‘ดิโอโก้ โชต้า’ เขาควรจะอยู่ตรงนั้น แต่กลับกลายเป็นความทรงจำของ ‘เดอะ ค็อป’

‘ดิโอโก้ โชต้า’ เขาควรจะอยู่ตรงนั้น แต่กลับกลายเป็นความทรงจำของ ‘เดอะ ค็อป’

‘ดิโอโก้ โชต้า’ กลายเป็นหนึ่งในความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดของ ‘เดอะ ค็อป’ เสียงเฮที่ยังค้างในลำคอ กลับต้องถูกกลบด้วยเสียงสะอื้นกลางสนามที่เคยมีเขาวิ่งอยู่

KEY

POINTS

ปลายเดือนพฤษภาคมได้ชูถ้วยฟุตบอลลีกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดลีกหนึ่งของโลกกับยอดทีมอย่างลิเวอร์พูล เมื่อ 10 วันที่แล้วได้เข้าพิธีแต่งงานกับแฟนสาวโดยมีลูกตัวน้อยทั้งสามเป็นสักขีพยานสร้างความยินดีแก่ผู้คนมากมาย แต่วันนี้เขาได้จากพวกเราไปตลอดกาล

ข่าวการเสียชีวิตของ ‘ดิโอโก้ โชต้า’ นักฟุตบอลของสโมสรลิเวอร์พูลและทีมชาติโปรตุเกส พร้อมกับ ‘อังเดร ฟิลิเป’ น้องชายของเขาถูกเผยแพร่สู่สาธารณะเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 กรกฎาคม 2025 สร้างความอาลัยให้กับผู้คนทั้งโลก 

‘ดิโอโก โฮเซ เตเซรา ดา ซิลวา’ หรือ ‘ดิโอโก้ โชต้า’ เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ปี 1996 ณ เมืองปอร์โต ประเทศโปรตุเกส โดยเจ้าตัวนั้นมีความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลตั้งแต่เด็ก และด้วยการจบสกอร์ที่เฉียบขาด ทักษะการเลี้ยงบอลที่คล่องแคล่ว รวดเร็ว ทำให้ โโชต้า ได้มีโอกาสฝึกทักษะลูกหนังกับทีมเยาวชนของสโมสรกอนโดมาร์ ในวัย 9 ขวบ

เมื่อ โชต้า อายุ 16 ปีเจ้าตัวก็ได้ย้ายไปสู่ทีมเยาวชนของสโมสรปาโซส เดอ เฟอร์เรร่า ก่อนที่จะสามารถพัฒนาฝีเท้าจนได้เล่นฟุตบอลลีกอาชีพครั้งแรกกับสโมสรแห่งนี้ จากนั้นในช่วงกลางปี 2016 โชตา ก็มีโอกาสเซ็นสัญญากับทีมยักษ์ใหญ่อย่างแอตเลติโก มาดริด แต่ก็ถูกส่งตัวกลับมาให้เอฟซี ปอร์โต ยืมใช้งาน

จากนั้นในปี 2017 โชตา ก็ถูกส่งมาให้สโมสรวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ทีมในลีกรองของประเทศอังกฤษยืมตัวใช้งาน และที่แห่งนี้ทำให้เจ้าตัวได้แสดงศักยภาพความเป็นยอดนักเตะออกมาได้อย่างเต็มที่ โชต้า กลายเป็นกำลังสำคัญในการพาวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส คว้าแชมป์ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิพส์ ฤดูกาล 2017-2018 ทะยานขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกได้อย่างงดงามพร้อมสถิติลงสนาม 44 นัด ยิงได้ 17 ประตูกับ 6 แอสซิสต์

ฟอร์มอันร้อนแรงของ โชต้า ทำให้วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ตัดสินใจคว้าเจ้าตัวมาร่วมทีมอย่างถาวรด้วยค่าตัวกว่า 12 ล้านปอนด์ และเจ้าตัวก็ตอบแทนทีมหมาป่าด้วยผลงานที่คุ้มค่า นอกจากจะพา วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส อยู่รอดในลีกสูงสุดบนเกาะอังกฤษแล้ว โชต้า ยังพาสโมสรแห่งนี้ไปวาดลวดลายในฟุตบอลสโมสรยุโรปถ้วยเล็กอย่างยูฟ่า ยูโรปา ลีกอีกด้วย

ด้วยผลงานการลงสนามให้กับวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส กว่า 131 นัด ทำได้ 44 ประตูกับ 19 แอสซิสต์ ย่อมเป็นการการันตีว่า โชต้า เป็นนักเตะที่มีคุณสมบัติเพียงพอที่เล่นกับทีมใหญ่ในฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ และสโมสรที่มองเห็นในความสามารถของแข้งโปรตุกีสรายนี้ก็คือ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล

โชต้า ย้ายเข้ามาร่วมทัพกับลิเวอร์พูลในช่วงเดือนกันยายนปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 40 ล้านปอนด์ และเจ้าตัวก็สร้างความประทับใจให้กับเหล่า ‘เดอะ ค็อป’ ด้วยการซัดประตูแรกในสีเสื้อหงส์แดงใส่ทีมยักษ์ใหญ่อย่างอาร์เซนอล หลังจากย้ายมาร่วมทีมได้เพียง 9 วัน

