Stray Kids วง ‘เด็กหลง’ ที่แตะถึงฝั่งฝัน ขึ้นรับรางวัล ‘Best K-POP’ บนเวทีระดับโลกอย่าง MTV

• Stray Kids วงหนุ่มที่กำลังมาแรงประสบความสำเร็จบนเวทีระดับโลก ได้รางวัล ‘Best K-POP’ ในเวทีของ MTV
• ก่อนจะก้าวมาถึงจุดนี้ พวกเขาผ่านเรื่องราวมากมาย ฝ่าฟันอุปสรรค และพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานซึ่งทุ่มเทกันเต็มที่

“สวัสดีครับ พวกเรา Stray Kids ก่อนอื่นพวกเราอยากขอบคุณ VMAS ที่ได้เชิญพวกเรานะครับ พวกเราทำเพลงกันตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพ การได้รับรางวัลนี้มีความหมายกับพวกเรามากครับ...” (อ้างอิงคำแปลจาก @chaliejr96 / X หรือ Twitter)

“พวกเราอยากขอบคุณค่ายของพวกเรา เจวายพี ทีม 1 [division 1] แล้วก็ Republic record พวกเราอยากขอบคุณแฟน ๆ สเตย์ (ชื่อแฟนคลับ) ของพวกเราที่คอยซับพอร์ตพวกเรา พวกเรามีหลายอย่างที่จะโชว์ให้ทุกคนได้ดู ช่วยตั้งตารอพวกเราในอนาคตด้วยครับ ขอบคุณครับ” (อ้างอิงคำแปลจาก @chaliejr96 / X หรือ Twitter)

คำกล่าวขอบคุณของบังชาน และฟิลิกซ์ สองหนุ่มจาก ‘Stary Kids’ วงบอยแบนด์จากแดนกิมจิที่ขึ้นรับรางวัล ‘Best K-Pop’ ในงาน ‘MTV Video Music Awards 2023’ ด้วยเพลง ‘S-Class’ โดยพวกเขาเป็นศิลปินกลุ่มแรกจากค่าย JYP Entertainment ที่ได้รับรางวัลนี้

ผู้เข้าชิงรางวัลนี้ต่างเป็นศิลปินระดับแนวหน้าของเกาหลีทั้ง BLACKPINK, AESPA, Fifty Fifty, Seventeen, Tomorrow X Together ส่วนเจ้าของรางวัลนี้เมื่อปีที่ผ่าน ๆ มาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ‘ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล’ สาวไทยคนเก่งที่ไปโลดแล่นในเส้นทางของ K-POP กับ BLACKPINK และหนุ่ม ๆ ‘BTS’ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Stary Kids ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง นอกจากนี้ พวกเขายังนำโชว์สุดพิเศษบินตรงไปแสดงถึงบนเวที จนทำเอาศิลปินแถวหน้าจากฝั่งตะวันตกถึงกับตะลึงในการแสดงของพวกเขา

นับว่าเป็นรางวัลที่การันตีความโด่งดังของศิลปิน K-POP เลยก็ว่าได้ แต่รู้หรือไม่ว่า กว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลนี้ Stray Kids ผ่านมามากมายหลายเวที ทั้งรายการเซอร์ไวเวอร์ที่ต้องต่อสู้กับความยากลำบากเพื่อการเดบิวต์ รายการที่ต้องแข่งกับศิลปินจากหลากหลายค่าย รวมถึงพายุกระแสดราม่าต่าง ๆ

Stray Kids วง ‘เด็กหลง’ ในหมู่ชาวไทย

Stray Kids หรือที่แฟนคลับชาวไทยเรียกกันว่า ‘เด็กหลง’ วงบอยแบนด์จากค่าย JYP Entertainment ที่เกิดจาก ‘บังชาน’ หนึ่งในสมาชิกของ Stray kids ที่ฝึกมานานถึง 7 ปี จนทำให้ประธานค่ายอย่าง ‘พัค จินยอง’ ไว้ใจ และให้หนุ่มบังชาน เลือกสมาชิกเข้าวงเพื่อมาแข่งกับทีมเด็กฝึกผู้หญิงที่ค่ายจัดตั้งขึ้นเพื่อจะหาทีมที่จะได้เดบิวต์เป็นวงต่อไป และในครั้งนั้น Stray kids คว้าชัยชนะไป จนเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขา

