11 ส.ค. 2567 | 15:00 น.
KEY
POINTS
ทุกวันนี้ โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตนับเป็นปัจจัย 5 ในชีวิตของคนเรา
โลกเปลี่ยนแปลงทุกวัน เราต้องตามข้อมูลข่าวสารที่หลั่งไหลเข้ามาทุกวินาที จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วันนี้ เราหันไปทางไหน ทุกคนจะก้มมองมือถือมากกว่าหันมองสิ่งรอบตัว หรือเชื่อมต่อกับโลกในชีวิตจริง
แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าเราเลือกจะวางมือถือไว้ที่ใดสักแห่ง แล้วออกไปเผชิญโลกความจริง
อาจดูเป็นเรื่องยาก แต่ที่เนเธอร์แลนด์มีกลุ่มคนที่เลือกจะใช้ชีวิตบนโลกออฟไลน์ ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ทำในสิ่งที่อยากทำ โฟกัสกับปัจจุบัน ไปพร้อมกับคุยกับผู้คนตรงหน้าในช่วงเวลาอย่างน้อย ๆ 1 - 2 ชั่วโมงกับกิจกรรม Digital Detox ของกลุ่ม The Offline Club ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2022
แม้จะดูเป็นเรื่องที่ฝึกกันที่บ้านได้ แต่ The Offline Club ต้องการช่วยสร้างสมดุลชีวิตระหว่างหน้าจอกับโลกจริง หยุดตามกระแส และใช้ชีวิตต่ออย่างมั่นคง
The Offline Club เริ่มต้นในปี 2022 ด้วยฝีมือ 3 หนุ่ม ‘อิลยา เนปเปลเฮาท์’ (Ilya Kneppelhout) พร้อมกับสมาชิกร่วมก่อตั้งอย่าง ‘วาเลนไทน์ คลอก’ (Valentijn Klok) และ จอร์ดี้ ฟาน เบนเนคม (Jordy van Bennekom) ที่อยากสร้างพื้นที่ปลอดโซเชียลในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ณ วันนั้น พวกเขาเป็นเพียงนักศึกษาปริญญาโทที่รู้สึกว่า โซเชียลมีเดียได้กัดกินช่วงเวลาในชีวิตของชายทั้งสามคนนี้มากไป เลยเลือกที่จะงดเล่นโทรศัพท์ 3 วัน เพื่อจัดการความคิดและความรู้สึกของตัวเอง
ครั้งหนึ่ง เนปเปลเฮาท์เคยให้สัมภาษณ์ถึงจุดเริ่มต้นการทำธุรกิจของตัวเองว่า เขาทดลองทำ digital detox เขาก็อยากส่งต่อกิจกรรมนี้ให้กับผู้คนอื่นเพื่อสร้างสมดุลในชีวิตให้ดีขึ้น
“ตอนนั้น ผมกำลังฝึกงาน ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโท และเริ่มต้นธุรกิจแรกในเวลาเดียวกัน ตอนที่ผมได้ลองทำ digital detox ผมคิดว่าผมทำได้ ก็เลยอยากเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนสร้างสมดุลระหว่างชีวิตกับอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น เพราะการดีทอกซ์มันช่วยผมได้จริง ๆ”
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังบอกอีกว่า “โทรศัพท์กินเวลาที่มีค่าของเรามากไป ทำให้เราไม่ได้เชื่อมต่อกับผู้คนเลย”
เมื่อเกิดแรงบันดาลใจ เขาก็ลงมือทำทันที
เนปเปลเฮาท์จึงเริ่มต้นจากการทำ Het Leesweekend (แปลว่า สุดสัปดาห์แห่งการอ่านหนังสือ) ซึ่งเป็นต้นแบบของ The Offline Club กิจกรรมที่ทำให้ชาวเมืองอัมสเตอร์ดัมวางมือถือ ละสายตาจากโซเชียล เพื่อรักษาสมดุลของชีวิต
ด้วยแนวคิด ‘swap screen time for real-time’ หวังให้ The Offline Club เป็นกลุ่มของผู้คนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนเปลี่ยนเวลาหน้าจอเป็นเวลาในชีวิตจริง วันนี้ และวันต่อ ๆ ไป
ช่วงแรกกิจกรรมของ The Offline Club เริ่มต้นอยู่ในอัมสเตอร์ดัมเท่านั้น แต่ปัจจุบันแนวคิดของ The Offline Club ถูกนำไปใช้และถูกจัดในหลายหัวเมืองทั่วโลก และหลากหลายสถานที่
อาจเป็นเพราะพวกเขาใช้ ‘อินสตาแกรม’ เป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร จนขยายชุมชนจากเล็กๆ ไปสู่การมีผู้ติดตามกว่า 300,000 คน
“มีคำถามว่า เราจะเล่นโซเชียลระดับไหน ก็ได้ข้อสรุปว่า เราจะเล่นอินสตาแกรม เพราะมันคือที่ที่เราจะเข้าถึงคนมากที่สุด ยังเป็นการตอกย้ำว่าเราไม่ได้ต้องการให้ทุกคนเลิกใช้ แต่อยากเป็นแรงบันดาลใจเพื่อสร้างสมดุลชีวิตที่ดี”
