‘หวังอี้ป๋อ’ ไอดอลแห่งชาติจีน ‘โบตั๋นแห่งลั่วหยาง’ จาก ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ สะท้านเมือง

‘หวังอี้ป๋อ’ ไอดอลแห่งชาติจีน ‘โบตั๋นแห่งลั่วหยาง’ จาก ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ สะท้านเมือง

‘หวังอี้ป๋อ’ ผู้โด่งดังจาก ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ นักร้อง-นักแสดงมาแรง ฉายา ‘โบตั๋นแห่งลั่วหยาง’ เวลานี้ก้าวมาเป็นไอดอลแห่งชาติจีน พร้อมปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในวงการบันเทิง

  • หวังอี้ป๋อ นักร้อง - นักแสดงที่โด่งดังจากผลงาน ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ ก้าวมาสู่สถานะ ไอดอลแห่งชาติจีน จากความนิยมอย่างต่อเนื่อง
  • หวังอี้ป๋อ เป็นสมาชิกคนแรกของวง ‘ยูนิค’ (UNIQ) และขยายมาทำงานบันเทิงประเภทอื่น ตั้งแต่พิธีกรรายการ มาสู่นักแสดง ซึ่งทำให้เขาโด่งดังยิ่งขึ้น

เนื่องจากในปีนี้จะมีภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย ‘หวังอี้ป๋อ’ เข้าฉายในประเทศไทยอย่างน้อยสามเรื่อง หลังจากภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขานำแสดงคู่กันกับซูเปอร์สตาร์แห่งเอเชีย อย่าง ‘เหลียงเฉาเหว่ย’ เรื่อง ‘โค่นคมพยัคฆ์’ (无名, Hidden Blade) เข้าฉายในไทย และกลายเป็นภาพยนตร์จีนที่ทำรายได้สูงสุดในการเปิดตัวในวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา

นับว่าสร้างปรากฏการณ์ในรอบเกือบ 20 ปี ที่มีภาพยนตร์จีนเปิดตัวด้วยรายได้อันดับหนึ่ง นับตั้งแต่วงการภาพยนตร์จีนในไทยซบเซามานาน จนทำให้มีการนำภาพยนตร์อีกสองเรื่องที่เขานำแสดงในปีนี้ มาฉายอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ‘ปฏิบัติการจ้าวเวหา’ (长空之王, Born To Fly) หนังแอกชั่นฟอร์มยักษ์เกี่ยวกับอาชีพนักบินทดสอบอากาศยานบินของกองทัพจีน และล่าสุดที่กำลังจะเข้าฉาย คือ ‘สเต็ปกล้าท้าฝัน’ (热烈, One and Only) ภาพยนตร์แนวสตรีทแดนซ์ที่มีกำหนดการออกฉายในวันที่ 10 สิงหาคมนี้

การที่มีภาพยนตร์ซึ่งหวังอี้ป๋อ แสดงนำเข้ามาฉายในประเทศไทยติดกันสามเรื่อง สะท้อนให้เห็นว่าหวังอี้ป๋อ เป็นหนึ่งในนักร้อง - นักแสดงจีนอันเป็นที่นิยมที่สุดของบ้านเราใน พ.ศ. นี้ 

หวังอี้ป๋อ เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 1997 ในเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ชื่อเดิมของเขาคือ หวังเจี๋ย (王杰) ที่แปลว่า ‘ราชาที่โดดเด่น’ (แซ่ หวัง แปลว่าราชา ส่วน เจี๋ย แปลว่าโดดเด่น) แต่เพราะว่าชื่อเดิมของเขานั้นไปพ้องกันกับชื่อผู้อาวุโสในครอบครัว ภายหลังจึงเปลี่ยนชื่อเป็น ‘หวังอี้ป๋อ’ ที่แปลว่า ผู้รอบรู้อันดับที่หนึ่ง ส่วนชื่อหวังเจี๋ย ยังถูกเรียกเป็นชื่อเล่นกันในครอบครัว 

ในปี 2008 ตอนอายุ 11 ปี เขาได้เห็นการแข่งขันฮิปฮอปทางโทรทัศน์และเริ่มสนใจการเต้น หลังจากที่อ้อนวอนคุณแม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดเขาก็ได้รับอนุญาตให้เรียนเต้นและค่อย ๆ ค้นพบพรสวรรค์ในการเต้นของเขา จนกระทั่งปี 2011 หวังอี้ป๋อ ซึ่งยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในวัยเพียง 13 ปี ได้เข้าร่วมการแข่งขัน National IBD Top Street Dance Competition จนได้เป็นหนึ่งในยอดนักเต้นฮิปฮอป 16 คน ในการประกวดครั้งนี้

จากการประกวดนี้เอง หวังอี้ป๋อ ได้เป็นเด็กฝึกหัดของเยฺว่หฺวาเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (乐华娱乐) 

“สวัสดีทุกคน! พวกเราคือ U & I, UNIQ!” 