Stray kids ประกอบไปด้วยเมมเบอร์ 9 คนในช่วงแรก คือ บังชาน, ลีโน, ชางบิน, อูจิน, ฮยอนจิน, ฮัน, ฟิลิกซ์, ซึงมิน และไอเอ็น หลังจากที่พวกเขาชนะรายการ พวกเขามีรายการเป็นของตัวเองชื่อว่า ‘Stray Kids’ เช่นเดียวกัน ออนแอร์ผ่านทางช่อง Mnet และได้ปล่อยเพลง ‘Hellevator’ เป็นเพลงพรีเดบิวต์ของพวกเขา

ขณะที่ภายในรายการจะเล่าถึงเส้นทางการเตรียมตัวเพื่อเดบิวต์ของพวกเขาผ่านภารกิจต่าง ๆ อย่างภารกิจแต่งเพลงและคิดโชว์ด้วยตัวเอง ภารกิจแข่งกันแบบยูนิต ภารกิจแข่งกับค่าย YG และภารกิจการแสดงสดต่อหน้าผู้ชม รายการนี้ดูเหมือนจะเป็นรายการทั่วไป แต่ความจริงแล้ว หากมีสมาชิกคนใดที่เป็นจุดบกพร่องของวงก็จะถูกคัดออกและจะไม่ได้เดบิวต์กับเพื่อน ๆ

“ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ว่าพวกนายฝึกซ้อมและเตรียมความพร้อมมาด้วยกัน และแน่นอนมันเป็นเรื่องดีถ้าพวกนายทุกคนได้เดบิวต์ด้วยกัน แต่ถ้ายังมีจุดบกพร่องอยู่ แทนที่จะปล่อยให้เขาลดความสามารถของทีมลง เราจะตัดคนที่มีจุดบกพร่องออกและพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเดบิวต์ได้” พัคจินยอง กล่าวไว้ในรายการ Stray Kids (คำแปลเนื้อหาจากรายการ Stray Kids แปลโดย KimRhyanZ / Twitter (X))

ตลอด 10 ตอนในรายการ หนุ่ม ๆ ทุกคนตั้งใจเต็มที่เพื่อโอกาสเดบิวต์ด้วยกัน 9 คน เพราะด้วยมิตรภาพของพวกเขาในช่วงที่เป็นเด็กฝึก ทำให้พวกเขาไม่อยากที่จะเสียใครไปในการเดบิวต์ครั้งนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ไปเดบิวต์กับเพื่อน ๆ ตามความฝันของพวกเขา

“ผมเห็นว่า ความพยายามของผมมันยังมีจุดบกพร่อง ความสิ้นหวังของผมที่อยากจะอยู่ด้วยกันอีก นั่นคงจะเป็นอีกจุดบกพร่อง เอาล่ะ ขอบคุณพวกนายทุกคนมากจริง ๆ นะ มันจะดีเลย ถ้าพวกนายทำมันได้สำเร็จ ไฟท์ติ้ง”

“ในตอนจบ ผมอยากเดบิวต์กับทุกคนจริง ๆ นะครับ แต่ผมก็ถูกคัดออก หัวใจของผมมันเจ็บปวดมากเลย ผมไม่รู้ว่าผมควรทำยังไงต่อดีในตอนนี้ ถึงเมมเบอร์ทุกคน ผมขอบคุณมากจริง ๆ ขอบคุณที่ช่วยผมไว้มากมาย ขอบคุณมาก ๆ ครับ ฉันขอโทษที่ไม่สามารถไปด้วยกันกับพวกนายนะ”

