ไมค์ ไวท์ : ชายเบื้องหลัง The White Lotus โลกใบใหม่ในบทบาทนักแสดงของ ‘ลิซ่า’ BLACKPINK

ไมค์ ไวท์ : ชายเบื้องหลัง The White Lotus โลกใบใหม่ในบทบาทนักแสดงของ ‘ลิซ่า’ BLACKPINK

ทำความรู้จัก ‘ไมค์ ไวท์’ ผู้สร้าง ผู้กำกับ และคนเขียนบท The White Lotus ซีรีย์ที่เริ่มต้นทำเพื่อคั่นเวลา แต่โด่งดังจนเดินทางมาถึงซีซั่น 3 และ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ เลือกสวมบทนักแสดงเป็นครั้งแรก

  • The White Lotus เป็นซีรีส์โรงแรมอลเวงกับแขกอลวน ที่ฉายบน HBO ซึ่ง‘ไมค์ ไวท์’ ทำหน้าที่ทั้งผู้สร้าง ผู้กำกับ และคนเขียนบท 
  • ตอนแรกซีรีส์เรื่องนี้ทำขึ้นเพราะ HBO ไม่สามารถหาคอนเทนต์ใหม่มาเติมผังรายการ จากการล็อคดาวน์ช่วงโควิด แต่ได้รับการตอบรับ
  • ในปี 2025 The White Lotus จะมีซีซั่น 3 ออกมา และถูกจับตามอง จากคนทั่วโลกเพราะ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ เลือกจะสวมบทนักแสดงเป็นครั้งแรก

ซีรีส์ตลกร้าย The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งมีกำหนดฉายบน HBO ในปี 2025 กลายเป็นที่จับตาของคนทั่วโลกโดยเฉพาะแฟนชาวไทย หลังละครฮอลลีวูดเรื่องนี้เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ และได้นักร้องสาว K-Pop ขวัญใจชาวไทยอย่าง ‘ลิซ่า’ วง BLACKPINK มาสวมบทนักแสดงครั้งแรก

ทำไม ‘ลิซ่า’ เลือก The White Lotus เป็นเวทีเปิดตัวบทบาทใหม่นี้ และเธอจะได้เล่นบทอะไรในซีรีส์โรงแรมอลเวงกับแขกอลวน อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย และผู้ที่ให้คำตอบได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นคนชื่อ ‘ไมค์ ไวท์’ (Mike White)

ไมค์ ไวท์ เป็นทั้งผู้สร้าง ผู้กำกับ และคนเขียนบทละครเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หรือจะบอกว่าเขาคือ ‘บิดา The White Lotus’ คงไม่ผิด ดังนั้นหากอยากรู้ว่าซีรีส์นี้มีดีอะไร และบทบาทใหม่ของ ‘ลิซ่า’ จะหน้าตาแบบไหน คงต้องเริ่มจากการไปทำความรู้จักกับคนชื่อ ‘ไมค์’ และที่มาที่ไปของ The White Lotus ให้มากขึ้น

ละครคั่นเวลาจากมือเขียนบทผู้ฉับไว

หลายคนอาจทราบดีว่า The White Lotus สองซีซั่นแรกที่ออกฉายไปก่อนหน้าทำผลงานได้น่าประทับใจ ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก และกวาดรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลลูกโลกทองคำ และ ‘เอมมี อวอร์ด’ ที่เปรียบเหมือน ‘ออสการ์’ ในวงการละครโทรทัศน์

ทว่าเบื้องหลังความสำเร็จนี้ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า The White Lotus เกิดขึ้นมาจากความบังเอิญ ไม่ได้ถูกคาดหวังให้โกยรายได้หรือรางวัลมากมายตั้งแต่ต้น

จุดเริ่มต้นของ The White Lotus เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดหนัก และมาตรการ ‘ล็อกดาวน์’ ทำให้โครงการทั้งหมดของ HBO ต้องหยุดชะงัก ไม่สามารถหาคอนเทนต์ใหม่ ๆ มาเติมลงในผังรายการ