ในวันที่ 15 กันยายน 2014 เขากลายเป็นสมาชิกคนแรกของวง ‘ยูนิค’ (UNIQ) หลังจากเป็นเด็กฝึกกว่าสามปี ซึ่งสมาชิกของวงนั้นประกอบไปด้วย โจวอวี้เซวียน หลี่เหวินฮั่น และหวังอี้ป๋อ จากประเทศจีน และโชซึงยอน กับคิมซองจู จากเกาหลีใต้ 

ที่มาของชื่อวงยูนิค ‘UNIQ’ เป็นการรวมคำภาษาอังกฤษ UNIQUE (ไม่ซ้ำใคร) และ UNICORN (ยูนิคอร์น) โดยความหมายคือ ‘การดำรงอยู่ที่ไม่ซ้ำใคร’ ในโลกดนตรี ใช้ความบริสุทธิ์และความภาคภูมิใจของยูนิคอร์นเป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณของวงและแฟนคลับ โดยมีชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการคือ ‘ยูนิคอร์น’ 

ในวงยูนิค หวังอี้ป๋อ นับว่าเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในวง และยังเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นให้กับวงในหลายเพลง ในช่วงนี้เขาได้รับฉายาว่า ‘หวังเถียนเถียน’ หรือ ‘โบตั๋นแห่งลั่วหยาง’ และ ‘ไป๋มู่ตัน’ ที่แปลว่า โบตั๋นขาว เนื่องจากเขามีใบหน้าที่อ่อนหวาน และบ้านเกิดของเขาคือ ลั่วหยาง ซึ่งเป็นนครแห่งดอกโบตั๋นอีกด้วย เสมือนเขาเป็นดั่งตัวแทนแห่งคุณชายแห่งเมืองลั่วหยางซึ่งเคยเป็นนครหลวงโบราณพันปี 

ในวันที่ 7 มีนาคม 2015 หวังอี้ป๋อ และสามชิกวงยูนิคได้จัดงานแฟนมีตครั้งแรกที่กรุงเทพ ประเทศไทย นับว่าเป็นการพบกันอย่างใกล้ชิดครั้งแรกระหว่างหวังอี้ป๋อ กับแฟน ๆ ชาวไทย มินิอัลบั้มแรกของพวกเขาที่ชื่อว่า ‘EOEO’ และเพลงในชื่อเดียวกันนั้น หลังจากการเปิดตัว ‘EOEO’ มิวสิกวิดีโอติดชาร์ต 3 ชาร์ต MV YinYueTai Weekly โดยหวังอี้ป๋อ ก็ได้เป็นผู้ออกแบบท่าเต้นให้กับเพลงนี้ ซึ่งได้รับรางวัลการออกแบบท่าเต้นยอดเยี่ยม ‘Best Choreography’ ในงาน International-K Music Awards 2015 อีกด้วย

ในช่วงปี 2016 นับว่าเป็นปีที่หวังอี้ป๋อ เริ่มขยับขยายงานในวงการบันเทิงอย่างชัดเจน ในด้านงานวงการโทรทัศน์ เริ่มต้นจากงานพิธีกรรายการวาไรตี้แนวศิลปะวัฒนธรรมชื่อดังของช่องหูหนาน Day Day Up (天天向上) และแสดงบทนำร่วมกับถงต้าเว่ย และเฉินเฉียวเอิน ในละครแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ เรื่อง Love Actually (人间至味是清) 

ส่วนผลงานภาพยนตร์ ‘หวังอี้ป๋อ’ ได้แสดงบทบาทนักแสดงสมทบ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘ภารกิจพิชิตฝัน’ (夢想合夥人) และ รับบท หงไห่เอ๋อร์ บุตรขององค์หญิงพัดเหล็กกับราชาปีศาจกระทิง ในภาพยนตร์เรื่อง ‘ไซอิ๋ว เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน 3’ (A Chinese Odyssey Part Three) ซึ่งเป็นภาคต่อ จาก ‘ไซอิ๋ว เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน’ ในปี 1995 ที่นำแสดงโดยโจวซิงฉือ โดยได้ผู้กำกับคนเดิม หลิวเจิ้นเหว่ย มากำกับ ภาพยนตร์ทำรายได้สูงถึง 360 ล้านหยวน 

ในปี 2017 หวังอี้ป๋อ ได้นำแสดงในซีรีส์ ‘โรงเรียนเวทมนตร์ซูซัน’ (Private Shushan Gakuen) ประกบกับ เฉินอวี้ฉี ซึ่งนับเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่เขาแสดงในบทนำเดี่ยว 

