19 มิ.ย. 2568 | 16:13 น.
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568, ทรู ดิจิทัล พาร์ค — เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ตอกย้ำพันธกิจการเป็นองค์กรที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนสากล ผ่านเวที “CP Group Embrace the Diversity” ซึ่งจัดขึ้นในเดือนแห่งความหลากหลาย (Pride Month)
มีผู้บริหารระดับสูงและพนักงานในเครือร่วมแสดงพลังความแตกต่างอย่างภาคภูมิ ประกาศจุดยืนชัดเจนในการขับเคลื่อนนโยบาย Diversity, Equity and Inclusion (DEI) และการดำเนินธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนตามกรอบ UN Guiding Principles on Business and Human Rights (UNGPs) โดยยึดหลัก Human Rights Due Diligence (HRDD) เป็นกลไกในการประเมินความเสี่ยงและโอกาสในห่วงโซ่อุปทานทั้งองค์กร พร้อมเปิดเวที Ted Talk เพื่อรับฟังความเห็นพนักงานในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา วัย และกลุ่มเปราะบาง
เพราะเวทีที่จัดขึ้นนี้ไม่ใช่เพียงเวทีของการเฉลิมฉลอง แต่เป็นเครื่องยืนยันว่าซีพีได้นำ ‘นโยบายความหลากหลาย’ มาแปลงสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการออกแบบสวัสดิการ การปรับระบบการทำงาน และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างโอบรับทุกความแตกต่างอย่างเท่าเทียม
คุณพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เครือซีพี ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องนโยบายความหลากหลาย ความเสมอภาคและการอยู่ร่วมกันตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการ "สร้างวัฒนธรรมองค์กร" ที่เปิดกว้างและให้คุณค่ากับความหลากหลาย โดยเชื่อว่า ‘ความแตกต่างของบุคคล’ เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความสำเร็จขององค์กร พนักงานทุกเพศ ทุกวัย และทุกภูมิหลังได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน เราจึงมุ่งหน้าสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียม ผ่านสวัสดิการแห่งความเสมอภาค”
“จากความเชื่อเรื่องความแตกต่างของบุคคลคือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร นำมาสู่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ ‘เข้าใจ เห็นคุณค่า และให้โอกาส’ กับพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียม และนโยบายต้องมีผลเชิงปฏิบัติ ไม่ใช่แค่หลักการ ซีพีจึงมีสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมที่รองรับความหลากหลายของพนักงาน เช่น การลาและเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีผ่าตัดแปลงเพศ การลาสมรสและคลอดบุตรสำหรับคู่สมรสที่มีการจดทะเบียนตามกฎหมาย รวมถึงการให้วันหยุดตามศาสนาสำหรับพนักงานที่นับถือศาสนาใด ๆ การมีสิ่งเหล่านี้คือการ ‘สร้างพื้นที่ที่ปลอดภัย’ ให้พนักงานได้เป็นตัวเองอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมทั้งจัดตั้งเครือข่ายพนักงาน LGBTQ+ เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มพนักงาน และผลักดันบทสนทนาเรื่องความหลากหลายให้ขยายสู่ทุกหน่วยธุรกิจ” ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล ซีพี กล่าวเพิ่มเติม
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร และการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า “องค์กรที่เติบโตได้ในโลกยุคใหม่ ต้องเปิดกว้าง เคารพสิทธิมนุษยชน และมีระบบที่สนับสนุนความแตกต่างอย่างแท้จริง ปัจจุบันซีพีดำเนินธุรกิจใน 21 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานกว่า 450,000 คน ความหลากหลายจึงไม่ใช่แค่เรื่องเพศ แต่ยังมีทั้ง เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา วัย และมุมมอง ซึ่งทั้งหมดนี้คือพลังขับเคลื่อนองค์กรยุคใหม่ เราจึงยึดมั่นในแนวทางสิทธิมนุษยชนสากล โดยเฉพาะ UN Guiding Principles on Business and Human Rights (UNGPs) และกำหนดให้ Human Rights Due Diligence (HRDD) เป็นแกนหลักของการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยในปี 2568 ซีพีได้ยกระดับการดำเนินงานด้าน DEI ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการบรรจุนโยบายนี้ไว้ในเป้าหมายการพัฒนาองค์กรสู่ปี 2030 และกำหนดกรอบการดำเนินงานตาม 3 เสาหลักของ UNGPs ได้แก่ Protect – Respect – Remedy เพื่อให้องค์กรไม่เพียงป้องกันการละเมิดสิทธิ แต่ยังเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ในทุกมิติ”
“การเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์ คือพื้นฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในองค์กรและสังคม” ดร.ธีระพลกล่าวย้ำ
บนเวที CP Group Embrace the Diversity ที่ซีพีจัดขึ้นนี้ ได้เปิดกว้างรับฟังความเห็นจากพนักงาน โดยให้พนักงานได้แสดงมุมมองความเห็นและประสบการณ์ในรูปแบบ Ted Talk สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความหลากหลายที่ขับเคลื่อนองค์กร รวมถึงนโยบาย DEI และสิทธิมนุษยชนของซีพี
