25 พ.ย. 2568 | 20:15 น.

KEY
POINTS
“ก่อนที่พวกเราจะเรียนจบ ก็อยากสร้างความทรงจำที่สวยงาม”
แทจอง (แสดงโดย คังฮานึล) บอกกับกลุ่มเพื่อนชั้นมัธยมปลายหลังเรียนจบ เพราะพวกเขาอยากไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันในฐานะวัยรุ่นคนหนึ่ง ก่อนจะแยกย้ายกันไปเติบโต
และเป้าหมายของเขา คือ ประเทศไทย
/ บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนจากเรื่อง The First Ride (2025) /
เพราะ ‘ยอนมิน’ (แสดงโดย ชาอึนอู) อยากไปดูโชว์ของดีเจคนโปรดด้วยตาเนื้อของตัวเองสักครั้ง เพราะเขาจะต้องย้ายตามครอบครัวอยู่นิวซีแลนด์ทันทีหลังจากเรียนจบมัธยมปลาย จนเวลาล่วงเลยผ่านไปเป็นสิบกว่าปี ต่างคนต่างเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง
‘แทจอง’ ทำงานเป็นเลขาส.ส. ของพรรคการเมืองหนึ่ง ‘กึมบก’ (แสดงโดย คังยองซอก) ด้วยความที่เขาโตมากับแม่ที่เคร่งศาสนา เขาต้องเริ่มเข้าเส้นทางศาสนาตามครอบครัว ‘โดจิน’ (แสดงโดย คิมยองกวัง) กลับป่วยและมีปัญหาทางสุขภาพจิต ดูเหมือนหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตของตัวเอง และ ‘ยอนมิน’ ที่เหมือนว่าจะไม่ได้ติดต่อกลับมาหาเพื่อนกลุ่มนี้อีกเลย
แต่พวกเขาก็เลือกที่จะรวมตัวมาประเทศไทยอีกครั้ง เพราะ ‘โดจิน’ ที่ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มไร้งาน มีอาการจิตเวชที่ต้องรักษาตลอดเวลา แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมิด เขายังมีกึมบกและแทจอง ดูแลอยู่ไม่ห่าง
เรื่องราวทั้งหมดทำให้ทริปไปประเทศไทยรอบ 2 เกิดขึ้น ทริปที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ วัยเยาว์ ความป่วน และการเยียวยาหัวใจกับกลุ่มเพื่อนมัธยมที่จริงใจ
เมื่อตั้งเป้าหมายก็ต้องทำให้สำเร็จ เมื่อวันออกเดินทางมาถึง พวกเขาแต่งตัวพร้อมที่สุด เพื่อไปพักผ่อนที่ริมทะเลพัทยา และไปดูดีเจที่งาน S2O ให้ได้
ถึงระหว่างทางจะเต็มไปด้วยบททดสอบมิตรภาพ เดี๋ยวยิ้ม หัวเราะ เดี๋ยวเกิดเรื่อง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การมาประเทศไทยเหมือนการได้มาพักใจ ทิ้งชีวิตและตัวตนที่เกาหลีไปชั่วคราว แม้ว่าจะเกิดเรื่องที่ต้องเดินเข้าออกสถานีตำรวจของไทยไปสองคืนก็ตาม
ตัวหนังจึงชูโรงพักร้อนครั้งนี้ด้วยความป่วน ความเรียลของแก๊งเพื่อนผู้ชายที่ไม่ได้กล้าบอกรักกัน ไม่ได้ซึ้งมาก แต่นี่คือความจริงของ ‘เพื่อน’ ในชีวิตจริง และมันก็ทำให้รู้ว่าเพื่อนรักและเป็นห่วงเรามากแค่ไหน