HBO จึงติดต่อไปยังไมค์ ไวท์ นักเขียนบทและผู้กำกับที่เคยร่วมงานในซีรีส์ Enlightened ซึ่งปิดตัวลงไปก่อนหน้าเพื่อขอให้มาช่วยทำละครแก้ขัด อุดช่องว่างในผังรายการของตัวเอง เนื่องจากไมค์มีชื่อเสียงเรื่องการเป็น ‘มือปืน’ ผู้แต่งละครได้ว่องไว นอกจากนี้ยังทำได้ทั้งหน้าที่ผู้สร้าง ผู้กำกับ และเล่นเป็นนักแสดงเอง

นอกจากความเร็ว HBO ยังให้โจทย์ไมค์ทำซีรีส์เรื่องใหม่ที่เรียบง่ายและสามารถถ่ายทำได้ในสถานที่เดียวซึ่งมีระบบปิด เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการดูแลทีมงานและนักแสดงไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19

นั่นจึงเป็นที่มาของการเลือกพล็อตเกี่ยวกับพนักงานโรงแรมและแขกวีไอพี โดยเปลี่ยนโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ บนเกาะมาอูอิ ในรัฐฮาวาย ของสหรัฐอเมริกาเป็นโรงแรม White Lotus สถานที่ถ่ายทำ เนื่องจากขณะนั้นไม่มีลูกค้าเข้าพักเพราะอยู่ในช่วง ‘ล็อกดาวน์’

ไมค์เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์แอลเอไทมส์ว่า หลัง ‘ฟรานเชสกา ออร์ซี’ (Francesca Orsi) รองประธานบริหารของ HBO เปิดไฟเขียว เขาใช้เวลาเขียนสคริปต์เพียง 2 เดือนก็เริ่มเดินกล้องถ่ายทำได้ทันที โดยบทละครที่ใช้มาจาก ‘ดราฟต์แรก’ ที่ร่างขึ้นมา แทบไม่ปรับแก้ใด ๆ

โกยทั้งรางวัลและคำชม

The White Lotus ซีซั่นแรก ออนแอร์ในปี 2021 เน้นพูดถึงเนื้อหาความแตกต่างทางชนชั้น และความเป็นอภิสิทธิ์ชนของคนผิวขาว โดยนำเสนอภาพ ‘คนรวยมีปัญหา’ ออกมาด้วยลีลาการเล่าที่เสียดสีแบบมีอารมณ์ขัน

ผลงานชิ้นนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก และกวาดรางวัล ‘เอมมี อวอร์ด’ ไปถึง 10 รางวัล รวมถึงรางวัลละครจบในตอนยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยมแห่งปี

ความสำเร็จของซีซั่นแรก นอกจากจะทำให้ HBO มีซีรีส์ยอดฮิตเรื่องใหม่แบบไม่ทันตั้งตัว ยังทำให้ ‘ไมค์ ไวท์’ ก้าวขึ้นไปยืนบนทำเนียบคนทำหนังแถวหน้าของฮอลลีวูดแบบไร้ข้อสงสัย และคลอดซีซั่น 2 ตามมาในปีถัดไปทันที

The White Lotus ซีซั่น 2 ย้ายกองไปถ่ายทำบนเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี และเปลี่ยนแกนเรื่องมาเน้นเล่าความสัมพันธ์ทางเพศของตัวละครหลักในสไตล์โศกนาฏกรรมแบบละคร ‘โอเปร่า’

ตัวละครซีซั่นนี้มีทั้งกลุ่มคู่รักเศรษฐีใหม่สายไอที ครอบครัวชายอเมริกันเชื้อสายอิตาลีต่างวัย 3 คน และกลุ่มไฮโซฯ LGBTQ โดยมี ‘ทันย่า’ (รับบทโดย เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์) สาวใหญ่ทายาทธุรกิจพันล้านผู้เปราะบางเรื่องความรักจากซีซั่นแรก กลับมาเล่นภาค 2 อีกครั้ง