‘มินโฮ (ลีโน)’ และ ‘ฟิลิกซ์’ ต้องเป็น 2 คนที่โบกมือลาเพื่อน ๆ ออกจากรายการไปก่อน เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สมาชิกที่เหลืออยู่ต้องต่อสู้ต่อไปถึงจะเสียใจขนาดไหนก็ตาม แต่ด้วยมิตรภาพของพวกเขาทั้ง 9 คน ทำให้พัคจินยอง ตัดสินใจนำ 2 หนุ่มกลับเข้ามาในวง

“เวลาพวกเขารวมกันเป็นหนึ่งแบบนี้ มันอธิบายออกมาเป็นความรู้สึกไม่ได้เลย พวกเขาเป็นทีมมากขึ้น และเติมเต็มสิ่งที่ยังขาดหายไป สิ่งที่แสดงออกมาในโชว์เคลสที่น่าแปลกคือ เสน่ห์และเคมีของพวกเขาทั้ง 9 คน ผมอยากจะดูมันอีกเป็นครั้งสุดท้าย”

การแสดงครั้งนั้นทำให้พัคจินยอง ประทับใจเป็นอย่างมาก กระทั่งให้พวกเขาทั้ง 9 คน ได้เดบิวต์ด้วยกันครั้งแรกด้วยเพลง ‘District 9’ ในวันที่ 25 มีนาคม 2018 

พายุลูกใหญ่

เหมือนเส้นทางของพวกเขาจะไปได้สวย แต่ในทุกการคัมแบ็กของพวกเขากลับไม่ได้รับกระแสนิยมเหมือนกับรุ่นพี่อย่าง 2PM, GOT7 และพายุใหญ่ลูกแรกของพวกเขาก็พัดเข้ามา เมื่อสมาชิกอย่าง ‘อูจิน’ ตัดสินใจออกจากวง และทางค่ายก็บอกเพียงเป็นเหตุผลส่วนตัวของอูจินเอง ทำให้แฟนคลับบางส่วนในช่วงนั้นเกิดกระแสด้านลบกับหนุ่มอูจิน แต่พายุก็ใช่ว่าจะอยู่ตลอดไป

ในปี 2020 Stray Kids กลับมาอีกครั้งด้วยสมาชิก 8 คน ปล่อยเพลง ‘God Menu’ เพลงนี้เปรียบเสมือนเพลงที่พระเจ้าส่งมาให้กับพวกเขาเหมือนกับชื่อของเพลง พวกเขากลายเป็นที่พูดถึงมากขึ้นด้วยแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์และบีตที่หนักแน่น

พวกเขาจึงรีบปล่อยเพลง ‘Back Door’ ตามมาเพื่อตอบรับกระแสที่กำลังเป็นไปในทางที่ดี และ Back Door ก็เป็นเพลงที่พาวงให้โด่งดังจนถึงได้รับการยกย่องจากนิตยสาร ‘Time’ ว่า Back Door เป็น 1 ใน 10 บทเพลงที่ดีที่สุดในปี 2020

พวกเขาได้ปรากฏตัวในฐานะผู้เข้าแข่งขันของรายการ ‘Kingdom: Legendary’ ในปี 2021 และพวกเขาก็ทำผลงานได้ดีตลอดการแข่งขัน แต่แล้วพายุลูกที่ 2 ก็พัดพาปัญหาที่ใหญ่กว่าครั้งแรกมาให้พวกเขาในขณะที่แข่งรายการ Kingdom

หนุ่นฮยอนจิน โดนข่าวลือจากโลกโซเชียลมีเดียว่า เขาเคยรังแกและบุลลี่เพื่อนในช่วงที่เรียนมัธยม ทำเอาแฟนคลับเสียงแตกเป็น 2 ข้าง ทั้งฝั่งที่เชื่อข่าวลือและไม่เชื่อข่าวลือนั้น แต่ด้วยข่าวลือซึ่งไม่มีหลักฐานอะไรเลย และเพื่อน ๆ ของฮยอนจิน ในช่วงมัธยมก็ออกมาพูดว่า จริง ๆ แล้วฮยอนจิน เป็นคนดี ไม่เคยบุลลี่เพื่อน ๆ ในชั้นเลย

