He’s just Ken, but not just Ryan การกลับมาของ ‘ไรอัน กอสลิ่ง’ กับบท ‘เคน’ ในภาพยนตร์ ‘Barbie’

He’s just Ken, but not just Ryan การกลับมาของ ‘ไรอัน กอสลิ่ง’ กับบท ‘เคน’ ในภาพยนตร์ ‘Barbie’

เรื่องราวของ ‘ไรอัน กอสลิ่ง’ นักแสดงหนุ่มเจ้าบทบาท ผู้กลับมาอีกครั้งในบท ‘เคน’ ในภาพยนตร์ ‘Barbie’

  • ไรอันเกลียดชีวิตวัยเด็กของตัวเอง เพราะในช่วงประถมต้น เขามักถูกแกล้งและไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวจนอายุ 15 ปี 
  • เรื่อง The Notebook ที่เขาได้รับบทนำร่วมกับนางเอกสาวสวยอย่าง ‘ราเชล แม็กอดัมส์’ (Rachel McAdams) ถึงแม้ทั้งคู่จะรับบทพระนาง แต่กลับไม่ลงรอยกันอย่างเห็นได้ชัด 
  • เมื่อมีการเปิดเผยว่า ไรอัน กอสลิ่ง คือผู้ที่จะมารับบทบาทเคน ได้มีกระแสโจมตีจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางส่วน รวมไปถึงแฮชแท็ก #notmyken ซึ่งไรอันก็ได้ตอบโต้ไปอย่างเจ็บแสบ

เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ไม่มีใครฉุดอยู่แล้วกับภาพยนตร์ ‘Barbie’ ที่เพิ่งเข้าฉายไปหมาด ๆ ในโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะพบสินค้าและคอลเลกชันจากภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปหมด ด้วยการคาดการณ์ที่ว่าบาร์บี้นั้นใช้ทุนในการโปรโมตภาพยนตร์ไปมากถึงกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

หากพูดถึงบาร์บี้ หลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงตุ๊กตาหญิงสาวผมบลอนด์ และในเวอร์ชันภาพยนตร์นี้ก็ได้นักแสดงหญิงมากฝีมืออย่าง ‘มาร์โกต์ ร็อบบี้’ (Margot Robbie) มารับบทบาทบาร์บี้ตัวหลัก แต่อีกบทบาทหนึ่งที่น่าสนใจและเป็นตัวละครที่เปิดตัวออกมาได้ชวนดึงดูดนั่นคือ ‘เคน’ แฟนหนุ่มของบาร์บี้ ที่รับบทโดย ‘ไรอัน กอสลิ่ง’ (Ryan Gosling) ผู้รับบทบาทในภาพยนตร์ดังมากมาย เช่น La La Land, Blade Runner 2049, The Notebook ฯลฯ 

บทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักเรื่องราวของนักแสดงหนุ่มคนนี้ รวมไปถึงบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่องบาร์บี้ ที่น่าจับตามองมาก ๆ

He’s just Ken, but not just Ryan การกลับมาของ ‘ไรอัน กอสลิ่ง’ กับบท ‘เคน’ ในภาพยนตร์ ‘Barbie’

เรื่องราวของเด็กหนุ่มไร้เพื่อนจากแคนาดา

‘ไรอัน โธมัส กอสลิ่ง’ (Ryan Thomas Gosling) เกิดวันที่ 12 พฤศจิกายน 1980 ที่ประเทศแคนาดา เขาเติบโตและใช้ชีวิตในแคนาดามาตลอดช่วงวัยเด็ก เส้นทางการเป็นนักแสดงของเขาเริ่มต้นเมื่ออายุได้ 13 ปีกับบทบาทนักแสดงเด็กในรายการ ‘The Mickey Mouse Club’ ใน ‘Disney Channel’ ในช่วงเวลานั้นพอดีกันกับที่พ่อและแม่ของไรอันหย่าร้างกัน ทั้งเขาและแมนดี้ พี่สาวของเขาอาศัยอยู่กับแม่ ผู้ที่ไรอันกล่าวว่าเป็นคนที่เลี้ยงดูเขาให้คิดและเข้าใจโลกแบบที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเข้าใจ 

ไรอันเกลียดชีวิตวัยเด็กของตัวเอง เพราะในช่วงประถมต้น เขามักถูกแกล้งและไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวจนอายุ 15 ปี 

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตอนอยู่ชั้นประถมปีที่ 1 ไรอันซึ่งเป็นเด็กที่อินกับภาพยนตร์ และฝันอยากเป็นนักแสดง ได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์แอ็กชันอย่าง ‘First Blood’ และได้นำมีดหั่นสเต๊กไปโรงเรียน ก่อนจะปามันใส่นักเรียนคนอื่น แน่นอนว่าเขาถูกพักการเรียน ทำให้เขาอ่านหนังสือไม่ออก และถูกวิเคราะห์ว่าเป็นโรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder หรือ ADHD) แต่เมื่อผ่านการวินิจฉัยก็พบว่ามันไม่ใช่ความจริง แม่ของไรอันจึงออกจากงานและสอนหนังสือเขาที่บ้านเป็นปี ๆ