แม้แก่นเรื่องภาคแรกกับภาค 2 จะต่างกัน แต่สถานที่หลักยังคงใช้โรงแรมห้าดาวในเครือโฟร์ซีซั่นส์ และเล่าแบบตลกร้ายที่เริ่มด้วยปริศนา ก่อนค่อย ๆ พัฒนาไปหาคำตอบ มีบทพูดคมคาย สมจริง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไมค์ ที่ทำให้กวาดทั้งรางวัลและคำชมจากนักวิจารณ์มากมายไม่ต่างจากซีซั่นแรก

เคล็ดลับการแต่งละครได้ว่องไว

“ผมมักสนใจวิธีพูดจาของคน และเป็นคนที่คิดถึงเรื่องต่าง ๆ ในรูปของบทสนทนา” ไมค์ ไวท์ พูดถึงนิสัยส่วนตัวที่ทำให้แต่งละครได้เร็ว และยังเขียนบทออกมาได้ราวกับเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างดี 

“สิ่งที่พวกเขาพูดไม่จำเป็นต้องตรงกับสิ่งที่คิดหรือทำเสมอไป นั่นคือสิ่งที่ผมสนใจ และทำให้ชอบทำตัวเป็นนักสังเกตการณ์เรื่องพวกนั้น”

ไมค์ ไวท์ เกิดวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ.1970 ในเมืองพาซาเดนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาคุ้นเคยกับเรื่องขีดเขียนมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อเป็นนักบวชคริสเตียน ซึ่งทำงานเป็นนักเขียนรับจ้าง (ghost writer) ให้กับผู้นำศาสนาชื่อดังหลายคน

ระหว่างเรียนชั้นประถมฯ ปีที่ 2 เขายังมีครูเป็นแม่ของ ‘แซม เชพเพิร์ด’ (Sam Shepard) ดาราและนักเขียนบทละครชื่อดังเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ปี 1979 จากเรื่อง Buried Child ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ไมค์เริ่มต้นบนเส้นทางสายนักเขียนบทละคร

ส่วนเหตุผลที่เขาไม่ค่อยเชื่อคำพูดคน และมักสะท้อนออกมาในตัวละครที่มีหลายมิติ เกิดจากปมวัยเด็กตั้งแต่อายุ 11 ปี เมื่อ ‘เมล ไวท์’ (Mel White) พ่อของเขาออกมาเปิดใจกับครอบครัวว่าเป็นเกย์ แต่ยังปกปิดตัวตนกับคนทั่วไปเพื่อไม่ให้กระทบหน้าที่การงานจนกระทั่งลูก ๆ เรียนจบมหาวิทยาลัย

“ผมโตมาในวงการศาสนาที่ไม่มีใครซื่อสัตย์กับสิ่งที่ตัวเองเป็น หรือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

“ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมอยากเขียนเพราะต้องการล้อเล่นกับช่องว่างนั้น และแสดงให้เห็นว่ามนุษย์จริง ๆ มีความสับสนวุ่นวาย ไม่ได้ดีเลิศ หรือสมบูรณ์แบบแต่อย่างใด”

ผลงานในวงการฮอลลีวูด

ไมค์เรียนจบปริญญาตรีสาขาละครเวทีและภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยเวสเลยัน (Wesleyan University) ก่อนเข้าสู่วงการฮอลลีวูดตั้งแต่อายุ 22 ปี เริ่มจากรับงานเขียนบทละครทีวีวัยรุ่นเรื่อง Dawson’s Creek และ Freaks and Geeks

จากนั้นจึงก้าวสู่โลกภาพยนตร์ด้วยการเขียนบทและร่วมแสดงในหนังอินดี้เรื่อง Chuck & Buck (2000) และ The Good Girl (2002) แต่เรื่องที่สร้างชื่อให้เขามากที่สุด คือ School of Rock (2003) ซึ่งต่อมาถูกนำไปสร้างเป็นละครบรอดเวย์ และละครทีวี จนสนิทกับ ‘แจ็ก แบล็ก’ (Jack Black) นักแสดงนำ และทำผลงานร่วมกันตามมาอีกเรื่องชื่อ Nacho Libre (2006)

ปี 2007 ไมค์รับงานผู้กำกับหนังเต็มตัวในเรื่อง Year of the Dog ก่อนพักงานเบื้องหลังหันไปตระเวนลงแข่งขันรายการเรียลลิตี้โชว์ โดยเฉพาะแนวผจญภัยอย่าง Survivor และ The Amazing Race