ในช่วงปี 2018 หวังอี้ป๋อ ได้แสดงความสามารถด้านการเต้นในรายการ ‘พรอดิวซ์ 101’ (Produce 101) ในหน้าที่ผู้แนะนำด้านการเต้น (Dance Mentor) ในรายการร่วมกันกับ หลัวจื้อเสียง 

“ถ้าคุณต้องการความสำเร็จที่ไม่เคยมี คุณต้องพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง” หวังอี้ป๋อกล่าว 

ในรายการ ‘พรอดิวซ์ 101’ มีอยู่ตอนหนึ่ง หวังอี้ป๋อ ในฐานะผู้แนะนำด้านการเต้น สอบถามผู้เข้าร่วมรายการสาวท่านหนึ่งว่า ทำไมเธอถึงยังเต้นและจดจำท่าเต้นไม่ได้ ด้วยความกดดัน หญิงสาวท่านนั้นเอาแต่ร้องไห้ หวังอี้ป๋อ เห็นอย่างนั้น เขาจึงชวนทุกคนมานั่งล้อมวงคุยเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น

หวังอี้ป๋อ เล่าว่า ในระหว่างเข้าเรียนเต้นในช่วงแรกนั้น เขาพบปัญหาทางสุขภาพ ในขณะที่ซ้อมเต้น เขาหายใจไม่สะดวก เมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาล พบว่า เขามีอาการลิ้นหัวใจอักเสบ หมอสั่งให้เขาหยุดออกกำลังกายหนัก ๆ และให้หยุดเต้น ในระหว่างที่ต้องรักษาตัว ในหัวของเขามีแต่จังหวะการเต้น เขาคิดถึงการเต้นจนสุดหัวใจ และหวาดกลัวมากที่จะไม่ได้เต้นอีก หลังจากต้องฉีดยา ดูอาการ และรักษาจนหายดี วันแรกที่หมอบอกว่า อาการลิ้นหัวใจอักเสบของเขาหายแล้ว เขารีบกลับบ้านไปเปิดเพลงเต้นทันที 

สิ่งที่หวังอี้ป๋อ เล่า สะท้อนให้ผู้เข้าร่วมรายการได้เห็นว่า โอกาสของพวกเขานั้นสำคัญมากเพียงใด เด็ก ๆ หลายคนนั้นอาจจะไม่มีโอกาสแม้จะมายืนอยู่ในจุดนี้ หรือไม่มีแม้โอกาสที่จะได้มาเต้นด้วยซ้ำ 

“ฝึกฝนให้มากขึ้น การฝึกฝนเท่านั้น มันจะสร้างความจดจำของกล้ามเนื้อ หลังจากนั้น คุณก็ไม่ต้องมานั่งจดจำท่าเต้นของคุณอีกต่อไป ไม่ต้องจำว่าต้องเต้นท่าไหนต่อไป” 

ปีที่นับว่าเป็นความสำเร็จในฐานะซูเปอร์สตาร์อย่างแท้จริงของหวังอี้ป๋อ คือปี 2019 กับการแสดงในบทบาท ‘หลานวั่งจี’ (蓝忘机) ในซีรีส์ออนไลน์ ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ (The Untamed) ที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกัน

‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ นับว่าเป็นซีรีส์ออนไลน์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้เกิดแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก ได้รับเรตติ้ง 8.2 ในประเทศจีนโดย Douban และเป็นละครที่เรตติ้งสูงที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่ทางออนไลน์ขณะกำลังฉาย ด้วยยอดวิวมากกว่า 6 พันล้านวิว(ในขณะนั้น) 

สำหรับในประเทศไทย Tencent เปิดเผยว่า ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ ช่วยดันยอดผู้ใช้งาน WeTV Thailand โตขึ้น 250% และมียอดดาวน์โหลดเฉลี่ยเดือนละหนึ่งล้าน

จากความสำเร็จของ ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ ส่งผลให้หวังอี้ป๋อ คว้ารางวัลนักแสดงดาวรุ่งแห่งปี จาก GQ 2019 Men of the Year นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) จัดเขาอยู่ในอันดับที่ 9 ในบรรดาชาวจีนผู้มีชื่อเสียง 100 คน นอกจากนั้น ในปีนี้ เขายังได้รับรางวัล ‘Golden Eagle Award’ ครั้งที่ 30 สาขานักแสดงนำชายยอดนิยม จากบทบาท ‘จี้เซี่ยงคง’ หนุ่มนักเล่นเกมมืออาชีพในละครเรื่อง ‘สู่ฝันเส้นขอบฟ้า’ (Gank Your Heart) อีกด้วย 