ส่วนทางด้านค่ายต้นสังกัดก็ออกมาพูดเพียงว่า เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด

เวลาผ่านไปไม่นาน ทางค่ายจึงออกมาแถลงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า จริง ๆ แล้วเป็นแค่เรื่องทะเลาะกันในโรงเรียนของทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนหนุ่มฮยอนจิน ก็เข้าไปขอโทษต่อคู่กรณีแล้ว รวมถึงยังโพสต์ขอโทษแฟนคลับผ่านทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ หนุ่มฮยอนจิน ตัดสินใจพักงานไปก่อนสักระยะ และ Stray Kids จะทำกิจกรรมวงเพียง 7 คนเท่านั้น แต่ด้วยความสามารถของพวกเขาทำให้วงคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันในรายการ Kingdom มาได้

 

ฟ้าหลังฝน

Stray kids ได้ปรากฏตัวอีกครั้งแบบเต็มทีมด้วยบทเพลง ‘Thunderous’ การกลับมาครั้งนี้กลายเป็นฟ้าหลังฝนหลังจากโดนพายุลูกใหญ่เข้าไป กระแสตอบรับอยู่ในระดับดีเยี่ยมการันตีด้วยยอดรับชมมากถึง 300 ล้านครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กันยายน 2023) และรางวัลอีกมากมาย เช่น Choreography of the Year, Artist of the Year (Bonsang), Best Performance Award เป็นต้น

หลังจากนั้น พวกเขาต่อยอดความโด่งดังมาเรื่อย ๆ ทั้งเพลงในเทศกาล Christmas อย่างเพลง ‘Christmas EveL’ ที่ถึงแม้จะเป็นเพลงพิเศษ แต่ก็โด่งดังไม่แพ้กับเพลงโปรโมตเลย ตามมาด้วยการคัมแบ็กครั้งใหญ่กับเพลง ‘Maniac’ ที่ตอกย้ำไปถึงความโด่งดังของพวกเขาด้วยยอดวิวที่มากถึง 200 ล้านครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กันยายน 2023)

การกลับมาครั้งล่าสุดกับเพลง ‘S-Class’ ก็ไม่ได้น้อยหน้ากับครั้งก่อน ๆ เพราะยอดการรับชมทำไปได้สูงถึง 122 ล้าน ภายในเวลาแค่ 3 เดือน และ S-Class ยังพาพวกเขาขึ้นไปรับรางวัล Best K-POP ในครั้งนี้อีกด้วย

การที่ Stray Kids ได้ขึ้นรับรางวัล Best K-POP  ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความพร้อมที่จะเฉิดฉายของพวกเขาเช่นเดียวกับวงรุ่นพี่อย่าง BTS และ BLACKPINK และนอกจากนี้ พวกเขายังแสดงให้เห็นอีกว่า ตลอดการเดินทางของพวกเขาที่มีทั้งเส้นทางที่มองเห็นสายรุ้งอันแสนสวยงาน และเส้นทางที่ต้องผ่านพายุลูกใหญ่ทำให้พวกเขาพัฒนาและเติบโตไปเป็นศิลปินที่มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน

และรางวัล Best K-POP ในครั้งนี้เปรียบเสมือนเครื่องหมายการันตีว่า ความพยายามของพวกเขาไม่เคยสูญเปล่า กระทั่งขึ้นมายืนบนเวทีระดับโลกได้

เรื่อง: ณัฐวัฒน์ สิงห์สัตย์ The People Junior

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

BBC

Allkpop

Soompi

TIME

Rolling Stone