แต่ถึงอย่างนั้น ไรอันก็ได้รับการสนับสนุนในเรื่องของการแสดงออกจากพี่สาวเป็นอย่างมาก เขามีโอกาสได้แสดงต่อหน้าผู้คนมากมายหลายครั้ง เช่น การเป็นตัวแทนร้องเพลงในงานแต่งงานร่วมกับแมนดี้, ได้แสดงในโชว์ที่อุทิศแด่ ‘เอลวิส เพรสลีย์’ รวมไปถึงได้ร่วมงานกับบริษัทบัลเลต์ท้องถิ่นอีกด้วย 

การแสดงเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองให้กับไรอัน เพราะนั่นเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่เขาได้รับคำชม รวมไปถึงได้พัฒนาสำเนียงเฉพาะของตัวเองด้วย เพราะตอนเด็ก ๆ เขามองว่าสำเนียงชาวแคนาเดียนนั้นไม่เท่ไม่เก๋ และเขาก็ออกจากโรงเรียนมัธยมปลายตอนอายุ 17 ปีเพื่อโฟกัสไปที่อาชีพนักแสดง

ภาพยนตร์แจ้งเกิดของไรอัน และภาพยนตร์ที่ทำให้ใคร ๆ ก็จำเขาได้

หากพูดถึงภาพยนตร์ที่ไรอัน กอสลิ่งเล่น หลาย ๆ คนน่าจะนึกถึง ‘The Notebook’ (2004) และ ‘La La Land’ (2016) ซึ่งก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้น อย่างเรื่อง The Notebook ที่เขาได้รับบทนำร่วมกับนางเอกสาวสวยอย่าง ‘ราเชล แม็กอดัมส์’ (Rachel McAdams) ถึงแม้ทั้งคู่จะรับบทพระนาง แต่กลับไม่ลงรอยกันอย่างเห็นได้ชัด 

ไรอันเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “พวกเราเป็นแรงบันดาลใจที่แย่ที่สุดของกันและกัน มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกมาก ที่เราทำหนังรักแต่เราไม่สามารถเข้ากันได้เลย ไม่ว่าจะในทางไหน”

จนมีถึงจุดหนึ่งที่ไรอันขอให้ผู้กำกับเอาคนอื่นมาเข้าบทกับเขาแทนราเชล ในซีนที่ไม่ต้องเห็นหน้า เพราะเขารู้สึกว่าราเชลนั้นไม่ให้ความร่วมมือเอาเสียเลย แต่ถึงแม้จะไม่ลงรอยกันต่าง ๆ นานา ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้ไรอันได้รับรางวัล ‘Teen Choice Awards’ ถึง 5 รางวัล รวมไปถึงรางวัล ‘MTV Movie Award’ ด้วย แถมภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับการกล่าวขานจาก ‘Entertainment Weekly’ ว่าเป็นหนึ่งในหนังที่มีฉากจูบที่ดีที่สุด ซ้ำยังมักจะปรากฏในลิสต์แนะนำหนังรักโรแมนติกอีกต่างหาก

He’s just Ken, but not just Ryan การกลับมาของ ‘ไรอัน กอสลิ่ง’ กับบท ‘เคน’ ในภาพยนตร์ ‘Barbie’

ส่วนอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ La La Land ที่ไรอันได้รับบทนำร่วมกับนักแสดงสาวคนสวยอย่าง ‘เอ็มม่า สโตน’ (Emma Stone) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผสมผสานความเป็นมิวสิคัลเข้าไป ทำให้ผู้ชมรับรู้ฝีมือการร้องเพลงของไรอัน และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เขาได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก ‘Golden Globe Award’ (Best Actor - Motion Picture, Musical or Comedy) และเป็นการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่อย่างออสการ์เป็นครั้งที่ 2 ของเขา

He’s just Ken, but not just Ryan การกลับมาของ ‘ไรอัน กอสลิ่ง’ กับบท ‘เคน’ ในภาพยนตร์ ‘Barbie’

หายจากฮอลลีวูดไปกว่า 4 ปี และการกลับมาในบทบาทตุ๊กตามีชีวิต

หลังจากปี 2014 ที่ไรอันและ ‘เอวา’ (ภรรยาของเขา) ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก ตามมาด้วยปี 2016 กับลูกสาวคนที่สอง เขาก็หายหน้าไปจากวงการภาพยนตร์ เขาให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เขาต้องการที่จะใช้เวลากับภรรยาและลูก ๆ ของเขาให้ได้มากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ใช่คนที่จินตนาการไว้ว่าตัวเองจะได้เป็นพ่อคน และไรอันก็ได้กลับมาพร้อมกับบทบาทใหม่ใน ‘บาร์บี้’ ที่กำกับโดย ‘เกรต้า เกอร์วิก’ (Greta Gerwig) 

