. เข้าถึงเมื่อ 31 ต.ค. 2025.
MCOT News. “พรรคเพื่อไทยเตรียมเลือกตั้งใหญ่ ตั้งเป้า 200 ที่นั่ง.” MCOT News 100.5 FM, 2025, https://news1005.mcot.net/news1005/news/news/list/128238. เข้าถึงเมื่อ 31 ต.ค. 2025.