ชั่วโมงของการลดเล่นโซเชียลเกิดขึ้นหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะใกล้บ้าน ร้านกาแฟ ร้านอาหารคลับ สวนสาธารณะ คลับ หรือแม้แต่ในโบสถ์
ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ จองวันและเวลา แล้วเตรียมตัวเข้าร่วมกิจกรรมได้เลย เพราะสิ่งที่คุณต้องเตรียม คือ อุปกรณ์ที่จะทำให้คุณไม่เหงาตลอดเวลาที่ไร้โซเชียล
วิธีเข้าร่วมไม่ได้มีขั้นตอนซับซ้อน คุณแค่ฝากโทรศัพท์ไว้ และปล่อยกายปล่อยใจไปกับช่วงเวลาที่คุณจะมอบให้ตัวเองใน session ที่ชื่อว่า Time to yourself ชาร์จพลังจากกิจกรรมที่คุณชอบ และ Time to connect เวลาที่คุณจะได้เชื่อมต่อกับบุคคลตรงหน้าจริง ๆ ด้วยหัวข้อบทสนทนาอันหลากหลาย
ถึงอาจจะไม่สามารถลดเวลาหน้าจอได้ทันที แต่อย่างน้อย การกำหนดช่วงเวลาไร้มือถือ ห่างไกลจากโซเชียลสักพัก ก็ช่วยให้เรากลับมาทบทวนความคิด และกลับมาอยู่บนโลกของความจริง
แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม
คุณอาจสงสัยว่า ชุมชนเล็ก ๆ จะเปลี่ยนพฤติกรรมของเรามากแค่ไหน
มันอาจไม่ได้เห็นผลตอนนี้ แต่ดูเหมือนวิถีแบบ The Offline Club จะส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมในระยะยาว
ยกตัวอย่างเช่น โอเมอร์ อุยกอร์ (Ömer Ülger) ผู้จัดการโครงการชาวตุรกีวัย 25 ปี ลูกค้าประจำของ The Offlie Club ที่รู้สึกภูมิใจกับตัวเองทุกครั้งที่ทลายกำแพงของโลกโซเชียลได้สำเร็จ และเริ่มบทสนทนากับใครสักคน
“สิ่งที่ดีที่สุด คือ ทุกอย่างออฟไลน์ ปกติเวลาเราไปร้านกาแฟ คุณอาจจะนึกว่า ‘ถ้าฉันเริ่มคุยกับใครสักคนจะเป็นอย่างไร’ พอมองไปรอบ ๆ ทุกคนใส่หูฟัง แต่การที่ผมสามารถคุยกับคนอื่นได้เป็นเรื่องที่สุดยอดเลย”
แล้วเวลาไปข้างนอก แทนที่จะพกโทรศัพท์ไปด้วย อุยกอร์ก็เลือกที่จะวางมือถือไว้ที่บ้าน ออกไปทำกิจกรรมให้เต็มที่
“การเปลี่ยนแปลงนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ทุกครั้งก็ถือเป็นชัยชนะแล้วมันทำให้ผมรู้สึกมีส่วนร่วมกับคลับนี้มากขึ้น แล้วประสบการณ์ส่วนตัวก็ช่วยให้ผมทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ”
หรือ เชลลีย์และแมตต์ โนวัค ชาวอเมริกันที่ใช้เวลาในเนเธอร์แลนด์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ผู้ประสบปัญหาติดโซเชียลก็ลองเข้ากิจกรรม เตรียมอักษรไหว้ สมุดบันทึก หรือหนังสือมาเข้าร่วมกิจกรรม
และยังมีผู้คนที่มาจากต่างสัญชาติมารวมตัวกันในพื้นที่เดียวกัน และค่อย ๆ เชื่อมต่อโลกของพวกเขาเข้าหากัน
ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของชุมชนแห่งนี้ ตามแนวคิดของของ ‘อิลยา เนปเปลเฮาท์’ ที่เคยบอกว่า โลกออฟไลน์จะก่อให้เกิดพื้นที่ใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ ๆ บนโลกที่ไม่มีสิ่งรบกวน
"เรารู้สึกจริงๆ ว่าเมื่อใดก็ตามที่เราอยู่ในโลกออฟไลน์ออฟไลน์ เราจะสามารถสร้างพื้นที่ทางจิตใจสำหรับความคิดใหม่ๆ ได้ และทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์”
ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้เกิดกิจกรรมที่แตกต่างในหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ให้คนละสายตาจากโทรศัพท์มาสนใจสิ่งรอบตัวมากขึ้น มาอยู่กับตัวเองและเชื่อมโยงกับผู้คน
และยังเป็นช่วงเวลาที่จะทำให้เราอยู่กับช่วงเวลา ณ ตรงหน้า สร้างสมดุลชีวิต ลดความเร็ว และใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างแข็งแรงและมั่นคง
ภาพ : อินสตาแกรม theoffline_club
อ้างอิง
The Offline Club’s Quest Against Digital Overload / Forbes
Phone-Free Hangouts Are Popping Off in Amsterdam / thrillist