หลังจากโด่งดังจาก ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ แล้ว หวังอี้ป๋อ กลายเป็นดาราชายที่มีผลต่อการเพิ่มมูลค่าให้กับบรรดาสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย วัดได้จากละครแนวเทพเซียน เรื่อง ‘นางโจร’ (Legend of Fei) ที่ตัวเขาแสดงคู่กันกับ จ้าวลี่อิง ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง มีมูลค่าการตลาดสูงสุดของประเทศจีนในครึ่งปีแรก 2021 ด้วยยอดโฆษณา 97 แบรนด์สินค้าที่จับจองสนับสนุนซีรีส์เรื่องนี้

‘ตำนานลั่วหยาง’ (Wind from Luo Yang) เป็นผลงานซีรีส์ที่ได้รับความนิยมที่สูงไม่แพ้กัน รวมทั้งยังเป็นซีรีส์ที่มีมูลค่าการตลาดสูงสุดในครึ่งปีหลังของ 2021 ด้วย โดยมียอดโฆษณาสูงถึง 111 แบรนด์สินค้า เรียกได้ว่าทั้งปี 2021 เป็นปีที่ความนิยมของหวังอี้ป๋อ ถูกสะท้อนออกมาจากมูลค่าทางการตลาดของบรรดาแบรนด์สินค้ากว่า 200 แบรนด์ที่ซื้อโฆษณาในช่วงเวลาที่ซีรีส์ของเขาแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน

ในปี 2022 นับว่าเป็นปีที่หวังอี้ป๋อ เตรียมตัวเข้าสู่วงการภาพยนตร์อย่างเต็มตัว เขาแสดงนำในภาพยนตร์สั้น All Tomorrow's Parties (我的朋友) ประกบกับนักแสดงสาวรุ่นพี่อย่าง โจวซวิ่น และภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ก็ได้รับการคัดเลือกให้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายรางวัล Golden Bear Award และ Berlin International Film Festival (Berlinale) ครั้งที่ 73 และในปีนี้เขาก็ยังมีผลงานซีรีส์เรื่อง ‘ฮีโร่ล่าทรชน’ (Being a Hero)

ในปีนี้ (2023) นับว่าเป็นปีทองแห่งการเริ่มต้นงานภาพยนตร์ของเขาอย่างเต็มตัว ประเดิมด้วยผลงานเรื่อง ‘โค่นคมพยัคฆ์’ (Hidden Blade) ภาพยนตร์แนวสงครามสายลับที่ได้แสดงประกบกับซูเปอร์สตาร์เอเชีย อย่างเหลียงเฉาเหว่ย และโจวซวิ่น ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ หวังอี้ป๋อ ได้รับคำชื่นชมอย่างสูงในแง่การแสดง และกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในรอบเกือบยี่สิบปีของไทยที่สามารถเปิดตัวด้วยรายได้อันดับหนึ่งในการออกฉายวันแรก

‘ปฏิบัติการจ้าวเวหา’ (Born To Fly) เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองซึ่งเข้าฉายที่เมืองไทยต่อเนื่องมาจากภาพยนตร์ ‘โค่นคมพยัคฆ์’ ส่วนเรื่องนี้เล่าถึงชีวิตของนักบินทดสอบที่ต้องทดสอบสมรรถนะของเครื่องบินที่จีนออกแบบใหม่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ที่มีผู้ชมมากที่สุดแห่งปีจากงาน Weibo Movie Night 2022 มียอดขายบัตรล่วงหน้าสูงสุดในช่วงที่ออกฉาย รวมทั้งยังเป็นภาพยนตร์ที่มียอดขายบัตรเกิน 10 ล้านหยวน รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์จีน

สำหรับวงการภาพยนตร์ในปีนี้ นับว่าเป็นย่างก้าวที่สำคัญและเข้มแข็งอย่างยิ่งของหวังอี้ป๋อ นับตั้งแต่การเลือกบทบาทการแสดง ทั้งบทบาท ‘เลขาเย่’ สายลับในภาพยนตร์ ‘โค่นคมพยัคฆ์’ และบทบาทนักบินทดสอบ ‘เหล่ยอวี่’ ใน ‘ปฏิบัติการจ้าวเวหา’ ล้วนเป็นบทบาท ตัวละครที่ต้องทุ่มเท และเสียสละให้กับหน้าที่การงานและประเทศชาติ ซึ่งทั้งสองบทบาทล้วนเป็นภาพลักษณ์และตัวอย่างที่ดีต่อผู้ชมชาวจีน เป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นใหม่ที่ติดตามผลงานของเขา 

ล่าสุด กับภาพยนตร์สตรีทแดนซ์ฟอร์มยักษ์ ‘สเต็ปกล้าท้าฝัน’ (One and Only) ที่เตรียมจะออกฉายในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยตัวนักร้องนักแสดงหนุ่มจะเดินทางเข้ามาร่วมโปรโมตภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเองในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ที่ประเทศไทย 

 

เรื่อง: เพจ เก้ากระบี่เดียวดาย

ภาพ: แฟ้มภาพ Getty Images