ฟอร์มของ โชต้า โดดเด่นอย่างมากกับลิเวอร์พูล เจ้าตัวทำแฮตทริกในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่ลิเวอร์พูลบุกไปชนะอตาลันตา สโมสรในศึกซีรีย์อาของประเทศอิตาลี จากนั้นในเดือนตุลาคม 2020 โชต้า ก็ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของสโมสรจากการโหวตของแฟนบอล นั่นแสดงให้เห็นถึงการยอมรับในตัวเขาของเหล่า เดอะ ค็อป

โชต้า มีส่วนสำคัญในความสำเร็จของลิเวอร์พูลเป็นอย่างมาก เจ้าตัวพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลลีก คัพและเอฟ เอ คัพ ได้ในฤดูกาล 2021-2022 โดยช่วงที่นับว่าเป็นโมเมนต์สำคัญก็คือการที่เจ้าตัวยิงคนเดียว 2 ประตูใส่อาร์เซนอลพา หงส์แดง เข้ารอบชิงชนะเลิศลีกคัพก่อนจะไปคว้าแชมป์ในที่สุด

แข้งโปรตุกีสรายนี้นับว่าเป็นนักเตะที่มีความสำคัญต่อเกมรุกของลิเวอร์พูล เจ้าตัวสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้า ปีก หรือ false 9 ซึ่งทำให้ โชตา เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับผู้จัดการทีม อีกทั้งความสามารถในการหาพื้นที่และจบสกอร์ได้อย่างแม่นยำทั้งในกรอบเขตโทษและนอกกรอบ ทำให้ โชต้า กลายเป็นนักเตะที่ลิเวอร์พูลจะขาดไม่ได้

อีกจุดเด่นของ โชต้า ก็คือความเร็วที่ทำให้สามารถโจมตีแนวรับของคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในจังหวะสวนกลับ เจ้าตัวมักแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน ซึ่งส่งผลต่อความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมทีม

ฤดูกาลล่าสุดภายใต้การนำของกุนซือใหม่อย่าง ‘อาเนอร์ สล็อต’ แข้งชาวโปรตุกีสถือได้ว่ามีส่วนกับความสำเร็จสูงสุดของสโมสรลิเวอร์พูลอยู่ไม่น้อย แม้ว่า โชต้า จะมีอาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่เจ้าตัวก็ลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีกไปทั้งสิ้น 26 นัด ทำได้ 6 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ ไฮไลท์สำคัญคือการยิงประตูโทนในเกมกับคริสตัล พาเลซ และเอฟเวอร์ตัน ช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะจนนำพาไปสู่แชมป์พรีเมียร์ลีก 2024-2025

ชีวิตในเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของ โชต้า ดูเหมือนกำลังพุ่งทะยานไปสู่ความสำเร็จไม่เพียงแค่กับสโมสรเท่านั้น แต่กับทีมชาติโปรตุเกส โซตา ก็สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลเนชั่นลีกรวมกับทัพฝอยทองได้ถึง 2 สมัยในปี 2018-2019 และล่าสุดในปี 2024-2025 นี้เอง

แต่นี่แหละครับชีวิตในช่วงเวลาที่ โชต้า กำลังอยู่ในจุดสูงสุดสร้างผลงานความสำเร็จทั้งทีมชาติและสโมสร ชีวิตส่วนตัวก็กำลังเริ่มไปได้สวยเพิ่งเข้าประตูวิวาห์ไปเพียงสัปดาห์กว่า ทุกอย่างมันดูสวยงามไปหมด แต่ใครจะคิดว่าอุบัติเหตุเพียงเสี้ยววินาทีจะพรากเขาไปจากทุกคน

เมืองลิเวอร์พูลที่ควรจะเป็นบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองแชมป์ลีกสูงสุด ความตื่นเต้นของฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง กลายเป็นภาพแห่งการไว้อาลัย แถวที่ควรจะต่อยาวเพื่อไปพบปะพูดคุยขอลายเซ็นนักเตะที่ตัวเองรักกลับกลายเป็นแถวที่วางดอกไม้เพื่อรำลึกถึงผู้จากไป

‘ดิโอโก้ โชต้า’ ควรจะได้อยู่สร้างความสำเร็จเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของทีมชาติโปรตุเกสและสโมสรลิเวอร์พูล ‘อังเดร ฟิลิเป’ น้องชายผู้ซึ่งกำลังไล่ล่าความฝันและเดินตามรอยพี่ชายควรจะได้อยู่เคียงข้างกัน ภรรยาและครอบครัวที่ควรจะได้ชื่นชมและภาคภูมิใจไปกับผู้นำของเขา

“พวกเราเคยพูดกันว่าเราจะอยู่ด้วยกันจนกว่าความตายจะพรากเราจากกัน แต่วันนี้ ฉันพูดได้เต็มปากว่า แม้แต่ความตายก็ไม่อาจจะพรากเราสองคนจากกันได้”

‘รูเต การ์โตโซ’ ภรรยาของเขา กล่าวถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนน A-52 ที่ได้นำพาชีวิตของ โชต้า จากพวกเราไป 

อนาคตข้างหน้าพวกเราจะไม่ได้เห็นชายที่ชื่อ ‘ดิโอโก โฮเซ เตเซรา ดา ซิลวา’ อีกต่อไปคงเหลือไว้แต่ความทรงจำที่จะอยู่กับพวกเราตลอดกาล ดังคำว่าที่ว่า เราจะจากกันจริง ๆ ต่อเมื่อเราลืมเลือนกัน

 

 

เรื่อง: ธิษณา ธนคลัง (เต้นคุง – The Sportory)