และด้วยตัวของภาพยนตร์ถ่ายทอดการพักร้อนครั้งนี้ออกมาเป็นแนว Comedy ที่ชวนให้เรานั่งขำและอมยิ้มตลอดทั้งเรื่อง เพราะใครอยากทำอะไรทำ ทำแบบไม่คิด ทำไปก่อนค่อยคิดทีหลัง เช่น ขับรถไปมีเรื่องกับสองแถวหรือคนขับรถเลือกโดดน้ำลงทะเลหนีตำรวจ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้นี่แหละที่เรียกเสียงหัวเราะของคนในโรงหนังตลอดทั้งเรื่อง
เพราะอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ จะทำให้เราเติบโต เช่นเดียวกับการเที่ยวของกลุ่มแก๊งเพื่อนจากเกาหลีใต้ในไทยที่เรียกว่า เดินไปทางไหนก็เจอแต่ปัญหา ปัญหา และปัญหา
ทั้งการเจอโชเฟอร์ชาวเกาหลีที่ขโมยรถมาขับพาเที่ยว โดจินที่เข้าผับไปสนุกสุดเหวี่ยงโดยไม่กินยารักษาอาการทางจิตเวชทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่งภายในผับจนต้องไปจบเรื่องที่โรงพัก หรือแทจอง คนที่แข็งแกร่ง รอบคอบ และฉลาดที่สุดก็ยังพลาดท่าโดนเพื่อนร่วมชาติหลอกจนพาเพื่อน ๆ ไปสู่จุดอันตราย
ปัญหามีไว้ให้แก้ ดังนั้น เมื่อเจอปัญหาเพื่อนกลุ่มนี้เลือกเปิดใจ โอบรับทุกปัญหา มองหาสาเหตุ และค่อย ๆ ผ่านสิ่งที่เจ็บปวดในใจมาด้วยกัน หนึ่งในนั้น คือ เหตุผลที่พวกเขากลับมาที่ไทยอีกครั้ง เพื่อทำตามสัญญาที่เคยไว้กับ ‘ยอนมิน’ เพื่อนที่ไม่ค่อยได้ติดต่อและจากพวกเขาไปแล้ว
คำสัญญาที่บอกว่า เราจะไปเที่ยวด้วยกันจึงกลายเป็นบาดแผลของแก๊งชายหนุ่ม โดยเฉพาะโดจินที่ดูอมทุกข์ตลอดทั้งทริป แม้เพื่อน ๆ พยายามจะเชียร์อัปกันเต็มที่ แต่ความเศร้าในใจของเขาไม่ได้น้อยลงเลย
พอเห็นเพื่อนเป็นแบบนั้น แทจองเลยพูดกับโดจินตรง ๆ ว่า "ปล่อยวางได้แล้ว" คำพูดสั้น ๆ ที่เรียกสติโดจิน พร้อมกับทิ้งอดีตอันเลวร้ายไปกับทริปนี้ แล้วลุกขึ้นมาเป็นคนใหม่ คนที่ปล่อยให้อดีตเป็นเพียงอดีต และปล่อยให้ยองมินเพื่องรักของเขาย้ายไปอยู่ในความทรงจำแสนสวยงามแทน
ทริปของแก๊ง The First Ride จึงเหมือนหลุมหลบภัยจากโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย และความคาดหวังของคนอื่น แล้วการไปเที่ยวที่มี ‘เพื่อน’ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง หัวเราะ ร้องไห้ ด่าเรียกสติ หรือไปเที่ยวด้วยกัน มันก็ทำให้การพักผ่อนมันสนุกกว่าที่เคย
The First Ride เป็นหนังที่มีจังหวะ comedy เรียกเสียงหัวเราะของคนดูเป็นระยะ และให้บทเรียนสำคัญว่า อย่างน้อยที่สุดในวันที่เราเหนื่อยล้า ลองโทรหาเพื่อนแล้วไปเที่ยวและกินข้าวด้วยกันสักมื้อ ชวนคุยสารทุกข์สุขดิบที่ได้เจอกันมา แค่เวลาไม่กี่นาทีก็สามารถเติมเต็มความเหนื่อยล้าที่ได้พบเจอมาในแต่ละวันได้แล้ว