การตัดสินใจรับบทของไรอันในครั้งนี้ มาจากตุ๊กตาเคนของลูกสาว โดยเขาได้กล่าวในรายการ ‘The Tonight Show Starring Jimmy Fallon’ ว่า “นั่นเป็นสคริปต์ที่ดีที่สุดที่ผมเคยอ่าน ผมเดินไปที่สวนหลังบ้าน แล้วคุณรู้ไหมว่าผมเจอเคนที่ไหน มันนอนหน้าจุ่มโคลนอยู่ถัดจากมะนาวที่ถูกบีบแล้ว หลังจากนั้นผมก็ส่งข้อความไปหาเกรต้าพร้อมรูปถ่ายเคนตัวนั้นแล้วบอกเธอว่า ผมจะเป็นเคนของคุณ เรื่องราวของเขาต้องถูกเล่า”

แน่นอนว่าเมื่อมีการเปิดเผยต่อสาธารณะว่าไรอัน กอสลิ่ง คือผู้ที่จะมารับบทบาทเคน ก็ได้มีกระแสโจมตีจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางส่วน รวมไปถึงแฮชแท็ก #notmyken ที่สร้างขึ้นเพื่อโจมตีไรอันว่าเขาไม่เหมาะสมที่จะเป็นเคน ไรอันก็ได้มีการตอบโต้ไปยังกลุ่มคนเหล่านั้นว่า 

“มันก็ตลกดีนะ พวกคุณเคยสนใจเคนหรือเปล่าล่ะก่อนหน้านี้ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มาแบบว่า ไม่ พวกเราสนใจเคนมาตลอด ไม่ พวกคุณไม่ได้สนใจ พวกคุณไม่เคยสนใจด้วย พวกคุณไม่เคยแคร์ บาร์บี้ไม่เคยอึ๊บกับเคนซะหน่อย นั่นคือประเด็น ถ้าเกิดว่าคุณแคร์เคนจริง ๆ คุณจะรู้ว่าไม่มีใครแคร์เคนเลย ความย้อนแย้งของพวกคุณโดนเปิดเผยแล้ว และนั่นแหละที่ทำให้ผมคิดว่าเรื่องราวของเคนจะต้องถูกเล่า” 

นับว่าเป็นการตอบกลับแบบแสบทรวงและชัดเจนมาก ๆ เพราะหากมาว่ากันจริง ๆ แล้ว ทุกคนเองก็จะสนใจที่จะเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ หรือเวลาดูการ์ตูน จุดโฟกัสก็จะอยู่ที่บาร์บี้มากกว่าเคนหรือตัวละครชายในเรื่อง 

He’s just Ken, but not just Ryan การกลับมาของ ‘ไรอัน กอสลิ่ง’ กับบท ‘เคน’ ในภาพยนตร์ ‘Barbie’

ไรอันยังมองเคนเป็นวิธีที่เขาจะได้เชื่อมต่อกับวัยเด็กของเขาอีกด้วย เขากล่าวว่า “มันมีอะไรบางอย่างในตัวเคนที่เหมือนกับตัวผมในวัยเด็กมาก ๆ แบบว่า เป็นแค่ผู้ชายที่ใส่กางเกงแฮมเมอร์แล้วก็เต้นในห้าง ผมเป็นหนี้เด็กคนนั้น ผมรู้สึกว่าผมออกห่างจากเขามากเมื่อผมเริ่มเล่นหนังที่จริงจังมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงนั้น เขาคือเหตุผลที่ผมมีทุกอย่างในวันนี้ ผมจะต้องย้อนกลับไปหาเด็กชายคนนั้น ขอบคุณเขา และขอให้เขาช่วย”

He’s just Ken, but not just Ryan

ไรอัน กอสลิ่ง เป็นผู้ชายที่ตลกและมีความสามารถในการเอาชนะใจคนได้อย่างง่ายดาย สังเกตจากทัศนคติในการใช้ชีวิต สิ่งที่เขาเคยพบเจอ รวมไปถึงเคนเนอร์จี้ (kennergy มาจากคำว่า ken + energy นั่นคือเอนเนอร์จี้ของเคน) ที่ฉายออกมาในตัวเขา ตั้งแต่เริ่มโปรโมตไปจนถึงในตัวภาพยนตร์เอง 

ภาพยนตร์บาร์บี้ (Barbie) เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ รอให้ทุกคนไปพิสูจน์เคนเนอร์จี้ของไรอัน และเรื่องราวของเคนที่ไรอัน กอสลิ่ง ต้องการจะถ่ายทอดนำเสนอให้กับทุกคนได้รู้จัก

 

ภาพ : Getty Images

อ้างอิง :

wikipedia

gq

polygon

variety