เขายอมรับว่า ประสบการณ์ที่ได้จากการเล่นรายการเรียลลิตี้ ทำให้เข้าใจมนุษย์มากขึ้น และสามารถนำมาใช้ในงานเขียนบทละครได้ จนต่อมาประสบความสำเร็จสูงสุดใน The White Lotus

ภาคสามยิ่งใหญ่กว่าพร้อมลิซ่าประเดิมจอ

The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งยกกองมาถ่ายทำในไทย เริ่มเปิดกล้องเดือนกุมภาพันธ์ 2024 และมีกำหนดฉายปีถัดไปโดยได้ ‘ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า’ BLACKPINK มาร่วมงาน นับเป็นการประเดิมบทบาทนักแสดงครั้งแรกของเธอ หลังเฉิดฉายบนเวทีคอนเสิร์ตและแคตวอล์กจนโด่งดังมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับรวมถึงทีมงานยังคงไม่เปิดเผยบทบาทที่ลิซ่าจะได้รับ แต่ไมค์เคยแย้มถึงพล็อตเรื่องภาคต่อไปหลังปิดกล้องภาค 2 ไว้ว่า อาจพูดถึงศาสนาและความตาย

“ซีซั่นแรกเราเน้นเรื่องเงิน จากนั้นซีซั่น 2 เป็นเรื่องเซ็กซ์​ ส่วนซีซั่น 3 ผมคิดว่าอาจดูเรื่องความตายตามความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณและศาสนาในโลกตะวันออกแบบสนุก ๆ เสียดสี”

ไมค์คุ้นเคยดีกับประเทศไทย เขาเคยเดินทางมาแข่งรายการเรียลลิตี้ The Amazing Race พร้อมพ่อ และตกรอบที่ภูเก็ต นอกจากนี้ยังชอบนั่งสมาธิ เล่นโยคะ และสนใจศาสนาพุทธ โดยเฉพาะเรื่อง ‘เวียนว่ายตายเกิด’ เขามีภาพวาดเกี่ยวกับอดีตชาติของตัวเอง 12 ภพ แขวนไว้รอบบ้าน

“มันจะเป็น White Lotus ขนาดจัมโบ้ จะยาวขึ้น ใหญ่ขึ้น บ้าบอยิ่งขึ้น ผมไม่รู้ใครคิดอย่างไร แต่ผมโคตรตื่นเต้นเลย” ไมค์กล่าวถึงผลงานภาค 3 ที่หลายคนเฝ้ารอ โดยจะถ่ายทำทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเกาะสมุย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เกาะสมุย และโรงแรมอนันตรา ไม้ขาว ภูเก็ต วิลล่า คือสถานที่หลัก 2 แห่งที่ถูกเลือกเข้าฉาก แต่ในกรุงเทพฯ ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจน

ส่วนรายชื่อนักแสดงที่ยืนยันแน่นอน นอกจากลิซ่า ยังมีนักแสดงไทยคนอื่น ๆ อย่าง ‘ดอม เหตระกูล‘ภัทราวดี มีชูธน’ และ ‘เมธี ทับทิมทอง’ ร่วมจอ โดยมีดาราจากฮอลลีวูดอีกมากมายพาเหรดมาสมทบ

เรียกว่า ซีรีส์ภาคใหม่ของ 'ไมค์ ไวท์’ นอกจากเนื้อเรื่องจะน่าติดตาม ยังได้นักแสดงดังมากมายมาช่วยโปรโมตและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย

นอกจากนี้ยังเป็นเวทีให้ดาราไทยได้เปิดตัวและโชว์ฝีมือให้ทั่วโลกได้เห็น เป็นข้อดี 3 เด้ง จากละครเรื่องนี้ ซึ่งมักเปิดเรื่องด้วยคำทักทายว่า “Welcome to White Lotus!”

.

ภาพ : Getty Images

.

อ้างอิง 

.

Mike White

White lotus

theguardian

behind the white lotus

Creator Mike White