เริ่มจาก คุณเอวารินทร์ อัศวินเชาวนนท์ เจ้าหน้าที่ PR & Event - จากบมจ.ซีพี ออลล์ ตัวแทนด้านความหลากหลายทางเพศ กล่าวว่า “ซีพีและซีพี ออลล์ เปิดให้พนักงานทุกคน ‘มีความเป็นตัวเอง’ ในแง่ของความคิดสร้างสรรค์ มุมมองทัศนคติ และสไตล์การทำงาน โดยเชื่อมั่นว่าความหลากหลายคือพลังสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด "Harmony Culture" ซึ่งทางองค์กรสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมความรู้สึก “มีที่ยืน” และ “ปลอดภัย” ในการทำงาน ทั้งในด้านกายภาพ จิตใจ และสังคม ซึ่งเป็นหัวใจของ Well-being ในที่ทำงาน นอกจากนี้ องค์กรเลือกไม่ใช้คำนำหน้านามอย่าง ‘นาย’ หรือ ‘นางสาว’ ในระบบภายใน เช่น บัตรพนักงาน เป็นต้น ถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่แสดงออกถึงความเคารพในอัตลักษณ์ของพนักงาน และสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับและให้เกียรติในความหลากหลายอย่างแท้จริง”
คุณปนัดดา ประสิทธิเมกุล เจ้าหน้าที่บริหารโครงการพิเศษจากบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร กล่าวว่า “องค์กรเปิดใจยอมรับความแตกต่าง โดยมองว่าความแตกต่างเป็นพลัง ซึ่งตนได้รับโอกาสเป็นผู้ประกาศข่าว และทำงานเพื่อสังคม แสดงให้เห็นว่าเราเป็นที่ยอมรับ และที่สำคัญคือการทำให้กลุ่มผู้พิการเห็นเราเป็นแรงบันดาลใจ และเข้าใจว่าสังคมยังมีพื้นที่ให้พวกเขา นอกจากนี้ การที่องค์กรมองเห็นศักยภาพ เปรียบเสมือนของขวัญอันล้ำค่า และทำให้ตระหนักถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ทำโครงการสนับสนุนกลุ่มคนพิการ ซึ่งช่วยจุดประกายให้อีกหลายคน ‘ลุกขึ้นสู้’ และดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าต่อไปได้”
คุณนพอนันต์ พงศ์อิทธิเดช Business Intelligence Center จากเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตัวแทนด้านความหลากหลายในด้านศาสนา กล่าวว่า “ตนนับถือศาสนาซิกข์ ซึ่งในประเทศไทยมีเพียง 0.1% ที่นับถือศาสนานี้ ก่อนที่จะมาทำงานที่ซีพี มีโอกาสได้ทำงานกับบริษัทต่างชาติมาหลายปี ด้วยการโตมากับความเชื่อที่ว่าถ้าเป็นคนอินเดีย ศาสนาซิกข์ ต้องทำงานกับบริษัทต่างชาติเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสเติบโต จนกระทั่งได้มาสัมภาษณ์งานที่ซีพี นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของชีวิต ผมได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน ได้รับโอกาสดี ๆ จากผู้บริหาร มีสวัสดิการวันหยุดตามวันสำคัญทางศาสนา แสดงถึงความเข้าใจและเคารพในพิธีกรรมของทุกศาสนา ย้ำถึงการเป็นองค์กรที่มีนโยบายด้าน DEI ที่ชัดเจน ทั้งยังเชื่อมั่นว่าศาสนา เพศสภาพ เชื้อชาติ ไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นพลังร่วม และมองพนักงานที่ ‘ศักยภาพ’ ไม่ใช่ ‘รูปลักษณ์ภายนอก’ เท่านั้น”
ด้านคุณ Lawrence Smith ที่ปรึกษาสำนักยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ตัวแทนด้านความหลากหลายทางเชื้อชาติ กล่าวว่า “เครือซีพีเป็นองค์กรที่เปิดกว้าง ไม่ว่าในระดับไหน สัมผัสได้ถึงพลังของทุกคนที่พร้อมขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า ทั้งนี้ รู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่เคารพในคุณค่าของแต่ละคน ทั้งยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน สิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างมีจริยธรรม ตลอดจนการประกาศนโยบาย DEI และมีแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เด่นชัด เชื่อมั่นว่า ซีพีเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสและส่งเสริมความเสมอภาคให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม”
ขณะที่ ดร.ชยศมน ทรัพย์สุขบวร พนักงานในโครงการ 60 ยังแจ๋ว จาก บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า (โลตัส สาขาหลักสี่) ตัวแทนด้านการส่งเสริมผู้สูงอายุในการทำงาน เปิดเผยว่า “ขอบคุณซีพี แอ็กซ์ตร้า ที่เล็งเห็นศักยภาพของผู้สูงวัย และเปิดโอกาสให้คนวัยเกษียณที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้มาร่วมงานกับซีพี แอ็กซ์ตร้า เพราะปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งคนวัยนี้มีประสบการณ์และยังมีศักยภาพในการทำงาน ซึ่งองค์กรแห่งนี้ได้ปลดล็อกข้อจำกัดเรื่องวัยได้อย่างน่ายกย่อง เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม และถือเป็นโอกาสอันแสนวิเศษที่ได้รับในครั้งนี้”
กิจกรรมในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในเดือนแห่งความหลากหลาย แต่เป็นภาพสะท้อนของการลงมือปฏิบัติที่ต่อเนื่องและชัดเจนของเครือซีพี ในการสร้าง “องค์กรที่ทุกคนรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน” พร้อมเดินหน้าด้วยความเชื่อมั่นว่า ความหลากหลายไม่ใช่อุปสรรค แต่คือจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความยั่งยืนในระยะยาวอย่างแท้จริง